ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 436
บทที่ 436
หลังจากไป๋ยี่เฟยพุ่งออกไป ขวางอยู่หน้าประตูเลย
ในเวลานี้ มีคนคนหนึ่งเอารูปถ่ายส่งมาใบหนึ่ง “มึงคือไป๋ยี่เฟยหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยที่อยู่บนรูปถ่ายขาวกว่าไป๋ยี่เฟยในตอนนี้หน่อย ทันทีที่เห็น ไม่ค่อยเหมือนกันเล็กน้อย
ไป๋ยี่เฟยรู้มาก่อนแล้วว่าพวกเขาจะมาหาตนเอง ยอมรับโดยตรง “เป็นผม”
พูดจบ คนคนนั้นก็เลยพูดว่า “ก็คือเขา ตีเลย!”
ส่วนไป๋ยี่เฟยสายตาหนาวเหน็บทันที พุ่งออกไปอย่างอัตโนมัติ
ผ่านการอบรมหนึ่งเดือน ไป๋ยี่เฟยกลับเนื้อกลับตัวใหม่มานานแล้ว เผชิญหน้ากับสิบกว่าคนนี้ จัดการพวกเขาง่ายดายจริงๆ เลย
เพียงเห็นคนที่พุ่งอยู่ข้างหน้าสุดคนนั้นโยนไม้เข้ามา หัวไป๋ยี่เฟยหลบพ้น กระโดดขึ้นมา เท้าขวาเตะออกไป เตะคนลอยไปโดยตรง เพราะว่าข้างหลังมีคน กายของเขาล้มลงไปพร้อมกับหลายคนที่อยู่ข้างหลังด้วย
หลังจากไป๋ยี่เฟยล้มลงพื้นเก็บไม้ที่ตกอยู่พื้นขึ้นมา ยกมือขึ้น ขวางไม้ที่กำลังจะตกอยู่บนกายของเขาไว้ ในเวลาเดียวกัน ยกเท้าอีกข้าง เตะคนลอยไป
คนที่เหลือพุ่งเข้ามาพร้อมกัน ไป๋ยี่เฟยหมุนตัวเกาะคนหนึ่งไว้ จากนั้นพาร่างกายของเขาหมุนอย่างรุนแรง ผลักคนที่อยู่รอบๆออกไป อาศัยร่างกายของคนนั้นกระโดดลอยขึ้นไปอีกทีเตะคนที่ใกล้ตัวเองลอยไปด้วย
หลังจากไปมาหลายครั้งเสื้อดำสิบกว่าคนโดนไป๋ยี่เฟยตบตีจนหมอบอยู่บนพื้นลุกขึ้นมาไม่ได้
ไป๋ยี่เฟยหาเจอคนที่เป็นหัวหน้าคนนั้น เอาเท้าขึ้นไปเหยียบ “เถ้าแก่ของมึงเป็นใครหรือ?”
คนนั้นปากแข็ง และปากสกปรกด้วย “ถุ่ย กูจะไม่บอกมึงอยู่แล้ว มึงไอ้เหี้ย ฆาตกรคนหนึ่ง!”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดหลับตาลงเล็กน้อย หัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง “ฆาตกรหรือ?”
“ดูแล้วเป็นคนที่รู้ว่าผมฆ่าฉุงโยวเวยหรือ?”
“ตระกูลฉุงหรือ? ตระกูลเย่หรือ?”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย น่าจะล้วนไม่ใช่จึงจะถูก ตระกูลฉุงกับตระกูลเย่ตอนนี้ไม่กล้าเตะต้องเขาอย่างเด็ดขาด นอกจากว่าพวกเขาอยากจะโดนสหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงกดขี่
งั้นจะเป็นใครหรือ?
อีกทั้งพวกเขารู้เบาะแสของเขาได้ยังไงหรือ?
“ฆ่าคนชดใช้ด้วยชีวิต! ถุ่ย! มึงรอก่อนเถอะ ยังมีคนจะมาฆ่ามึงอยู่!” คนคนนั้นทั้งด่าทั้งบ่นอีกหนึ่งที
ไป๋ยี่เฟยเหยียบอย่างรุนแรง ถามอีกครั้งว่า “เถ้าแก่ของพวกมึงเป็นใครหรือ?”
“ถ้าไม่พูดตอนนี้กูก็จะฆ่ามึงเลย! ยังไงคนที่กูฆ่ามาก็ไม่น้อยแล้ว!” ไม่ว่าปากแข็งขนาดไหน ยังมีคนที่ไม่กลัวตายหรือ?
คนคนนั้นได้ยินคำพูดลูกตาหดเล็กน้อย กลัวตายจริงๆ แต่ก็ยังไม่พูด
ไป๋ยี่เฟยค่อยๆนั่งลง จับคอของคนคนนั้นไว้ทันที “พูดหรือไม่พูด?”
