ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 218
บทที่218
“จริงสิ ต้องโทรหาเบื้องบน!”
ต้าส้งนึกถึงคนที่อยู่เบื้องบน พอตั้งสติได้ เขาก็รีบหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาเซียวหรงเทาทันที จากนั้นก็เล่าเรื่องที่พวกเขาจับตัวประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ปไป
“พวกแกจับตัวไป๋ยี่เฟยไปอย่างนั้นเหรอ?”
“ใครนะครับ?” ต้าส้งไม่รู้จักชื่อของไป๋ยี่เฟย รู้แค่ว่าคนๆ คือประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ปเท่านั้น
เซียวหรงเทาถามใหม่ “คนที่พวกแกจับตัวมาคือประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ปใช่ไหม?”
“ใช่ครับ”
ตอนนี้เซียวหรงเทากำลังอยู่กับหลิ่วจาวเฟิง พอหลิ่วจาวเฟิงได้ยินเขาพูดแบบนั้น เขาก็ขมวดคิ้วทันที
ตอนนี้ยังมีปัญหากับไป๋ยี่เฟยไม่ได้ ที่สำคัญคือแผนต่อจากนี้ห้ามถูกเปิดเผยเด็ดขาด ถ้าไป๋ยี่เฟยรู้ว่าคนที่จับตัวเขาไปคือพวกเขาละก็ เขาอาจจะสืบจนเจอพิรุธอะไรแน่!
“บอกให้เขารีบปล่อยตัวไป๋ยี่เฟยไปซะ!” หลิ่วจาวเฟิงบอกกับเซียวหรงเทา “และห้ามพูดถึงเรื่องเงินอีก!”
แต่เซียวหรงเทากลับลังเล จึงได้บอกกับต้าส้งในสายไปว่า “แกรอแป๊บหนึ่งนะ”
พูดจบ เซียวหรงเทาก็วางสายแล้วหันมาพูดกับหลิ่วจาวเหิงว่า “พี่หลิ่ว ไป๋ยี่เฟยไอ้ชาติหมาคนนี้ มันเคยทำลายหลิวซื่อจากนั้นก็เป็นบริษัทผม ในเมื่อตอนนี้มันตกอยู่ในกำมือเราแล้ว เราไม่ถือโอกาสนี้สั่งสอนมันสักหน่อยเหรอครับ?”
พอได้ยินอย่างนั้น หลิ่วจาวเฟิงก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที ถ้าต้าส้งไม่พูดและพวกเขาไม่แสดงตัว ไป๋ยี่เฟยก็ไม่มีทางรู้หรอกว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง เพราะอย่างนั้น การที่ได้สั่งสอนไป๋ยี่เฟิงสักครั้งมันก็เป็นแผนที่ไม่เลวเหมือนกัน
เซียวหรงเทาพูดเสริมขึ้นมาอีกว่า “พี่หลิ่ว ส่วนเรื่องเงินนั้น เขาเป็นถึงประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ป ยังไงเขาก็ไม่รู้อยู่แล้วว่าเป็นเรา เราควรเรียกเงินเพิ่มนะครับ ถือเป็นค่าชดเชยให้เราด้วย”
หลิ่วจาวเฟิงหรี่ตาลง พร้อมกับใช้ความคิด จากนั้นก็พูดว่า “ไม่ได้ ไป๋ยี่เฟยไม่ได้โง่อย่างที่แกคิด ยังไงก็ปล่อยเขาไปซะ”
ตอนแรกเขาก็อยากทำเหมือนกัน แต่เขาก็นึกถึงไป๋หู่ขึ้นมา ไป๋หู่เป็นคนที่คนข้างหน้ากลับ ถ้าพวกเขาเกิดทำอะไรไป ไป๋หู่อาจจะสืบมาถึงตัวพวกเขาได้ เขาจะมาเสี่ยงแบบนี้ไม่ได้
เซียวหรงเทายังไม่เข้าใจ “พี่หลิ่ว ไป๋ยี่เฟยมันตกมาอยู่ในกำมือเราแล้วนะครับ ต่อให้มันเก่งแค่ไหนก็คงเอาตัวรอดไม่ได้หรอกครับ อีกอย่างเราแค่สั่งสอนกับไถเงินมันก็เท่านั้น”
หลิ่วจาวเฟิงหันมามองเซียวหรงเทา จากนั้นก็พูดด้วยเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ฉันบอกให้ปล่อยเขาไป!”
เซียวหรงเทาไม่มีทางเลือก จึงต้องโทรหาต้าส้งอีกรอบ
พอโทรติด หลิ่วจาวเฟิงก็พูดขึ้นมาอีกว่า “เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งปล่อยเขาไป คุมตัวเขาไว้ก่อน ถ้าฉันบอกให้ปล่อยค่อยปล่อย!”
เซียวหรงเทาอึ้งไป เสียงของต้าส้งดังมาจากในสาย เขาจึงได้รีบพูดไปว่า “คุมตัวประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ปให้ดีๅแล้วห้ามพูดถึงเรื่องเงินอีก”
ต้าส้งพูดแย้งไปว่า “แต่เขารับปากแล้วนะครับว่าจะเอาเงินสามสิบล้านให้เรา ขอฟรีๆ แบบนี้จะไม่เอาจริงๆ เหรอครับ?”
