ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ - ตอนที่ 655 วุ่นวาย
ผู้มาเยือนมีด้วยกันสองคน
ทั้งคู่เป็นบุรุษ หนึ่งในนั้นอายุราวๆ ยี่สิบต้นๆ ส่วนอีกคนดูมีวุฒิภาวะมากกว่า ซึ่งอายุน่าจะอยู่ในช่วงสามสิบกว่า
ทั้งสองมองมาที่เจียงซื่อและคนอื่นๆ
หญิงชราหนึ่งคน เด็กสาวหนึ่งคน บุรุษท่าทางซอมซ่อหนึ่งคน และบุรุษหน้าขาวๆ อีกคนหนึ่ง
ทั้งสองโล่งใจในบัดดล พวกเขาปัดเศษหิมะออกจากตัวก่อนจะเดินเข้ามา
หลงต้านและเหล่าฉินแอบส่งสายตาให้กันเงียบๆ แล้วค่อยๆ เขยิบเข้าไปยืนขวางอยู่ข้างหน้าเจียงซื่อและผู้อาวุโสฮวา
เจียงซื่อสูดจมูกเมื่อคนเหล่านั้นเดินเข้ามาใกล้
กลิ่นหอมหวานของข้าวต้มผสมเข้ากับกลิ่นเนื้อย่างทำให้นางสุขใจยิ่งนัก แต่เมื่อมีกลิ่นเลือดจางๆ ปนเข้ามา กลิ่นนั้นก็ไม่น่าพิสมัยเอาเสียเลย
ทั้งสองคนคงเป็นพวกคุ้นชินกับเลือด หากมิใช่นายพรานล่าสัตว์ ก็เป็นพวกฆาตกร?
เจียงซื่อจ้องมองไปที่เปลวเพลิงโพยพุ่งและค่อยๆ เอนหลัง
นางไม่ได้อยากใส่ใจกับเรื่องหยุมหยิมพวกนี้ ยามที่ออกมาข้างนอกนางมักจะถือคติว่า ถ้าผู้ใดไม่ก้าวก่ายเรื่องของนาง นางก็จะไม่ก้าวก่ายเรื่องของผู้นั้น จะได้ไม่เป็นการหาเรื่องใส่ตัว
แต่ในบางครั้ง เรื่องยุ่งๆ ก็มักจะเข้ามาทักทาย
บุรุษสองคนนั้นเดินดุ่มๆ เข้าไปล้อมกองไฟ คนที่อายุมากกว่ากล่าวแก่หลงต้าน “พ่อหนุ่ม ข้าขอยืมไฟหน่อย”
เจียงซื่อชำเลืองมองไปยังคนที่พูด
อาจเป็นเพราะนางฝึกศาสตร์วิชามานับไม่ถ้วน นางจึงติดนิสัยใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ เจียงซื่อรู้สึกว่าสำเนียงของบุรุษผู้นั้นมีบางอย่างผิดปกติ
แต่แน่นอนว่า ความผิดปกตินั้นมิได้โจ่งแจ้ง แม้เจียงซื่อจะรู้สึกว่าผิดปกติ แต่นางยังหาคำตอบไม่ได้ว่าผิดปกติอย่างไร
ในไม่กี่ชั่วอึดใจ เจียงซื่อหันไปมองผู้อาวุโสฮวา
ท่าทีของหญิงชรามิได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อยราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตน
เจียงซื่อไม่เห็นเบาะแสที่พอจะเป็นประโยชน์ นางจึงค่อยๆ หลับตาลง
หลงต้านมิได้รู้สึกว่าคำพูดของบุรุษผู้คนผิดแปลก แต่ท่าทีไม่เกรงอกเกรงใจของทั้งสองทำให้เขาไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งยวด บุรุษสองคนนั้นเอาถ่านที่กำลังย่างเนื้อย้ายไปไว้ใกล้ๆ ตัว แต่เพราะเจียงซื่ออยู่ด้วย เขาจึงไม่อยากมีเรื่อง
อดทนไว้ เพื่อพระชายา อดทนไว้!
