ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 105
บทที่ 105
“ฮ่าๆ ….” เฉินเสี่ยวเทียนหัวเราะ “ไป๋ยี่เฟย นายฝันอยู่เหรอ? นายเป็นแค่ผู้จัดการ หาห้าล้านมาได้เหรอ?”
เฝิงก่งก็หัวเราะเช่นกัน “เด็กน้อย นายจะคืนแทนพวกเขา นายก็ไม่ดูว่าตัวเองมีเท่าไหร่ นั่นห้าล้านเลยนะ นายได้ยินชัดเจนไหม? ห้าล้าน!”
ไป๋ยี่เฟยสีหน้านิ่ง ไม่สนใจ
เฉินเสี่ยวเทียนพูดอย่างโหดเหี้ยม “ไป๋ยี่เฟย นายอย่ามาก่อกวนได้ไหม? ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”
หากเมื่อกี้ไป๋ยี่เฟยไม่ยืนออกมา คุณพ่อของเขาคงเขียนข้อตกลงแล้ว แม้ว่าจะทำให้บ้านพวกเขาเป็นหนี้สิบล้าน แต่ถ้าหากพี่สาวของเขาแต่งงานกับเฝิงสือตง ทั้งหมดก็ไม่มีปัญหา เขายังสามารถทำงานที่บริษัทของตระกูลเฝิง ไม่แน่อาจจะได้เป็นผู้จัดการ โอกาสดีขนาดนี้ โดนไป๋ยี่เฟยทำพังหมด!
สายตาเย็นชาของไป๋ยี่เฟยกวาดมองเฉินเสี่ยวเทียน “เงินไม่ใช่ปัญหา สัญญาว่าเดี๋ยวจะคืนให้หมด”
“ไป๋ยี่เฟย! นายโง่เหรอ? นายมีห้าล้านเหรอ!” เฉินเสี่ยวเทียนตะคอก “นายมันแค่ผู้จัดการ อย่ามาทำเป็นเก่งได้ไหม!”
ไป๋ยี่เฟยไม่สนใจพวกเขา แต่โทรศัพท์หาจางหรง
“ห้าล้าน ที่ลู่ผิงเซียง ให้เวลานายหนึ่งชั่วโมง”
“ฉันว่าถ้านายแสดงก็แสดงให้เหมือนหน่อยไหม? ประโยคเดียวก็วางสายเลย แกล้งใครเหรอ? เกรงว่าไม่ได้กดโทรออกหรือเปล่า?” เฉินเสี่ยวเทียนหัวเราะแล้วพูด
เฝิงก่งก็หัวเราะด้วย “เด็กน้อย อย่ามายุ่งจะดีกว่า ถ้าฉันอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา วันนี้นายอาจจะได้คลานออกไป!”
“หนึ่งชั่วโมง จะคืนเงินพวกคุณทันที”
“หนึ่งชั่วโมง?” เฝิงก่งหัวเราะเบาๆ
เฉินเสี่ยวเทียนกลับทนรอไม่ไหว “อาเฝิง ท่านอย่าฟังเขาพูดไร้สาระ เขาไม่มีเงินเยอะขนาดนั้น”
ไป๋ยี่เฟยจึงพูดเบาๆ “ทำไม? รอมาหลายปีแล้ว ตอนนี้รอแค่หนึ่งชั่วโมงรอไม่ไหวเหรอ?”
“ได้! หนึ่งชั่วโมงก็หนึ่งชั่วโมง!” เฝิงก่งจะรอดู ว่าจะจบลงอย่างไรในหนึ่งชั่วโมง รอดูว่าเขาจะหาห้าล้านมาได้จริงไหม!
ระหว่างทาง จางหรงขับรถถึงขีดจำกัดแล้ว เกือบจะโดนตำรวจจราจรจับ และถึงที่หมายในช่วงเวลาสุดท้าย
“เกิดอะไรขึ้น? ถึงเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้ว” เฝิงก่งเหล่มองไปที่ไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยมองไปดูประตู พูดเบาๆ “ไม่มีความอดทนไม่ใช่สิ่งที่ดี”
เฝิงก่งสำลัก สีหน้าดูไม่ดีมากๆ
เฉินเสี่ยวเทียนเยาะเย้ย “ไป๋ยี่เฟย ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว เงินล่ะ? เฮอะ! ฉันว่าแล้ว นายก็แค่…..”
