ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 12
บทที่ 12
หลี่ฝานได้ฟังประโยคนั้นของหลี่เสว่ ใบหน้าก็ดำอย่างกับก้นหม้อ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้คุกเข่า แต่ประโยคนั้น เมื่อเทียบกับการคุกเข่าแล้ว ก็ทำให้เขาอับอายซะยิ่งกว่า
หลังจากหลี่เสว่ออกจากห้อง ก็ได้รับโทรศัพท์ของหลิวจื่อหยุน
“ช่างเป็นลูกสาวที่ดีของฉันจริงๆ! คาดไม่ถึงว่าจะเจรจาการจัดหาเงินทุนสำเร็จจนได้จนได้เงินมากขนาดนี้ แม่ภูมิใจจริงๆเลย! เย็นนี้กลับมาทานข้าวที่บ้านนะ! แม่จะเลี้ยงฉลองให้กับคุณ!”
หลี่เสว่พยักหน้าแล้วตอบกลับว่า: “ค่ะ”
สงสัยพี่สาวจะเอาข่าวมาบอกแม่ หลังเรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกครั้งแม่จะต้องโทรศัพท์เข้ามาหาทันที
หลังจากหลี่เสว่กลับถึงอพาร์ทเม้นท์ เห็นกับข้าวถูกจัดวางไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ในครัวอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกับข้าว
มองไป๋ยี่เฟย แล้วจึงกล่าวด้วยความรู้สึกผิดว่า: “แม่ให้พวกเรากลับไปทานข้าวที่บ้าน”
ไป๋ยี่เฟยนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย แล้วจึงพยักหน้าทันที: “โอเค”
ครั้งนี้ก็งงเล็กน้อย ทำไมไป๋ยี่เฟยรับปากอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้? อาหารบนโต๊ะนี้เขาก็ทำเองทั้งหมด เขาไม่โกรธหรอ?
หลังจากกลับถึงบ้าน หลิวจื่อหยุนกระตือรือร้นกับหลี่เสว่เป็นพิเศษ ดึงหลี่เสว่มานั่งบนโซฟา เสว่เอ๋อคือความภูมิใจของฉันจริงๆ! หลันโปกั่งล้วนให้การเจรจาแล้ว มีอนาคตกว่าคนเหล่านั้นตั้งเยอะ!”
หลี่เสว่ยิ้มๆ แล้วมองไปยังไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยเห็นหลี่เสว่ยิ้มให้มา ก็ยิ้มกลับเป็นธรรมดา
แต่หลิวจื่อหยุนเห็นแบบนี้แล้วก็โกรธทันที “คุณยิ้มอะไรห๊ะ? อยู่บ้านเฉยๆทั้งวัน เวลาเห็นเสว่เอ๋อลำบากก็ช่วยเหลือไม่ได้ ไร้ประโยชน์สิ้นดี!”
“แม่….” หลี่เสว่ขมวดคิ้ว เรื่องนี้ถ้าไม่ใช่เพราะไป๋ยี่เฟย ก็คงเจรจาไม่สำเร็จหรอก
แต่ไป๋ยี่เฟยเห็นสถานการณ์แบบนี้แล้วก็ทำได้เพียงแค่ยิ้ม แล้วกล่าวว่า: “ฉันไปทำอาหารเย็นนะ”
หลี่เสว่นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ไป๋ยี่เฟยเดินไปกระซิบข้างๆเธอว่า: “อย่าพูด”
ไป๋ยี่เฟยไปยังครัว
หลี่เสว่มองไป๋ยี่เฟยด้วยความงุนงง หลังจากนั้นก็พูดคุยกับหลิวจื่อหยุนต่อ
ภายในห้องครัว ไป๋ยี่เฟยก็พบกับหลี่เฉียงตง ยิ้มๆแล้วพูดว่า “พ่อก็อยู่หรอ”
หลี่เฉียงตงตอบอื้มมาคำนึง “ทำด้วยกันแล้วกัน!”
คนทั้งสองทำอาหารเย็นอย่างไม่พูดไม่จา
ในห้องรับแขก หลิวจื่อหยุนกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “เชอะ! ผู้ชายบ้านอื่นเค้ามีความสามารถตั้งมากมาย แล้วดูบ้านพวกเราสิ แต่ละคนไม่ได้เรื่องเลย!”