“นี่แกฟังภาษาคนไม่ออกรึไงห๊ะ? ห้ามพูดถึงเรื่องเงินอีก แค่ดูเขาให้ดีๆ ก็พอ” เซียวหรงเทาตะคอกใส่เขา
จากนั้นก็วางสาย
“แม่งเอ๊ย!!” ต้าส้งสบถ
ลูกสมุนคนหนึ่งได้ถามขึ้น “เบื้องบนเขาว่ายังไงบ้างครับ?”
“สั่งให้เราห้ามรับเงินสามสิบล้านนั่นเด็ดขาด!”
“ให้ทิ้งเงินสามสิบล้านเนี่ยนะ? สามสิบล้านนะ!”
ต้าส้งพยักหน้า “ไม่ใช่รึไง? คนมีเงินพวกนี้ไม่เคยรู้เลยว่าเงินมันสำคัญกับพวกเรามากขนาดไหน แม่งเอ๊ย!”
ถ้าไม่ใช่เพราะข้างบนยังมีหลิ่วจาวเฟิงอีกคนละก็ คนที่เป็นถึงลูกพี่ใหญ่ของทางใต้อย่างเขา ไม่มีทางเชื่อฟังคำสั่งของเซียวหรงเทาอย่างแน่นอน ไม่กระทบมันจนหมดสภาพก็ดีแค่ไหนแล้ว!
ลูกสมุนคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างเป็นกังวลว่า “หรือเป็นเพราะไม่อยากมีเรื่องกับโหวจวี๋ เลยกลัวจะถูกหาเจอหรือเปล่าครับ?”
ต้าส้งหัวเราะออกมาเสียงดัง “พี่น้องเราเยอะขนาดนี้ ยังต้องกลัวใครอีก? เบื้องบนสั่งให้เราดูเขาให้ดี มันก็แค่เรื่องง่ายๆ ไม่ใช่รึไง?”
“ใช่ครับ พี่ใหญ่พูดถูก” ลูกสมุนพยักหน้าเห็นด้วย “ถ้าพวกมันกล้ามา เดี๋ยวเราจะทำให้มันกลับไปไม่ไหวเลย!”
“ฮาๆฮา……” ทุกคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน
เพราะต้าส้งเคยติดคุกไปหลายปี พอพ้นโทษออกมาอำนาจใต้ดินของเมืองเทียนเป๋ยก็ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ไม่งั้นคนพวกนี้คงไม่มีโอกาสได้ทำตัวเบ่งแบบนี้หรอก โชคดีที่เส้นสายที่เคยมียังอยู่ ทำให้เขาสามารถรวบรวมเหล่าพี่น้องกลับมาได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถคุมเมืองฝั่งใต้ได้สำเร็จ แต่เขาก็ไม่ได้พอใจ แค่เมืองฝั่งใต้ แต่เป็นเมืองเทียนเป่ยทั้งเมืองต่างหาก
พอต้าส้งหยุดหัวเราะ เขาก็พูดขึ้นว่า “ยังไงก็เราก็บอกให้คนเอาเงินมาให้แล้ว ไม่เอาก็เสียดายแย่!”
“พี่ใหญ่ของเรานี่เก่งที่สุดแล้ว!” ลูกสมุนคนหนึ่งพูดประจบ
“ก็อกๆ ……”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ลูกสมุนคนหนึ่งวิ่งไปเปิดประตูอย่างรู้หน้าที่ แต่พอประตูถูกเปิดออกเขาก็ต้องอึ้งกับสิ่งที่เห็น
ที่ๆพวกเขาอยู่เป็นสถานบันเทิงที่ค่อนข้างมีระดับ หน้าประตูจะมีคนคอยเฝ้าอยู่ตลอด
การที่มีคนเคาะประตูเมื่อกี้ พวกเขาเลยคิดว่าเป็นเด็กเฝ้าประตูต้องการเข้ามารายงานอะไร จึงได้เปิดประตูไปทั้งอย่างนั้น ใครจะไปคิดว่าพอเปิดประตูมาแล้วสิ่งที่ได้เห็นจะเป็นแบบนี้
เพราะสิ่งที่เห็นคือ เด็กเฝ้าประตูต่างพากันล้มระเนระนาดอยู่บนพื้น ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่าตายหมดแล้วหรือแค่สลบไป
ลูกสมุนที่ไปเปิดประตูค่อยๆ ก้าวถอยหลังทีละนิด แล้วพูดอย่างติดขัดว่า “พะ…พี่ใหญ่ครับ…”
ที่ประตู ไป๋หู่ค่อยๆ ย่างเท้าเข้ามาอย่างช้าๆ
คนที่อยู่ภายในห้องต่างพากันยืนตัวเกร็งกันหมด แล้วมองไปยังไป๋หู่ที่กำลังเดินเข้ามาด้วยสายตาที่หวาดระแวง ตอนนี้ทุกคนได้เห็นสภาพพี่น้องที่นอนกองกันอยู่ข้างนอกแล้ว จากนั้นทุกคนก็พากันกลืนน้ำลาย
ไป๋หู่ที่สูงเมตรเก้าสิบ กล้ามเนื้อที่เป็นมัด เหมือนกับปราการเหล็กที่ไม่อาจทำอะไรมันได้ บวกกับภาพพี่น้องที่ถูกจัดการไป ก็รู้ได้ในทันทีว่าชายคนนี้ต้องมีฝีมือที่ร้ายกาจอย่างแน่นอน
ต้าส้งถือว่ายังดูไม่แตกตื่นมากนัก “คุณเป็นใคร? มาทำอะไรที่นี่? ผมว่าผมไม่เคยเจอคุณมาก่อนนะ!”