ตามด้วยแรงที่เพิ่มขึ้นของไป๋ยี่เฟย คนคนนั้นรู้สึกว่าหายใจไม่ออก ออกซิเจนที่ยิ่งมายิ่งน้อย ทำให้เขาไม่อาจจะไม่ดิ้นรนออกมา แต่น่าเสียดายไป๋ยี่เฟยล็อกเขาไว้อย่างแน่น ไม่ให้เขาขยับได้
คนคนนั้นกลัวแล้วจริงๆ ในที่สุดอยู่ในวินาทีสุดท้าย พูดติดๆขัดๆว่า“ผม……พูด……”
“เถ้าแก่เป็นใครพวกเราไม่รู้จริงๆ เขาให้พวกเรามาฆ่าคุณ สิ่งที่บอกไว้คือฆ่าคนชดใช้ด้วยชีวิต!”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว “เขามาบอกกับพวกคุณด้วยตนเองหรือ?”
“ไม่ใช่ ดูเหมือนเป็นผู้ชายคนหนึ่ง สวมใส่หน้ากากไว้ อย่างอื่นผมไม่รู้แล้ว”
ไป๋ยี่เฟยสายตาเย็นชาจ้องมองเขา นี่พูดแล้วกับไม่ได้พูดต่างกันตรงไหนล่ะ?
คนคนนั้นเห็นแบบนี้คิดว่าไป๋ยี่เฟยก็ยังไม่ยอมปล่อยเขา ก็เลยเอ่ยปากพูดอีกว่า “ยังมีอีก ผู้ชายคนนั้นบอกว่า ให้พวกเราหลังจากฆ่าคุณแล้ว ก็ไปหาเถ้าแก่รายงานผลงาน เถ้าแก่ก็อยู่ในโรงน้ำชาที่อยู่ข้างหน้า”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยทนไม่ได้ต่อยคนคนนั้นหนึ่งหมัด “ไม่พูดก่อนล่ะ!”
“ถอดเสื้อ!”
“อ่า?” คนคนนั้นอึ้งชะงักแล้ว “ถอด……ถอดเสื้อหรือ?”
“อย่าพูดจาไร้สาระ รีบ!” ไป๋ยี่เฟยลงมือโดยตรง คนคนนั้นตกใจจนรีบถอดเสื้อของตนเองออกมา
ไป๋ยี่เฟยเปลี่ยนเสื้อของพวกเขาอย่างรวดเร็ว พูดกับคนที่อยู่บริเวณนั้นว่า “คนที่ไม่อยากตาย ไสหัวออกไปไกลเท่าไรยิ่งดี!”
พูดจบ คนคนนั้นพาลูกน้องทั้งหมดทั้งกลิ้งทั้งคลานขึ้นรถ วิ่งอย่างรวดเร็วเลย
ไป๋ยี่เฟยหมุนตัวไปจ้องมองในร้านจ้องมองแล้วจ้องมองอีก ป้าหวังตกใจจนหลบอยู่ในห้องครัวแล้ว แต่หลิวเสี่ยวอิงยังฝังเข็มให้กับลูกค้าที่โดนยาพิษ กลับไม่ได้สังเกตเห็นเขาเลย
ไป๋ยี่เฟยเดินเข้าไป ยืนอยู่หน้าประตู “เสี่ยวอิง ผมมีเรื่องเล็กน้อยจะต้องไปจัดการ รอผมอยู่ที่นี่”
หลิวเสี่ยวอิงเงยหน้าขึ้น “คุณจะไปไหนหรือ?”
“พบเจอกับเพื่อนสักหน่อย”
หลิวเสี่ยวอิงไม่เชื่อคำพูดของไป๋ยี่เฟยเลย “ฉันจะไปกับคุณด้วย”
“พวกเขาต้องการคุณ” ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างราบเรียบว่า “คนคนนั้นน่าจะกลับมาแล้ว”
หลิวเสี่ยวอิงเบ้ปาก ในเวลานี้เหลือลูกค้าคนหนึ่งยังไม่ได้ฝังเข็ม ไม่มีเธออยู่ คนที่ยังไม่โดนฝังเข็มคนนี้ จะรอไม่ถึงวัยรุ่นเอายาถอนพิษมาช่วยเขาทันอย่างแน่นอน
แต่เธอก็กังวลใจกับไป๋ยี่เฟยอย่างมากเช่น สภาพการณ์ของข้างนอกเมื่อกี้เธอไม่ใช่ไม่ได้สังเกตเห็น เธอเพียงแค่ไม่กล้าไปดูเท่านั้น โชคดี ในหนึ่งเดือนนี้ไป๋ยี่เฟยไม่ได้หายตัวไปเปล่าๆ ล้วนจัดการคนไปหมดเลย
ไป๋ยี่เฟยไม่อยากเสียเวลา หมุนตัวไปเลย
……
ตามคำพูดของคนเมื่อกี้คนนั้นไป๋ยี่เฟยเดินตรงไปเรื่อย เดินไปสิบกว่านาที ก็ได้เห็นโรงน้ำชาแห่งหนึ่งจริงๆ และเปิดอยู่ข้างถนนเช่นกัน ทุรกันดารมาก แต่ว่าบริเวณนั้นก็ยังมีบ้านหลายหลัง ยังมีซุปเปอร์มาเก็ตเล็กๆแห่งหนึ่ง