ไป๋ยี่เฟย:“……”
หลี่เฉียงตง:“……”
ช่วงเย็น มีรถออดิ้คันนึงจอดอยู่หน้าคฤหาสน์ตระกูลหลี่
หลี่ฝานถือกล่องของขวัญกล่องใหญ่เข้าไป “คุณปู่ ทั้งหมดนี้มอบให้คุณ”
นายท่านหลี่ยิ้มแล้วกล่าวว่า: “มีกะจิตกะใจ”
หลังจากหลี่ฝานนั่งลง ก็กล่าวด้วยท่าทีที่ร้อนใจว่า: “คุณปู่ อันที่จริงฉันมาก็เพื่อเรื่องนี้”
“พูดมา” นายท่านหลี่มองไปยังหลี่ฝานแล้วกล่าว
หลี่ฝานจิตใจร้อนรุ่มกระสับกระส่าย “คุณปู่ คุณก็รู้ว่า โครงการใหม่นี้สำคัญมาก สะเพร่าไม่ได้ ถ้าให้หลี่เสว่รับผิดชอบ เกรงว่าจะจัดการได้ไม่ดี!”
“หลี่เสว่เป็นพนักงานตัวเล็กๆมาโดยตลอด ไม่เคยมีการติดต่อเรื่องเหล่านี้ คุณปู่วางใจที่จะมอบงานให้เธอจริงๆหรอ?”
นายท่านหลี่กล่าวอย่างนิ่งๆว่า: “แต่การจัดหาเงินคุณก็คือเธอที่เจรจามาได้ ไม่ให้เธอจะให้ใครล่ะ?”
“คุณปู่ นั่นคือเธอโชคดีต่างหากล่ะ บังเอิญที่หลันโปกั่งต้องการหาที่ลงทุนพอดี ที่จึงทำให้เธอคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ ฉันมีเพื่อนนักเรียนที่เป็นผู้จัดการอยู่ที่หลันโปกั่ง ถ้าฉันไปล่ะก็ ต้องเจรจาได้ดียิ่งกว่า ไม่แน่ว่ายังสามารถจัดหาเงินทุนได้มากกว่านี้อีกด้วย”
นายท่านหลี่ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไร “หาได้มากกว่าร้อยล้านหรอ?”
หลี่ฝานชะงักไปเล็กน้อย กล่าวว่า: “ถึงแม้ว่าจะไม่มากกว่าร้อยล้าน ถ้าฉันไปอย่างน้อยที่สุดก็คือหนึ่งร้อยล้าน!”
“อีกอย่าง คุณปู่คุณก็รู้ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะหลี่เสว่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ กับคนจนๆไม่มีประโยชน์อย่างหมอนี่ ตอนนี้พวกเราก็คงไม่ถึงขั้นต้องยากแค้นถึงขนาดต้องมาอยู่ในสถานภาพจัดหาเงินทุนหรอก”
“ประโยชน์สักนิดล้วนก็ไม่มี กินล้างกินผลาญครอบครัวพวกเราตลอดทั้งวัน รอจนถึงหลังจากนี้ต่อไป…….”
หลี่ฝานรีบหยุดปาก
นายท่านหลี่ปรายตามองไปยังเขา เข้าใจความหมายของเขา ครุ่นคิดบางอย่าง ผ่านไปครู่หนึ่ง จึงกล่าวถามว่า: “ทางด้านคุณนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
“เดิมทีการเจรจาเกือบจะเสร็จสิ้นแล้ว แต่ไม่ได้ดูการเจรจาสำเร็จกับหลันโปกั่งนะ หลันโปกั่งรายการนี้สำเร็จแล้ว พวกเราก็ค่อยไต่ขึ้นไปยังบริษัทโหวจวี๋กรุ๊ป ที่ดีกว่าบริษัทหลิ่วซื่อกรุ๊ปอยู่มาก ดังนั้นฉันจึงยังไม่ตอบรับ”
นายท่านหลี่พยักหน้า “อืม บริษัทโหวจวี๋กรุ๊ปนี้ใหญ่โตไม่เลวเลยจริงๆ เดิมทีบริษัทหลิ่วซื่อกรุ๊ปก็ไม่เท่าไหร่หรอก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คุณอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงมานานแล้ว ผ่านประสบการณ์มามากมาย โครงการนี้ก็ตามใจให้คุณรับผิดชอบแล้วกัน?”
