ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 278
บทที่ 278
“ไม่อย่างนั้นฉันซัดแกให้น่วมไปแล้ว!”
ไป๋ยี่เฟยได้ประสบการณ์จากเมื่อตะกี้มาแล้ว จึงรู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะ ถึงขนาดที่มีความคึกคักอยากจะลองอยู่บ้างเหมือนกัน
แต่อย่างไรก็ตามหลี่เสว่ที่ดูอยู่ข้างๆก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย
เธอนึกว่าไป๋ยี่เฟยจะถูกคนพวกนี้เล่นงาน แต่ไป๋ยี่เฟยไม่เพียงแต่จะสกัดการโจมตีของอีกฝั่งได้ แถมยังสวนกลับไปอีกด้วย มันทำให้เธอรู้สึกอึ้งตะลึง
ในความเข้าใจที่คนอื่นมาบอกเธอเกี่ยวกับไป๋ยี่เฟย ไป๋ยี่เฟยดูเหมือนจะต่อสู้ไม่เป็น แต่มันช่างแตกต่างกับสิ่งที่เห็นในตอนนี้อย่างสิ้นเชิง
ทางด้านนั้น สีหน้าของสองคนที่ถูกซัดไปก็เริ่มดูโหดร้ายขึ้นมา ก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาหาไป๋ยี่เฟยอีกครั้ง
ในครั้งนี้ ไป๋ยี่เฟยยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน
ไป๋หู่เคยบอกไว้ ตอนที่เผชิญหน้ากับศัตรู จะชะล่าใจไม่ได้ ต้องสังเกตท่าทางของศัตรูตลอดเวลา คุณสามารถมองทะลุได้ว่าต่อไปศัตรูจะชกหมัดซ้ายหรือขาขวาเข้ามาโดยการดูจากการการกระทำที่เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของร่างกาย
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองทั้งสองคนอย่างนิ่งๆ
เขาเห็นไหล่ข้างขวาของคนที่อยู่ทางซ้ายมีท่าทางโน้มเอียงมาข้างหน้า จึงรู้ได้ว่าเขาจะต่อยหมัดขวาเข้ามา ดังนั้นไป๋ยี่เฟยจึงรีบตอบสนองทันที ไม่ให้โอกาสให้มันได้ต่อย เขาพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
คนคนนั้นไม่ได้คาดการณ์เลยสักนิดว่าจู่ๆไป๋ยี่เฟยจะพุ่งเข้ามาชน อึ้งตะลึงไป
ตอนที่กำลังอึ้งอยู่นั้น ไป๋ยี่เฟยก็ก้มหัวชนจนลงไปที่พื้น
ในขณะนี้เอง อีกคนเนื่องจากท่าทางที่กะทันหันเกินไปก็ของเขาทำให้รู้สึกสับสนเช่นเดียวกัน
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยชนเสร็จแล้ว ก็รีบหันตัว เตะเข้าไปทีร่างของอีกคนทันที
ถูกเตะไปหนึ่งที ยังไม่ทันได้ยืนให้มั่นคง ไป๋ยี่เฟยก็เตะไปอีกหนึ่งที จนล้มลงไปที่พื้นทันที
ในตอนนี้เอง ทั้งสามคนที่ยืนมองสิ่งที่เกิดขึ้นสีหน้าก็ดำมืดอย่างช่วยไม่ได้
ตอนแรกนึกว่าไป๋ยี่เฟยต่อสู้ไม่เป็น ใครจะไปรู้ ว่าสองคนนี้กลับถูกไป๋ยี่เฟยซัดแล้วซัดอีก ถึงขนาดที่โอกาสในการลงมือยังไม่มี
ไป๋ยี่เฟยในตอนนี้รู้สึกดีใจมาก เขาเพิ่งจะเรียนกับไป๋หู่ได้ไม่กี่วัน ก็สามารถได้ผลลัพธ์ขนาดนี้แล้ว มันทำให้เขารู้สึกดีใจจริงๆ
แต่เขารู้ ว่าอย่างเพิ่งดีใจเร็วเกินไป เพราะว่าที่เขาเผชิญอยู่คือแค่สองคนเท่านั้น ถ้าเกิดพวกมันเข้ามาพร้อมกันล่ะก็ ไป๋ยี่เฟยก็หมดหนทางเหมือนกัน
หลี่เสว่ที่อยู่ข้างๆก็ไม่ได้นิ่งดูดาย กำลังกะที่จะเอามือถือออกมาโทรไปแจ้งตำรวจ
แต่มีพวกมันหนึ่งคนตาดีเหลือบมาเห็นก่อน“ลูกพี่ มันจะแจ้งตำรวจ!”
