ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 308
บทที่ 308
“ใกล้จะถึงเวลาแล้ว อีกสักพักก็จะสามารถทานอาหารเย็นกันได้แล้ว พวกเรากลับไปด้านหลังกันเถอะ!”
ดังนั้นคนทั้งกลุ่มจึงติดตามจางเหลยไปที่สวนหลังบ้าน
ในตอนเมื่อกี้นี้สวนหลังบ้านก็ได้รับการจัดไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีโต๊ะทั้งหมดสี่โต๊ะ และมีอาหารบางอย่างถูกเสิร์ฟไว้ในแต่ละโต๊ะ และรออาหารอีกสองสามอย่างก็จะสามารถเริ่มทานได้แล้ว
ก่อนอื่นนั้น จางเหลยจัดให้ทุกคนยืนเป็นวงกลม และกระแอมในลำคอ “ผมเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่นาน หลังจากนี้ผมก็วางแผนที่จะพัฒนาอยู่ที่เมืองเทียนเป่ย ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน หวังว่าทุกคนจะดูแลผมด้วย”
“ผมกำลังวางแผนที่จะลงทุนทางการเงินเมื่อเร็วๆนี้ หากทุกคนสนใจ สามารถติดต่อกับผมได้ในภายหลัง และเราสามารถมาคุยรายละเอียดกันได้”
“สุดท้ายนี้ หวังว่าทุกคนจะสนุกในวันนี้”
หลังคำพูดจบลง ทุกคนก็ปรบมือ
“ยังไงทุกคนก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ต่อไปยังคงต้องพึ่งพาพวกคุณมากขึ้น!”
“ใช่แล้ว ทุกคนควรจะช่วยกัน และพัฒนาไปด้วยกันในอนาคต!”
“ร่ำรวยไปด้วยกัน……..”
จางเหลยยิ้มและมองไปที่ไป่ยี่เฟย และพบว่าสีหน้าของไป๋ยี่เฟยเฉยๆ คาดว่าเขาอาจจะฟังไม่เข้าใจ?
ชาวนาอย่างเขา จะมีโอกาสที่ได้สัมผัสกับการลงทุนทางการเงินได้อย่างไร? ช่างเป็นคนบ้านนอกเลยจริงๆ!
หลังจากพูดจบ จางเหลยก็ทักทายให้ทุกคนนั่งลงและเริ่มอาหารเย็น
ไป๋ยี่เฟยพาหลี่เสว่ไปนั่งที่โต๊ะของจางเหลย จางเหลยไม่ได้พูดอะไรเลย หนึ่งเป็นเพราะเขาอยากนั่งร่วมโต๊ะกับหลี่เสว่ และอีกหนึ่งเป็นเพราะเขาอยากจะทำให้ไป๋ยี่เฟยอับอายขายหน้า
อาหารบนโต๊ะนี้ไม่ใช่ของที่คนธรรมดาจะสามารถกินได้ ไป๋ยี่เฟยเห็นแล้วจะต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นเขาก็จะทำตัวเหมือนคนที่ไม่เคยเห็นโลก และจะทำให้หลี่เสว่อับอายขายหน้า และหลี่เสว่ก็จะไม่ชอบไป่ยี่เฟยโดยธรรมชาติ
และหลี่เสว่ในเวลานี้ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา เธอก็ไม่เคยเข้าร่วมงานปาร์ตี้แบบนี้เลย หลังจากนั่งลง เธอก็เริ่มรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
จริงๆแล้วไป๋ยี่เฟยสามารถพาหลี่เสว่จากไปได้ แต่ในวันนี้เขาต้องให้พวกเขารู้ว่า หลี่หสว่เป็นภรรยาของเขา และไม่มีใครสามารถแอบหวังกับเธอได้ และส่วนเพื่อนร่วมชั้นเหล่านี้ ยังคงชักชวนเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาให้หย่ากันทั้งๆที่คนอื่นมีความสุขอยู่ มันไม่ควรเลยจริงๆ!
หลังจากนั้นไม่นาน อาหารก็พร้อม จางเหลยยกแก้วแล้วยืนขึ้นมา “ผมดีใจมากที่ทุกคนสามารถมาได้ในวันนี้ ผมขอดื่มให้กับทุกคนหนึ่งแก้ว”
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ทุกคนก็ลุกขึ้นยืน และหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม มีคนสองคนที่ไม่เข้าฝูงเลย
หนึ่งในนั้นคือหลี่เสว่ เพราะเธอรู้สึกประหม่า และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เธอจึงไม่ขยับ
อีกคนคือไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยก้มลงมองไวน์แดงในแก้ว แล้วหัวเราะเยาะ
ไม่มีใครรู้ว่า เขามีความรู้เกี่ยวกับไวน์แดงอยู่บ้าง ตราบใดที่เขาได้ดู เขาก็จะรู้ได้ว่ามันคือไวน์แดงอะไร ผลิตที่ไหน และแม้กระทั่งของปีไหนด้วย
ตอนที่ไป๋ยี่เฟยนั่งลง เขาหยิบมันขึ้นมาดม แล้วจิบชิมเบาๆ ก็รู้ว่าไวน์แดงนี้คือไวน์อะไร
อืม พูดง่ายๆก็คือ เป็นไวน์แดงที่สามารถซื้อได้ในซูเปอร์มาร์เก็ตในราคาต่อขวดประมาณหลักร้อยเท่านั้นเอง ในส่วนของยี่ห้ออะไร ขออภัยด้วย ไวน์แดงที่ยี่ห้อทั่วไป ไป๋ยี่เฟยพูดไม่ออกเลยจริงๆ ยังไงก็มียี่ห้อจำนวนมากมาย ใครจะไปรู้ว่าเป็นยี่ห้อไหน?
