ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 1021
ชายชราถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “เฮ้อ เห็นที เขายังคงพ่ายแพ้ให้จื่ออี หนนี้ราคาที่ต้องจ่าย คือชีวิตของเขา”
นิ่งอยู่ชั่วครู่ ชายชราก็ถามว่า “นายคงรู้จักจื่ออีสินะ”
พอไป๋ยี่เฟยได้ยินในใจก็ตระหนกวาบ
ดูจากท่าทีในตอนนี้ของเมิ่งเซิน ความรู้สึกฉันพี่น้องระหว่างเขากับเมิ่งเซินนั้นไม่เลวเป็นอย่างมาก
เช่นนั้นหากให้เขารู้เองว่า ตนเป็นศิษย์ของจื่ออี เขาจะคิดอย่างไร? จะไม่ฆ่าเขาหรอกหรือ?
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้เอ่ยอะไรชั่วคราว เมิ่งเซินเองก็ไม่ได้เร่งรัด ทำเพียงแค่มองเขาด้วยใบหน้าเจือรอยยิ้มบางๆ
สุดท้ายไป๋ยี่เฟยก็หัวเราะเสียงขื่นออกมา แล้วตอบว่า “เขาเป็นอาจารย์ของผม”
เขายังคงเลือกพูดความจริง อีกทั้งยังนำการพบกันของตนกับเมิ่งหลิน รวมถึงประสบการณ์ในการประลองฝีมือของเขากับจื่ออี และสุดท้ายการตายของเมิ่งหลินเล่าให้เมิ่งเซินฟังทั้งหมด
ตอนแรกเขาคิดว่าหลังฟังจบแล้วเมิ่งเซินจะโกรธมาก จากนั้นก็จะไล่ตนออกไป หรืออาจจะฆ่าเขาเสียเลย
แต่ที่เมิ่งเซินแสดงออกมาล้วนตรงข้ามกับสิ่งที่เขาคิดไว้ทั้งหมด
เมิ่งเซินพยักหน้าด้วยความปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก “เขามองคนไม่ผิด”
ไป๋ยี่เฟย “?”
เมิ่งเซินกล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “ฉันคิดไว้ว่าศิษย์คนหนึ่งที่เขารับไว้ก่อนตาย หากคนผู้นี้จิตใจไม่ซื่อตรง จะไม่ใช่ทิ้งหายนะไว้หรอกเหรอ? แต่ตอนนี้ดูเหมือนสายตาเขาจะไม่เลวเป็นอย่างมาก อย่างน้อยก็ดีกว่าฉัน”
ไป๋ยี่เฟยมีความสงสัยเต็มใบหน้า
เมิ่งเซินกล่าวยิ้มๆ ว่า “นายวางใจ สำนักเฟยซินของเราไม่ได้มีกฎเกณฑ์มากมายขนาดนั้น รับศิษย์ก็ไม่แบ่งพรมแดนเช่นกัน และไม่ถือสาว่าก่อนที่นายจะเข้าสำนักเฟยซินจะมีอาจารย์คนอื่นหรือไม่”
“ขอเพียงนายกลายเป็นศิษย์ของสำนักเฟยซินแล้ว ไม่ว่าเมื่อก่อนนายจะมีอาจารย์กี่คนก็ไม่เป็นไร นายก็คือคนของสำนักเฟยซินเรา สำนักเฟยซินคือสรวงสวรรค์ของศิษย์ทุกคนตลอดไป”
เมิ่งเซินมองไป๋ยี่เฟย กล่าวต่ออีกว่า “ก่อนหน้านี้ไม่นานฉันได้ดูคลิปวิดีโออันหนึ่ง เป็นคลิปที่นายประมือกับคนอื่น ตอนนั้นที่นายถืออยู่ในมือก็คือดาบเชียนฉืออาวุธของเมิ่งหลิน”
“ดาบเชียนฉือจำเป็นต้องใช้ควบคู่กับเคล็ดวิชาเฉพาะของเขาถึงจะใช้การได้ ไม่อย่างนั้นสำหรับผู้อื่นแล้ว ก็เป็นเพียงดาบธรรมดาที่หน้าตาค่อนข้างแปลกเล่มหนึ่งเท่านั้นเอง”
“ดังนั้นในตอนนั้นฉันก็รู้แล้วว่า นายก็คือศิษย์ที่เขารับไว้”
เมื่อฟังคำพูดเหล่านี้จบ ไป๋ยี่เฟยก็เข้าใจขึ้นมาในพริบตา
ซึ่งตอนนั้นเขาชักดาบเล่มนี้ออกมา เพียงแค่คิดอยากจะลองความรู้ที่เมิ่งหลินทิ้งไว้ให้เขา แต่หลังจากที่ลองแล้วก็รู้สึกว่ามันแข็งแกร่งมากจริงๆ
แต่มีจุดหนึ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึง นั่นก็คือเพราะเขาดูคลิปวิดีโอที่เผยแพร่อันนั้นแล้ว ถึงจะดึงเอาอานุภาพของดาบเล่มนี้ออกมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เพียงแต่เขายังดึงอานุภาพของดาบเล่มนี้มาใช้ไม่ได้อย่างเต็มที่ เพิ่งจะเรียนได้เพียงผิวเผินเท่านั้นเอง
เมิ่งเซินพูดอีกว่า “หลังจากวันนั้นฉันก็ใช้อิทธิพลของสำนักเฟยซินไปสืบเรื่องทุกอย่างของนาย”
“เริ่มตั้งแต่นายเกิดจนกระทั่งตอนนี้ เรื่องทั้งหมดฉันรู้ชัดเจนดี”
“พรสวรรค์ของนายทำให้ฉันตกใจจริงๆ นิสัยใจคอก็ไม่เลว มีบางครั้งที่ลังเลไม่เด็ดขาดอยู่บ้าง”
“แต่นายใจกว้างมาก ไม่มีเจตนาปกปิดเรื่องที่นายเป็นศิษย์ของจื่ออี ดังนั้นฉันจึงปลื้มใจมาก”
สิ้นคำพูด ไป๋ยี่เฟยพลันรู้สึกเก้อเขินขึ้นมาเล็กน้อย
วิธีการคิดเมื่อครู่ของตนกลับเป็นตนที่จิตใจคับแคบไปเอง
แต่จู่ๆ เขาก็คิดถึงปัญหาหนึ่งขึ้นมา “คุณรู้แต่แรกแล้วว่าผมมาหนานเหมินใช่ไหม จากนั้นก็คอยสังเกตผมมาตลอด?”
