ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 381
บทที่ 381
“ตกลงพวกคุณยังจะเจรจากันอยู่ไหม ถ้าไม่อยากเจรจา ผม…” เย่ฮวนกัดฟันพูด
เฉินห้าวนั่งตัวตรงทันที “ประธานเย่ อย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย พี่ชายผมออกไปเดินเล่นจริงจริง แต่ส่วนเรื่องไปเดินเล่นที่ไหนนั้น พวกเราไม่รู้จริงจริงครับ ”
“ยังจะเจรจากันอยู่ครับ พี่ชายผมบอกว่า ท่านประธานจะต้องรอเขา”
เย่ฮวนลู่ตาลงเล็กน้อย “ทําไมล่ะ? ”
“โดยอาศัยจุดอ่อนของท่านประธานที่มีอยู่ในมือของพี่ชายผม!” เฉินห้าวพูดขึ้นมาอย่างมีเหตุผล
เย่ฮวนชะงักไปครู่หนึ่ง และลู่ตาลงเล็กน้อย “อ้อ? งั้นผมก็จับพวกคุณได้หมดแล้วสิ และผมก็ไม่เชื่อด้วยว่าเขาจะมาที่นี่จริงจริง”
“งั้นก็เชิญคิดตามสบายเลยนะครับ” เฉินห้าวพูดอย่างไม่แยแส
เย่ฮวนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ท่าทีที่ไม่แยแสของพวกเขานั้นทําให้เขารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก แต่ทว่าเขากลับไม่สามารถแตะต้องตัวพวกเขาได้เลย เพราะเมื่อไหร่ที่คนพวกนี้รวมตัวกันแล้ว แม้กระทั่งการปรากฏตัวของเย่อ้ายก็ไม่คุ้มค่า
“ได้ ผมจะรอ!”
เพื่อเย่อ้ายแล้ว เย่ฮวนจึงทำได้แค่กล้ำกลืนความเจ็บช้ำอยู่อย่างนั้น และรอจนกว่าการเจรจาจะสิ้นสุดลง เพื่อเขาจะได้รู้เบาะแสของเย่อ้าย พร้อมกับให้ไป๋ยี่เฟยรู้ว่าจริงจริงแล้วเขาก็ไม่ใช่คนที่น่าคุกคามขนาดนั้น!
……
ที่ประตูทางเข้าไนต์คลับ มีรถตู้สีดําจอดอยู่คันหนึ่ง และภายในรถตู้นั้น กู่หรงนำทีมของตัวเองมาเฝ้าสังเกตกาลอยู่ตลอดเวลา
“หัวหน้าครับ เมื่อกี้เย่ฮวนเข้าไปแล้ว แต่ไม่เห็นไป๋ยี่เฟยเลย”
“หัวหน้าครับ ไป๋ยี่เฟยคงไม่ใช่ว่าพอเรื่องมาถึงตัวก็หายหัวไปอย่างนั้นหรอกนะ?”
“เป็นไปไม่ได้หรอก!” กู่หรงส่ายหน้าแสดงการปฏิเสธ ถึงแม้เขาจะไม่รู้จักตัวไป๋ยี่เฟยดีขนาดนั้น แต่เมื่อปะติดปะต่อเหตุการณ์ในงานแต่งงานครั้งก่อน และดูจากข้อมูลที่พวกเขาเจอนั้น พวกเขาก็สามารถเข้าใจได้แล้วว่าไป๋ยี่เฟยต้องการจะทําอะไร และเขาจะต้องทำอย่างนั้นแน่นอน
……
ณ คฤหาสน์ตระกูลฉุง
ชายชราชุดสูทถังวางหูโทรศัพท์ลง และพูดกับฉุงโยวเวยว่า “คนของตระกูลเย่ไปที่ไนต์คลับแล้ว แต่ไป๋ยี่เฟยไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย”
“ไป๋ยี่เฟยไม่อยู่ด้วยเหรอ? เขาคงกลัวแล้วล่ะสิ? ”
ชายชราชุดสูทถังส่ายหน้า “คงไม่ใช่ครับ ผมรู้ว่าไป๋ยี่เฟยไม่ใช่คนธรรมดา บางทีเขาอาจกำลังทำอย่างอื่นอยู่ และจงใจทําให้การจับตาดูของเราสับสน”
ฉุงโยวเวยหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม “คุณลุงหลี่ ท่านระวังตัวเกินไปแล้ว ไม่ว่าไป๋ยี่เฟยจะเก่งกาจ และฉลาดเฉลียวขนาดไหน ยังไงเขาก็เป็นแค่คนที่อาศัยอยู่ในชนบทมาเกือบครึ่งชีวิตเท่านั้น และเขาก็เพิ่งเติบโตมาได้แค่ครึ่งปีนี้เอง แต่ยังไงเรื่องพวกนี้มันยังไม่เพียงพอหรอก ”
