ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 360
บทที่360
หลินขวางไม่ค่อยเข้าใจไป๋ยี่เฟย
ส่วนไป๋ยี่เฟยเองก็ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม พวกเขาคุยกันอีกพักหนึ่งก่อนหลินขวางจะจากไป
……
ช่วงบ่าย ตอนที่ไป๋ยี่เฟยกำลังฝึกอยู่นั้น ฉินหัวก็ได้โทรเข้ามา
“คุณว่ายังไงนะ? จะให้ผมไปที่บ้านของโจวฉวี่เอ๋อด้วยอย่างนั้นเหรอ? ไม่ใช่? นี่พี่ชาย คุณมั่นใจแล้วเหรอ?”
ฉินหัวตอบ “ผม……ไปคนเดียวแล้วมันรู้สึกเกรงใจ…”
ไป๋ยี่เฟยขำคริคริ “นั่นมันพ่อตาแม่ยายของพี่ในอนาคตเลยนะครับ ต่อไปก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว มีอะไรให้กลัวนักหนา?”
ฉินหัวอ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่งกว่าจะพูดออกมาได้ “การไปบ้านผู้หญิงแบบนี้ มันก็ควรมีผู้ปกครองไปด้วยสิ แต่พ่อแม่ของผมนั้นจากไปตั้งนานแล้ว……คนในครอบครัวคนเดียวยังเหลืออยู่ตอนนี้ก็คือคุณ”
ไป๋ยี่เฟยอึ้งไปพักใหญ่ ถึงได้พูดขึ้นว่า “ได้ครับ คุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมไปหา”
ฉินหัวได้นับถือเขาเป็นคนในครอบครัวแล้ว แล้วคนที่เป็นน้องชายอย่างเขายังมีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธอีก?
หลังวางสาย ไป๋ยี่เฟยก็อธิบายกับไป๋หู่ จากนั้นก็ไปอาบน้ำก่อนนะออกเดินทาง
ตอนแรกฉินหัวก็ตั้งใจจะขับรถไปเหมือนกัน แต่ไป๋ยี่เฟยบอกว่าเขาขับเอง ฉินหัวจึงไปยืนรอไป๋ยี่เฟยอยู่ที่หน้าชุมชนที่ตัวเองอยู่
พอขึ้นรถมา ไปยี่เฟยก็ขำใหญ่เลย “นี่พี่ชาย ตอนนี้พี่เป็นพี่แท้ๆ ของผมแล้วนะ จริงสิ พวกพี่สองคนจดทะเบียนกันรึยังครับ?”
“ยังเลย แต่ก็ใกล้แล้ว”
จากนั้น พวกเขาก็ขับรถมาถึงย่านที่โจวฉวี่เอ๋ออาศัยอยู่
ยังไม่ทันถึง ก็เห็นโจวฉวี่เอ๋อยืนอยู่ทางโน้นแล้ว
ฉินหัวลงรถก่อน จากนั้นก็ลงไปเอาของขวัญที่ซื้อมาแล้วตรงหลังรถ
พอเห็นฉินหัวมาถึงโจวฉวี่เอ๋อก็รีบพุ่งเข้ามาทันที แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เขินอายและอ่อนโยน “จะซื้อของพวกนี้มาทำไมคะเนี่ย? บอกแล้วไงว่าแค่คู่มาก็พอแล้ว”
ฉินหัวเกร็งไปทั้งตัว “มีเป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้วครับ”
จากนั้น โจวฉวี่เอ๋อก็มองเห็นไป๋ยี่เฟย
“คุณมาได้ยังไงคะเนี่ย?” โจวฉวี่เอ๋อทำหน้ารังเกียจ แล้วเธอก็นึกถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างกับไป๋ยี่เฟย ในตอนที่กำลังทำตัวไม่ถูกอยู่นั้นเธอก็คิดไม่ตก คิดไม่ตกเลยว่าไป๋ยี่เฟยจะมาที่นี่ทำไม?
ไปยี่เฟยยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “ช่วยไม่ได้ ใครให้ผมเป็นน้องชายของพี่ชายล่ะครับ?”