“แล้วก็คุณก็รู้เรื่องที่ผมไปฆ่าท่านดยุกแล้วเช่นกัน คุณเป็นคนส่งคนมาช่วยผม?”
เมิ่งเซินขานรับแล้วพยักหน้า
จู่ๆ ไป๋ยี่เฟยก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างหนึ่ง
ในเมื่อเมิ่งเซินรู้การกระทำทุกอย่างของตน ถ้าอย่างนั้นจีไซจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน?
เมิ่งเซินเหมือนกับจะมองออกว่าเขากำลังคิดอะไร จึงยิ้มกล่าวว่า “ฉันเชื่อใจนาย”
“หา?” ไป๋ยี่เฟยตกตะลึง
เมิ่งเซินกล่าวอีกว่า “เชื่อว่าจีซือนายไม่ได้เป็นคนฆ่า”
“จีเอร์ก็ด้วย”
ไป๋ยี่เฟยเปลี่ยนจากตกตะลึงเป็นงงงวย
เขาแน่ใจอย่างยิ่งว่า จีซือไม่ใช่เขาฆ่าจริงๆ แต่จีเอร์เขาเป็นคนฆ่า แล้วเพราะอะไรเมิ่งเซินถึงบอกว่าจีเอร์เขาก็ไม่ได้เป็นคนฆ่าเหมือนกันล่ะ?
ถึงกับเชื่อมั่นในตัวเขาขนาดนี้เชียว
เมิ่งเซินเห็นเช่นนี้ก็ยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “อันที่จริง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนที่หยุนอิงวางไว้”
“ตั้งแต่เริ่มแรกเธอก็วางแผนแต่ละขั้นตอนไว้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์เรื่องชาติกำเนิดระหว่างนายกับตระกูลฉุง หรือการตายของจีเอร์และจีซือ เธอเป็นคนวางแผนไว้อย่างดีเองทั้งหมด”
พอได้ยิน ไป๋ยี่เฟยพลันรู้สึกแผ่นหลังเย็นยะเยือกขึ้นมา
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ สำนักเฟยซินถึงกับรู้ทุกอย่าง!
เขาอดหวาดกลัวความสามารถในการหาข่าวของสำนักเฟยซินขึ้นมาไม่ได้
เวลานี้ เมิ่งเซินพูดอีกว่า “นายกำลังคิดอยู่ใช่ไหม ในเมื่อรู้เรื่องเหล่านี้ทุกอย่าง แล้วจีไซจะไม่รู้ได้อย่างไร?”
จู่ๆ ไป๋ยี่เฟยก็เหลือบตาจ้องเมิ่งเซินเขม็ง “ใช่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมเขาไม่ไปหาฆาตกรตัวจริง แต่มาจับตัวผมแทน?”
เมิ่งเซินส่ายหน้าอย่างจนปัญญา “งั้นฉันขอถามนาย ฆาตกรตัวจริงคือใคร?”
