ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 219
บทที่219
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว “รู้จักตัวตนของผมแล้วเหรอ?”
ใบหน้าของต้าส้งแดงก่ำ แต่ก็ไม่ได้อธิบายว่ารู้ได้ยังไง ตอนนี้เขาไม่กล้าหาเรื่องไป๋ยี่เฟยอีกต่อไปแล้ว เขาจึงพูดพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ไปว่า “ท่านประธานไป๋ครับ ผมผิดไปแล้วจริงๆ ผม……”
“คุณทำอะไรผิดอย่างนั้นเหรอครับ?” ไป๋ยี่เฟยถามลอยๆ
ต้าส้งอึ้งไป เขาจะไปรู้ได้ยังไงล่ะว่าตัวเองทำผิดตรงไหน?
ไอ้คำว่า “ผิดไปแล้ว” มันก็แค่คำที่นิยมใช้กัน ใครจะไปรู้หล่ะว่าตัวเองทำอะไรผิด?
ต้าส้งพยายามใช้ความคิด จากนั้นก็ตอบไปอย่างระมัดระวังว่า “เรื่องที่ผมไปไถเงินคุณเหรอครับ?”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้า
ต้าส้งตอบอีก “เรื่องที่ผมจับตัวพวกคุณ?”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้าอีก ถ้าสองเรื่องที่พูดไปมันไม่ใช่ งั้นเขาก็ไม่รู้แล้วว่าตัวเองทำอะไรผิดไป
หลิวเสี่ยวอิงก็มองมาที่ไป๋ยี่เฟยด้วยความสงสัยเหมือนกัน เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เหรอ?
ไป๋ยี่เฟยพูดออกมาอย่างเรียบเฉย “คุณผิดที่เชื่อคนง่ายไป”
“ตอนที่ผมให้คุณโทรศัพท์นั้น ถึงคุณจะสงสัย แต่คุณก็ยังโทร เป็นถึงมาเฟีย แต่ไม่คิดที่จะตรวจสอบหน่อยเลยเหรอ?”
“ถ้าเป็นผมละก็ ผมจะสั่งให้อีกฝั่งปลดล็อกหน้าจอก่อน จากนั้นก็ตรวจดูข้อความในมือถือ วิเคราะห์คาดการณ์ ใครคือคนที่สำคัญกับผมมากที่สุด แบบนี้ตอนที่เอาเงินมาส่งโอกาสที่จะสำเร็จก็จะสูงยิ่งขึ้น แถมยังไม่ต้องมาพะวงอีกว่าคนๆ นั้นจะเป็นบอดี้การ์ดหรือเปล่า”
“อะไรนะครับ?” ต้าส้งถึงกับตาค้าง “บอดี้การ์ด?”
พูดจบต้าส้งก็มองไปที่ไป๋หู่ พอมาดูอีกที ต้าส้งก็ต้องรู้สึกว่าตัวเองนั้นโง่แค่ไหน คนแบบเขามันเหมาะจะเป็นผู้ช่วยซะที่ไหน? ต้องบอดี้การ์ดสิถึงจะเหมาะ!
“ทำไมถึงต้องจับตัวผมมาด้วย?” ไป๋ยี่เฟยถาม
พอต้าส้งได้ยินอย่างนั้นก็ตอบกลับไปในทันทีว่า “เพื่อเงินครับ”
ไป๋ยี่เฟยถามต่อ “นอกจากเรื่องเงินล่ะ?”
“ห๋า?” ต้าส้งแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ ในเมื่อเบื้องบนสั่งให้เขาดูไป๋ยี่เฟยให้ดี และพวกเขาก็ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนแสดงว่าไม่ต้องการให้ใครสืบถึงตัวได้ ดังนั้นต้าส้งเลยทำเป็นไม่รู้เรื่องซะเลย
“นอกจากเงิน ยังต้องมีเหตุผลอื่นอีกใช่ไหม?”