“ขอบคุณคุณปู่ คุณปู่ดื่มชา” หลี่ฝานส่งแก้วชาร้อนให้กับนายท่านหลี่อย่างตื่นเต้น
นายท่านหลี่รับชามาแล้วดื่มอึกนึง “ระดับความสำคัญของโครงการนี้ไม่ต้องพูดมาก พรุ่งนี้คุณก็ไปเซ็นต์สัญญาได้ทันที จะต้องทำโครงการให้ดี เพราะปู่ให้ความสำคัญกับคุณที่สุด”
“คุณปู่วางใจได้ ฉันจะไม่ทำให้คุณปู่ผิดความคาดหวังอย่างแน่นอน” หลี่ฝานตอบกลับอย่างยิ้มแย้ม
เช้าวันที่สอง คนทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่ห้องประชุม
ก่อนอื่นนายท่านหลี่ก็กวาดสายตามองทุกคน หลังจากนั้นก็กล่าวประกาศอย่างเป็นทางการว่า: “เรื่องการเซ็นต์ข้อตกลงของหลันโปกั่งจะมอบให้หลี่ฝานเป็นคนไปทำ โครงการใหม่ก็จะมอบให้หลี่ฝานไปจัดหาเงินทุน หลี่เสว่ คุณนำข้อมูลในมือส่งให้กับหลี่ฝานหน่อย”
ทุกคนที่ได้ยินก็ไม่ได้แปลกใจมากนัก ความจริงแล้วหลี่เสว่ก็ไม่ได้มีตำแหน่งที่สูงในกิจการผลไม้หลี่ซื่อ นี่จึงเป็นเรื่องที่ปกติมาก
และหลี่ฝานก็มีลักษณะที่สมเหตุสมผล เวลานี้ยังยืนกอดอก มองหลี่เสว่อย่างลำพองใจ
แต่ทว่าหลี่เสว่ตกใจจนเบิกตาโพลง “คุณปู่ แต่ว่าฉัน…..”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น หลี่ฝานมีประสบการณ์ทางด้านนี้มาโดยตลอด ยิ่งมิหนำซ้ำ คุณเป็นพนักงานตัวเล็กๆไป จะไม่เป็นการดูแคลนคนของหลันโปกั่งหรอ ถ้าจัดการข้อตกลงล้มเหลว คุณก็รับผิดชอบไม่ไหว”
หลี่เสว่ยังต้องการที่จะพูดอีก ก็ถูกนายท่านหลี่ถลึงตาใส่ จึงทำได้เพียงหุบปาก
หลังจากประชุมเสร็จ หลี่เสว่ก็ก้มหน้าก้มตาเดินออกไปจากห้อง
หน้าประตู หลี่ฝานมองหลี่เสว่ด้วยความโอหัง “เสว่เอ๋อ รู้สึกยังไงบ้าง? รสชาตินี้มันช่างไม่สบายใจเลยใช่ไหม?”
หลี่เสว่จ้องมองหลี่ฝาน เธอรู้ดีว่า หลี่ฝานเป็นคนทำ เพราะเดิมทีหลี่ฝานไม่ถูกชะตากับเธอ ตอนนี้คุณงามความดีนี้ เขาไม่ยื้อแย่งมาก็แปลกแล้ว!
“หลี่ฝาน คุณอย่าคิดว่าที่คุณปู่ให้คุณจัดหาเงินทุนคุณก็สุดยอดแล้วนะ ข้อตกลงนี้ก็ยังไม่แน่ว่าคุณจะลงนามได้สำเร็จ!”
หลี่ฝานมองหลี่เสว่อย่างทึมทื่อ “หลี่เสว่ คุณคิดว่าคุณเป็นใคร? สัญญาข้อตกลงนี้ไม่มีคุณ จะไม่สามารถลงนามสำเร็จได้หรอ? ไม่มองตัวเองสูงเกินไปหน่อยหรอ?”
“ฮึ ฉันจะบอกอะไรคุณให้นะ! สัญญาข้อตกลงนี้ฉันกับคุณปู่จะต้องได้มา คุณปู่อยู่ในบ้านรักและทะนุถนอมฉันมาก คุณอย่ามาคิดเพ้อฝันลมๆแล้งๆหน่อยเลย!”
