ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 226
บทที่ 226
ถ้าจะไปยังถนนฝั่งตรงข้าม ซอยนี้เป็นทางเดินที่ผ่านแน่นอน และเนื่องจากเป็นตอนกลางคืน มีเพียงไฟบนถนนไม่กี่ดวงส่องแสงสว่างเอง จึงทำให้ค่อนข้างมืดมน
ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ แต่จู๋ก็เห็นว่ามีร่างคนๆนึงนั่งยองอยู่ตรงนั้น จึงหยุดฝีเท้าลงทันที
หลิ่วจาวเฟิงดูอย่างละเอียด”คุณตำรวจฉิน?”
ฉินหัวหันหน้ามา โยนหัวบุหรี่ในปากลงในพื้น และใช้เท้าหยาบจนดับ”บังเอิญขนาดนี้เชียว?”
เซียวหรงเทากำลังโมโหอยู่ในใจที่ฉินหัวได้ยืนอยู่พรรคเดียวกันกับไป๋ยี่เฟย เมื่อเห็นว่าฉินหัวใส่ชุดธรรมดาอยู่ที่นี่คนเดียว ก็เลยมีความคิดบางอย่างเกิดขึ้น
“ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณตำรวจฉินยังสูบบุหรี่อยู่ในซอยนี้ล่ะ?”เซียวหรงเทาถามอย่างกับไม่จงใจ
แต่ฉินหัวกลับพูดว่า”ฉันเลิกงานแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่ตำรวจฉิน”
“อื้ม?”เซียวหรงเทาและหลิ่วจาวเฟิงล้วนอึ้งไปสักครู่นึง
เซียวหรงเทาฟื้นสติกลับมา และแอบดีใจขึ้นมา”หมายความว่าไม่ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งการเป็นตำรวจใช่ไหม?”
หลิ่วจาวเฟิงมองไปที่เซียวหรงเทา ดูเหมือนจะรู้แล้วว่าเขาจะทำอะไร ลังเลไปวินาที ก็ไม่ได้พูดอะไร
ฉินหัวมองไปดูสองคน และปรากฏรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งออกมา”คุณพูดถูกต้อง ตอนนี้ฉันเป็นแค่คนปกติ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนไม่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่เป็นตำรวจของฉัน”
เนื่องจากแสงไฟมืดมาก เซียวหรงเทาจึงไม่ได้สังเกตถึงรอยยิ้มที่ลึกซึ้งของฉินหัว กลับได้ไอออกมาสองเสียง”ถ้าพูดแบบนี้แล้ว ฉันต่อยคุณสักรอบหนึ่ง มันไม่ถือว่าเป็นการทำร้ายตำรวจใช่ไหม?”
“ใช่”ฉินหัวตอบ
“ฮ่าๆ……งั้นก็อย่าโทษฉันแล้ว!”
พอพูดเสร็จ เซียวหรงเทาก็เดินขึ้นมา ใช้หมัดต่อยใส่ท้องของฉินหัว
หมัดนี้ไม่ค่อยแรงสักเท่าไหร่ เพราะยังมีความลองดูเล็กน้อย ถ้าเกิดฉินหัวมาพูดว่าตัวเองทำร้ายตำรวจ เขายังใช้ข้ออ้างได้ว่าแค่โดนเบาๆ ไม่ได้รับบาดเจ็บ
ฉินหัวโดนหมัดของเขา แต่ไม่เป็นอะไรมาก แค่มองไปทางเซียวหรงเทา ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา”โย่ จะมาต่อยกันใช่ไหม?”
เซียวหรงเทาเห็นว่าฉินหัวไม่ได้พูดถึงเรื่องทำร้ายคนอื่น เลยกล้าหาญขึ้นมาหน่อย”ใช่ไง ก็ฉันไม่พอใจแกไง ต่อยแกมันเป็นไรมากเหรอ?ถ้าแกมีความสามารถแกก็ต่อยกลับสิ!”
“คำพูดนี้แกเป็นคนพูดนะ”ฉินหัวเอ่ยเสียงเย็นชาออกมา
เสียง”ปัง”ดังขึ้น เซียวหรงเทาถูกฉินหัวกระแทกไปกับพื้น
ต่อมา ฉินหัวก็นั่งอยู่บนท้องของเซียวหรงเทา ตบหน้าเขาทั้งสองฝั่ง”ปังปัง……”
เซียวหรงเทาถูกตบหน้าอีกครั้ง ใบหน้าที่เดิมยังไม่หายนั้นก็บวมขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่ครับ พี่ครับ ผมผิดแล้วครับ……”
เซียวหรงเทาเจ็บปวดจนทนไม่ไหว ความเจ็บแสบที่ยังไม่หาย กับความเจ็บแสบในครั้งนี้ผสมกัน ทำให้เขาเจ็บจนเกือบจะร้องไห้ออกมา
ฉินหัวไม่ได้หยุดการตบ ตบไปด้วย พร้อมพูดว่า”คนอย่างแกนี่หรอ ยังคิดจะมาต่อสู้กับฉัน?ฉันเป็นคนที่หาเรื่องได้ง่ายๆหรือ?”