อะแฮ่ม หวังว่าเจ้านายจะเห็นความตั้งใจยามที่เขาดูแลพระชายา และเมื่อวันที่เขาแต่งเมีย เจ้านายจะตกรางวัลเป็นเงินก้อนใหญ่ จะได้ไม่เสียแรงที่เขาอุตส่าห์เฝ้าอดทนในวันนี้
เมื่อเห็นหลงต้านนิ่งเงียบปล่อยให้ทั้งสองทำตามอำเภอใจ เหล่าฉินก็ไม่โต้ตอบอะไรเช่นกัน บุรุษทั้งสองหันมองสบตากันก่อนจะหันไปจ้องเนื้อกระต่ายย่างในมือเหล่าฉิน
เนื้อกระต่ายย่างสุกได้ที่ กลิ่นหอมฉุยอบอวลไปทั่ว
“เอาจานมา” เหล่าฉินเอ่ย
หลงต้านหยิบจานใบหนึ่งจากสักที่ส่งให้เหล่าฉิน
เหล่าฉินใช้กริชหันขากระต่าย เนื้อนุ่มร่วงลงในจาน
หลงต้านถือเนื้อมาไว้ตรงหน้าเจียงซื่อ ก่อนจะส่งเนื้อกระต่ายให้ผู้อาวุโสฮวาด้วยอาการเสียดาย
ผู้อาวุโสฮวามิได้เอ่ยตอบ นางยื่นมือไปรับก่อนจะส่งให้เจียงซื่อ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “กินสิ”
หญิงชราแสดงท่าทีรักใคร่เอ็นดูหลานสาว
เจียงซื่อไม่ได้รับไป นางกล่าวด้วยความอ่อนสุภาพดุจกัน “ท่านกินเถิด”
บุรุษทั้งสองเฝ้ามองเหล่าสตรีที่เกี่ยงกันไปมาแล้วอดไม่ได้ เขาหันไปกล่าวแก่เหล่าฉิน “พี่ชาย พวกเราคงมีชะตาได้พบกัน เนื้อกระต่ายนี้แบ่งพวกเราครึ่งหนึ่งจะได้หรือไม่”
เหล่าฉินกล่าวเป็นครั้งที่สอง “เอาจานมา”
เนื้อขากระต่ายสีเหลืองทองอีกข้างหล่นลงบนจาน หลงต้านรับจานใบนั้นไป
คราวนี้เจียงซื่อและผู้อาวุโสฮวาไม่ต้องเกี่ยงกันอีกแล้ว ทั้งสองได้เนื้อกระต่ายกันไปคนละจาน
เหล่าฉินใช้กริชเฉือนเนื้อขากระต่ายข้างที่สาม จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้หันไปสบตาบุรุษคู่นั้นเลยสักครั้ง
บุรุษหนุ่มเอ่ยอย่างเดือดดาล “นี่เจ้าหูหนวกหรือเปล่า”
“เปล่า” เหล่าฉินตอบสั้นกระชับ เขาหยิบขากระต่ายข้างที่สามขึ้นมากัด
เนื้อกระต่ายย่างได้ที่นุ่มลิ้นเกินบรรยาย เหล่าฉินเผยสีหน้าพออกพอใจ
เขาส่งกริชที่มีน้ำมันไหลเยิ้มให้หลงต้าน
ขากระต่ายข้างสุดท้ายเป็นของหลงต้าน
ผู้มาเยือนหนุ่มร้อนใจรีบง้างมือเตรียมจะแย่ง
หลงต้านเห็นแล้วว่าอาหารกำลังจะถูกแย่งไป เขาเตรียมจะชักดาบ ทว่าสถานการณ์กดดันไม่ให้เขาทำเช่นนั้น
บุรุษหนุ่มฉวยขากระต่ายไปได้สำเร็จ
“หยุดเดี๋ยวนี้” เสียงเย็นเยียบดังขึ้น
บุรุษหนุ่มที่เตรียมอ้าปากงับขากระต่ายหยุดชะงักทันใด พร้อมหันขวับกลับไปมองด้วยความสงสัย
เจียงซื่อที่นั่งถัดจากผู้อาวุโสฮวาอยู่ในคราบหญิงสาวธรรมดาทั่วไป มิได้สะดุดตา
ในชั่วแวบแล่น บุรุษหนุ่มยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนเอ่ยประโยคนั้น
แต่หลงต้านทราบดี
พระชายาตรัสเช่นนี้แปลว่าอนุญาตให้เขาส่งมือสินะ
ยายจ๋า อีกฝ่ายมาเหยียบจมูกถึงที่ จะไม่ให้เสืออย่างเขาสำแดงอภินิหารเสียหน่อยก็ได้กลายเป็นแมวเหมียวไร้พิษสงกันพอดี!
