ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ - ตอนที่ 3 ช่วยชีวิต
การร่วงตกน้ำของจี้ฉงอี้กับเฉี่ยวเหนียง ทำลายความเงียบสงบของทะเลสาบในทันใด แม้แต่นกน้อยที่หลับใหลปลายต้นหลิวยังตกใจบินหนี
จี้ฉงอี้ตะเกียกตะกายบนผิวน้ำพลางตะโกนเรียก “ช่วยด้วย…ช่วยด้วย…” เห็นชัดว่าเขาว่ายน้ำไม่เป็น
เมื่อเห็นสองคนนั้นกำลังหาทางเอาชีวิตรอดอยู่ในน้ำ เจียงซื่อจึงผลักอาหมานพลางเอ่ย “ทำตามแผนที่วางไว้!”
อาหมานเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน เปิดกระเป๋าผ้าหยิบฆ้องจีนจิ๋วออกมาอย่างว่องไว แล้วยื่นกระเป๋าผ้าให้กับเจียงซื่อเสร็จก็วิ่งออกไปทันที
เจียงซื่อเองก็ไม่รีรอ พอรับกระเป๋าผ้าเสร็จ ก็วิ่งไปยังศาลามุงจากที่อยู่ไม่ไกล หยิบถุงใส่น้ำ เปิดฝาออกแล้วสาดใส่ศาลา จากนั้นก็ถอยออกมาจุดตะบันไฟ แล้วศาลามุงจากที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำมันพืชก็ไฟลุกไหม้ทันที ไม่นานนัก ศาลาก็ลุกไหม้ทั้งหลัง
ข้างทะเลสาบมีศาลามุงจากแบบนี้อยู่เจ็ดแปดหลัง ล้วนถูกสร้างโดยชาวบ้านที่มาตกปลายามว่างในช่วงเวลากลางวัน
เจียงซื่อจุดไฟศาลามุงจากหลังที่สองเสร็จ เสียงฆ้องจีนก็ดังขึ้นอีก แล้วตามด้วยเสียงตะโกนอลม่านว่า “ไฟไหม้ ไฟไหม้”
ไม่นาน ชาวบ้านที่อยู่รอบทะเลสาบก็พากันจุดตะเกียงไฟขึ้น ทั้งชายหนุ่ม หญิงสาวและคนแก่ ต่างตักน้ำมาช่วยกันดับไฟ
ผู้คนในชาตินี้ล้วนแต่เกรงกลัวเรื่องไฟไหม้ ยามใดที่ได้ยินว่ามีไฟลุกไหม้ ทุกคนจะออกมาช่วยดับไฟกันอย่างพร้อมเพียง
เจียงซื่อรู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นว่าเรื่องราวต่างๆ เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ แม้แต่กระเป๋าผ้าในมือก็ได้ถูกโยนเข้ากองไฟไปด้วย
นางไม่กล้าเผาศาลามุงจากหลายอัน ถ้าทำเช่นนั้นสิ่งที่กระทำอยู่นี้อาจกลายเป็นความผิดได้
เมื่อเสียงตะเกียกตะกายของสองคนที่อยู่ในน้ำเริ่มเบาลง เจียงซื่อมองดูตรงนั้นพร้อมกำหมัดแน่น
ตั้งแต่ได้กลับชาติมาเกิด นางเคยคิดไว้ว่า หากถึงคืนที่นางแอบมาที่นี่ มิสู้รอให้จี้ฉงอี้กระโดดลงในน้ำแล้วตนก็ถือไม้ไผ่หนึ่งท่อนยืนรอตรงนั้น ยามใดที่เห็นเขาโผล่ศีรษะขึ้นมา ก็ใช้ไม้ไผ่ในมือดันเขาลงไป จะได้อยู่กับหญิงในใจตามความตั้งใจ
หากเป็นเช่นนั้นจริง เขาสองคนก็จะได้อยู่ด้วยกันตลอดกาล ส่วนนางเอง ก็ไม่ต้องเป็นหม้ายและพบเจอกับความโชคร้ายต่างๆ นานาเหล่านั้นอีก
แต่ทว่า เมื่อคิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็ช่างเถอะ
จี้ฉงอี้เพียงแค่ไม่มีใจให้นาง คงไม่ผิดถึงขั้นต้องจบชีวิตลงเช่นนี้ ที่สำคัญ หากเขาตายอย่างง่ายดาย นางอาจต้องแบกรับการถูกกล่าวหาว่าเป็นหญิงกินสามีก็เป็นได้
