ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 418
บทที่ 418
ไป๋หู่รับรู้ความหมายทันที ลุกขึ้นมาจะไปชนผู้หญิงคนนั้น
แต่ยังไม่ทันรอให้เขาวิ่งไป ไป๋ยี่เฟยก็ถูกผู้หญิงคนนั้นสะบัดออกทันทีและบินออกไปอีกครั้ง
ไป๋ยี่เฟยตกใจมาก ครั้งก่อนที่เหมือนหลี่ป้า เขาจับล้อมรอบหลี่ป้าไว้ยังไม่ได้ถูกสะบัดออก แต่พอถึงผู้หญิงคนนี้ แค่สะบัดเล็กน้อย ก็ถูกสะบัดออก แถมยังถูกสะบัดจนบินออกไป
แรงแบบนี้ มันเกินความคาดเดาของไป๋ยี่เฟยแล้ว
ไป๋ยี่เฟยลุกขึ้นมาอย่างดื้อดึง แต่เขาไม่ได้วิ่งขึ้นไปรับความเจ็บปวดแล้ว ใจเย็นลงมา”คุณมาฆ่าฉันหรือ?”
“ยังต้องถามอีกหรือ!”ผู้หญิงตอบ
“แล้วทำไมคุณไม่ฆ่าฉันล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยนึกถึงผู้หญิงคนนี้เก่งขนาดนั้น เขากับไป๋หู่ชนะไม่ได้อยู่แล้ว เธอเพียงต้องใช้กระบวนท่าเดียว ก็สามารถฆ่าพวกเขาได้ แต่ตอนนี้ นอกจากตบ เตะ และสะบัดพวกเขาแล้ว ไม่ได้ฆ่าพวกเขาเลย
“คุณไม่ได้มาฆ่าฉันหรอ”ไป๋ยี่เฟยใช้เสียงที่แน่วแน่พูด”ดังนั้น คุณมาหาฉันโดยเฉพาะ คือจะให้ฉันทำอะไรหรือ?”
ผู้หญิงมองไปดูไป๋ยี่เฟยตาหนึ่ง”ก็ไม่ใช่ว่าโง่มาก”
“คุณมีความสัมพันธ์อะไรกับเหลียงยู่?”ไป๋ยี่เฟยถามออกมาโดยตรง แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มาฆ่าเขา แต่ในสถานที่นี้ ถ้าบอกว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหลียงยู่ เขาไม่เชื่อหรอก
ผู้หญิงไม่ได้ตอบคำถามของเขา กลับได้มาถึงต่อหน้าไป๋ยี่เฟยอย่างเร็ว
ไป๋ยี่เฟยตกใจมาก อยากจะหลบหลีก แต่เสียดาย หลบหลีกไม่ทัน
ครั้งนี้ ผู้หญิงไม่ได้ตบจนเขาบินไป แค่ใช้มีดในมือก็เคาะจนไป๋ยี่เฟยสลบ
ไป๋หู่วิ่งมา มองดูผู้หญิงคนนี้อย่างระมัดระวัง
ผู้หญิงมองไปดูไป๋ยี่เฟยตาหนึ่ง และก็มองไปดูไป๋ยี่เฟยอีก”ฉันยืมเขามาใช้เดือนหนึ่ง เดือนหนึ่งผ่านไปเขาก็จะกลับมา”
“คุณเป็นใคร?อยากจะทำอะไร?”ไป๋หู่ถาม
ผู้หญิงไม่ตอบ เพียงพูดว่า”ยังไงก็มีผลประโยชน์ต่อเขา ไม่มีผลเสียหรอก”
พูดเสร็จ ไม่สนใจไป๋หู่ มือข้างหนึ่งยกไป๋ยี่เฟยขึ้นมาราวกับยกเด็ก แถมยังไปได้อย่างสบายมาก
……
ตอนกลางคืน หลี่เสว่ไม่เห็นไป๋ยี่เฟยกลับมา ตอนแรกยังนึกว่ายุ่งงานอยู่ไม่ได้สนใจ แต่รอจนกว่าสิบโมงกว่ายังไม่กลับมา นี่ถึงเป็นห่วงขึ้นมา
หรือว่าศัตรูคนไหนมาหาไป๋ยี่เฟยแก้แค้นอีกหรือ?ไป๋ยี่เฟยจะมีอันตรายหรือเปล่า?