“เจ้าเด็กเย่ฮวนนั่น ช่างปลิ้นปล้อนนัก ไป๋ยี่เฟยอยากจะเจรจากับเขา แต่มันก็ไม่ได้อะไรกลับมาให้ผม แต่ผมก็เพิ่งส่งจางเถ่หลินไปแล้ว ทีนี้ไป๋ยี่เฟยคงเล่นลูกไม้อะไรกับผมไม่ได้แล้ว”
“ดังนั้นคุณลุงหลี่ ท่านวางใจเถอะ! หลังจากคืนนี้ไป มันจะไม่มีไป๋ยี่เฟยคนนี้อยู่ในโลกนี้อีกต่อไป”
เมื่อชายชราชุดสูทถังได้ยินคําพูดของฉุงโยวเวยแล้ว แม้ในใจจะเห็นด้วย แต่ก็ไม่อาจวางความตื่นตัวลงได้ เขาได้แต่รอสายเข้าจากจางเถ่หลินอยู่ตลอดเวลา เพื่อจะได้ยินข่าวเป็นคนแรก
ฉุงโยวเวยไม่สามารถนั่งรอได้อีกต่อไป “คุณลุงหลี่ สถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกกำหนดไว้หมดแล้ว คืนนี้ ผมจะเป็นคนออกไปจัดการเอง ! ”
“นายน้อย รอข่าวจากทางนั้นก่อนค่อยออกไปอีกทีก็ไม่ยังสายนะครับ”
ฉุงโยวเวยถูกกักขังตัวมาสองวันแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถอดทนรออีกต่อไปได้ “คุณลุงหลี่ เวลายังผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเลยแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นได้ล่ะ? ”
“แค่หนึ่งชั่วโมงก็เกินพอแล้วที่เย่ฮวนจะจัดการไป๋ยี่เฟยได้ ดังนั้น คืนนี้ผมต้องออกไปให้ได้!”
เมื่อชายชราชุดสูทถังคิดไปคิดมาก็รู้สึกเห็นด้วย เขาจึงได้แต่ประนีประนอม แล้วพูดว่า “ถ้าเช่นนั้นผมขอไปกับนายน้อยด้วยแล้วกัน”
ฉุงโยวเวยขมวดคิ้ว และคิดจะปฏิเสธ แต่ชายชราชุดสูทถังมาก็เพื่อปกป้องเขา เขาจึงพูดว่าบางทีเขาอาจไม่จำเป็นต้องออกไปแล้ว จากนั้นเขาจึงโบกมือ แล้วหมุนตัวกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
……
ภายในห้องพิเศษที่ไนต์คลับ เพราะว่าเย่ฮวนตัดสินใจรอ ดังนั้นคนอื่นอื่นต่างก็แยกย้ายกันออกไป และต่างคนต่างก็หาที่สำหรับให้ตัวเองยืนและนั่ง
แน่นอนว่าเย่ฮวนต้องนั่งอยู่บนโซฟา แต่นั่งห่างจากเฉินห้าวมาก เพราะว่าเขาไม่อยากนั่ง และไม่อยากลดตัวลงไปคลุกคลีกับคนแบบนี้
Jackกวาดตามองไปรอบรอบ พร้อมกับเดินไปอยู่ข้างข้างไป๋หู่ และยืนอยู่ริมหน้าต่างดูทิวทัศน์ยามค่ำคืนกับเขา ในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็ยิ้มและกล่าวทักทายไปว่า “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
ไป๋หู่เหลือบมองเขาไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหน้ากลับไป และทำท่าทีไม่สนใจ
Jackไม่ได้รู้สึกผะอืดผะอมเลยสักนิด เขาพูดต่อว่า “ก่อนหน้านี้เห็นนายตามหัวหน้าตระกูลไป๋มา และในตอนนั้นฉันก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้คุยกับนายเลย แต่วันนี้กลับมีโอกาสได้คุยกับนายสะแล้ว”
“ฉันอยากแลกเปลี่ยนความรู้กับนายมานานมากแล้ว ทําไมเราไม่มาแข่งวางกันแผนสักตาสองตาล่ะ?”
