ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 419
บทที่ 419
คำพูดนี้ทำให้หลี่เสว่ขยะแขยงอย่างสิ้นเชิง หลี่เสว่ก็รู้ความหมายในคำพูดของหวังเทา รังเกียจขึ้นมายิ่งกว่าเดิม ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกว่าตัวเองควรทำความเข้าใจกับบริษัทนี้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้นำระดับสูงพวกนั้น
สิ่งที่หลี่เสว่ไม่ชอบที่สุดก็คือ คนที่มีฐานะเป็นผู้นำใช้กติกาซ่อนเร้นไปรังแกพนักงานใต้บังคับบัญชา คนแบบนี้น่าเกลียดชังที่สุด!
หลี่เสว่หันหัวไปไม่ไปสนใจหวังเทา และพอดีว่า ลิฟท์ก็ถึงแล้ว
หลังจากออกจากลิฟท์ หวังเทายังนำทางให้หลี่เสว่โดยเฉพาะ”ที่นี่เป็นฝ่ายบุคคล เข้าไปรายงานตัวเสร็จมาหาฉันนะ ฉันอยู่ข้างๆพอดี ถึงเวลาเรามาคุยเรื่องงานกันดีๆนะ”
หลี่เสว่ได้เห็นห้องทำงานของฝ่ายบุคคลก็เดินเข้าไปโดยตรง ไม่ได้สนใจหวังเทา
หวังเทาก็ไม่ได้ซีเรียส รู้สึกว่าหญิงสาวที่สวยเช่นนี้ ต้องมีนิสัยเฉพาะตัว ถึงจะดี
หลี่เสว่มาถึงฝ่ายบุคคล หลังจากเข้าไปแล้วก็ได้เห็นผู้ชายวัยกลางคนอายุประมาณ50กว่า ถามอย่างมีมารยาท”สวัสดี ขอถามหน่อย คุณเป็นผู้จัดการของฝ่ายบุคคลหนิวจินหรือเปล่าคะ?ฉันชื่อหลี่เสว่”
แค่คำพูดเดียว หนิวจินก็รู้ฐานะของหลี่เสว่ทันที”ผู้จัดการใหญ่ คุณมาแล้วนี่นา!”
หนิวจินรู้จักหลี่เสว่ เพราะว่าหนิวจินไม่ใช่ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเดิมของฝูรุ่ย เป็นผู้บริหารระดับสูงของโหวจวี๋กรุ๊ป เขาก็ได้รับคำสั่งเมื่อวานให้มารับตำแหน่งที่นี่
ตอนนั้นเขากลัวมาก เพราะว่าการที่มาเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลของบริษัทเล็กๆ เทียบกับการเป็นผู้บริหารระดับสูงของโหวจวี๋กรุ๊ปไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจว่าตัวเองถูกโยกย้ายมาที่นี่เพราะเหตุใด
โชคดีที่หลงหลิงหลิงบอกว่า ภรรยาของท่านประธานจะมาบริหารบริษัทนี้ ให้เขามาช่วยคุณนาย
หนิวจินหลังจากรู้เรื่องนี้แล้วดีใจมาก นี่เป็นโอกาสที่ดี ขอให้แค่เขาเอาใจคุณนายได้ แล้วคุณนายไปชื่นชมเขาต่อหน้าประธาน งั้นอนาคตของตัวเองก็จะแจ่มใสเลยใช่ไหมล่ะ?
“ผู้จัดการ รับเชิญนั่งเถอะ”หนิวจินให้หลี่เสว่นั่งลง
หลี่เสว่ส่ายมือ”ไม่ต้องแล้ว พาฉันไปที่ห้องทำงานของฉันก่อน!”
“ครับๆๆ”หนิวจินรีบตอบรับ พาหลี่เสว่เดินไปข้างนอก
หวังเทาได้ไปห้องทำงานของเขาเองแล้ว ไม่ได้อยู่ข้างนอก
ห้องทำงานของหลี่เสว่อยู่ข้างในสุด นอกจากสิ่งที่ควรมีขั้นพื้นฐานแล้ว เมื่อวานที่ตกแต่งห้องทำงานยังให้คนเตรียมอุปกรณ์และเอกสารเกี่ยวกับอัญมณี สะดวกต่อการเรียนรู้ของหลี่เสว่
เดินเข้าไปในห้องทำงาน หนิวจินรีบพูดด้วยยิ้มกริ่ม”ห้องทำงานนี้ คือเมื่อวานประธานให้คนมาตกแต่งใหม่อย่างรีบ ผู้จัดการคุณดูว่ายังมีอะไรต้องแก้ไขหรือเปล่าครับ?”
