ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 363
บทที่ 363
เจ้าของกิจการย่อมต้องอาศัยกิจการตัวเองกินข้าวสิ!
แต่คิดออกได้ง่ายดายขนาดนี้ จะต้องไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงแน่ อย่างนั้นอาศัยอะไรกินข้าวกันแน่นะ?
ไป๋ยี่เฟยคิดไม่ออก จึงถามว่า “มีคำใบ้ไหม?”
“ไม่มีครับ” พนักงานรุ่นพี่ยิ้มส่ายหัว แถมยังดันแว่นตาของตนเองขึ้นอีกด้วย “คุณครับ ดูท่าทางคุณเหมือนคนประสบความสำเร็จในชีวิต ถ้าอย่างนั้นสำหรับคุณแล้ว จะต้องง่ายดายอย่างมากแน่นอน คุณไม่ต้องคิดซับซ้อนนักก็ได้”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินก็นิ่งไปทันที เหมือนคนประสบความสำเร็จในชีวิต? เขานับว่าเป็นไหม? ก็อาจจะใช่นะ! แต่หากต้องแลกด้วยการสูญเสียความปลอดภัยของตัวเองกับคนข้างกาย เขาขอไม่ประสบความสำเร็จดีกว่า
ผ่านไปอีกสองนาที ไป๋ยี่เฟยยังคงคิดคำตอบไม่ออก
ไป๋ยี่เฟยยักไหล่อย่างจนปัญญา กำลังคิดจะถอดใจ ก็ถูกหลี่เสว่ดึงไว้ “ฉันรู้คำตอบค่ะ”
“หืม?” ไป๋ยี่เฟยมองหลี่เสว่อย่างประหลาดใจ
หลี่เสว่ปลอบโยนไป๋ยี่เฟยทางสายตา กล่าวกับพนักงานรุ่นพี่ว่า “อาศัยปากกินข้าวค่ะ”
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ขอเพียงเป็นมนุษย์ ล้วนอาศัยปากกินข้าวทั้งนั้น!
พนักงานรุ่นพี่กับพนักงานสาวชะงักไป
ถูกแล้ว ถึงกับเป็นคำตอบที่ถูกต้อง!
หากถามคำถามนี้กับคนทั่วไป อันที่จริงก็คิดได้เช่นกัน แต่ในเมื่อพวกเขาเห็นไป๋ยี่เฟยซื้อนาฬิการาคาสองแสน อย่างนั้นจะต้องเป็นคนในตำแหน่งสูงของแวดวงธุรกิจ ย่อมจะต้องคิดมากแน่ ไม่มีทางคิดคำตอบที่ง่ายดายเช่นนี้ออกถึงจะถูก
ทว่า ใครจะไปคิดว่าหลี่เสว่จะคิดออกมาได้
ไป๋ยี่เฟยยิ้ม กล่าวกับพนักงานรุ่นพี่ว่า “คำตอบถูกสินะ?”
พนักงานรุ่นพี่ยิ้มแข็งทื่อพลางกล่าวว่า “ครับ ถูกต้อง”
“อย่างนั้นพวกคุณก็ต้องคืนเงินให้ผมอีก แล้วก็บัตรสมาชิกด้วยใช่ไหม?” ไป๋ยี่เฟยกล่าวอย่างแช่มช้า
พนักงานสาวหน้าซีดไปหมดแล้ว สวรรค์ ไม่เพียงไม่ได้เงินสี่หมื่นกลับมา ยังต้องคืนเพิ่มไปอีกสามหมื่นสอง หากเจ้านายรู้ล่ะก็ จะต้องไล่เธอออกแน่!
พนักงานรุ่นพี่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แต่คำพูดเมื่อพูดออกไปแล้วย่อมไม่อาจคืนคำได้ ไม่อย่างนั้นแบรนด์ย่อมหมดความน่าเชื่อถือ ได้แต่คืนเงินให้เขาไป แถมยังต้องทำบัตรสมาชิกอีกใบด้วย
เงินที่คืนคือสี่หมื่น เพราะพนักงานรุ่นพี่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายซื้อด้วยราคาลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าพวกเขาคืนเกิน ทำเพียงแค่หยิบบัตรสมาชิกแล้วจากไปพร้อมกับหลี่เสว่
“รุ่นพี่คะ……” พนักงานสาวร้องไห้น้ำตานองหน้า รู้สึกถึงวันสิ้นโลกได้มาเยือนแล้ว
……
ณ วิลล่าแห่งหนึ่งในเป่ยไห่
ฉุงโยวเวยนอนอยู่บนเก้าอี้นอนข้างสระว่ายน้ำ อาบแดดอย่างเบื่อหน่าย ยื่นมือไปหยิบน้ำผลไม้คั้นสดมาดื่ม
เวลานี้ มีชายคนหนึ่งในชุดสูทสีดำเดินเข้ามา “คุณชาย เหลียงหมิงเยว่แค่ผ่านทางมาเมืองเทียนเป่ย กลับป่วยกะทันหัน บังเอิญถูกไป๋ยี่เฟยพบเข้าพอดี จึงได้ช่วยชีวิตเขาไว้ เพื่อแทนคำขอบคุณ เหลียงเหว่ยชาวได้มอบแหวนวงหนึ่งให้กับเขา”
“แสดงว่าเป็นเรื่องบังเอิญ?” ฉุงโยวเวยแค่นเสียง “ฉันยังนึกว่าเขากับเจ้าคนแซ่เหลียงจะมีความเกี่ยวข้องกันจริงๆ เสียอีก! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นฉันก็วางใจได้แล้ว”
“คุณชาย ขั้นต่อไปจะเอายังไงต่อดีครับ”
“ย่อมต้องนั่งตำแหน่งประธานสหพันธ์ธุรกิจ มีเพียงทำเช่นนี้ ฉันถึงจะกลับไปได้” ฉุงโยวเวยกล่าวเสียงต่ำ
……
ณ ห้องทำงานประธานกรรมการบริษัทเย่ซื่อกรุ๊ป
เลขาสาวในชุดพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานตรงหน้าเย่ฮวน “ท่านประธานคะ ฉุงโยวเวยคิดจะลงมือแล้ว แต่ลูกน้องที่จัดวางไว้มีน้อยมาก”
เย่ฮวนเงยหน้า “ฉุงโยวเวยไม่รู้ว่าข้างกายไป๋ยี่เฟยมีใครบ้างงั้นหรือ?”
