ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 413
บทที่ 413
“ซินซิน คุณรู้สึกว่าเป็นยังไง?”
อู๋ซินซินกัดฟัน ไม่พูดอะไร
ไป๋ยี่เฟยที่อยู่ข้างๆฟังเข้าใจแล้ว แม่ง นี่มันมานัดบอดนี่หว่า!
อู๋ซินซินรีบมานัดบอดเร็วขนาดนี้ ถ้าหากไม่ใช่ว่าเกลียดจางหัวปินมาก ก็คือว่ายังรักจางหัวปินอยู่ ในมุมมองของไป๋ยี่เฟย แน่นอนว่าต้องเป็นสาเหตุหลัง
ดังนั้น แน่นอนว่าไป๋ยี่เฟยจะไม่ให้อู๋ซินซินไปทรมานตัวเอง ตอนนี้ยังมีโอกาสหวนคืนอยู่
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นมา เดินมาถึงข้างโต๊ะพวกเขา
นอกจากอู๋ซินซิน ล้วนมองมาทางนี้
คนที่ราวกับว่าเป็นแม่สื่อถามว่า”คุณผู้ชายคะ คุณ……”
“ขออภัยครับ ฉันมาหาพี่สะใภ้ของฉัน”ไป๋ยี่เฟยตอบอย่างราบเรียบ จากนั้นชี้ไปที่อู๋ซินซิน
อู๋ซินซินนิ่งอึ้ง เงยหน้ามองไปที่ทิศทางของไป๋ยี่เฟย เธอมองไม่เห็น แต่เธอเคยได้ยินเสียงของไป๋ยี่เฟย”เป็นคุณ?”
“เป็นฉันนี่เอง”ไป๋ยี่เฟยตอบ”พี่สะใภ้ เราคุยกันไหม?”
ต่งหนิวลั่ยเห็นแล้ว ไม่พอใจอย่างยิ่ง”แม่ง แกเป็นใครวะ?ใครเป็นพี่สะใภ้ของแก?ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของฉัน ได้ยินหรือเปล่า!”
ไป๋ยี่เฟยเงยหน้าขึ้นมามองต่งหนิวลั่ยตาหนึ่ง สายตาปรากฏความดูถูกออกมา”ผู้ชายที่ตบตีผู้หญิงอย่างแก ยังมานัดบอดทำเพื่อ?สมควรโสดตลอดชีพ!”
“แม่ง!ฉันตบตีผู้หญิงของตัวเอง เกี่ยวอะไรกับแกวะ!”ต่งหนิวลั่ยตบโต๊ะและลูกขึ้นมา
คนรอบข้างได้ยินเสียง มองมาทันที เจ้าของร้านน้ำชารีบเดินมา พูดอย่างเป็นคนกลาง”อย่าโกรธ อย่าโกรธเลย เรามาเรื่องค่อยๆพูดกัน ค่อยๆพูด……”
ต่งหนิวลั่ยเก็บความโกรธลงไปหน่อย”อย่ามาขวางหูขวางตาตอนนี้ รีบออกไปให้พ้น!”
ไป๋ยี่เฟยไม่สนใจต่งหนิวลั่ย กลับพูดกับอู๋ซินซินว่า”พี่สะใภ้ คุณยอมแต่งงานกับเขาจริงหรือ?”
“ฉัน……”อู๋ซินซินอ้าปาก ในใจเธอไม่ยอม แต่เมื่อนึกถึงจางหัวปิน เลยพยักหน้าพูดว่า”ฉันยินยอม”
“ได้ยินหรือเปล่า?ยังไม่ออกไปให้พ้นอีก?”ต่งหนิวลั่ยเอ่ยเสียงเย็นชาออกมา
แม่สื่อเห็นเช่นนี้ก็เลยพูดว่า”หนุ่ม คำโบราณที่ว่ายอมรื้อวัดรื้อศาลา ดีกว่าทำลายงานแต่ง และอีกอย่างหนึ่ง ซินซินก็หย่าร้างแล้ว คุณก็อย่ามารบกวนเธออีกเลย”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าถ้าไม่จัดการคนพวกนี้ จะไม่สามารถคุยกันดีๆแล้ว
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยหยิบสมุดเช็คที่ติดตัวออกมา เขียนใบหนึ่งแล้วโยนให้ต่งหนิวลั่ย”เอาเงินนี้ แล้วออกไปให้พ้น!”
“ฉันมีรายได้ปีละ2แสน แกนี่ดูถูกใครเนี่ย?”ระหว่างที่ต่งหนิวลั่ยพูด ยังคงหยิบเช็คขึ้นมา”แกนที่ใส่ชุดที่หาซื้อตามตลาด จะมีเงินได้ยังไง?”