ความจริงคือเขากำลังสงสัยอยู่ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า ถ้ามีจริงเขาจะได้เตรียมแผนรับมือได้ก่อน
ไป๋ยี่เฟยจ้องเข้าไปในนัยน์ตาของเขา จากนั้นก็พูดออกมาอย่างเชื่องช้าว่า “ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง”
ต้าส้งกะพริบตาปริบๆ เต็มไปด้วยความสงสัย เปลี่ยนเรื่องเร็วไปนะ
“ก่อนหน้านี้เคยมีนักฆ่าคนหนึ่งต้องการที่จะฆ่าผม แต่โชคร้ายที่เขามีความสามารถไม่มากพอ จนถูกผู้ช่วยของผมคนนี้จับตัวเข้า จากนั้นผมก็สั่งให้ขังเขาไว้ในตู้คอนเทนเนอร์”
ผมไม่ใช่คนที่โหดเหี้ยมขนาดนั้น และไม่อยากให้มือเปื้อนเลือด ดังนั้น ผมจึงปล่อยให้เขาอยู่ตามยถากรรมของตัวเองในตู้คอนเทนเนอร์ไป”
“คุณเองก็น่าจะรู้ดีว่าภายในตู้คอนเทนเนอร์นั้น นอกจากประตูที่เข้าไปแล้วก็ไม่มีทางออกทางอื่นเลย แม้แต่หน้าต่างที่ระบายอากาศก็ไม่มี อาหารกับน้ำก็ไม่มี”
“ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะสามารถทนได้นานขนาด? คุณสนใจที่จะหาคำตอบให้ผมไหมครับ?”
ต้าส้งมองมาที่ไป๋ยี่เฟยด้วยความหวาดกลัว
ภายในตู้คอนเทนเนอร์ไม่มีทั้งทางออก อาหารกับน้ำ ปล่อยให้ตายไปตามยถากรรมของตัวเอง นี่ไม่เรียกว่าโหดเหี้ยมแล้วจะให้เรียกว่าอะไร?
“มะ ไม่ดีกว่าครับ…” ต้าส้งไม่อยากตายเพราะการขาดอาหาร ขาดน้ำ หรือขาดอากาศ
ไป๋ยี่เฟยร้องอ๋อออกมา “ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยตอบมาทีว่า นอกจากเงินแล้วคุณจับผมมาทำไม?”
ต้าส้งส่ายหน้าอย่างแรง “ผมไม่มีเหตุผลอื่นจริงๆ นะครับ ผมแค่อยากได้เงินของท่านประธานไป๋ก็เท่านั้นเองครับ”
พอได้ยินอย่างนั้น ไป๋ยี่เฟยก็ขมวดคิ้วเบาๆ การข่มขู่ไปแบบนี้ ถือว่าสามารถทำให้ต้าส้งตกใจกลัวได้ แต่เขาก็ยังยืนยันคำเดิม หรือตัวเองจะคิดมากไปนะ? เขาแค่ต้องการเงินเลยจับตัวเองมาแค่นั้นเหรอ?
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ต้าส้งเริ่มร้อนรน ไม่รู้ว่าเขาจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองพูดหรือเปล่า?
ผ่านไปสักพัก ไป๋ยี่เฟยก็หันไปที่หลิวเสี่ยวอิง “คุณมีอะไรจะถามเขาไหม?”
หลิวเสี่ยวอิงส่ายหน้า จากนั้นไป๋ยี่เฟยก็หันไปทางหลิวเสีย “แล้วคุณล่ะ?”
หลิวเสียก้าวมาข้างหน้า “คืนเงินสองหมื่นของฉันมานะ”
คนที่อยู่ในนั้นต่างพากันเงียบ
ต้องเป็นคนเห็นแก่เงินขนาดไหนเนี่ย? หรือเธอกำลังขัดสนอยู่นะ?
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกสงสัยมาก ว่าเธอเป็นน้องสาวของไอ้หัวล้านหลิวจริงๆ หรือเปล่า?