หลี่เสว่ได้ยินเช่นนี้อึ้งไปสักพัก มองดูรอบข้าง สิ่งที่เห็นล้วนเต็มไปด้วยน้ำใจของไป๋ยี่เหย รู้ว่าเธออยากจะเรียนการออกแบบเครื่องประดับ ดังนั้นวางหนังสือมากมายให้เธอโดยเพจ และยังมีอุปกรณ์ที่ครบชุด แม้กระทั่งยังมีโต๊ะที่ใช้ในการวาดภาพออกแบบโดยเฉพาะ
“ดีมาก ก็อย่างนี้ละกัน!”หลี่เสว่เก็บความคิดกลับมา วางกระเป๋าของตัวเองลง และพูดกับหนิวจินว่า”ไปเตรียมการประชุมของวันนี้เถอะ!”
……
ในภูเขาที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ไป๋ยี่เฟยกว่าจะตื่นมา
หลังจากไป๋ยี่เฟยลืมตาแล้ว สิ่งที่เห็นเป็นเพดานบ้าน ไม่ พูดอย่างชัดเจน เป็นแค่หลังคา และยังเป็นหลังคาไม้
นั่งขึ้นมามอง ไป๋ยี่เฟยพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงไม้เตียงหนึ่ง ในที่ไม่ไกลมีโต๊ะไม้โต๊ะหนึ่ง และยังมีเก้าอี้ไม้ทรงกลมสองอัน ดูเหมือนว่าใช้มานานและ
รอบๆบ้านก็เป็นไม้ ไป๋ยี่เฟยถึงรู้ว่า เขาอยู่ในบ้านไม้ห้องหนึ่ง
แต่ว่า ที่นี่เป็นที่ไหน?
ทันใดนั้น ไป๋ยี่เฟยก็นึกถึงฉากของเมื่อวาน และยังมีผู้หญิงที่ทรงพลังคนนั้น
ไป๋ยี่เฟยเปิดผ้าห่มออกอยากจะลงเตียง จากนั้นตามด้วยเสียงกรีดร้อง เกือบจะคุกเข่าลงบนพื้น”โคตรเจ็บเลย!”
เมื่อวานไม่รู้ว่าถูกตบจนบินไปกี่ครั้ง ในสถานการณ์ตอนนั้นก็ไม่รู้สึกว่าเจ็บขนาดไหน แต่พอถึงวันที่สอง ก็เจ็บปวดจนทำให้คนจะบ้าคลั่ง
คนข้างนอกได้ยินการเคลื่อนไหวของข้างใน รีบเปิดประตูเข้ามา
“เหลียงยู่?”
กว่าที่ไป๋ยี่เฟยจะสามารถนั่งอยู่บนเตียงได้ หลังจากเห็นเหลียงยู่เข้ามาแล้วรู้สึกแปลกใจ ในขณะเดียวกันก็รู้เรื่องบางอย่าง อย่างที่คิด ผู้หญิงคนนั้นรู้จักกับเหลียงยู่จริงด้วย
เหลียงยู่ได้ถอดชุดตำรวจแล้ว เปลี่ยนเป็นเสื้อสเวตเตอร์และเสื้อกันลมธรรมดา
เหลียงยู่นั่งอยู่ข้างโต๊ะไม้ เทน้ำแก้วหนึ่งให้ตัวเอง
“ขึ้นมาแล้วก็ไปอาบน้ำแต่งตัว อาบน้ำแต่งตัวเสร็จกินข้าวเสร็จ แล้วเราก็เริ่มฝึกฝนกัน”
ทันใดนั้นสมองของไป่ยี่เฟยก็ไม่ทำงาน คำพูดนี้ขอให้เป็นคนล้วนฟังได้อย่างชัดเจน แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ไป๋ยี่เฟยฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ
“อะไรเนี่ย?”
เหลียงยู่เห็นเช่นนี้หัวเราะออกมา”ฮ่าๆ……”
ไป๋ยี่เฟยจ้องไปที่เหลียงยู่ ถามว่า”บอกฉันได้ไหมว่านี่เป็นสถานการณ์อะไร?”
เขารู้แต่ว่าเมื่อวานตัวเองถูกผู้หญิงคนนั้นตบจนสลบไป หลังจากตื่นมาแล้วก็ปรากฏตัวในบ้านไม้ จากนั้นได้เห็นเหลียงยู่ เหลียงยู่บอกว่าจะฝึกฝน เขาไม่รู้ความหมายเลย
แต่หลังจากเชื่อมโยงกันขึ้นมา ไป๋ยี่เฟยเดาว่าเมื่อวานนี้เจตนาที่จะแสดงเรื่องนี้ขึ้นมา เป้าหมายก็คือให้เขาสามารถมาที่นี่ได้
ต้องบอกว่า ไป๋ยี่เฟยเดาได้ถูกต้อง
เหลียงยู่เก็บรอยยิ้มกลับมา”ที่นี่เป็นภูเขาเล็กๆในเมืองเทียนเป่ย เราอยู่ในภูเขา ไม่มีสัญญาณ คุณก็ไม่ต้องคิดจะโทรออกไป”
“จากนั้น คุณต้องอยู่ที่นี่เป็นเวลา1เดือน เพื่อรับการฝึกฝนอบรมจากฉันและอาจารย์”
“หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไป คุณก็กลับไปได้แล้ว”
ไป๋ยี่เฟยเต็มไปด้วยความมึนงง
“ทำไมฉันต้องรีบการฝึกอบรมจากพวกคุณล่ะ?แล้วอาจารย์ของคุณคือใคร?ผู้หญิงคนเมื่อวาน?”