แต่ยังพูดไม่จบ ทันใดนั้นหน้าสวนก็มีรถหรูหลายคันแล่นมาจอด รถหรูเหล่านั้นหยุดจอดที่ประตู
รถที่อยู่คันหน้าสุดมีชายวัยกลางคนเดินลงมา และวิ่งมาทางไป๋ยี่เฟย
ด้านหลังเขา ตามมาด้วยผู้ชายสวมสูทสีดำถือตู้เซฟแบบพกพากลุ่มหนึ่ง
จางหรงวิ่งมาหยุดตรงหน้าไป๋ยี่เฟย เพราะว่าร่างกายอ้วน จึงหอยเล็กน้อย “ท่านประธาน ขออภัยจริงๆ ครับ ผม…. ผมมาสาย…..หวังว่า…ท่านประธานจะยกโทษให้”
“อะไรนะ?”
ท่านประธาน?
ทุกคนตกตะลึง
เรียกไป๋ยี่เฟยเหรอ?
หลังจากที่เฉินเสี่ยวเทียนตกตะลึงแล้วก็หัวเราะออกมา “ไป๋ยี่เฟย นี่นายไปเชิญนักแสดงมาจากไหน อย่างว่า แสดงสมจริงอยู่นะ! ฮ่าๆ …..”
พูดจบ ทุกคนแสดงท่าทางดูถูก
จริงๆ แล้วเฝิงก่งก็คิกว่าไป๋ยี่เฟยหาคนมาแสดงละคร เพราะนั่นคือเงินตั้งห้าล้าน เป็นแค่มันหัวเล็กจะมีปัญญาหามาจากไหน?
แต่ไป๋ยี่เฟยไม่พูดอะไรกับพวกเขามาก เพียงแค่มองไป แล้วพูดเบาๆ “เปิดกล่อง”
จางหรงได้ยินจึงพูดกับคนที่อยู่ด้านหลังอีกรอบ “รีบเปิดกล่อง”
แล้วชายชุดสูทสีดำที่ยืนอยู่เป็นแถวก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ถือกล่องไว้ในมือ เปิดทีละกล่อง
เมื่อเห็นเงินแบงค์สีแดงที่อยู่ในกล่อง ทุกคนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
เฉินเสี่ยวเทียนหุบปาก
สายตาเหยียดหยามของเฝิงก่งหายไป
เฉินซวงและต่งหยุนนิ่ง
นี่คือเงินสดห้าล้าน?
ทุกคนไม่เชื่อไม่ได้ สถานะของไป๋ยี่เฟยต้องไม่ธรรมดาเหมือนที่พวกเขาพูด เพราะภายในหนึ่งชั่วโมง หาเงินสดให้ครบห้าล้านได้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดา
ไป๋ยี่เฟยพอใจกับท่าทางของพวกเขา พูดเบาๆ “เถ้าแก่เฝิง ตอนนี้ลองนับดู ห้าล้าน ไม่ขาดเหลือ”
เวลานี้เฝิงก่งจะนับเงินอีกทำไม? อีกอย่างไม่นับก็รู้ กล่องเยอะขนาดนี้ ไม่ขาดเหลือแน่นอน!
ไป๋ยี่เฟยพูดเสียงเย็นชา “เงินห้าล้านนี้ ฉันไม่จำเป็นต้องคืนแทนพวกคุณก็ได้ ฉันไม่มีภาระที่ต้องชดใช้แทนพวกคุณ”
“แต่ว่าคุณป้าครับ ตอนแรกผมคิดว่าคุณเข้าใจแล้ว หลงหลิงหลิงคือมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งของ ผมว่า คุณยังคงไม่เข้าใจ คุณยังทำกับเธอเหมือนสิ่งของ ใช้ในการชำระหนี้!”
“ความเป็นพ่อแม่ ใครๆ ก็รักและปฏิบัติต่อลูกอย่างเต็มใจ พวกคุณล่ะ? พวกคุณกลับทำร้ายลูก! เฮอะ ใช่สิ เพราะว่าต่อให้พวกคุณทำแบบไหน หลงหลิงหลิงก็ไม่คัดค้าน เพราะว่าพวกคุณเป็นพ่อแม่ของเธอ เธอมีความกตัญญู ต่อให้พวกคุณทำเหมือนเธอเป็นสิ่งของแล้วขายเธอ เธอก็จะตกลง”
“แต่ว่าพวกคุณไม่เคยคิดถึงเธอเลย ในใจของเธอคิดยังไง? เธอดีใจไหม มีความสุขหรือเปล่า? ผมคิดว่าพวกคุณไม่เคย! ในใจของพวกคุณมีแต่ลูกชาย! เพื่ออนาคตของลูกชาย ยอมเสียสละความสุขของลูกสาวก็ไม่สำคัญ ใช่หรือไม่?”