หลิ่วจาวเฟิงที่อยู่ข้างๆรู้สึกตัวขึ้นมาทันที การที่ฉินหัวอยู่ที่นี่ไม่ใช่เป็นแค่สูบบุหรี่ คือจงใจที่จะรอพวกเขาอยู่ที่นี่ เพื่อที่จะสั่งสอนพวกเขา
ส่วนไอ้คนโง่อย่างเซียวหรงเทา ยังชึ้นไปเองให้คนเขามาตบ เมื่อรู้สึกถึงสิ่งนี้ หลิ่วจาวเฟิงจึงวิ่งหนีทันที ฉินหัวตบเซียวหรงเทาเสร็จ คนต่อไปต้องเป็นตัวเองแน่นอน
ฉันหัวสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของหลิ่วจาวเฟิง เลยก้าวขึ้นไปหลายก้าว แล้วกระโดดขึ้นไป เตะใส่หลังของหลิ่วจาวเฟิงอย่างรุนแรง
หลิ่วจาวเฟิงคงตัวไม่ได้ จึงล้มลงไปกับพื้นทันที
ฉินหัวเดินไป พลิกร่างกายและหลิ่วจาวเฟิงมา และตบใส่หน้าเขาต่อ
“ปังปัง……”
“เจ็บ!ตำรวจฉิน การกระทำของแกถือว่าเป็นการต่อสู้……”หลิ่วจาวเฟิงถูกตบจนหน้าเจ็บแสบมาก
ฉินหัวถุยออกมา”สมองมีปัญหาหรือเปล่า?ฉันได้ต่อสู้ที่ไหน?แกมาต่อยฉันแล้วหรือ?เพียงแค่ฉันต่อยแกเท่านั้นเอง!”
หลิ่วจาวเฟิงเกือบจะโกรธจนพ่นเลือดออกมา ไม่เคยเห็นตำรวจที่หน้าด้านขนาดนี้ เอ๊ะ ตำรวจ!
“ตำรวจฉิน แกเป็นตำรวจ แกรู้กฎหมาย แต่ยังจงใจทำผิดกฎหมายอีก!แก……”
“หุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะแก!”ฉินหัวตบหน้าเขา”ตอนนี้ฉันเป็นแค่ฉินหัว ไม่ใช่ตำรวจ
หลิ่วจาวเฟิงยังคิดจะพูดอะไรอีก แต่ฉินหัวไม่ให้โอกาสเขา ยิ่งตบยิ่งรุนแรง
แต่ในขณะที่ฉินหัวเตรียมจะลุกขึ้นมา เตะไปทางหลิ่วจาวเฟิง ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากที่ๆไม่ไกล และยังมีสิ่งของยิงมาทางเขาด้วย
ฉินหัวทำตาหยี แล้วลุกขึ้นมาทันที หมุนสามร้อยหกสิบองศา หลบสิ่งของที่ยิงมาได้
สิ่งของอันนั้นเสียบอยู่บนกำแพงด้านหลังฉินหัว
ฉินหัวหันไปดู เป็นมีดใบหนึ่งนั่นเอง
ในขณะเดียวกัน ก็มีชายใส่ชุดดำคนหนึ่งปรากฏตัวในซอย ยืนอยู่ต่อหน้าหลิ่วจาวเฟิง และดึงเขาขึ้นมา
“คุณหลิ่ว ขอโทษครับ ผมมาช้าครับ”
เมื่อหลิ่วจาวเฟิงได้เห็นชายใส่ชุดดำแล้ว ก็โล่งใจขึ้นมาเยอะเลย”ทำไมคุณถึงมาล่ะ?”
“เจ้านายให้ผมมาครับ”ชายใส่ชุดดำตอบ
หลิ่วจาวเฟิงพยักหน้า จากนั้นก็มองไปทางฉินหัวด้วยสีหน้าที่มืดมน”ต่อยเขา”
ชายใส่ชุดดำพยักหน้า ฉวยโอกาสที่ฉินหัวยังรู้สึกตัวขึ้นมาไม่ทัน ก็วิ่งไปหาเขาทันที
สายตาของฉินหัวเย็นจัด ทำการต่อต้านทันที
แต่ความเร็วของชายใส่ชุดดำเร็วมาก ฉินหัวเพียงยกมือมาปกป้องได้ทัน และกำลังมือของผู้ชายก็ใหญ่มากเช่นกัน ทำให้เขามีแต่ต้องถอยหลัง จากนั้นก็ถูกกดอยู่บนกำแพง
“ปัง!”