หลี่เสว่รีบโทรให้ไป๋ยี่เฟย
“ขอโทษค่ะ ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก……”
หลี่เสว่ใจเต้นขึ้นมา เกิดความรู้สึกที่ไม่ดี
ในเวลานี้ ไป๋หู่โทรเข้า
“ไป๋ยี่เฟยมีเรื่องต้องไปจัดการ อีกหนึ่งเดือนกลับมา”
“เรื่องอะไร แม้กระทั่งโทรศัพท์ยังใช้ไม่ได้หรือ?”หลี่เสว่รีบถาม
ไป๋หู่ก็ไม่รู้จะพูดยังไง เพียงพูดว่า”เขาไม่มีอันตราย แต่ไม่สะดวกใช้โทรศัพท์”
พูดเสร็จ ไป๋หู่ก็วางสายโดยตรง
หลี่เสว่นั่งอยู่บนเตียง มองดูโทรศัพท์อย่างมึนงง ใจเต้นแรงมาก ตกลงนี่หมายความว่าอย่างไร?มีเรื่องอะไรไม่สะดวกติดต่อทางโทรศัพท์?หรือได้ไปสถานที่ที่ไม่มีสัญญาณหรือ?
แต่ไปสถานที่ที่ไม่มีสัญญาณทำไม?แถมยังไปอย่างกะทันหัน?
นึกไม่ออก หลี่เสว่เลยนอนไม่หลับ
เวลานี้ หลงหลิงหลิงโทรมา
“ท่านประธานบอกว่าจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว พรุ่งนี้คุณก็สามารถไปทำงานที่ฝูรุ่ยจิวเวลรี่ได้แล้ว ที่อยู่บริษัทฉันส่งไปให้บริษัทของคุณแล้ว”
“โอเค ขอบคุณ……”หลี่เสว่วางสายอย่างใจลอย บัดนี้ เธอไม่ได้รู้สึกถึงความดีใจเพราะความฝันเป็นจริง กลับเป็นห่วงไป๋ยี่เฟยมากกว่า
โชคดีที่ไป๋หู่บอกว่าไป๋ยี่เฟยไม่มีอันตราย ถึงทำให้เธอไม่ค่อยเป็นห่วงมากนัก
……
เช้าวันรุ่งขึ้น หลี่เสว่ไปที่บริษัทฝูรุ่ยจิวเวลรี่อย่างหนักอกหนักใจ
เมื่อวานหลงหลิงหลิงบอกแล้ว เธอเป็นตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ เนื่องจากผู้จัดการคนเก่งโฉดโกงในหน้าที่ถูกไล่ออก พอดีว่าเธอไปแทนที่ได้เลย
และเธอก็ได้ดูข้อมูลของบริษัทที่ไป๋ยี่เฟยส่งให้เธอ รู้คร่าวๆเกี่ยวกับบริษัท เพื่อไม่ให้หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วไม่รู้เรื่องสักอย่าง
วันนี้เป็นวันแรก ในขณะเดียวกัน ก็ต้องเปิดการประชุมของฝ่ายบริหาร เนื่องจากเปลี่ยนผู้จัดการใหญ่ ดังนั้นต้องแจ้งไปยังผู้บริหารของแต่ละแผนก นี่เป็นขั้นตอนที่ต้องทำ
วันนี้หลี่เสว่ใส่ชุดสูทสีเบจ ผิวกายที่ขาวอยู่แล้ว ถูกสีเบจทำให้ดูขาวกว่าเดิม รวมไปถึงหน้าตาที่สวยอยู่แล้ว ทำให้ทุกคนต่างหันไปมองหลี่เสว่
หลี่เสว่คุ้นเคยกับสายตาแบบนี้แล้ว และในใจก็มีเรื่องคิดอยู่ ไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องพวกนี้
มาถึงข้างลิฟท์ รอลิฟท์พร้อมกับพนักงานหลายคน
ฝูรุ่ยจิวเวลรี่ไม่ค่อยใหญ่ บริษัทรับผิดชอบการขายอัญมณีเป็นหลัก แน่นอนว่าบริษัทก็มีนักออกแบบของบริษัทเองมาออกแบบเครื่องประดับต่างๆ สิ่งเดียวที่บกพร่องก็คือบริษัทไม่มีโรงงานของตัวเอง
ดังนั้นเครื่องประดับที่ออกแบบออกมา ตอนที่ผลิตล้วนต้องจ้างให้โรงงานอื่นไปทำ
