ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 249
บทที่ 249
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง?” ซุนฮุยร้องอย่างโมโห “คุณฉลาดขนาดนี้ คุณจะไม่รู้ได้ยังไง?”
ซุนเหว่ยทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่นไปหมด
……
ซุนเหว่ยที่กลับถึงบ้านตัวเองไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับตัวเองดี ไป๋ยี่เฟยรู้แล้วว่าเป็นฝีมือเขา จะต้องฆ่าเขาแน่ เบื้องหลังเขามีไอ้หัวล้านหลิวกับตาเจียง ยังมีชายเพี้ยนคนนั้นอีก หากไม่ใช่เพราะตำรวจมาถึงเร็ว ตอนนี้เขาอาจจะไม่ได้กลับถึงบ้านอย่างสมบูรณ์ก็ได้
เวลานี้ ยังมีเงินอีกหลายหมื่นล้านถูกถอนออกจากจู้ติ่ง ซุนฮุยจะต้องลงโทษเขาแน่ ดูเหมือนเขาจะหมดทางรอดแล้ว
ทำยังไงดี?
คิดอยู่สักพัก จู่ๆ ซุนเหว่ยก็เผยสีหน้าชั่วร้ายออกมา “ไป๋ยี่เฟย! ในเมื่อแกไม่เหลือทางรอดให้ฉัน งั้นพวกเราต่างก็พังกันไปเลยทั้งคู่แล้วกัน
……
ฉินหัวลงบันทึกประจำวันเสร็จ และได้กล้องวงจรปิดที่อยู่ข้างทางในเวลานั้นมา แม้ที่นั่นจะอยู่ห่างจากตัวเมืองมาก แต่ก็ยังคงมีกล้องวงจรปิด
เขาไม่ได้เปิดดู เพราะว่าถ้าหากเห็นแล้ว นั่นก็เท่ากับยืนยันว่าไป๋ยี่เฟยทำผิดกฎหมายจริง
เขากำลังรอ รอให้ไป๋ยี่เฟยจัดการเรื่องราวให้เสร็จ
ในที่สุดงานก็เสร็จ ไป๋ยี่เฟยจึงรีบมายังโรงพยาบาล
ในห้องผู้ป่วยของหลี่เฉียงตง หลิวจื่อหยุนไม่อยู่ คิดไม่ถึงว่าคนที่อยู่จะเป็นหวังโหลว
หลังหวังโหลวเห็นไป๋ยี่เฟยก็ยืนขึ้นกล่าวทักทาย
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่หลี่เฉียงตง แล้วร้องเรียก “พ่อ”
หลี่เฉียงตงส่งเสียงอืมหนึ่งคำ เพื่อบอกว่าตนเองไม่เป็นไร
อันที่จริงบาดแผลบนตัวหลี่เฉียงตงไม่ได้หายดีเร็วขนาดนั้น โดยเฉพาะที่ศีรษะ ได้รับการกระทบกระเทือนเล็กน้อย เพียงแต่ผ่านไปวันเดียว จึงดีขึ้นบ้างเล็กน้อย
อีกสองสามวันหมอยังเสนอให้ทำการสแกนด้วย โดยเฉพาะทางด้านสมอง เพื่อกันไว้ดีกว่าแก้
ไป๋ยี่เฟยเห็นแล้ว รู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง “ผมจะดูแลเสว่เอ๋อให้ดีครับ”
“ฉันรู้” หลี่เฉียงตงตอบ มองหวังโหลวที่เหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็หยุดไป พลางกล่าวว่า “ฉันรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า “งั้นผมไม่รบกวนการพักผ่อนของพ่อแล้ว”
จากนั้น ทั้งคู่ก็เดินมาถึงโถงทางเดิน หวังโหลวเรียกไป๋ยี่เฟยไว้
“มีอะไร?” ไป๋ยี่เฟยถาม
“นายคงรู้จักฐานะของเย่อ้ายสินะ?”
ไป๋ยี่เฟยหรี่ตาลง ส่งเสียงอืมหนึ่งคำ อันที่จริงก่อนหน้านี้เขาเองก็เคยสงสัยเช่นกัน เพียงแต่ไม่มีข่าวที่เชื่อถือได้เท่านั้น ตอนนี้พอได้ยินคำพูดของหวังโหลว ก็ยืนยันได้แล้วว่าเย่อ้ายคือคนของตระกูลเย่จริงๆ
“แล้วไงอีก?”