เมื่อได้มาเกิดใหม่อีกครั้ง แม้ว่าเจียงซื่อจะเปิดใจให้กับตำแหน่งภรรยาในนามแล้วก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องยอมรับในการกระทำอันโง่เขลาของคนอื่นด้วย
ดังนั้น จี้ฉงอี้ต้องไม่ตาย ต้องช่วยเฉี่ยวเหนียงไว้ด้วยเช่นกัน
มีเพียงสองคนนี้มีชีวิตรอดเท่านั้น นางถึงจะมีเหตุผลขอยกเลิกงานสมรสได้อย่างผ่าเผย
เจียงซื่อเริ่มตื่นเต้น เมื่อเห็นเขาสองคนในน้ำ
นางหาได้เป็นกังวลกับจี้ฉงอี้ไม่ ในเมื่อชาติที่แล้ว จี้ฉงอี้ไม่ตาย ครั้งนี้ก็คงจะเป็นเช่นนั้น แต่เฉี่ยวเหนียงไม่เหมือนกัน
เมื่อชาติก่อน แม้แต่ศพของเฉี่ยวเหนียงก็หาไม่เจอ
“ไฟไหม้ ริมทะเลสาบไฟไหม้!” เสียงตะโกนบอกดังขึ้นจากตรงที่ไม่ไกลมากนัก แล้วฝูงชนเริ่มพากันวิ่งเข้ามายังทางนี้
หน้าอกที่จุกแน่นของเจียงซื่อก็เริ่มเบาลง
ขอแค่พวกเขาวิ่งมาทางนี้ เดี๋ยวคงได้พบสองคนที่อยู่ในน้ำเอง ส่วนนางก็สามารถหลุดจากเรื่องนี้ไปได้
แต่แล้ว ในตอนนั้น ก็มีลมแรงพัดผ่านจนสัมผัสได้ถึงลม
ด้วยแสงสว่างจากดวงจันทร์ ทำให้เจียงซื่อเห็นน้ำวนเกิดขึ้นระหว่างจี้ฉงอี้กับเฉี่ยวเหนียง จากนั้นเฉี่ยวเหนียงก็จมลงไปไม่ขึ้นมาอีกเลย
หัวใจของเจียงซื่อเริ่มบีบแน่น นางวิ่งไปด้านหลังแผ่นหินแล้วถอดเสื้อคลุมออก เผยให้เห็นถึงเสื้อด้านในเป็นสีเทาเงิน
นั่นคือชุดดำน้ำที่ทำขึ้นจากหนังปลา กำลังส่องแสงสว่างวิบวับ ยิ่งอยู่ใต้แสงจันทร์ยิ่งเผยให้เห็นเอวบางร่างเล็กของหญิงสาว
นางสวยดั่งนางเงือกตัวหนึ่งกำลังแหวกว่ายลงไปในน้ำ จากนั้น นางว่ายไปยังจุดที่เฉี่ยวเหนียวจมลงไป
น้ำทะเลสาบในยามค่ำคืนแห่งฤดูใบไม้ผลิตอนต้นค่อนข้างเย็น จนทำให้นางรู้สึกหนาวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
เจียงซื่อดำดิ่งลงไปในน้ำทั้งตัว พอขึ้นมาสูดหายใจเสร็จก็ดำลงไปอีกครั้ง พลางมองเห็นร่างของเฉี่ยวเหนียงที่ลอยอยู่เป็นลางๆ
นางว่ายเข้าไปอย่างรวดเร็ว ยื่นมือออกไปจับขาของเฉี่ยวเหนียงแล้วลากตัวนางเข้าฝั่ง
เจียงซื่ออายุยังไม่ถึงสิบห้าปี แม้พอว่ายน้ำได้ แต่กำลังก็ยังมีไม่มากพอ เฉี่ยวเหนียงที่เปียกชุ่มทั้งตัว ถือว่าเป็นน้ำหนักที่มากพอสมควรสำหรับนาง
นางกัดปากอย่างแรง จนเลือดออกแล้วก็ยังไม่รู้สึกตัว พอถึงขอบทะเลสาบ กำลังของนางก็แทบจะไม่เหลือ
ชาวบ้านที่มาช่วยกันดับไฟเริ่มวิ่งมาตักน้ำที่ทะเลสาบ อาหมานที่ซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนตะโกนขึ้น “ดูนั่นสิ มีคนอยู่ในทะเลสาบ!”
สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไปทันทีที่มองตาม “แย่แล้ มีคนตกน้ำ!”
แล้วคนที่คุ้นเคยกับน้ำเป็นอย่างดีก็พากันกระโดดลงไปช่วยพวกเขา
เจียงซื่อใช้แรงเฮือกสุดท้ายดันเฉี่ยวเหนียงที่หมดสติขึ้นฝั่ง แล้วนางก็ดำน้ำว่ายไปอีกด้านหนึ่งของทะเลสาบอย่างเงียบๆ พลางได้ยินเสียงดังขึ้นจากด้านหลังด้วยคำว่า “ตรงนี้ยังมีอีกคน!”