ชายใส่ชุดดำกดฉินหัวอยู่บนกำแพง
ฉินหัวรู้สึกหลังเจ็บแสบขึ้นมา แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่รังแกได้ง่ายๆ
พอดีในเวลานี้ เซียวหรงเทาก็ลุกขึ้นมาจากพื้น ยืนอยู่ข้างๆหลิ่วจาวเฟิง รู้สึกประหลาดใจ”พี่หลิ่วครับ นี่เป็นคนของคุณหรือ?”
หลิ่วจาวเฟิงไม่ได้ตอบ เพียงแค่พูดกับฉินหัวว่า”วันนี้ได้เจอกับฉันถือว่าแกซวย เขาเป็นตั้งนักเทควันโดเข็มขัดดำ อยากมาต่อยฉัน ก็ต้องดูว่าแกมีความสามารถนั้นหรือเปล่า”
เซียงหรงเทาก็ไม่สนใจท่าทีของหลิ่วจาวเฟิง เพียงแต่ตะโกนใส่ฉินหัวอย่างหยิ่ง”ฮ่าๆ……ฉินหัว แกยังคิดจะมาต่อยพวกเรา แม่ง ทำไมตอนนี้ไม่ต่อยแล้วหล่ะ?’
“ได้ยินหรือเปล่า นี่เป็นตั้งนักเทควันโดเข็มขัดดำนะโว้ย แกเตรียมตัวถูกต่อยเลย!”
หลิ่วจาวเฟิงพูดกับชายชุดดำอีกทีนึงว่า”อย่าต่อยจนตายนะ เขาเป็นตำรวจ ถ้าตายแล้วจะเป็นเรื่องใหญ่”
ชายชุดดำตอบกลับ จากนั้นเตรียมจะลงมือ
ในเวลานี้ จู่ๆฉินหัวก็พ้นจากการบังคับของชายชุดดำได้สำเร็จ จากนั้นออกหมัดอย่างรวดเร็ว เร็วจนกระทั่งชายชุดดำยังมองไม่ชัด ก็ถูกเขาต่อยใส่ท้องแล้ว
ชายชุดดำกรีดร้องออกมาเสียงหนึ่ง ยังไม่ทันรอให้เขารู้สึกตัวกลับมา ฉินหัวก็ลงมืออีกครั้ง
ฉินหัวยกหัวข่าวแทงไปที่ท้องของชายชุดดำ จากนั้นกระโดดขึ้นมา ใช้ขาขากรรไกรหนีบคอของชายชุดดำแล้วหมุน ชายชุดดำหมุนไปตามแรงของเขา จากนั้นตามด้วยเสียง”ปัง”เขาก็ตกลงสู้พื้น
ชายชุดดำร้องออกมาอีกเสียงหนึ่ง กำลังจะลุกขึ้นมา แต่ขาของฉินหัวเหยียบอยู่บนหลังของเขา ทำให้เขาขยับไม่ได้
หลิ่วจาวเฟิงและเซียวหรงเทามึนงงไปหมด หัวเราะไม่ออกอีกแล้ว
กระบวนท่าง่ายๆไม่กี่ท่า เวลาแค่สิบกว่าวินาที สถานการณ์ก็ปรับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
หลิ่วจาวเฟิงและเซียวหรงเทาล้วนรู้สึกเหลือเชื่อ
“เป็นไปได้ยังไง?”
ชายชุดดำเป็นตั้งนักเทควันโดเข็มขัดดำ ยังถูกต่อยล้มลงไปอย่างง่ายดาย ลุกขึ้นมาไม่ได้ด้วย?
ฝีมือของฉินหัวในเมื่อกี้นี้กับฝีมือที่มาต่อเขา มันเป็นสองสถานะเลยนะ
นี่……ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ฉินหัวเหยียบชายชุดดำในใต้เท้า สายตากวาดไปทางหลิ่วจาวเฟิงและเซียวหรงเทาอย่างเย็นชา เมื่อเห็นความตกใจในสายตาของพวกเขา ก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมา
เขาไม่เคยได้บอกกับคนอื่นมาก่อนว่า ตามจริงเขาเป็นผู้สืบทอดมวยแปดสุดยอดที่ลึกลับ และเขาก็ไม่เคยปรากฏความสามารถที่แท้จริงออกมา แม้กระทั่งไป๋ยี่เฟย เขาก็ไม่ได้บอก