หลังจากที่หัวหน้ามันได้ยิน แววตาก็นิ่งขรึม“สกัดมันเอาไว้เดี๋ยวนี้!”
หลังจากนั้น หนึ่งในพวกมันก็วิ่งเข้ามาจะแย่งมือถือของหลี่เสว่
“ว้าย!”
หลี่เสว่เห็นคนคนนั้นก็ร้องออกมา หันตัววิ่งหนี
ไป๋ยี่เฟยกลัวว่าหลี่เสว่จะได้รับบาดเจ็บ จึงรีบตามไปทันที
หลี่เสว่วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกคนคนนั้นจับข้อมือเอาไว้ก่อน แย่งมือถือในมือของเธอไปทันที
ไป๋ยี่เฟยเห็นแบบนี้แววตาก็ดำมืด วิ่งเข้าไป กระชากคอเสื้อของคนคนนั้น ซัดไปข้างหลังแล้วยกขาเตะมันไปอีกที จากนั้นก็หันมากดมันลงไปที่พื้น ก่อนจะต่อยอย่างสุดแรง
คนคนนั้นยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกเขากดลงที่พื้นแล้ว แถมยังลุกไม่ขึ้นอีก
ส่วนพวกมันที่เหลือหลังจากเห็นแบบนี้แล้ว ก็ทยอยกันเข้ามา กะที่จะสั่งสอนไป๋ยี่เฟย
ทั้งสี่คนกดไป๋ยี่เฟยเอาไว้
ทั้งเตะทั้งต่อยไปชุดใหญ่
หลี่เสว่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ร้องไห้พร้อมกับตะโกนออกมา“หยุดได้แล้ว หยุดสักที……”
ถึงอย่างไรก็ตามก็ไม่มีใครสนใจเสียงร้องตะโกนของหลี่เสว่
ไป๋ยี่เฟยถูกกดอยู่พื้นและรุมเตะต่อยอยู่นาน หน้าผากอาบไปด้วยเลือด ไม่รู้ว่าที่ร่างกายมีรอยเขียวช้ำมากเท่าไร ไป๋ยี่เฟยในตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงอะไรอีกแล้ว
ส่วนคนที่ไป๋ยี่เฟยกดลงไปที่พื้นนั้น อาศัยจังหวะเมื่อตะกี้เข้ามา แล้วก็เข้ามารุมเตะต่อยด้วย ลงไม้ลงมือแรงกว่าพวกมันที่เหลือมาก
ในที่สุดพวกมันก็รุมจนเหนื่อย จึงหยุดลง
“มีคนให้ฉันมาเตือนแก ว่าอยู่ในที่ที่แกควรจะอยู่อย่างเชื่อฟังแต่โดยดีซะ อย่าไปหวังกับสิ่งที่แกไม่มีทางได้มา!”ลูกพี่พูดขึ้นมาด้วยความโหดร้าย
ไป๋ยี่เฟยที่ตอนแรกไม่มีเรี่ยวแรง แต่พอได้ยินแบบนั้นก็กลับเงยหน้าขึ้น ลุกมานั่งทันที“คนที่พวกแกพูดถึงคือไป๋เซี่ยว?”
คนพวกนั้นอึ้งตะลึงไปอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพูดขึ้นทันที“ยังไงซะก็เป็นคนที่แกจะไปยุแหย่ด้วยไม่ได้อยู่ดี แกเชื่อฟังแต่โดยดีซะเถอะ จะถามมากมายขนาดนั้นเพื่ออะไร?”
ไป๋ยี่เฟยยกมุมปาก เช็ดเลือดที่มุมปากหนึ่งที ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน“ถ้าอย่างนั้นก็ไปบอกเขานะว่า ฉันไป๋ยี่เฟยคนนี้ไม่คิดจะไปยุแหย่ใครตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว แต่ถ้าใครหน้าไหนกล้ามายุแหย่ฉัน ฉันไม่มีทางวางมือยุติเรื่องไปง่ายๆแน่นอน!”
“ถุ้ย!”พวกมันหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างดูถูก“สภาพอย่างกับหมาแบบแกเนี่ยนะ คิดจะไปสู้กับเขา แกฝันอยู่หรือไง?”
“ใช่ แกนี่ไม่เจียมตัวเองซะเลยนะ ไม่อย่างนั้น แกไม่ตายดีแน่นอน”
“วันนี้แค่มาสั่งสอนบทเรียนให้กับแกเท่านั้น ถ้าแกยังไม่เจียมตัวอีก ครั้งต่อไปแกเจอหนักกว่านี้แน่นอน!”
