ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 257
บทที่ 257
ซุนฮุยได้ทราบข่าวการหลบหนีออกจากคุกของไป๋ยี่เฟยอย่างรวดเร็ว
“ไป๋ยี่เฟยกำลังรนหาที่ตายด้วยตัวเองอยู่ นี่ไม่สามารถโทษข้าได้นะ!” ซุนฮุยแสยะยิ้ม และพูดกับเลขาว่า “ไปหาคนในจังหวัดมาสองสามคน จัดการให้เรียบร้อยและปล่อยข่าวออกไป โดยบอกว่าเขาฆ่าตัวตายเพราะกลัวความผิด”
เลขาเข้าใจแล้ว พยักหน้าและออกไป
อันที่จริงข่าวการหลบหนีของไป๋ยี่เฟยถูกปิดกั้น ที่ซุนฮุยสามารถรู้ได้ เพราะว่าเขามีช่องทางของตัวเอง มิฉะนั้นเขาก็จะไม่มีโอกาสนี้
เชื่อว่าอีกไม่นาน ก็จะมีการรายงานข่าวการฆ่าตัวตายของไป๋ยี่เฟยออกมา ดังนั้นเขาก็สามารถลงมือกับโหวจวี๋กรุ๊ปได้แล้วตอนนี้
เวลาผ่านไปไม่นาน เลขาก็กลับมา
ซุนฮุยไม่ได้ถาม แต่พูดว่า “สถานการณ์ของโหวจวี๋กรุ๊ปในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
“โหวจวี๋กรุ๊ปเกือบจะเป็นอัมพาตไปหมดแล้ว และเรือบรรทุกสินค้าถูกเราสกัดกั้นไว้ พวกเขาสูญเสียเงินหลายร้อยล้านต่อวัน” เลขาตอบ
ซุนฮุยพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ดีมาก ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป อีกไม่นาน โหวจวี๋กรุ๊ปก็จะจบลงแล้ว”
“แต่ว่า……….”
เมื่อซุนฮุยเห็นเช่นนี้สีหน้าของเขาก็มืดลง “แต่ว่าอะไร?”
“แต่ว่าดูเหมือนทางตระกูลเย่กำลังจะซื้อกิจการของโหวจวี๋กรุ๊ป” เลขาตอบว่า “มีคนมารายงานผมเมื่อกี้นี้ เย่อ้ายได้พาคนไปที่โหวจวี๋กรุ๊ป แต่ดูเหมือนว่ายังตกลงกันไม่ได้”
ซุนฮุยขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากฟังจบ “หากตระกูลเย่เข้ามาแทรก มันก็จะจัดการได้ยากมากขึ้นจริงๆ”
ตระกูลเย่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในสิบอันดับแรกในเมืองหลวง และธนาคารจู้ติ่งแห่งเดียวของพวกเขาไม่สามารถเทียบได้กับตระกูลเย่ แต่เขาก็ไม่อยากยอมใจ ที่จะปล่อยโหวจวี๋กรุ๊ปไป
ดูเหมือนว่าทำได้เพียงไปพบกับเย่อ้ายหน่อยแล้วเท่านั้น
………..
ในห้องประชุมของโหวจวี๋กรุ๊ป
กรรมการและผู้บริหารระดับสูงของโหวจวี๋กรุ๊ปทั้งหมดมารวมตัวกันอยู่ในห้องประชุม
“ผมได้ยินมาว่าท่านประธานกรรมการถูกจับตัวเข้าไปในสถานีตำรวจ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
“ผมก็ได้ยินเหมือนกัน”
“งั้นก็คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริงแล้วหล่ะ!”
“ตอนนี้สูญเสียหลายร้อยล้านต่อวัน และถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป เราก็อาจจะสูญเสียไปทั้งหมดก็ได้!”
“ท่านประธานเป็นอะไรไปกันแน่?”
“ถ้าผู้ช่วยหลงไม่ให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลในภายหลัง ผมคิดว่าเราควรออกไปโดยเร็วที่สุด”
“มีเหตุผลดี……..”
“………”
ในขณะที่การสนทนาของทุกคนกำลังเป็นไปอย่างเข้มข้น และหลงหลิงหลิงก็นำหลี่เสว่เดินเข้ามา
เพื่อที่จะให้ยับยั้งคนเหล่านี้ไว้ หลงหลิงหลิงยังหาชุดแบบมืออาชีพสีขาวให้หลี่เสว่ใส่ ซึ่งทำให้เธอดูมีออร่ากว่าเดิมเล็กน้อย
สายตาของทุกคนมองมาทางนี้ และในแวบแรกพวกเขาก็เห็นหลงหลิงหลิงอย่างเป็นธรรมชาติ แต่หลี่เสว่ที่อยู่ด้านหลังเธอดึงดูดสายตาของพวกเขามากกว่า
หลี่เสว่ใส่ชุดมืออาชีพ และเดินตามหลงหลิงหลิงโดยไม่มีการแสดงออกใดๆ ด้วยใบหน้าและออร่าที่สวยงาม ทำให้คนเงียบไปโดยห้ามไว้ไม่ได้ ในขณะเดียวกัน ทุกคนก็กำลังคิดว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?