“ไม่สนใจหรอก” ไป๋หู่ส่ายหน้าปฏิเสธ
ทางฝั่งนั้น จางเถ่หลินนั่งอยู่ข้างสวีลั่ง
“ตาสวี มีคนมาแล้ว นายไม่คิดจะต้อนรับหน่อยเหรอ?” จางเถ่หลินดูเหมือนจะคุ้นเคยกับสวีลั่งมาก
“ไม่จําเป็น” สวีลั่งหลับตาลงและสงบสติ ไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมอง
จางเถ่หลินส่งเสียงเฮ้ย”หลังจากพบกันครั้งก่อน ฉันไม่ได้ก็เจอนายอีกเลย คิดไม่ถึงเลยว่านายจะมาไกลขนาดนี้”
สวีลั่งไม่ตอบ
เย่ฮวนชําเลืองมองJackและจางเถ่หลินอยู่หลายรอบ และเห็นพวกเขาทั้งสองพยายามตีสนิทกันแต่มันเป็นเรื่องไร้สาระทั้งนั้น ไป๋หู่และสวีลั่งก็เหมือนกับก้อนหินแข็งแข็งก้อนหนึ่ง ที่ไม่ว่ายังไงก็งัดไม่ออกเสียที
เมื่อเห็นว่าเวลาก็ผ่านไปเรื่อยเรื่อยแล้ว และไป๋ยี่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะปรากฏตัวเลย ความอดทนของเย่ฮวนก็ค่อยค่อยหมดลง
ไม่นานมาก คนของเย่ฮวนก็วิ่งกลับมา “ท่านประธาน ไป๋ยี่เฟยไปที่บาร์แล้ว และยังไม่ออกมาเลย ”
“อะไรนะ?” เย่ฮวนแทบจะระเบิดออกมา “เขาไปที่บาร์เหรอ? ”
คนมากมายของพวกเรารอเขาอยู่ที่นี่ เขากล้าดียังไง ทำไมถึงยังไปที่บาร์อย่างสบายใจขนาดนั้น แม่งเอ๊ยเขาจงใจเล่นตลกกับพวกเรางั้นเหรอ?
“ใช่ เขาเข้าไปได้ชั่วโมงกว่าแล้ว”
เย่ฮวนถามเฉินห้าวด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “ที่ไป๋ยี่เฟยทำมันหมายความว่ายังไง? พอพวกเรามา เขาก็ไปที่บาร์? เล่นตลกพวกเรางั้นเหรอ? ”
เฉินห้าวหัวเราะและพูดว่า “ไม่ใช่แน่นอน คุณก็รู้อยู่นิ คนที่มากับเราก็เป็นคนในครอบครัวของเหยื่อด้วยไม่ใช่เหรอ?” บางทีหล่อนอาจเศร้า และต้องการใช้เหล้าเพื่อกลบเกลื่อนความเศร้าของหล่อนก็ได้! ”
“พี่ชายของผมคงไม่ปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ที่บาร์ด้วยตัวคนเดียวหรอก คุณว่าไหม?”
เย่ฮวนส่งเสียงเย็นชา “โทรหาเขาเดี๋ยวนี้ และให้เขารีบกลับมาที่นี่ทันที ไม่อย่างนั้น การเจรจาเป็นโมฆะ! ”
เฉินห้าวได้ยินดังนั้นก็หันไป และมองไปที่นาฬิกาข้อมือของตัวเอง “ได้สิ ผมจะโทรไปถามพี่ชายผมให้ ”
พอพูดจบ เฉินห้าวก็โทรไปจริงจริง
“พี่ ประธานเย่มาแล้ว กำลังรอพี่อยู่ครับ!”
“อืมอืม ได้เลยได้เลย”
หลังจากวางสาย เฉินห้าวก็ยิ้มและตอบว่า “พี่ชายของผมบอกว่าคุณอย่ารีบร้อนไปเลย ถ้ารีบร้อนมาก เขาอาจจะไม่รู้ว่าต้องทําอะไรก่อนดี เพราะถ้าเกิดโทรไป และบังเอิญโทรไปติดคุณเย่อ้าย มันคงไม่ดีแน่ ”
“นี่นาย!” เย่ฮวนกําหมัดแน่น แต่ก็ทําอะไรไม่ได้
ไป๋ยี่เฟยจับตาดูเขาอย่างแม่นยํา และรู้ถึงความสําคัญของเย่อ้าย เลยทําให้เขาต้องประนีประนอม และรอต่อไป
……
ณ คฤหาสน์ตระกูลไป๋ในเมืองหลวง
อู๋กุ้ยเซียงและไป๋หยุนเผิงกำลังนั่งอยู่ในห้องหนังสือ พวกเขาเพิ่งได้รับข่าวล่าสุด และทั้งสองคนต่างก็แสดงสีหน้างุนงง