หลิวเสี่ยวอิงมองมาที่หลิวเสียด้วยสายตาที่ดูถูก
ต้าส้งอึ้งไป ก่อนที่จะตอบมาว่า “มันอยู่ในห้องที่……ผู้ช่วยคนนั้นเข้าไปเมื่อกี้ครับ”
ฟังจบ ไป๋ยี่เฟยก็ได้มองไปที่ไป๋หู่
ไม่นาน ไป๋หู่ก็ได้กลับมาพร้อมกับถุงใบหนึ่งที่มีเงินอยู่ในนั้น
หลิวเสียรีบไปชิงเอาถูกที่อยู่ในมือของไป๋หู่มา และทำหน้ายิ้มแย้ม “ดีจริงๆ เลย เงินของฉันยังอยู่”
หลิวเสี่ยวอิงพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจว่า “เงินนั้นมันเป็นของเราไม่ใช่เหรอ?!”
“มันถูกเอามาให้ฉัน มันก็ต้องเป็นของฉันสิ!” หลิวเสียกอดถุงเงินไว้แน่น เหมือนกับแม่วัวที่กำลังปกป้องลูกของมันอยู่
หลิวเสี่ยวอิงปากกระตุก เธอไม่เคยเห็นใครที่เห็นแก่เงินขนาดนี้มาก่อนเลย
ส่วนไป๋ยี่เฟยนั้นไม่ได้สนใจอะไร “ช่างเถอะ เงินสองหมื่นมันก็ไม่ได้มากมายอะไร ให้เธอไปเถอะ!”
ในตอนนั้น มือถือของไป๋ยี่เฟยก็ได้ดังขึ้น
ไป๋ยี่เฟยหยิบมันขึ้นมาดู พอเห็นว่าคนที่โทรมาคือหลี่เฉียงตง เขาก็ลุกขึ้นและเดินออกไปในทันที
ไป๋หู่เห็นว่าใครเป็นคนโทรมา เขาจึงบอกอีกสองคนให้เดินตามออกไป
แต่ต้าส้งยังถูกมัดอยู่ที่เดิม
“นี่ อย่าเพิ่งไป มาแก้มัดให้ผมก่อน!”
ไม่มีใครสนใจเขา ทุกคนเดินตามไป๋หู่ออกไป
ด้านนอกสถานบันเทิง ไป๋ยี่เฟยตอบไปว่า “ผมจะรีบกลับไปครับ” ก่อนจะวางสายไป
ตอนแรกก็ตั้งใจจะรีบกลับไปเจอหลี่เสว่อยู่นะ แต่ต้องมาถูกเรื่องแบบนี้ทำให้เสียเวลาจนได้ พวกหลี่เฉียงตงยังรอให้ไป๋ยี่เฟยกลับไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย แต่รอจนป่านนี้แล้วไป๋ยี่เฟยก็ยังไปไม่ถึง ดังนั้นหลี่เฉียงตงถึงได้โทรมาถามดู
ไป๋ยี่เฟยรู้ดีว่าที่นี่คือเมืองฝั่งใต้ กว่าจะกลับไปถึงก็ต้องใช้เวลาอีกหนึ่งชั่วโมง เขาจึงบอกให้พวกเขากินกันก่อนเลยและบอกไปว่างานที่บริษัทยุ่งมาก ถ้าเสร็จงานแล้วเขาจะรีบกลับในทันที
หลี่เฉียงตงเองก็ไม่ได้สงสัยอะไร
พอหลิวจื่อหยุนได้ยินอย่างนั้น ก็ได้บ่นขึ้นมาว่า “ไม่รู้จักโทรมาบอกก่อนรึไง ปล่อยให้เรานั่งรออยู่ตั้งนาน!”
อีกด้านหนึ่ง ไป๋ยี่เฟยกำลังขับรถ โดยมีหลิวเสี่ยวอิง ไป๋หู่ และหลิวเสียที่ไม่ได้รับเชิญนั่งมาด้วย
หลิวเสี่ยวอิงไม่เข้าใจ “ทำไมต้องพาเธอมาด้วยเนี่ย?”
ไป๋ยี่เฟยตอบด้วยความรำคาญ “ปล่อยให้เธออยู่ตรงนั้นคนเดียวมันก็ไม่ปลอดภัย