คำพูดแต่ละคำของไป๋ยี่เฟย ร่างกายของเฉินซวงและต่งหยุนไม่สามารถหยุดสั่นได้
พงกเขาทำอะไรลงไป?
ต่งหยุนร้องไห้ออกมา เฉินซวงก็ไม่ต่างกัน
ทันใดนั้น ไป๋ยี่เฟยก็จ้องไปที่เฉินเสี่ยวเทียน เฉินเสี่ยวเทียนตกใจจนถอยหลังไปหนึ่งก้าว เกือบจะยืนไม่ไหว ล้มลงไปกองกับพื้น
ไป๋ยี่เฟยถามด้วยน้ำเสียงที่เย็น “เฉินเสี่ยวเทียน นายเป็นน้องชายแท้ๆ ของหลงหลิงหลิงไหม?”
“ฉันเป็น! ฉันเป็นแน่นอน!” เฉินเสี่ยวเทียนคิดว่าไป๋ยี่เฟยจะทำอะไร ถ้าเป็นน้องชายแท้ๆ ของหลงหลิงหลิง ถ้าอย่างงั้นเห็นแก่หลงหลิงหลิง ยังคงไว้หน้ากันสักนิด
แต่ว่าเฉินเสี่ยวเทียนคิดผิดแล้ว
“นายยังมีหน้าบอกว่าใช่? มีน้องชายคนไหนผลักพี่สาวแท้ๆ ของตัวเองลงในหลุมไฟด้วยเหรอ?” ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างแรง
“นายเคยคิดถึงความรู้สึกของพี่สาวนายไหม? นายเคยเป็นห่วงเธอไหม? นายไม่เคย! นายรู้จักแต่ให้พี่สาวนายไปแลกกับผลประโยชน์ที่นายต้องการ สิ่งที่เรียกว่าอนาคตของนาย!”
เฉินเสี่ยวเทียนไม่กล้าพูด
ไป๋ยี่เฟยตะคอก “ฉันจะบอกให้ ทั่วเมืองเทียนเป่ย แค่ประโยคเดียวของฉัน ไม่มีบริษัทใดรับแก! อนาคต ทั้งชีวิตนี้อย่าแม้แต่จะคิด!”
หน้าเฉินเสี่ยวเทียนขาวซีด
ถ้าก่อนหน้านี้ไป๋ยี่เฟยพูดแบบนี้ เฉินเสี่ยวเทียนจะหัวเราะเยาะ แต่ว่าตอนนี้ เขามีแต่ความกลัว
คนที่เอาเงินมายังยืนอยู่ที่นี่ บนตัวของพวกเขาทุกคนแขวนบัตรทำงานของโหวจวี๋ แล้วจางหรงก็เรียกไป๋ยี่เฟยว่าท่านประธาน งั้นสถานะของเขาก็ชัดเจนในตัว
ประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ป
ที่เมืองเทียนเป่ย โหวจวี๋กรุ๊ปคือพี่ใหญ่ เพียงแค่ไป๋ยี่เฟยพูดประโยคเดียว จะไม่มีบริษัทไหนรับเฉินเสี่ยวเทียนจริงๆ
ไป๋ยี่เฟยมองเฉินซวงและต่งหยุนที่ร้องไห้ พูดเบาๆ “วันนี้ฉันพูดไว้ตรงนี้ การแต่งงานของหลงหลิงหลิงให้เธอเป็นคนตัดสินใจเอง ถ้าพวกคุณบังคับเธออีก ฉันรับประกันได้ ทั่วเมืองเทียนเป่ย ถ้าฉันไม่หยักหน้า ไม่มีใครแต่งงานกับเธอได้!”
เวลานี้ ดวงตาของหลงหลิงหลิงพร่ามัว แต่ในสมอง รูปร่างของไป๋ยี่เฟยเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น