ทุกคนต่างก็สังเกตเห็นไป๋ยี่เฟย และหันมามองทางนี้
สีหน้าของจางเหลยไม่ค่อยจะดีนัก ตอนเมื่อกี้นี้ไป๋ยี่เฟยยังคงมีสีหน้าเฉยๆ เขาไม่เหมือนคนที่ไม่เคยเห็นโลกเลย ซึ่งทำให้เขาเริ่มรู้สึกท้อเล็กน้อย
ตอนนี้ยังเห็นว่าไป๋ยี่เฟยไม่ได้ยกแก้วขึ้นมา มันทำให้เขาโกรธเล็กน้อย สิ่งที่ทำให้เขาโกรธมากขึ้นคือ แม่แต่หลี่เสว่ก็ไม่ได้ยกแก้วขึ้นเช่นกัน
โจวฉวี่เอ๋อซึ่งนั่งอยู่ข้างๆหลี่เสว่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และด้วยมารยาท เธอจึงดึงหลี่เสว่ และกระซิบว่า “นี่เป็นมารยาทแบบหนึ่ง คุณก็ยกแก้วขึ้นด้วยสิ!”
หลี่เสว่กระพริบตา จากนั้นก็มองไปที่ไป๋ยี่เฟยอีกครั้ง อยากจะถามว่าไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้ยกแก้วขึ้นไม่ใช่หรือ? แต่ดูเหมือนว่ามีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่ไม่ได้ยกแว่นขึ้น จึงต้องหยิบแก้วขึ้นมา
จางเหลยเห็นฉากนี้ ยิ้ม และมองไปที่ไป๋ยี่เฟย “เป็นอะไรไป? ไวน์ของผมไม่ถูกปากของคุณหรือเปล่า? ไม่สินะ คุณน่าจะไม่เคยเห็นไวน์นี้มาก่อนใช่ไหม?”
“ไวน์นี้เป็นไวน์แดงที่ผมฝากคนอื่นซื้อมาจากโรงไวน์ Lafite Winery โดยเฉพาะ ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนมันเป็นเรื่องปกติ และทุกคนก็น่าจะมีโอกาสเห็นได้น้อย”
เมื่อกล่าวเช่นนี้ ทุกคนก็อุทาน
“มันเป็น Lafite เลยทีเดียว!”
“ไวน์ของ Lafite หาซื้อได้ยากนัก!”
“จริงด้วย? ฉันโชคดีมากที่มีโอกาสได้ดื่ม Lafite ในชีวิตนี้!”
“……….”
หลังจากที่ทุกคนพูดจบ มันก็เป็นการดูถูกไป๋ยี่เฟย
“เขาเป็นแค่ชาวไร่คนหนึ่งต้องไม่เคยเห็นไวน์ดีๆแบบนี้มาก่อน คิดว่าตอนนี้เขาคงกำลังรู้สึกตื่นเต้นอยู่แน่ๆ!”
“ฉันก็คิดเหมือนกัน ไวน์ที่ดีขนาดนี้ แม้แต่พวกเราก็ไม่ค่อยได้เห็น เขาเห็นแล้วคงต้องลืมทุกสิ่งไปแล้วแน่ๆ”
“แม้ว่าจะไม่เคยเห็นโลก แต่ก็ยังต้องมีมารยาทที่ควรมีไหม?”
“……….”
ไป๋ยี่เฟยยืนขึ้นตามคำพูดของทุกคน และทุกคนก็เงียบลงเมื่อเห็นเช่นนี้
“นี่คือ Lafite?”
“แน่นอน!” จางเหลยตอบ “ฟังจากน้ำเสียงของคุณ คุณไม่เชื่อหรือ? หรือว่าคุณเคยดื่ม Lafite มาก่อน?
ไป๋ยี่เฟยพูดเบาๆ “ไม่เคย”
“ไม่เคยแล้วคุณจะพูดทำไม?”
ไป๋ยี่เฟยกล่าวอีกครั้ง “แม้ว่าผมจะไม่เคยดื่ม แต่ก็รู้ว่าไวน์ Lafite มีรสชาติเป็นอย่างไร และควรมีลักษณะอย่างไร?”