จากนั้นต่งหนิวลั่ยเห็นบนเช็คเขียนว่า1ล้าน
“หนึ่ง……หนึ่งล้วน?”ต่งหนิวลั่ยขยี้ตาด้วยความไม่เชื่อ”แม่ง!1ล้านจริงด้วย!”
แม่สื่อก็อ้าปากกว้างด้วยความตกใจ
ต่งหนิวลั่ยรีบเปลี่ยนท่าที”พี่ คุณนั่งสิ คุณนั่ง……”
เมื่อกี้เขายังอวดอยู่ว่า ตัวเองรายได้ปีละ2แสน แต่ในที่สุดคนเขาโยนเช็คใบหนึ่งให้ก็เป็นเงิน1ล้านแล้ว แม่ง นี่เป็นตั้งรายได้5ปีของเขาแล้ว
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างราบเรียบ”ยังไม่รีบออกไปอีก?”
“ออกไปเดี๋ยวนี้ครับ……”ต่งหนิวลั่ยรีบเดินออกจากร้าน หยิบเช็คแล้วส่งสายตาสะกิดแม่สื่อ และก็ยิ้มอย่างประจบสอพลอต่อไป๋ยี่เฟย จากนั้นจึงเดินจากไปโดยไม่หันหัวกลับมาอีก
แม่สื่อเห็นเช่นนี้ก็ไม่กล้าขัดใจคนรวยแบบนี้ ก็เลยไปเช่นกัน
คราวนี้ บนที่นั่งเหลือแต่อู๋ซินซินและไป๋ยี่เฟยแล้ว
“คุณคิดจะโน้มน้าวฉันหรือ?”อู๋ซินซินพูดขึ้นมาก่อน”ฉันไม่ให้อภัยเขาแน่นอน”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มอย่างขมขื่น”พี่สะใภ้ ฉันถามแค่ว่า พี่สะใภ้ไม่ยอมยกโทษให้เขาจริงหรือ?”
“ใช่”อู๋ซินซินตอบอย่างแน่วแน่
ไป๋ยี่เฟยพูดต่อ”งั้นพี่สะใภ้มานัดบอดเร็วขนาดนี้ทำไมล่ะ?”
“ตาฉันไม่ดี หาคนดูแล”อู๋ซินซินตอบ
ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้า”เหตุผลนี้ฉันเชื่อ แต่ว่าพี่สะใภ้ก็ไม่จำเป็นต้องหาคนที่ตบตีเมียแบบนี้หรอก?”
อู๋ซินซินเม้นปากไว้ไม่พูดใดๆ
“พี่สะใภ้ ฉันรู้ว่า ตามจริงคุณไม่ยอมหรอก และคุณก็ยกโทษให้เขาแล้ว”
“ไม่มี!”อู๋ซินซินรีบปฏิเสธ
ไป๋ยี่เฟยอ้าปากพูดว่า”พี่สะใภ้อย่าเพิ่งปฏิเสธ ฉันรู้ว่า การที่เขาตกรางเป็นความผิดของเขา แต่ที่คุณคิดอยู่ในใจนั้น คือไม่อยากเป็นภาระให้เขา คุณว่าฉันพูดถูกไหม?”
“การตกราง ให้เหตุผลเพียงพอกับเธอในการหย่าร้าง แต่ตามจริง พวกคุณทรมานซึ่งกันและกันอยู่”
“เขาเคยพูดกับฉัน เขาเสียใจภายหลังมาก ทีหลังจะไม่ทำอีก เขาอยากจะดูแลคุณ”
“พวกคุณยังใส่ใจฝ่ายตรงข้ามอยู่ ทำไมต้องทำให้ทรมานเช่นนี้ล่ะ?อยู่ด้วยกันใหม่ ไม่ดีหรือ?”
อู๋ซินซินบีบฝ่ามือของตัวเอง พูดอย่างเย็นชา”หย่าร้างแล้วก็คือหย่าร้างแล้ว คุณไม่ต้องโน้มน้าวใจอีกเลย”
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกหมดแรง ในที่สุดถอนหายใจออกมา”พี่สะใภ้ คุณรู้ว่าช่วงนี้เขาทำอะไรอยู่ไหม?”
“เขาสะสมเงินอยู่ตลอด สะสมเงินเพื่อให้คุณทำการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา ”
“คุณก็รู้ว่า เงินบางอย่างได้มาง่ายๆ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มีความเสี่ยง และอาจต้องเอาชีวิตของตัวเองเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนด้วย!”
เมื่อได้ยินที่นี่ อู๋ซินซินใจเย็นไม่ได้อีกแล้ว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรีบร้อน”เขา……เกิดอุบัติเหตุหรือ?”