เหลียงยู่จ้องมองไป๋ยี่เฟย”ห้ามไม่เคารพต่ออาจารย์”
“และคุณก็ต้องเรียกอาจารย์แล้ว เอ๊ะ ฉันเป็นรุ่นพี่ของคุณนะ”
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยรู้คร่าวๆแล้ว แต่รู้สึกโกรธมาก ทำไมพวกเธอบอกว่าต้องฝึกฝน เขาก็ต้องฝึกฝนล่ะ แถมยังทำจนเขาสลบก่อนค่อยมาพูดเรื่องนี้
นี่ทำให้เขาไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง
“ฉันไม่ต้องการฝึกฝน ฉันจะกลับบ้าน”ไป๋ยี่เฟยพูดย่างเย็นชา
เหลียงยู่เห็นเช่นนี้ก็หัวเราะเยาะออกมา”คุณนึกว่าฉันเต็มใจสอนหรือ!ถ้าหากไม่ใช่อาจารย์ให้ฉันมาฝึกฝน ฉันก็ขี้เกียจเสียเวลากับคุณที่นี่หรอก!”
ไป๋ยี่เฟยตอบอย่างราบเรียบ”ฉันไม่ต้องการอาจารย์ ฉันบอกแล้ว ฉันจะกลับบ้าน”
พอพูดเสร็จ ไป๋ยี่เฟยก็ลุกขึ้นมาโดยตรง ทนความเจ็บบนร่างกาย และเดินออกจากบ้านไม้
เหลียงยู่ก็ไม่ห้าม ก็นั่งอยู่อย่างนั้น
หลังจากเดินออกไปแล้ว ไป๋ยี่เฟยมึนงงไปเสียก่อน มีต้นไม้สูงตระหง่านอยู่เต็มไปหมด และมีดินชื้นและหญ้าอยู่ใต้เท้า เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไป สามารถเห็นแต่ท้องฟ้าชิ้นเล็กๆ
แม่ง!นี้เป็นป่าที่ไหนวะ?เขาจะออกไปได้ยังไงเนี่ย?
“ไปฉันออกไป”ไป๋ยี่เฟยมีแต่ต้องกลับไปพูดกับเหลียงยู่
เหลียงยู่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสบายๆ”บอกแล้วว่าต้องอยู่ครบ1เดือนถึงออกไปได้ไง”
ไป๋ยี่เฟยเห็นเช่นนี้ก็ขมวดคิ้ว มีแต่ต้องนั่งอยู่ตรงข้ามของเหลียงยู่ พูดอย่างตั้งใจ”ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณอยากทำอะไร แต่ว่า ฉันไม่ใช่คนที่ถูกคนจูงจมูกได้ ฉันจะกลับไป”
เหลียงยู่เอ่ยเสียงเย็นชาออกมา”แล้วฉันเป็นคนที่ถูกคนจูงจมูกได้ง่ายๆหรือ?”
“เออ……”ไป๋ยี่เฟยอึ้งเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเหลียงยู่
เหลียงยู่พูดโดยตรง”ฉันรู้ว่าคุณใช้ฉันอยู่ ใช้ฉันเพื่อมาคุกคามพ่อของฉัน”
ไป๋ยี่เฟยเงียบขรึม และยังมีความละอายใจ แต่เขาไม่เสียใจภายหลัง ถ้ามาอีกครั้ง เขาก็จะทำแบบนี้เช่นกัน
เหลียงยู่เอ่ยเสียงเย็นชาออกมา”ถ้าหากไม่ใช่เป็นอาจารย์มาบอกฉัน ฉันจะไม่รู้ แต่นี่ก็เปลี่ยนเป็นความจริงที่คุณมาหลอกใช้ฉันไม่ได้”
“ดังนั้น ตอนกลางวันเลี้ยงคุณกินข้าว ขอบใจที่คุณช่วยฉัน”ไป๋ยี่เฟยตอบ
เหลียงยู่ทำตาขาวใส่”ยังไม่พอ ยังต้องเลี้ยงอีกมื้อหนึ่ง แต่ว่าต้องรออีกหนึ่งเดือนออกไปแล้วค่อยว่ากัน”
ไป๋ยี่เฟยปวดหัวมาก”ฉันบอกแล้วว่า ฉันไม่ต้องการฝึกฝนใดๆ ฉันอยากจะกลับไป ภรรยาฉันยังรอฉันอยู่เลย!”
พูดถึงสิ่งนี้ไป๋ยี่เฟยก็เป็นห่วงมาก เมื่อวานเขาไม่ได้กลับไปทั้งคืน โทรศัพท์ก็ไม่อยู่ โทรก็โทรไม่ติด หลี่เสว่ต้องรีบร้อนแน่นอน