เมื่อจางเหลยได้ยินเช่นนี้ เขาก็ตกตะลึงจนแทบมองไม่เห็น
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่จางเหลย และพูดช้าๆว่า “ไวน์ Lafite ผลิตในโรงไวน์ Lafite ทั้งหมด ซึ่งแบ่งออกเป็นสองประเภทส่วนใหญ่ ประเภทหนึ่งคือไวน์แดงแห้งของปราสาท Lafite หรือที่เรียกว่า Grand Lafite และอีกชนิดคือ Lafite จัมโบ้แดงแห้งไวน์ หรือที่เรียกว่า Petit Lafite”
“ไวน์ Lafite มีกลิ่นดอกไม้หอม และกลิ่นแร่ธาตุ และมีกลิ่นไม้โอ๊ค ตอนอยู่ในช่องปากจะมีรสชาติที่เข้มข้นหรูหรา และยาวนาน และเต็มไปด้วยความกลมกล่อม”
“และไวน์แดงของคุณนี้ ดมแล้วมีกลิ่นแอลกอฮอล์นิดหน่อย เข้าปากแล้วมันแห้งฝาด และไม่มีความกลมกล่อมของ Lafite แม่แต่น้อย จากการคาดเดาของผม ราคาไวน์ของคุณไม่เกินสองร้อย”
หลังจากพูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็วางไวน์ลงบนโต๊ะ
สีหน้าของจางเหลยดูลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย แต่เขาก็ปกปิดมันไว้อย่างดี “ไป๋ยี่เฟย คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไร? คุณเป็นคนที่มาจากบ้านนอก คุณรู้ว่าอะไรคือ Lafite เหรอ?”
“ถูกต้อง! คุณอิจฉาจางเหลย คุณเลยจงใจพูดขึ้นมาใช่ไหม?”
“ฉันก็คิดเหมือนกัน จางเหลยต่อสู้อยู่ต่างประเทศมาตั้งนานแล้ว เขาจะนำไวน์ธรรมดาออกมาได้อย่างไร?”
“ใช่ ไม่ต้องพูดถึง Lafite เลย แม้กระทั่งไวน์ในราคาหลายสิบหยวนคุณก็ยังไม่เคยดื่มเลยใช่ไหม?”
ทุกคนต่างก็พูดขึ้นมาคนละคำสองคำ ไม่มีใครเชื่อในคำพูดของไป๋ยี่เฟยเลย และยังดูแคลนไป๋ยี่เฟยด้วย
หลี่เสว่กัดริมฝีปาก เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่ไป๋ยี่เฟยพูดนั้นจริงหรือเท็จ แต่คำพูดของคนเหล่านี้ ดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่ไป๋ยี่เฟย และทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงความอับอายขายหน้าเล็กน้อย
จางเหลยยิ้มเยาะ “ไป๋ยี่เฟย ผมไม่พูดอะไรมาก เพราะคุณเป็นสามีของเสว่เอ๋อ หวังว่าคุณจะไม่ทำให้บรรยากาศการรวมตัวของเพื่อนร่วมชั้นของเราเสียไป”
เมื่อไป๋ยี่เฟยเห็นดังนั้นเขาก็พูดเบาๆ “เฮ้ พวกคุณอาจไม่รู้ ผมก็อยู่ด้วยเพราะพวกคุณเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเสว่เอ๋อ มิฉะนั้น พวกคุณจะไม่มีคุณสมบัติพอที่จะกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับผมเลย!”
“โดยเฉพาะคุณ!”
“เสว่เอ๋อเป็นภรรยาของผม เราได้แต่งงานกันแล้ว และเราก็อยู่ดีกินดี และคุณ ไม่เพียงแต่ไม่อวยพรพวกเรา แต่ยังพยายามเกลี้ยกล่อมให้ภรรยาหย่ากับผมด้วย นี่ก็คือเพื่อนร่วมชั้นของเธอใช่ไหม?”
“ผมผิดหวังแทนเสว่เอ๋อมากจริงๆ ที่เธอมีเพื่อนร่วมชั้นอย่างพวกคุณ มันเป็นความโชคร้ายของเธอ!”
“คุณพูดว่าอะไรนะ?” จางเหลยระเบิด “ทำไมคุณถึงกล้าพูดว่าคุณอยู่ดีกินดีกับเสว่เอ๋อ? เป็นไปได้อย่างไร? เด็กยากจนที่มาจากบ้านนอกคนหนึ่ง คุณจะให้เสว่เอ๋อมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร?”
“แม้แต่กระเป๋าแบรนด์เนมใบเดี๋ยวคุณก็ซื้อให้เสว่เอ๋อไม่ได้ คุณมีสิทธิ์อะไรพูดแบบนี้? ผมต่างหากที่มีสิทธิ์ ผมมีบ้านพักอยู่ที่หลันโปกั่ง ผมมีอนาคตที่ดีกว่า มีสายสัมพันธ์ และทุกอย่างที่ดีกว่าคุณ!”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มเยาะ “หึ! บ้านพักในหลันโปกั่ง ผมมีอยู่มากมาย อนาคต ผมดีกว่าคุณมาก และสายสัมพันธ์ ก็กว้างขวางกว่าคุณ! แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือ เสว่เอ๋อยินดีที่จะอยู่กับผม!