ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 172
บทที่ 172
กลับถึงคฤหาสน์ หลังจากจัดหาที่พักให้หลี่เสว่เรียบร้อยแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ตาแดง เดินไปถึงห้องรับแขกชั้นหนึ่ง
“ฮัลโหล ฉันต้องการหาคนให้เร็วที่สุด ใครหาได้ ฉันให้ค่าตอบแทนหนึ่งร้อยล้าน”
ไอ้หัวล้านหลิวที่อยู่ในโทรศัพท์รีบพยักหน้า: “โอเค เจ้านาย จะไปจัดการทันที”
วางสายโทรศัพท์ ไอ้หัวล้านหลิวกลืนน้ำลาย หาคนๆนึงค่าตอบแทนหนึ่งร้อยล้าน นี่แม่งเป็นรายได้ที่ดีมากเกินไปหรือเปล่า?
เพียงแต่จะพูดไปแล้ว ไป๋ยี่เฟยหาคนๆนั้นตกลงคือต้องการทำอะไรกันแน่? ทำไมรีบร้อนขนาดนี้?
หลังจากไป๋ยี่เฟยโทรศัพท์หาไอ้หัวล้านหลิวเสร็จแล้วก็โทรหาฉินหัว เงื่อนไขเหมือนกัน หวังว่าจะหาคนที่วางยาคนนั้นให้ได้โดยเร็วที่สุด
เขารอไม่ไหวแล้ว รอไม่ไหวแล้วจริงๆ
ครั้งนี้หลี่เสว่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ ทั้งหมดคือต้องพึ่งพาหลิวเสี่ยวอิง ถึงแม้ว่าจะได้รับการรับรองจากหลิวเสี่ยวอิงแล้ว แต่มีเพียวการขจัดพิษที่แท้จริงเท่านั้น เขาจึงจะสามารถสบายใจได้
“ท่านประธาน ข่าวใหม่ล่าสุด อีกสามวัน ที่ดินนั้นที่ชานเมืองใต้จะถูกนำเข้าประมูลที่โรงแรมใหญ่เมืองเทียนเป่ย” จางหรงกำลังรายงานในโทรศัพท์
หลังจากไป๋ยี่เฟยฟังจบก็ตอบอืมไปคำนึง
เวลาที่เหลือหลังจากนั้น อะไรๆไป๋ยี่เฟยก็ล้วนไม่สนใจ ทำเพียงพักอยู่ที่คฤหาสน์เป็นเพื่อนหลี่เสว่ ถือโอกาสรอข่าว
เช้าวันที่สอง ไป๋ยี่เฟยทานข้าวเช้าเสร็จ ก็ดูแลให้หลี่เสว่พักผ่อนเล็กน้อย แล้วก็รับสายคนที่ไม่รู้จักสายหนึ่ง
“ไป๋ยี่เฟย?”
“คุณเป็นใคร?” แววตาของไป๋ยี่เฟยเข้มงวด ตื่นตัวขึ้นมา เสียงนี้แฝงไปด้วยความหยิ่งยโส ไม่เหมือนกับต้องการที่จะรายงานข่าวให้เขาฟังเลยสักนิด
คนในโทรศัพท์กล่าวว่า: “ฉันเป็นใครไม่สำคัญ ที่สำคัญคือคุณต้องการยาถอนพิษหรือเปล่า?”
“ยาถอนพิษอยู่ที่ไหน?” ในใจไป๋ยี่เฟยก็บีบรัดขึ้นมาทันที
“ต้องการยาถอนพิษล่ะก็ กำหนดเวลาภายในหนึ่งชั่วโมงให้คุณมาที่โกดังร้างของชานเมืองทางตอนเหนือ ห้ามเกินเวลา!”
“เออใช่ เตือนคุณอีกอย่างนึง คุณจะต้องมาคนเดียว ไม่เช่นนั้นล่ะก็ คุณอย่าแม้แต่จะคิดถึงยาถอนพิษ!”
พูดจบ ฝ่ายตรงข้ามก็วางสายไป
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว นี่คือหลุมพรางหนึ่ง
เป็นกับดักเขาอย่างนึง
ให้เขาไปคนเดียว ไม่ใช่จะให้ยาถอนพิษ แต่เพื่อที่จะฆ่าเขา
แต่เขามีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เขาก็จะต้องไป!