มีเพียงจางหรงเท่านั้นที่รู้ว่า ผู้หญิงคนนี้คือภรรยาของไป๋ยี่เฟย ซึ่งเป็นภรรยาของท่านประธานกรรมการของพวกเขา
หลงหลิงหลิงมองไปที่ทุกคน และขอให้หลี่เสว่เดินตามเธอ และไปยังที่นั่งไป๋ยี่เฟยควรนั่ง
“นั่งลง!”
หลี่เสว่มองไปที่หลงหลิงหลิง ไม่มีใครสังเกตเห็น ในแววตาของเธอมีความกลัวซ่อนอยู่
หลงหลิงหลิงยิ้มและพยักหน้า ให้กำลังใจเธอ
หลี่เสว่เห็นเช่นนี้ก็พยักหน้าเล็กน้อย และกำลังจะนั่งลง แต่ถูกขัดจังหวะ
มีกรรมการคนหนึ่งยืนขึ้นมา “ผู้ช่วยหลง นี่คือที่นั่งของท่านประธานกรรมการ คุณหมายความว่ายังไง ที่ให้ผู้หญิงมานั่งตรงนี้?”
“ใช่! ผู้ช่วยหลง ท่านประธานกรรมการไม่มาที่บริษัทสองวันแล้ว ได้ยินมาว่าก่อเรื่องอาชญากรรมใช่ไหม? ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ผู้ช่วยหลง ช่วยอธิบายให้เราฟังได้ไหม?”
หลงหลิงหลิงกล่าวอย่างเย็นชา “ก่อนอื่น ท่านประธานกรรมการไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เขามีเรื่องส่วนตัวที่ต้องจัดการ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มาที่บริษัทในสองวันนี้”
“ต่อมา การที่เธอมีสิทธิ์ที่จะนั่งในที่นั่งนี้หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่พวกคุณสามารถตัดสินใจได้”
“ผู้ช่วยหลงหมายความว่าอย่างไร?”
“เธอเป็นแค่ผู้หญิงที่มาจากไหนก็ไม่รู้ยังสามารถนั่งที่ตำแหน่งนี้ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็จะสามารถนั่งได้เช่นกันไหม?”
“ใช่แล้ว ผู้ช่วยหลง คุณไม่สามารถใช้อำนาจในทางที่ผิดได้เพียงเพราะคุณเป็นผู้ช่วยของท่านประธานกรรมการ!”
หลงหลิงหลิงตอบอย่างแผ่วเบา “ในฐานะที่เป็นท่านประธานของโหวจวี๋กรุ๊ป หรือว่าพวกท่านไม่ควรสนใจการพัฒนาของโหวจวี๋กรุ๊ปหรือ? ตอนนี้สถานการณ์ของโหวจวี๋กรุ๊ปเป็นอย่างไรพวกท่านก็เห็นอยู่แล้ว และการโต้เถียงเกี่ยวกับสิ่งที่ไร้ความหมายเหล่านี้อยู่ที่นี่ จะไม่เป็นประโยชน์ต่อโหวจวี๋กรุ๊ปเลยสักนิด!”
“ในเมื่อผู้ช่วยหลงพูดเช่นนี้แล้ว งั้นสำหรับคุณแล้ว เรือบรรทุกสินค้าจำนวนมากถูกสกัดกั้นไว้ ต้องเป็นเพราะว่าไปทำให้ใครขุ่นเคืองแน่ๆ พวกเราควรจะต้องทำอย่างไร?”
“การสูญเสียของโหวจวี๋กรุ๊ปในตอนนี้เป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ เราไม่รู้ว่าใครเป็นคนที่กำลังจู่โจมโหวจวี๋กรุ๊ปอยู่ แม้ว่าจะต้องทำอะไรบางอย่าง ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำต่อใครเลย!”
“ใช่ ผู้ช่วยหลง สถานการณ์ที่ฉุกเฉินเช่นนี้ ทำไมท่านประธานกรรมการถึงไม่สนใจเลย? เรื่องส่วนตัวของเขาคนเดียวมันจะสำคัญกว่าการเป็นอยู่ของโหวจวี๋กรุ๊ปทั้งบริษัทเลยหรือ?”
“……..”
หลงหลิงหลิงเหลือบมองจางหรงที่อยู่ข้างๆ ในกรณีนี้ ตราบใดที่จางหรงยืนขึ้นและพูดแค่คำเดียว คนเหล่านี้ก็จะไม่ก้าวร้าว เพราะจางหรงเป็นคนที่มีอำนาจในการพูดมากที่สุด นอกเหนือจากไป๋ยี่เฟย
อย่างไรก็ตามจางหรงทำเหมือนว่าเขาไม่เห็น เพียงแค่มองลงไปที่โทรศัพท์ของเขา
แต่ในความเป็นจริงแล้วจางหรงกำลังลังเลอยู่ ภรรยาของไป๋ยี่เฟยอยู่ที่นี่ บางทีเขาควรจะแสดงให้ดี แต่ไป๋ยี่เฟยได้ก่ออาชญากรรมจริงหรือไม่ และสถานการณ์ปัจจุบันของโหวจวี๋กรุ๊ป มันก็ไม่ค่อยดีเลยจริงๆ
เขาอยากจะรอดูอีกสักพัก