“น่าจะ……ไม่รู้ค่ะ” เลขาสาวตอบ
เย่ฮวนแค่นหัวเราะ “ฉุงโยวเวยดูถูกไป๋ยี่เฟยเกินไปแล้ว ก่อนลงมือไม่รู้จักสืบคนที่ตนเองต้องรับมือให้ดีเสียก่อน ถึงเวลาเสียหลักขึ้นมาจะทำยังไง?”
“ท่านประธานคะ อย่างนั้นพวกเราเปิดโปงสักหน่อยดีไหมคะ?”
เย่ฮวนส่งเสียงอืม “ไปเถอะ ต้องเอ่ยเตือนสักหน่อย ไม่อย่างนั้นละครจะไม่สนุก จริงสิ คนที่ชื่อหูเทียนจิ่นมีความแค้นกับไป๋ยี่เฟยใช่ไหม?”
“ค่ะ” เลขาสาวพยักหน้า
“งั้นก็ถือโอกาสไปหาหูเทียนจิ่นด้วยเลย เปิดเผยสิ่งที่ควรเปิดเผยให้กับเขา”
หลังเย่ฮวนสั่งงานเสร็จ ก็คิดถึงน้องสาวของตัวเองขึ้นมา “มีข่าวของเย่อ้ายหรือยัง?”
“ยังไม่มีค่ะ” เลขาสาวส่ายหน้า
“สืบต่อไป สืบเจออะไรก็ให้รีบมาบอกฉัน”
……
เวลาหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในระหว่างนั้น หลี่เสว่อยู่เป็นเพื่อนหลี่เฉียงตงกับหลิวจื่อหยุนทุกวัน ไม่ยอมกลับไปอยู่ที่วิลล่าของตนเอง ปล่อยให้ไป๋ยี่เฟยอยู่ในบ้านอย่างเงียบเหงาคนเดียว หัวใจจึงห่อเหี่ยวถึงขีดสุด
โชคดีที่ระยะนี้ไป๋หู่มาฝึกซ้อมให้เขา สอนเขาเรียนกังฟู ตกเย็นก็เหนื่อยแล้ว จึงไม่มีเวลาไปคิดถึงเรื่องอื่น
โหวจวี๋กรุ๊ปเองก็ค่อยๆ เดินไปสู่มาตรฐานอย่างช้าๆ เช่นกัน กลับสู่สภาพอย่างเช่นเมื่อก่อนแล้ว มีหลงหลิงหลิงกับจางหรงอยู่ เขาจึงไม่กังวลนัก
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกไม่ยินดีเพียงอย่างเดียวก็คือการที่ไม่ได้พบหลี่เสว่มาหลายวันแล้ว ไปหาหลี่เสว่บ่อยๆ คงไม่ดีนัก จึงได้แต่ข่มใจเอาไว้
วันนี้ ในที่สุดโอกาสก็มาถึงเสียที
ฉินหัวโทรหาไป๋ยี่เฟย “ออกมากินข้าวกัน พวกเราจดทะเบียนสมรสแล้ว”
“ตกลง!” ไป๋ยี่เฟยตอบรับอย่างดีใจ
ความดีใจของไป๋ยี่เฟยไม่เพียงเป็นเพราะฉินหัวกับโจวฉวี่เอ๋อจดทะเบียนสมรส ยังเป็นเพราะเขาจะได้พบหลี่เสว่อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ เขาจึงจัดการกับตัวเองเป็นพิเศษ จนดูสดใสขึ้นเป็นกอง
พอถึงบ้านหลิวจื่อหยุน ไป๋ยี่เฟยก็รับหลี่เสว่ไป
……
ครั้งนี้ ฉินหัวได้เลือกภัตตาคารอาหารจีนที่หรูขึ้นมาหน่อย ทั้งสี่คนทานอาหารจีนอย่างเป็นทางการด้วยกันหนึ่งมื้อ
บนโต๊ะอาหาร โจวฉวี่เอ๋อค่อนข้างร่าเริงขึ้นกว่าเมื่อก่อน เมื่อทุกคนอยู่ด้วยกันบรรยากาศจึงชื่นมื่นอย่างมาก