แน่นอน เขาก็ไม่โง่ที่จะทำตามกฎกติกา ที่จะเข้าไปเพียงคนเดียว
นอกคฤหาสน์ ไป๋ยี่เฟยนำเรื่องราวบอกกับไป๋หู่ ให้เขาตามไปอยู่เบื้องหลังของตนเอง
ตอนนี้เขาก็ไม่กังวลว่าจะมีคนทำร้ายหลี่เสว่ เพราะจุดประสงค์ของฝ่ายตรงข้ามคือเขา เขาต้องการเพียงได้ยาถอนพิษมา
หลังจากหนึ่งชั่วโมง ไป๋ยี่เฟยก็มาถึงโกดังร้าง
ที่นี่มีโกดังร้างเพียงหลังเดียว ไป๋ยี่เฟยมองไปรอบทิศทาง วัชพืชขึ้นรกไปทุกที่ ผนังด้านนอกของโกดังเป็นโลหะล้วนขึ้นสนิมทั้งหมด
ไป๋ยี่เฟยนึกถึงเรื่องราวที่ได้พบเจอมาเมื่อครั้งที่แล้ว ดังนั้นจึงยืนอยู่หน้าประตูโกดัง ไม่ได้เข้าไป
“ฉันมาแล้ว นำยาถอนพิษออกมา”
หลังจากไป๋ยี่เฟยตะโกนไปเสร็จ ไม่มีคนตอบกลับ
ไป๋ยี่เฟยตะโกนอีกรอบนึง ก็ยังไม่มีคนตอบกลับ
“เกิดอะไรขึ้น?”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว หรือว่าจะถูกหลอก? หรือว่า จะเป็นการล่อเสือออกจากถ้ำ ที่จริงแล้วจุดประสงค์ของพวกเขาก็คือหลี่เสว่?
คิดถึงตรงนี้แล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ไม่กล้ารอนาน หันเดินไปยังรถของตัวเอง ในเวลาเดียวกันก็โทรศัพท์ไปยังไป๋หู่ ให้เขาคุ้มกันหลี่เสว่
เพียงเมื่อไป๋ยี่เฟยกำลังหันกลับ ประตูโกดังก็เปิดออก
ไป๋ยี่เฟยหยุดก้าวเท้า หันตัวกลับมา
“มาแล้วยังคิดอยากจะกลับไปอีกหรอ?”
คนที่พูดคือผู้ชายอายุประมาณสามสิบปี สุภาพเรียบร้อย สวมแว่นตา
ข้างๆเขายังมีคนรูปร่างสูงใหญ่คนนึงยืนอยู่ มีหนวดเครา ใบหน้าเต็มไปด้วยความโหดร้าย
ชั่วพริบตาที่ไป๋ยี่เฟยเห็นชายสวมแว่น สัญชาตญาณก็รู้สึกได้ถึงความอันตราย แต่ก็กล่าวด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงอาการว่า: “ฉันมาแล้ว ยาถอนพิษล่ะ?”
“ยาถอนพิษ?” ชายแว่นหัวเราะเยาะมาคำนึง “วันนี้ปีหน้าก็คือวันครบรอบวันตายของคุณ ยังจะต้องการยาถอนพิษอะไรอีก?”
ไป๋ยี่เฟยสีหน้าเด็ดเดี่ยว เป็นอย่างที่คิดไว้ นี่คือกับดักที่มุ่งเป้ามายังเขา
“เอายาถอนพิษมาให้ฉัน ฉันจะไม่ต่อต้านอย่างเด็ดขาด” ต้องการเพียงสามารถช่วยชีวิตหลี่เสว่ได้ เขาตายไปก็ไม่เป็นไร
ชายแว่นได้ยินก็หัวเราะเยาะ “มันเป็นความลุ่มหลงจริงๆหรอ? เพียงแต่ในสายตาของเจ้านาย นี่ก็คือความโง่เขลา เพื่อผู้หญิงคนนึง แม้กระทั่งชีวิตตัวเองก็ไม่ต้องการ!”
“คุณเป็นคนโง่เขลาอย่างนี้ เทียบไม่ได้กับเจ้านายเลยจริงๆ!”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจ: “แต่ไหนแต่ไรฉันก็ไม่เคยคิดที่เปรียบเทียบอะไรกับเจ้านายของคุณอยู่แล้ว ฉันคิดเพียงแค่จะช่วยชีวิตภรรยาของฉัน”
“เห๊อะ! คุณไม่เปรียบเทียบ ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่เปรียบเทียบ ไม่ ควรจะพูดว่า การมีชีวิตอยู่ของคุณ ก็ไม่สมควร คุณไม่ควรมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้!”