เวลาผ่านไปไม่นาน จี้ฉงอี้กับเฉี่ยวเหนียงก็ถูกช่วยไว้ได้
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนี้ ก็มักจะมีเด็กๆ ในบ้านที่ซุกซนแอบไปอาบน้ำที่ทะเลสาบอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็มีเด็กจมน้ำบ้าง พวกเขาจึงรู้วิธีช่วยชีวิตคนจมน้ำอยู่บ้าง
เจียงซื่อแอบขึ้นฝั่งอย่างเงียบๆ และแอบมองอยู่ด้านหลังต้นไม้ ก็เห็นมีคนสองคนเริ่มทำการช่วยชีวิตจี้ฉงอี้กับเฉี่ยวเหนียง
จี้ฉงอี้กับเฉี่ยวเหนียงคายน้ำออกมาหลายอึก จากนั้นก็ลืมตาขึ้น
คนถูกช่วยชีวิตเริ่มมีสติ แต่ผู้คนกลับงงงวยกับเขาสองคน
ชายหนึ่ง หญิงหนึ่งคู่นี้ มาจากไหนไม่ทราบ จะพากลับบ้านไปเลยก็กระไรอยู่
อาหมานที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังผู้คน ได้รับการเน้นย้ำจากเจียงซื่อแต่แรก นางจึงตะโกนขึ้นด้วยเสียงแหบซ่า “เอ๋ นี่มันคุณชายสามแห่งอันกั๋วกงนี่ พวกเราส่งตัวคุณชายกลับ แล้วไปรับรางวัลกันเถอะ!”
อาหมานเป็นคนรูปร่างผอมสูง แล้วยังแต่งตัวเป็นชาย เวลานี้ชาวบ้านจึงมัวแต่ให้ความสนใจกับจี้ฉงอี้และเฉี่ยวเหนียวมากกว่านาง แถมยังนึกว่านางเป็นลูกชายวัยหนุ่มของบ้านไหนสักบ้านหนึ่ง
“คุณชายสามแห่งจวนอันกั๋วกงจริงๆ รึ” เมื่อได้ยินคำว่ารางวัลต่างก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
แม้ตอนช่วยชีวิตพวกเขาไม่ได้คิดหวังผลตอบแทน แต่หากมีรางวัล แล้วใครกันเล่าจะปฏิเสธลง
“ข้าไม่ใช่คุณชายสามแห่งจวนอันกั๋วกง!” หลังรอดจากความตาย ก็ใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่กว่าจี้ฉงอี้จะรู้สึกตัว แล้วสีหน้าก็พลันเปลี่ยนทันทีที่ได้ยินพวกเขาพูดเช่นนั้น
ตกน้ำเพราะจุมพิต มันน่าอับอายสิ้นดี!
ผู้คนเริ่มสงสัย “ตกลงว่าใช่หรือไม่ใช่กันแน่”
คนที่ฉลาดหน่อยเริ่มสังเกตจี้ฉงอี้ “ดูจากเสื้อผ้าบนตัวของคุณชายแล้ว นับว่าเป็นเนื้อผ้าชั้นดี ถึงจะไม่ใช่คุณชายแห่งจวนอันกั๋วกง แต่ก็คงเป็นลูกหลานตระกูลผู้ดี”
คนใจร้อนกลับตะโกนขึ้นว่า “อยากรู้ว่าเป็นคุณชายแห่งจวนอันกั๋วกงหรือไม่ ไม่เห็นจะยากตรงไหน เราส่งคนไปสอบถามที่จวนสักหน่อยเดี๋ยวก็รู้เองมิใช่หรือ”
หลายคนพากันเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่ามีจำนวนคนมากสมควร พวกเขาจึงเดินตามคนออกความเห็นที่กำลังไปยืนยันกับจวนอันกั๋วกงทันที
จวนอันกั๋วกงวุ่นวายเละเป็นข้าวต้มอยู่ก่อนแล้ว คนที่ออกไปหาตัวจี้ฉงอี้ก็มีหลายกลุ่ม ฮูหยินอันกั๋วกงสลบหมดสติทันทีที่ได้ยินข่าวว่าคุณชายสามจมน้ำที่ทะเลสาบมั่วโยว
พี่ชายของจี้ฉงอี้ จี้ฉงหลี่พาบ่าวรับใช้ตรงไปยังทะเลสาบมั่วโยวโดยให้คนส่งข่าวคอยนำทาง
ความโกลาหลนี้ไม่สามารถปิดชาวบ้านระแวกนั้นได้เลย ผู้คนที่อาศัยในระแวกเดียวกันพากันส่งบ่าวรับใช้ในเรือนออกมาสืบข่าว
บ่าวรับใช้พวกนั้นเป็นคนฉลาด เมื่อรู้ว่าการสืบข่าวโดยตรงจากจวนอันกั๋วกงไม่น่าได้ความกลับมา จึงได้แอบตามไปที่ทะเลสาบมั่วโยว จากนั้นใช้วิธีสอบถามจากชาวบ้านที่มามุงดูแทน เมื่อเห็นจี้ฉงอี้กับหญิงสาวข้างๆ ที่เนื้อตัวเปียกปอน มีหรือที่จะไม่เข้าใจสถานการณ์อีก
ให้ตายเถิด คุณชายสามแห่งจวนอันกั๋วกงฆ่าตัวตายพร้อมกับหญิงสาวจริงด้วย!