ไป๋หู่มองไปรอบๆ แล้วพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ผมเป็นผู้ช่วย ผมเอาเงินมาส่ง”
ต้าส้งรู้สึกคลายกังวลลงบ้าง แต่ก็ต้องตื่นตระหนกอีกครั้ง เพราะในมือของชายคนนี้ไม่ได้มีเงินติดมาด้วยเลย!
“คุณต้องการจะทำอะไร?” ต้าส้งสังเกตถึงความผิดปกติ และแอบวางแผนในใจ ตอนนี้ฝั่งตัวเองมีคนอยู่ตั้งสิบกว่าคนการจะล้มชายคนนี้คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ไป๋หู่ถามกลับ “ท่านประธานอยู่ไหน?”
ต้าส้งมองไปอีกทาง “เขาอยู่อีกห้องหนึ่ง เดี๋ยวผมพาคุณไปเอง”
ไป๋หู่พยักหน้า หันหลังเตรียมจะเดินไป
และทันใดนั้น ต้าส้งก็ส่งสัญญาณด้วยสายตา เหล่าลูกสมุนที่รู้กันก็กระหน่ำกำปั้นเข้าไปที่ไป๋หู่ทันที
ต้าส้งตะโกนออกมาอย่างผู้ชนะนะ “พาแกไปหายมบาลน่ะ!”
ในตอนที่หมัดของทุกคนกำลังจะโจมตีถึงตัวไป๋หู่อยู่นั้นเอง ไป๋หู่ก็ได้หมุนตัวมา แล้วรัวหมัดไปที่ลูกสมุนทุกคน ตามด้วยการกระโดดถีบอีกหลายครั้ง ในเวลาไม่กี่วิ ลูกสมุนสิบกว่าคนต่างกระเด็นออกไปนอนกองกับพื้น
ต้าส้งที่เห็นอย่างนั้น ก็ถึงกับเหวอไปเลย
“นี่…แก…”
ชะงักอยู่นานก็ยังพูดอะไรไม่ออก
ไป๋หู่ค่อยๆ เดินเข้ามา ต้าส้งต้องก้าวถอยหลังด้วยความหวาดกลัว จนมาชนเข้ากับโซฟา ตอนนี้ไม่มีที่ให้ถอยแล้ว
“พี่ชาย มีอะไรค่อยๆ คุยก็ได้นะ มีอะไร……”
ต้าส้งไม่หลงเหลือมาดของลูกพี่อีกต่อไปแล้ว
ไป๋หู่มองเขาด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ “ท่านประธานอยู่ไหน?”
“ออกไปซ้ายมือ เขาอยู่ในห้องที่สองครับ”
ไป๋หู่มีโลเคชั่นในมือถือ แต่ตอนนี้มือถืออยู่ที่ต้าส้ง ดังนั้นไป๋หู่ถึงได้มาโผล่ที่ต้าส้งนี่ไง ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่รู้ว่าไป๋ยี่เฟยอยู่ไหน
เมื่อได้รับข้อมูลที่ต้องการแล้ว ไป๋หู่ก็ได้สับมือลงไปที่ท้ายทอยของต้าส้งจนเขาสลบไป
ก่อนที่ต้าส้งจะหมดสติ เขายังคิดอยู่เลยว่า :ผู้ช่วยในตอนนี้ช่างเก่งกาจเหลือเกิน! ไม่เพียงแค่งานในออฟฟิศที่ต้องจัดการ ยังต้องรู้จักศิลปะการต่อสู้ด้วย! แบบนี้จะให้พวกนักเลงอย่างเราทำมาหากินยังไง?
……
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดต้าส้งก็ได้สติขึ้นมาแล้ว จากนั้นก็ได้รู้ว่าตัวเองกำลังถูกมัดอยู่
เขามองไปรอบๆ นี่มันห้องที่ไป๋ยี่เฟยถูกขังไว้ไม่ใช่เหรอ?
โดยตอนนี้ได้มีไป๋ยี่เฟยกับหลิวเสี่ยวอิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ส่วนไป๋หู่กับหลิวเสียก็ยื่นอยู่ข้าหลังพวกเขา
ต้าส้งกลืนน้ำลายใหญ่เลย และรีบพูดแก้ต่างไปว่า “ท่านประธานไป๋ ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วจริงๆ ครับ…