“ยิ่งไปกว่านั้น จริงๆฉันก็ยังมีเพื่อนนักเรียนเป็นผู้จัดการอยู่ที่หลันโปกั่งด้วย ฉันไปแล้ว สัญญาข้อตกลงนี้ จะต้องลงนานสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่แน่ว่าอาจจะยังได้รับประโยชน์ที่มากกว่านี้อีกด้วย!”
หลี่เสว่กำหมัดแน่น ไม่อยากพูดให้มากอีก จึงมุ่งตรงกลับบ้าน
หลังจากกลับถึงบ้าน หลี่เสว่ก็ปิดตัวเองอยู่ภายในห้องไม่ออกมา
หลิวจื่อหยุนเห็นแล้วก็เป็นกังวลใจเล็กน้อย จึงไปเคาะประตู และหลี่เฉียงตงกับไป๋ยี่เฟยก็เข้าไปด้วยกัน
“เสว่เอ๋อ เกิดอะไรขึ้น? เจอเรื่องอะไรมา?” หลิวจื่อหยุนกล่าวถามด้วยความเป็นห่วง
หลี่เสว่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวว่า: “เรื่องการจัดหาเงินทุนโครงใหม่ คุณปู่มอบให้หลี่ฝานเป็นคนจัดการ”
“อะไรนะ?” หลิวจื่อหยุนโมโห “มีสิทธิ์อะไร? นี่คือเสว่เอ๋อของพวกเราเจรจามาได้ มีสิทธิ์อะไรไปให้เขา?”
“เขาลำเอียงมากเกินไปแล้ว! แล้วยังหลี่ฝานนั่นอีก เขาต้องไปพูดอะไรต่อหน้านายท่านอย่างแน่นอน ไม่ได้ ฉันจะต้องไปหาเขาแล้วพูดกันให้รู้เรื่อง!”
พูดจบ หลิวจื่อหยุนก็จะเดินออกจากประตูไป จึงถูกหลี่เฉียงตงดึงไว้ “คุณใจเย็นหน่อย”
“ใจเย็น ใจเย็นได้ยังไงกัน? หลี่ฝานกับนายท่านนั่น เดิมทีก็ไม่ได้คิดว่าเสว่เอ๋อเป็นคนของตนเอง นั่นคือเสว่เอ๋อร่วมมือเจรจามาด้วยความยากลำบาก พวกเขามีสิทธิ์อะไรมาแย่งคุณงามความดีนี้ไป?”
หลี่เฉียงตงก็จนปัญญาอย่างมาก “แบบนี้ก็ดี”
หลังจากนี้จะได้ไม่ต้องทำบทความเรื่องโครงการที่หลี่ฝานเอาไป
“ดี? ดีกับผีสิ!” หลิวจื่อหยุนยิ่งโมโหขึ้นไปอีก “คุณก็วิตกกังวลแบบนี้ ลูกสาวก็ถูกรังแกยังจะมีหน้ามาพูดว่าดีอีก!”
ไป๋ยี่เฟยมองไปยังหลี่เสว่ พูดในใจว่า: “น่ารักจริงๆ! เรื่องอะไรล้วนแสดงออกมาบนใบหน้า แต่คงจะผิดหวังอย่างมาก!”
“แม่ คุณอย่าโมโหไปก่อน” ไป๋ยี่เฟยพูดมาประโยคนึง แล้วจึงกล่าวกับหลี่เสว่อีกว่า: “เสว่เอ๋อวางใจเถอะ มีฉันอยู่ทั้งคน”
หลี่เสว่ตกใจเล็กน้อย มองไป๋ยี่เฟยอย่างนิ่งๆ
หลิวจื่อหยุนเห็นเช่นนี้จึงกล่าวด่าว่า: “คำพูดเหลวไหลไร้สาระพวกนี้ มีประโยชน์ไหม? คนไม่มีประโยชน์คนนึง ยุ่งอะไรก็ช่วยไม่ได้!”
ไป๋ยี่เฟยจนใจเป็นอย่างมาก กล่าวว่า: “ฉันจะไปโทรศัพท์ อีกสักครู่จะกลับมา”
หลิวจื่อหยุนมองค้อนไป๋ยี่เฟย “พอเสว่เอ๋อเจอเรื่องลำบากก็ไปโทรศัพท์ พูดกับภรรยามีประโยชน์ไหม? ไม่ว่ายังไงก็ต้องไปคิดหาวิธี! ไอ้คนไม่มีประโยชน์!”
หลี่เสว่มองหลิวจื่อหยุน “แม่…