ปฏิกิริยาตอบสนองของหลงต้านไวกว่าความคิด เขากระชากขากระต่ายกลับไป ก่อนจะปล่อยหมัดใส่หน้าบุรุษ เห็นได้ชัดว่าบุรุษหนุ่มผู้นั้นไม่คิดว่าชายหน้าขาวจะตอบโต้เช่นนี้ เมื่อถูกซัดหมัดเข้าที่หน้า โลหิตก็ไหลย้อยออกมาทางจมูก บุรุษหนุ่มชะงักงันนิ่งอึ้ง
บุรุษอีกคนที่อายุมากกว่าตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาชักมีดชี้ไปข้างหลงต้าน…ก่อนจะเบนไปทางเจียงซื่อ
หากคมมีดนั้นหันไปทางหลงต้าน เหล่าฉินอาจจะยังคงนิ่งและเฝ้าดูผู้มาเยือนทั้งสองด้วยสายตาเย็นชา แต่เมื่อปลายมีดมุ่งเป้าไปที่เจียงซื่อ เหล่าฉินก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยอีกต่อไป
เหล่าฉินที่เดือดดาลจนถึงขีดสุดยกหม้อข้าวต้มร้อนระอุสาดใส่บุรุษที่แก่กว่า
เขาเอี้ยวตัวหลบ แม้จะหลบได้มากกว่าครึ่ง แต่น้ำข้าวต้มบางส่วนก็ยังสาดถูกตัว
ไม่ว่าเสื้อผ้าที่บุรุษผู้นั้นสวมใส่จะหนาเพียงใด แต่ข้าวต้มร้อนๆ ที่เพิ่งต้มเสร็จหมาดๆ ก็สามารถทำให้เขารู้สึกแสบร้อนได้ ผิวที่ถูกความร้อนพองเป็นตุ่มน้ำ
“ฆ่าพวกมัน!” บุรุษลั่นวาจาเกรี้ยวกราด
เจียงซื่อที่เฝ้าดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ หรี่ตามอง นางกำนิ้วแน่น
นี่คงเป็นภาษาต่างชาติ แม้คนๆ นั้นจะพูดไวและฟังได้ไม่ชัด แต่ปฏิกิริยาของทั้งคู่ทำให้นางเดาได้
นี่ไม่ใช่ภาษาอูเหมียว
เจียงซื่อตัดความน่าจะเป็นแรก ในใจเริ่มอยู่ไม่สุข
ดูเหมือนว่าที่นางรู้สึกแปลกๆ ตอนที่บุรุษที่อายุมากกว่าพูดในตอนแรก นางไม่ได้คิดมากไปเอง
สองคนนี้ไม่ใช่คนต้าโจว!
เจอพายุหิมะระหว่างทาง เจอวัดร้างในจังหวะที่เหมาะสม อีกทั้งตอนที่กำลังจะทานอาหารกับผู้อาวุโสฮวาชาวอูเหมียวยังเจอชนต่างชาติอีกสองคน ที่มันดวงอะไรกันนี่
เจียงซื่อเก็บความสงสัยนั้นไว้และเฝ้าดูการต่อสู้อย่างตั้งใจ
ไม่ว่าจะหลงต้านหรือเหล่าฉินก็เป็นคู่ปรับที่รับมือได้ยาก ทั้งคู่ผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน แม้จะดูเสียเปรียบในช่วงแรกแต่ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ เห็นได้ชัดว่าทักษะฝีมือของทั้งสองนับว่าไม่ธรรมดา
เจียงซื่อเห็นว่าทั้งสี่คนคงจะต่อสู้กันอีกสักพัก นางจึงหยิบเนื้อกระต่ายที่เหลือที่ใกล้จะไหม้ลงมาจากกองไฟ และนำไปวางใส่จานด้านหลัง
กระต่ายป่าในขณะนี้ที่เหลือเพียงส่วนหัวและลำตัวแลดูพิลึกพิลั่น
ผู้อาวุโสฮวามองเจียงซื่อด้วยสายตาสับสนเล็กน้อย
เจียงซื่อที่ถูกมองเช่นนั้นจึงอธิบาย “ข้าวต้มหกหมดแล้ว”
ผู้อาวุโสฮวาดึงมุมปาก
เรื่องวุ่นวายถึงเพียงนี้ พระชายายังมัวอาลัยอาวรณ์กับข้าวต้มหม้อร้อน เมื่อเห็นว่าเสียข้าวต้มไปแล้วจึงรีบเก็บเนื้อกระต่ายที่เหลือขึ้นมา
ผู้อาวุโสฮวาเฝ้ามองไปที่เจียงซื่อที่อยู่ในคราบหลานสาวของตัวก็ยิ่งฉงนหนัก ครั้งแรกที่พบสตรีผู้นี้ นางแอบอ้างว่าเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ได้โดยไม่มีท่าทีตื่นตระหนก หรือว่าบางทีนางอาจจะแอบอ้างเป็นพระชายาเยี่ยนอ๋องด้วยเหมือนกัน…
เมื่อผู้มาเยือนทั้งสองถูกหลงต้านและเหล่าฉินรวบตัว บรรยากาศวุ่นวายทั้งหมดก็กลับสู่ความสงบ