บริษัทครอบคลุมพื้นที่สองชั้น ชั้นหนึ่งเป็นห้องทำงานของผู้บริหารเป็นหลัก ส่วนชั้นที่เหลือเป็นแผนกพื้นฐานและพนักงานบางส่วน
“ดิง……”
ลิฟท์มาแล้ว หลี่เสว่เดินเข้าไปตามฝูงคน
ตอนเช้าคนเยอะมาก ลิฟท์ค่อนข้างจะแน่น นี้ทำให้หลี่เสว่ไม่ค่อยสบายใจ เธอไม่ค่อยอยากจะมีการสัมผัสทางร่างกายกับคนแปลกหน้า แต่ในสถานการณ์แบบนี้ มันก็หลบหลีกไม่ได้
หลี่เสว่มีแต่ต้องยืนอยู่ในมุม
กว่าจะรอคนออกไปบางส่วนแล้ว หลี่เสว่ถึงถอนหายใจออกมา
เวลานี้ ข้างๆหลี่เสว่มีผู้ชายวัยกลางคนที่ใส่ชุดสูทคนหนึ่ง ไรผมสูงไปหน่อย หน้าผากจึงดูสว่างเป็นพิเศษ และยังมีแสงสะท้อนกลับบ้าง
“สาวสวย ฉันดูว่าคุณก็ไปชั้น16 คือไปรายงานตัวที่บริษัทฝูรุ่ยของเราใช่ไหม”ผู้ชายถามด้วยรอยยิ้ม
หลี่เสว่อึ้งสักพัก จากนั้นรู้สึกตัวขึ้นมาทันที พยักหน้า”ถือว่าใช่……”
ผู้ชายยิ้มอีกครั้ง”สาวสวยสวยขนาดนี้ เป็นพนักงานขอฝ่ายการขายของเราใช่ไหม?สวัสดี ฉันชื่อหวังเทา ผู้จัดการฝ่ายการขาย และก็เป็นรองผู้จัดการทั่วไปของฝูรุ่ย ยินดีที่ได้รู้จักคุณ”
หลี่เสว่ขมวดคิ้ว รู้สึกว่าการพูดของเขาเหลาะแหละมาก แต่เนื่องด้วยความมารยาท ยังคงเอื้อมมือไปจับกับเขา”สวัสดี ฉันชื่อหลี่เสว่”
“หลี่เสว่……ชื่อนี้น่าฟังหรือเกิน เหมือนกับคุณเลย เหมาะมาก”หวังเทากวาดมองไปที่หลี่เสว่ด้วยรอยยิ้มกริ่ม”วันนี้เป็นวันแรกที่มาบริษัทใช่ไหม?เดี๋ยวไปรายงานตัวที่ฝ่ายบุคคลก่อน กรอกเอกสารเสร็จก็มาหาฉันที่ห้องทำงาน ฉันจะวางแผนงานให้คุณ”
ในมุมมองของหวังเทา คนที่สวยอย่างกับหลี่เสว่ ต้องเป็นพนักงานขายแน่นอน และเมื่อกี้หลี่เสว่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ดังนั้นยิ่งแน่ใจว่าหลี่เสว่เป็นของฝ่ายพวกเขา
เมื่อนึกถึงในฝ่ายของเขามีผู้หญิงที่สวยเช่นนี้ หวังเทาดีใจมาก ครั้งนี้ฝ่ายบุคคลทำได้ดีมาก สมัครสาวสวยเช่นนี้เข้ามา
และเขาก็มองข้ามไปสิ่งหนึ่ง หลี่เสว่ไปชั้นเดียวกับเขา ชั้นนั้นเป็นชั้นที่ผู้บริหารระดับสูงถึงไปได้ แน่นอนว่า หวังเทาเองก็คิดเหตุผลได้แล้ว
วันแรกที่มารายงาน แน่นอนต้องไปฝ่ายบุคคลไง ผู้จัดการของฝ่ายบุคคลก็อยู่ในชั้นเดียวกัน ไม่มีปัญหา
“เอ๊ะ ฉันนี่ก็เป็นผู้จัดการที่ใจดี ถ้าคุณรู้สึกว่าเป็นพนักงานขายมันลำบาก ตามจริงแล้วฉันสามารถให้งานที่สบายๆหน่อยแก่คุณ”
หลี่เสว่เงยหน้าขึ้นมามองเขา รู้สึกรังเกียจขึ้นมาในใจ”ขอบคุณ ไม่ต้องกัน”
ไม่ต้องการจริงๆ เธอถือเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทฝูรุ่ย เธอถึงเป็นคนที่จัดตำแหน่งให้คนอื่น
หวังเทาไม่สนใจสีหน้าของหลี่เสว่ พูดต่อว่า”เฮ้ อย่าเพิ่งพูดเช่นนี้สิ และฉันก็รู้สึกว่า คนที่สวยอย่างคุณ ก็ควรที่จะทำงานที่มันสบายๆ ถูกผู้ชายปรนเปรอไว้ก็พอแล้ว คุณว่าใช่ไหม?”