ฉินหัวพยักหน้า “ใช่ เขาเป็นน้องชายผม การที่เขามากับผมมันก็เหมาะสมแล้ว”
“ก็ได้ค่ะ ยอมฝืนใจให้เขาขึ้นไปด้วยก็ได้ค่ะ”
ก่อนจะขึ้นไป โจวฉวี่เอ๋อก็ได้กำชับไป๋ยี่เฟยอีกครั้งว่า “เดี๋ยวพอเข้าไปข้างในแล้ว คุณก็ช่วยพูดให้มันน้อยๆ หน่อยนะคะ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องทำตัวให้เป็นที่สนใจใส่พ่อแม่ฉันก็ได้ เข้าใจมั้ยคะ?”
“ครับ” ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า
เอาเข้าจริง ไป๋ยี่เฟยเองก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกอยู่เหมือนกัน ครั้งก่อนที่ต้องช่วยโจวฉวี่เอ๋อจากผู้ชายคนอื่น เขาต้องแกล้งแสดงเป็นแฟนของเธอ แถมยังไปกินข้าวที่บ้านเธอ เล่นละครกันเป็นเรื่องเป็นราว วันนี้เลยทำให้เขาไม่ค่อยมีหน้าไปพบพ่อแม่ของโจวฉวี่เอ๋อเท่าไหร่
โจวฉวี่เอ๋อเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน เธอจึงไม่ค่อยอยากให้ไป๋ยี่เฟยขึ้นไปสักเท่าไหร่ ถ้าพ่อกับแม่เกิดเข้าใจผิดขึ้นมาแล้วจะให้เธออธิบายยังไง?
……
“มาแล้วเหรอ?”
ที่หน้าประตู โจวเฉิงหัวพ่อของโจวฉวี่เอ๋อมาต้อนรับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม จ้าวฉิงแม่ของโจวฉวี่เอ๋อเองก็กำลังยิ้มหน้าบาน “รีบเข้ามานั่งเร็ว”
ฉินหัวทักทายด้วยความเขิน “คุณลุงคุณป้า”
จ้าวฉิงยื่นมือมารับของขวัญจากฉินหัวไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “อาหารใกล้เสร็จแล้ว นั่งก่อนนะ”
ไป๋ยี่เฟยเข้ามาเป็นคนสุดท้าย “คุณลุง คุณป้า”
จ้าวฉิงกับโจวเฉิงหัวถึงกับอึ้ง นี่มันเสี่ยวไป๋ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมาด้วยกันได้ล่ะ?
พอโจวฉวี่เอ๋อเห็นอย่างนั้น เธอก็รีบพูดขึ้นทันทีว่า “นี่คือน้องชายของเขาค่ะ”
ด้วยเหตุนี้ โจวเฉิงหัวกับจ้าวฉิงก็ถึงกับงงไปตามๆ กัน
ไป๋ยี่เฟยยิ้มแห้งๆ ออกมาสองที “แหะๆ ……”
ฉินหัวพยักหน้าอย่างแรง “ใช่ครับ เขาเป็นน้องชายผม วันนี้เขาตั้งใจมาเป็นเพื่อนผม”
จ้าวฉิงรีบเก็บสีหน้าเอาไว้ “อ่อๆๆ ถ้าอย่างนั้นก็รีบเข้ามาเร็ว”
โจวเฉิงหัวเองก็ทำตัวปกติ แล้วพาทั้งสองคนไปนั่ง ส่วนจ้าวฉิงรีบลากโจวฉวี่เอ๋อไปที่ห้องครัว
“นี่ฉวี่เอ๋อ นี่มันเรื่องอะไรกัน?” จ้าวฉิงส่งสายตาไปทางไป๋ยี่เฟย “นี่แกคงไม่ได้คิดที่จะคืนดีกับเขาใช่มั้ย? ลูกรัก ถ้าอยากคืนดีก็ต้องเข้าหาเจ้าตัวสิ จะเข้าทางพี่ชายเขาทำไม? เรื่องแบบนี้มันไม่ควรนะ”
เรื่องระหว่างไป๋ยี่เฟยกับโจวฉวี่เอ๋อนั้นเธอไม่เคยได้พูดไป แค่บอกว่าเลิกกันไปแล้ว และเธอเป็นคนบอกเลิกเอง แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าฉินหัวกับไป๋ยี่เฟยจะมีความสัมพันธ์แบบนี้กัน มันจึงทำให้จ้าวฉิงเข้าใจผิด
“แม่พูดอะไรคะเนี่ย?” โจวฉวี่เอ๋อหลบเท้าที่เตะมา “หนูไม่ได้จะคืนดีสักหน่อย ตอนนี้คนที่หนูชอบคือฉินหัว ไม่ได้ชอบไป๋ยี่เฟยแล้ว!”