ไป๋ยี่เฟยนิ่งไป
แน่นอนว่าเป็นหยุนอิงลูกสาวของจีไซ
ต่อมา จู่ๆ เขาก็เข้าใจ
จีไซรู้ว่านี่เป็นศึกระหว่างสายเลือด ดังนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้
ซึ่งสิ่งที่หยุนอิงเคยบอกเขามาทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องโกหก
เธอไม่ใช่ไม่มีอะไรสักอย่าง แต่ตรงกันข้ามต่างหาก เธอมีทุกอย่างมากกว่าจีซือและจีเอร์ ถึงขนาดที่จีไซช่วยเหลือเธอด้วยซ้ำ
แต่เป็นเพราะเธอเป็นผู้หญิง ไม่อาจได้การเคารพนบนอบจากคนหนานเหมิน ดังนั้น เธอจึงต้องการกำจัดคนที่มีแววคุกคามตนเอง
โดยที่จีไซเห็นด้วยกับการกระทำเหล่านี้ทั้งหมดอย่างเงียบๆ
อย่างนั้นหยุนอิงจึงหลอกใช้ไป๋ยี่เฟย โดยโยนความผิดทั้งหมดไปที่ตัวไป๋ยี่เฟย นั่นไม่ใช่ทำเพื่อให้จีไซเห็น แต่ทำเพื่อให้คนหนานเหมินเห็น
หลังไป๋ยี่เฟยคิดเรื่องเหล่านี้จนตกผลึกแล้ว ก็หัวเราะเสียงขื่นออกมา “ดังนั้น ผมจึงเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่ถูกพวกเขาหลอกใช้ และยังเป็นหมากที่ถูกทิ้งอีกด้วย”
เมิ่งเซินพยักหน้า กล่าวอีกว่า “ไม่ใช่ทั้งหมด”
“จีไซเห็นดีเห็นงามกับการต่อสู้ระหว่างพวกเขาอย่างเงียบๆ แต่เขาไม่ได้อนุญาตให้หยุนอิงฆ่าลูกชายทั้งสองของเขา แต่ว่าลูกชายสองคนของเขาถูกฆ่าตายไปแล้ว จะให้เขาหาฆาตกรตัวจริงเจอ เพื่อแก้แค้นให้ลูกชายตัวเอง โดยการฆ่าลูกสาวตัวเองงั้นเหรอ?”
“หยุนอิงเป็นทายาทเพียงคนเดียวของเขาแล้ว ต่อให้เป็นผู้หญิงก็ตาม”
“ดังนั้นเขาจึงไม่อาจทำเช่นนี้ได้ แต่การตายของคุณชายสองคนแห่งสหพันธ์วรยุทธ จำเป็นต้องมีคนมารับผิดชอบ”
“นายวางใจได้ สหพันธ์วรยุทธยังไม่กล้าเหยียบเข้ามาในสำนักเฟยซินเรา ขอเพียงนายอยู่ในสำนักเฟยซิน นายก็จะปลอดภัย”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินพลันมีความรู้สึกสลดใจระคนหมดแรงเกิดขึ้นมา
จากนั้นเขาก็ถามเสียงต่ำว่า “หรือว่าผมต้องซ่อนตัวอยู่ในสำนักเฟยซินไปตลอดชีวิตใช่ไหม?”
“ไม่ใช่อย่างแน่นอน นี่แค่ชั่วคราว” เมิ่งเซินกล่าวนิ่งๆ
ไป๋ยี่เฟยกลับส่ายหน้าอย่างรุนแรง น้ำเสียงก็เด็ดเดี่ยวเป็นอย่างมาก “ไม่! ผมรับไม่ได้!”
เขายังมีเมีย มีลูก ยังมีหลิวเสี่ยวอิง
อีกทั้งเขายังคิดถึงฉุงลี่ซือด้วย
เขาไม่มีความรู้สึกระหว่างชายหญิงต่อฉุงลี่ซือ แต่วันเวลาเหล่านี้ที่ได้อยู่ร่วมกัน กลับกลายเป็นความผูกพันอยู่บ้าง
ยิ่งไปกว่านั้นสาวสวยคนหนึ่งอย่างฉุงลี่ซือ ดึงดันที่จะสารภาพรักต่อตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า ความรู้สึกเช่นนั้นเขาจึงสะเทือนใจอยู่บ้าง
ซึ่งพอคิดถึงว่าเป็นเพราะการวางแผนของจีไซและหยุนอิง ทำให้เธอถูกสหพันธ์วรยุทธระเบิดจนไม่เหลือซาก ตายอย่างน่าเวทนาขนาดนั้น เขาไม่ยินยอม!
เขาต้องการแก้แค้น!
ไม่ต้องการเป็นเต่าหดหัว!
ไป๋ยี่เฟยเหลือบตาพลางกล่าวเสียงขรึมว่า “ผมไม่ใช่หุ่นยนต์ที่ไร้ความรู้สึก เพื่อนตนเองถูกระเบิดจนตายไม่เหลือซาก ผมเสียใจและโกรธเคืองอย่างมาก”
“ผมต้องการแก้แค้นให้เธอ!”
เมิ่งเซินเห็นเช่นนี้ก็อดเกลี้ยกล่อมไม่ได้ว่า “นายอย่าเพิ่งใจร้อน นายในตอนนี้ยังไม่มีกำลังที่จะไปแก้แค้นได้ หากนายไปก็มีแต่ไปตายเท่านั้น!”
“ไม่!”
“ผมต้องการฆ่าท่านดยุก! ทำลายสำนักยี่เหมิง! ทำลายสหพันธ์วรยุทธ! ฆ่าจีไซ! ฆ่าหยุนอิง! ฆ่าให้หมดทุกคน!” ไปยี่เฟยตาแดงก่ำกัดฟันกล่าว