ไป๋ยี่เฟยค่อยๆยืนขึ้นมาอย่างช้าๆ มองพวกมันด้วยสายตาเย็นชา“ฉันจะสู้กับเขาให้ได้!”
เขาไม่ใช่คนประเภทอ่อนแอ ถูกกระทำมาขนาดนี้แล้ว ยังต้องเชื่อฟังอีกฝั่งอีกอย่างนั้นเหรอ?
ไม่มีทาง!
ในเมื่อเขาไม่อยากให้ไป๋ยี่เฟยกลับมาที่เมืองหลวง ไป๋ยี่เฟยก็จะดึงดันที่จะมา!
ไม่อยากให้ไป๋ยี่เฟยแก่งแย่งกับเขา ไป๋ยี่เฟยก็ดึงดันที่จะแย่ง!
คนพวกนั้นพอได้ฟังแล้ว สีหน้าก็เริ่มไม่ดี
ลูกพี่ของพวกมันถุ้ยออกมาหนึ่งที“พูดดีๆไม่ยอมฟัง ต้องให้บีบบังคับถึงจะยอมสินะ!”
“รุมสั่งสอนมันอีกครั้ง!”
“ซัดมันจนกว่าจะพูดว่าไม่!”
พวกมันพอเห็นแบบนี้แล้วก็เข้าไปรุมไป๋ยี่เฟยต่อ
ในตอนนี้เอง หลี่เสว่ที่ยืนตกใจจนไม่รู้ว่าควรทำยังไง จู่ๆก็กระโจนเข้ามา บังด้านหน้าของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยอึ้งตะลึงทันที ก่อนจะดึงหลี่เสว่ไปอยู่ด้านหลังของตนเอง“ไม่ต้องสนใจผม คุณหนีไหนซะ!”
ลูกพี่นั่นหัวเราะออกมา ก่อนจะพูดขึ้น“ไป๋ยี่เฟย แกให้ความสำคัญกับเมียของแกใช่ไหมล่ะ? ถ้าแกพูดว่าจะไม่ไปสู้กับเขาซะตั้งแต่ตอนนี้ พวกฉันก็จะปล่อยเมียของแกไป แต่ถ้าแกยังไม่เจียมตัวอีกล่ะก็ พวกฉันก็ขอจะเล่นกับเมียของแกสักหน่อยล่ะนะ!”
หลี่เสว่ในตอนนี้สูญเสียความทรงจำไปแล้ว แต่มองของเธอก็ปกติดี จึงเข้าใจคำพูดของพวกมัน ก็เลยหดถอยด้วยความรู้สึกกลัว มือเล็กๆจับชายเสื้อของไป๋ยี่เฟยไว้แน่น
รุมทุบตีไป๋ยี่เฟยได้ แต่ถ้ามายุ่งกับหลี่เสว่ล่ะก็ ไม่ว่าจะพูดยังไงไป๋ยี่เฟยก็ไม่มีทางยอมแน่นอน!
“พวกแกปล่อยเธอไปซะ ฉันจะยอมเชื่อฟังแต่โดยดี”ไป๋ยี่เฟยพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ
ลูกพี่หันไปมองหลี่เสว่หนึ่งที พูดกันตามตรง คนแบบพวกมันน้อยมากที่จะได้จับต้องผู้หญิงชั้นสูงแบบนี้ ดังนั้นมันจึงไม่เต็มใจที่จะปล่อยหลี่เสว่ไปเท่าไรนัก ในทางกลับกัน ยังอยากจะอยู่เล่นต่อสักหน่อยด้วย
“ฉันว่าแกตั้งใจที่อยากจะให้ปล่อยมันไปใช่ไหมล่ะ? พอเธอไปแล้ว แกก็จะปากแข็งดึงดันที่จะขัดขืนเขาอยู่ดี!”
ไป๋ยี่เฟยคิดแบบนี้จริงๆ
แน่นอนว่า นี่ก็คือข้ออ้างที่มันพูดขึ้นเพื่ออยากที่จะให้หลี่เสว่อยู่ต่อเท่านั้นเอง
ส่วนทางด้านลูกพี่ของพวกมันก็ไม่พูดอะไรเยอะแยะ กวักมือทันที“ลงมือซะ!พอจัดการเสร็จ พวกเราก็จะได้อยู่เล่นกับสาวสวยแล้ว”