หวังโหลวตบไหล่ไป๋ยี่เฟย “ตระกูลเย่คิดจะฮุบโหวจวี๋ไว้ทั้งหมด”
“ฉันรู้แล้ว”
ที่เย่อ้ายเข้าใกล้ไป๋ยี่เฟยเพราะมีเป้าหมายตั้งแต่แรก ไป๋ยี่เฟยก็รู้ว่าเย่อ้ายไม่ธรรมดา ภายหลังเรื่องของหลี่ฝาน และหลิ่วอู๋ฉง ต่างบ่งชี้ว่าเป้าหมายของเย่อ้ายก็คือโหวจวี๋
หวังโหลวชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวอีกว่า “ในเมื่อนายรู้ แล้วทำไมยังจะจัดการจู้ติ่งอีก? ตระกูลเย่ใหญ่มาก ไม่ใช่คนที่พวกเราจะต่อกรได้ เมื่อสูญเสียความร่วมมือกับจู้ติ่งไปแล้ว สำหรับโหวจวี๋แล้ว จึงไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง”
“ดังนั้นวันนี้ที่นายมา ก็เพื่อจะโน้มน้าวให้ฉันรามือ?” ไป๋ยี่เฟยถามเสียงเรียบ
หวังโหลวกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ไป๋ยี่เฟย ฉันอยากให้นายใจเย็นลงหน่อย เพราะอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก นายจะทำอะไรซุนเหว่ยก็ได้ แต่ก็ควรวางแผนระยะยาวด้วย”
ไป๋ยี่เฟยทำสีหน้าเรียบเฉย “เพราะว่านายเป็นเพื่อนฉัน ดังนั้นฉันเลยไม่พูดอะไรมาก สิ่งที่นายควรพูดก็พูดเสร็จแล้ว นายไปได้แล้ว”
“นาย!” หวังโหลวทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างจนปัญญา จากนั้นจู่ๆ ก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “นายคงไม่รู้สินะ? เพื่อนายแล้ว ฉินหัวต้องทะเลาะกับเซียวหรงเทาและหลิ่วอู๋ฉง
ไป๋ยี่เฟยชะงักเล็กน้อย เรื่องนี้เขาไม่รู้เลย
……
ไป๋ยี่เฟยกลับมาถึงนอกห้องของหลี่เฉียงตง เขายืนอย่างเงียบๆ
ตอนกำลังจะไป เย่อ้ายก็มาถึง
ไป๋ยี่เฟยเห็นเธอถือตะกร้าผลไม้อยู่ในมือ จึงถามว่า “ผมจำได้ว่าพ่อตาผมกับคุณไม่รู้จักกัน”
เย่อ้ายยิ้ม “แต่ฉันรู้จักคุณนี่คะ! งานประมูลคราวก่อนฉันยังเคยยื่นมือช่วยประธานไป๋ครั้งหนึ่งด้วย!”
ไป๋ยี่เฟยตอบกลับเสียงเรียบ “ไม่มีคุณ ผมก็แก้ไขมันได้อย่างสมบูรณ์เช่นกัน”
“ระหว่างเราจะพูดมากขนาดนั้นทำไมคะ?” เย่อ้ายครุ่นคิด เพราะอย่างไรเธอก็ยังชอบไป๋ยี่เฟย และไม่อยากโต้เถียงเรื่องเหล่านี้ “นี่เป็น……”
“มีเรื่องอะไรก็พูดมาตามตรง ไม่ต้องอ้อมค้อม” ไป๋ยี่เฟยตัดบทเธอ
เย่อ้ายเงียบไปครู่หนึ่ง “ได้ ฉันจะไม่อ้อมค้อมแล้ว ที่ฉันมาวันนี้เพราะอยากจะทำการค้าอย่างหนึ่งกับคุณ ที่ดินตรงชานเมืองใต้ผืนนั้น ฉันยกให้คุณ คุณแค่ปล่อยซุนเหว่ยกับจู้ติ่งไป”
“ผมไม่สนใจ”
ไป๋ยี่เฟยปฏิเสธโดยตรง
ก่อนที่ยังไม่มีที่ดินสี่ผืนนั้น ที่ดินตรงชานเมืองใต้สำคัญสำหรับโหวจวี๋มากจริงๆ แต่ตอนนี้มีที่ดินสี่ผืนนั้นแล้ว ชานเมืองใต้ก็ไม่สำคัญอีกแล้ว แต่ที่ดินสี่ผืนนั้นกลับสำคัญมากกว่าแทน
ถึงกับจะให้ปล่อยซุนเหว่ยกับจู้ติ่งไป?
ไม่มีทาง!
ซุนเหว่ยคิดไม่ซื่อกับหลิวเสี่ยวอิง แถมยังให้คนตีพ่อตาจนบาดเจ็บ บัญชีนี้ เขาไม่มีทางคิดเพียงแค่นี้แน่!
เย่อ้ายไม่เข้าใจ “ไป๋ยี่เฟย ที่ดินตรงชานเมืองใต้ผืนนั้นสำคัญกับโหวจวี๋มากนะ คุณถึงกับไม่ต้องการเชียวหรือ? อีกอย่างคุณต้องรู้ว่า จู้ติ่งต่างร่วมมือกับบริษัทมากมาย คุณทำกับจู้ติ่งแบบนี้ บริษัทเหล่านั้นไม่มีทางเลิกราแน่”
“ผมไม่สน” ไป๋ยี่เฟยกล่าวเสียงเรียบ
เย่อ้ายถลึงตามองไป๋ยี่เฟย ถึงกับพูดอะไรไม่ออก สุดท้ายก็ส่งเสียงฮึ่มออกมาอย่างเย็นชา แล้วเดินจากไป