“ไม่”ไป๋ยี่เฟยตอบ”ตอนนี้เขาใกล้จะสะสมเงินพอแล้ว”
อู๋ซินซินอดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากไว้ เธอกลัวว่าตัวเองจะร้องไห้ออกมา
“ดังนั้น พี่สะใภ้ คุณยังใส่ใจเขาอยู่ ใช่ไหม?”จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็ถามขึ้นมา
อู๋ซินซินนิ่งอึ้ง เก็บอารมณ์ของตัวเองกลับมา ตอบอย่างเย็นชา”ไม่ใส่ใจ”
ไป๋ยี่เฟยเห็นแล้วขมวดคิ้ว”โอเค ฉันรู้แล้ว”
“ฉันจะไม่มาหาคุณอีกแล้ว แยกกันก็แยกแล้ว!คุณพูดถูกแล้ว หย่ากันแล้วก็ไม่จำเป็นต้องคบกันใหม่เลย”
“ยังไงคุณก็ไม่ใส่ใจเขา เขาเสียใจหรือเปล่าก็ไม่เป็นไร ตายหรือเปล่าก็ไม่เป็นไร เงินที่สะสมพวกนั้นก็สามารถนำมาใช้จ่ายในวัยชราได้”
“คุณอู๋ ลาก่อน”
พอพูดเสร็จ ไป๋ยี่เฟยก็ลุกขึ้นจากไปโดยตรง
อู๋ซินซินอึ้งไว้ เธออยากจะไปจับไป๋ยี่เฟยโดยจิตสำนึก แต่เธอมองไม่เห็น ยังไปโดนแก้วน้ำจนหก น้ำชาไหลลงมาตามโต๊ะ หล่นลงสู่พื้นและเสื้อผ้าของเธอ
เจ้าของร้านน้ำชาเห็นเช่นนี้อยากจะไปช่วย แต่ถูกไป๋ยี่เฟยที่เดินกลับมาห้ามไว้ และส่ายหน้าต่อเขา และยังจ่ายเงินให้
เจ้าของร้านเห็นเช่นนี้ก็ไม่ไปพูดอะไร เดินจากไปด้วยรอยยิ้ม
ไป๋ยี่เฟยก็ยืนอยู่ในที่ไม่ไกล มองดูอู๋ซินซินที่อยู่ในหัวมุม
อู๋ซินซินนั่งอยู่ตรงนั้น รู้สึกว่าหมดแรงทั้งตัว ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไร?
เสียงพูดคุยในรอบข้าง และเสียงการขับผ่านของรถบนถนน เสียงทุกอย่างผสมเข้ากัน ทำให้อู๋ซินซินรู้สึกว่า เธอเหมือนเข้ากันไม่ได้ เธอถูกทอดทิ้งแล้ว
ตามองไม่เห็น นี่เป็นสิ่งที่เธอกลัวที่สุด แม้ว่ามีเสียงอยู่ แต่ต่อหน้าเธอยังคงเต็มไปด้วยความมืด เป็นความมืดตลอด
อู๋ซินซินนึกถึงจางหัวปิน น้ำตาไหลลงมาอย่างไร้เสียง จางหัวปินเป็นแสงของเธอ แต่เธอกลับปิดบังแสงนี้ไว้นอกประตูด้วยตัวเอง
“วูวู……”
เมื่อเห็นอู๋ซินซินที่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้าอย่างจนปัญญา โทรไปให้จางหัวปิน และส่งที่อยู่ให้เช่า จากนั้นจึงจากไป
……
ไป๋ยี่เฟยเดินกลับไป ตามจริงแล้วระยะห่างระหว่างที่จอดรถและร้านน้ำชาก็ไม่ใช่ว่าไกล ประมาณหนึ่งร้อยเมตรกว่า
พอไป๋ยี่เฟยเดินมา ได้เห็นว่ามีหลายคนล้อมรอบอยู่รอบรถ ซูต้าหลิวก็เดินออกมา เหมือนกำลังโต้เถียงกับใครอยู่
หลังจากเดินมาใกล้แล้ว ไป๋ยี่เฟยได้ยินเสียงที่หยิ่งมากของซูต้าหลิว”กูยังไม่ได้ให้แกจ่ายค่าเสียหายเลย?แกยังให้กูจ่ายอีก?แกนึกว่าแกเป็นใครหรือ?”
เวลานี้ มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา”ถ้าไม่ใช่ว่าแกจอดรถอยู่หน้าฉัน รถของฉันจะมีรอยขีดข่วนหรือ?นี่เป็นความรับผิดชอบของแก แกต้องจ่ายค่าเสียหาย!”
“เฮ้ วันนี้กูจะให้แกรู้ว่า ใครควรที่จะจ่าย!”ซูต้าหลิวพับแขนเสื้อขึ้น ทำตัวเหมือนกับว่าจะต่อสู้
คนนั้นก็ไม่อ่อนให้”แกมาสิ?อยากจะต่อยคนใช่ป่ะ?