ทันทีหลังจากนั้น ไม่รอให้ไป๋ยี่เฟยคิดนาน ชายแว่นและชายสูงใหญ่ฝั่งตรงข้ามก็รีบก้าวเท้าเข้ามา ในมือถือมีดเล่มใหญ่ยาว ฟันเข้ามา
ไป๋ยี่เฟยตกใจ หันกลับแล้ววิ่ง ชายแว่นและชายรูปร่างสูงใหญ่ล้วนคือมือสังหาร เผชิญหน้ากับไก่อ่อนตัวนึงอย่างไป๋ยี่เฟย ไม่ต้องลงแรงเยอะเลยจริงๆ
เพียงแค่มีดเล่มใหญ่นั้นกำลังจะฟันลงบนศีรษะของไป๋ยี่เฟยนั้น ไป๋หู่ก็ปรากฏตัว
ไป๋หู่พุ่งปราดออกไปยังด้านหน้า เท้าลอยไปถีบชายมีเครา และกวาดอีกเท้าเข้าไปอีก พยายามที่จะถีบชายสวมแว่น
แต่การตอบโต้ของชายแว่นรวดเร็วมาก หลบเท้านึงของไป๋หู่ ด้วยเหตุนี้ มีดเล่มใหญ่จึงไม่สามารถฟันลงบนศีรษะของไป๋ยี่เฟยได้
“เชี่ย!”
ชายแว่นด่าออกมาประโยคนึง “กูก็รู้ว่ามึงคงไม่ซื่อที่จะมาคนเดียวแน่”
ดังนั้น เขาจึงพาชายมีเครามาด้วย
ไป๋หู่สีหน้าไม่แสดงออก ชกต่อยกันกับชายแว่น
ชายแว่นหยิบมีดเล่มใหญ่ หามุมในการต่อสู้ทุกรูปแบบเพื่อโจมตีไป๋หู่ ไป๋หู่ก็ไม่ใช่ธรรมดา ทุกครั้งก็ใช้วิธีการหลบหลีกอย่างชาญฉลาด ปราดเปรียวไม่เหมือนกับที่ชายรูปร่างสูงใหญ่ควรจะมีเลยสักนิด
ทางด้านนั้น ไป๋ยี่เฟยรอดพ้นจากภัยมาได้ จิตใจล้วนขึ้นมาอยู่ที่ลำคอ ถ้ามีดนั้นฟันลงบนศีรษะของเขา หัวไม่แบะเลยหรอ?
หัวใจที่หวาดผวาเต้นตีอยู่ที่ทรวงอกของตนเอง ออกห่างมาไกลเล็กน้อย
แต่ไป๋หู่ถูกชายสวมแว่นพัวพัน ชายมีเคราคนนั้นก็มีช่องว่าง หยิบมีดเล่มใหญ่แล้วมุ่งไปยังไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยหันตัววิ่งอีกครั้ง
เผชิญหน้ากับมือสังหาร เขาสามารถถูกฆ่าได้เท่านั้น
ก็ไม่รู้ว่าพระเจ้าและเขาเป็นอริกันหรือเปล่า ยังไม่ทันวิ่งไปไปถึงข้างรถ ก็ถูกหญ้าจำนวนมากพันขาจนสะดุด
เสียงดัง “ตึง” ล้มลงกับพื้น
“เชี่ย!”
ไป๋ยี่เฟยด่าออกมาคำนึง ปืนป่ายขึ้นมาพลาง มองไปทางด้านหลังพลาง
การมองนี้ไม่สำคัญ ไป๋ยี่เฟยตกใจจนแทบจะร้องตะโกนออกมา
ชายมีเคราไล่ตามเขามาแล้ว มีดเล่มใหญ่ก็มาถึงด้านหน้าแล้ว
เผชิญหน้ากับการคุกคามถึงกับชีวิต ไป๋ยี่เฟยก็ปรากฏศักยภาพที่ไม่เคยมีมาก่อน เอียงตัวหลบไปด้านข้าง มีดเล่มใหญ่ตกลงบนพื้น เพราะใช้แรงที่มาก จึงปักลงไปในดิน
ไป๋ยี่เฟยกลิ้งพลางปืนป่ายยืนขึ้นมา วิ่งไปยังรถต่อไป
ชายมีเคราด้านหลัง ใช้แรง ดึงมีดเล่มใหญ่ขึ้นมา ปลายมีดมีเศษดินเล็กน้อย แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อความแหลมคมของมีดเลยแม้แต่น้อย
ชายมีเคราไล่ตามไป๋ยี่เฟยมาสองสามก้าว ก็คว้าเข้าที่ไหล่ของไป๋ยี่เฟย หลังจากนั้นก็นำมีดเตรียมเล็งไปยังด้านหลังของไป๋ยี่เฟย ใช้แรงแทงลงไป
ในช่วงเวลาแห่งความตาย จู่ๆก็มีมือนึงปรากฏขึ้น จับมือของชายมีเครา ใช้แรงบีบ ถีบอีกทีนึง ชายมีเคราเจ็บปวด ถอยหลังไปสองสามก้าว
ไป๋ยี่เฟยหายใจถี่ หันกลับไปดู ประหลาดใจเล็กน้อย “สวีลั่ง?”
สวีลั่งไม่ได้สนใจไป๋ยี่เฟย และได้ต่อสู้กับชายมีเครา