“แล้วรสนิยมของแกนี่มันยังไงกัน ถึงได้ไปหาจากคนในครอบครัวเดียวกันแบบนี้?” จ้าวฉิงถามด้วยความสงสัย
“แม่คะ หยุดพูดแบบนี้ได้แล้ว ความจริงไป๋ยี่เฟยเขา……เป็นสามีของเสว่เอ๋อค่ะ”
โจวฉวี่เอ๋อรีบอธิบายทุกอย่างให้จ้าวฉิงเข้าใจ แล้วได้เล่าเรื่องที่ไป๋ยี่เฟยมาแสดงเป็นแฟนปลอมๆ ของเธอด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในวันข้างหน้าอีก
พูดจบ โจวฉวี่เอ๋อยังพูดเสริมขึ้นมาอีกว่า “ตอนนี้เขาเป็นถึงประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ปเลยนะคะ”
จ้าวฉิงเรียเรียงข้ออยู่นาน ก่อนที่จะชี้นิ้วไปที่โจวฉวี่เอ๋อ “ยัยเด็กบ้า ไม่บอกตั้งแต่แรก!”
“พอแล้ว อย่ามัวแต่มาเกะกะอยู่ตรงนี้เลย รีบออกไปดูแลแขกได้แล้ว”
โจวฉวี่เอ๋อยิ้มแห้งๆ “ถ้าอย่างนั้นหนูไปก่อนนะคะ”
……
จ้าวฉิงอาศัยจังหวะที่โจวเฉิงหัวมายกกับข้าวเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง โจวเฉิงหัวรู้สึกตกใจมาก สิ่งที่เขาตกใจที่สุดไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาเล่นละคร แต่เป็นฐานะของไป๋ยี่เฟยต่างหาก
โหวจวี๋กรุ๊ปเลยนะ ต้องทำตัวยังไงเนี่ย!
เมื่ออาหารถูกเสิร์ฟมาแล้ว ไม่เพียงแค่ต้องดูแลฉินหัว พวกเขายังดูกระตือรือร้นกับไป๋ยี่เฟยมากด้วย
ไป๋ยี่เฟยเข้าใจดีว่าวันนี้เป็นวันที่ฉินหัวมาเจอหน้าพ่อตาแม่ยาย เขาจึงวางตัวไม่โดดเด่น เขาแทบไม่พูดเลยจริงๆ สิ่งที่ทำส่วนใหญ่ก็คือกินกับข้าว
หลังกินอาหารเสร็จ ทุกคนต่างก็อารมณ์ดีกันมาก และยังพูดคุยถึงเรื่องรายละเอียดต่างๆ ในงานแต่งด้วย ประมาณอีกหนึ่งอาทิตย์ก็จะถึงวันแต่งแล้ว
พอกินข้าวเสร็จ โจวฉวี่เอ๋อก็มาส่งพวกเขา
“ต่อไปห้ามมาที่บ้านฉันอีกนะคะ” โจวฉวี่เอ๋อทำเสียงฮึดฮัดใส่ไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยยักไหล่ “ผมก็ไม่ได้อยากมาหรอก! แต่คุณจะแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ? ยังไงก็ต้องมารับตัวอยู่ดีนี่จริงมั้ย?”
ที่บ้านของฉินหัวไม่มีใครอยู่เลย เขามีแค่ไป๋ยี่เฟยคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นตอนที่มารับตัว ไป๋ยี่เฟยก็ต้องมาด้วยอยู่แล้ว
“ฉวี่เอ๋อ เขาเป็นคนดีมากนะครับ” ฉินหัวไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี เขาจึงพูดออกมาทื่อๆ แบบนั้น
พอโจวฉวี่เอ๋อได้ยินคำพูดของฉินหัว เธอก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย
หลังจากที่โจวฉวี่เอ๋อขึ้นไปแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็พอแซวขึ้นว่า “โอเค พี่ชาย นี่มันหม้อเจอฝ่าหม้อชัดๆ ช่างเข้ากันซะจริง”
โจวฉวี่เอ๋อที่อยู่ต่อหน้าฉินหัวช่างแตกต่างจากตอนที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นจริง อย่างกับเป็นคนละคนกันเลย