ในเวลาเดียวกัน ไป๋ยี่เฟยพบเห็นจุดผิดปกติอย่างมากจุดหนึ่ง นั่นก็คือมีรถอเนกประสงค์หรูที่เข้ากันไม่ได้กับที่นี่คันหนึ่งจอดอยู่ข้างถนน
รถอเนกประสงค์แบบนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะปรากฏออกมาอยู่โรงน้ำชาเล็กๆที่ทุรกันดารแบบนี้ ดูตามนี้แล้วคนคนนั้นพูดไม่ผิด เถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขารออยู่ที่นี่
ในเวลานี้ คนที่อยู่ในร้านน้ำชาไม่เยอะ ไม่ น่าจะพูดว่า โรงน้ำชาโดนคนเหมาแล้ว
ในโรงน้ำชามีเพียงแค่คนคนเดียวนั่งอยู่ ยังเป็นสาวน้อยคนหนึ่ง ดูแล้วลักษณะเหมือนสิบเจ็ดสิบแปดปี หน้าตาไม่เลว โครงหน้ากลมเล็กน้อย ดูแล้วน่ารักมาก
หลังจากไป๋ยี่เฟยมองเห็นเธอแปลกใจแล้ว เถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังเป็นสาวน้อยคนนี้หรือ?
ผู้หญิงอายุสิบเจ็ดสิบแปดปีคนหนึ่ง ในใจถึงขนาดเลือดเย็นขนาดนี้ หาคนไปฆ่าคน! นี่เป็นเรื่องที่ผู้หญิงอายุสิบเจ็ดสิบแปดปีคนหนึ่งที่จะทำหรือ?
โอเค นี่ไม่ใช่เป็นจุดสำคัญที่สุด จุดสำคัญที่สุดก็คือ เขาไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้แม้แต่น้อยเลย!
ไม่ถูก ไป๋ยี่เฟยนึกขึ้นมาอย่างฉับพลันในทันที เมื่อกี้คนคนนั้นบอกว่าฆ่าคนชดใช้ด้วยชีวิต คนคนนั้นย่อมต้องมาแก้แค้นเพื่อฉุงโยวเวยอย่างแน่นอน งั้นเธอจะต้องเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับฉุงโยวเวย
ใจของไป๋ยี่เฟยขึงลับฉับพลันในทันที ในชั่วคราวนี้เขายังไม่รู้ว่าคนที่มีความเกี่ยวข้องอยู่ข้างกายฉุงโยวเวยอายุสิบเจ็ดสิบแปดปีจะเป็นใคร แต่ปัจจุบันนี้ดูแล้ว เขาต้องการจัดการกับคนคนนี้สักหน่อย
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยเดินเข้าไป ก้มหัวอยู่ ลักษณะเหมือนดั่งเคารพนบนอบอย่างมาก
“คนหนี้ไปแล้ว” ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างราบเรียบ
หลังจากผู้หญิงฟังแล้ว “แกร๊ก” เสียงหนึ่งวางแก้วน้ำชาที่อยู่ในมือลง “ไอ้เหี้ยที่ไม่เอาไหนกลุ่มหนึ่ง!”
“หวังโหลวมีปัญหาเหมือนอย่างที่คิดจริงๆ ข่าวกรองที่เอามาให้ ไว้ใจไม่ได้สักนิด!”
พูดจบ ตาที่หลับไว้ของไป๋ยี่เฟยเบิกตาโพลงในทันที ในใจสะดุ้งตกใจ
หวังโหลวหรือ?
ในเวลานี้ ไป๋ยี่เฟยรู้สึกถึงการหักหลังและความโมโหที่ล้นฟ้าที่ไม่เคยมีมาก่อน
ในเวลาเดียวกัน เขาคิดออกว่าเรื่องบางเรื่องที่ก่อนหน้านั้นคิดไม่ออก ประเด็นหลักทั้งหมดล้วนอยู่ที่หวังโหลว
ทำได้ดีจริงๆ!
ไป๋ยี่เฟยก้มหัวอยู่ใช้ลิ้นดันแก้มของตนเองดันแล้วดันอีก กดทับไฟโมโหในตอนนี้ไว้
“จะตามไปไหม?” ไป๋ยี่เฟยถามไปคำหนึ่ง
ผู้หญิง ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง “ตามไปทำไม คนวิ่งหนีไปไกลนานแล้ว ตามทันหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยก้มหัวขานรับ ถามว่า “จะต้องฆ่าเขาอย่างเด็ดขาดเลยหรือ?”
“ไม่งั้นล่ะ?” ผู้หญิงจ้องเขม็งที่ไป๋ยี่เฟย “ฮึ ไม่ฆ่าเขา ยากที่จะสลายความแค้นที่อยู่ในใจฉัน”