ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 443
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 443
โรงงานกระดาษร้างแถวชานเมืองใต้
เพราะว่าร้างมาหลายปีแล้ว บริเวณรอบๆ มีแต่หญ้า แล้วก็ยังมีเครื่องจักรที่ถูกทิ้งแล้วก็อุปกรณ์ บนผ้าเต็มไปด้วยฝุ่น และก็ยังมีใยแมงมุม
ในโรงงาน นอกจากฉางเชี่ยว ยังมีฉุงลี่หย่าอีกคน
ฉุงลี่หย่าเป็นสวมชุดออกกำลังกาย ประเด็นคือสะดวกแก่การเคลื่อนไหว แต่ว่าฉางเชี่ยวไม่มีทางให้เธอเข้ามายุ่งแน่ “เดี๋ยวเธอไปหลบอยู่ข้างๆ อย่าให้ไป๋ยี่เฟยเห็นเธอเข้า”
“รู้แล้ว……” ฉุงลี่หย่าเบะปาก “มีพี่ฉางเชี่ยวอยู่ ไม่ต้องให้ฉันร่วมด้วยก็สามารถฆ่าเขาได้แล้ว”
“รู้แล้วก็ดี” ฉางเชี่ยวส่ายหน้า
สืบประวัติมาตั้งเยอะ การกระทำของไป๋ยี่เฟย ส่วนมากเพื่อภรรยาของเขา อย่างน้อยหลายๆ ครั้งที่เกือบตาย ก็เป็นเพราะภรรยาของเขา เพราะงั้นไม่มีทางที่เขาไม่มา
ฉุงลี่หย่าพูดเชอะออกไป ไม่พูดอะไรต่อ
แต่เป็นฉางเชี่ยวที่ได้พูดบ่นออกไป “ไป๋ยี่เฟยมองแล้วเหมือนโง่ แต่เป็นคนตรงๆ คนแบบนี้ มีค่าแก่การเป็นเพื่อน”
“แต่ข้อแม้คือตอนนี้เขาไม่ใช่ศัตรูของเรา”
ฉุงลี่หย่าพยักหน้า “ฉันยังคิดว่าพี่ฉางเชี่ยวจะไม่ถือเรื่องอดีตแล้วเป็นเพื่อนกับเขาซะอีก!”
……
และแล้ว ผ่านไปสิบนาที ไป๋ยี่เฟยก็ยังไม่มา ฉุงลี่หย่ารอจนเริ่มหงุดหงิด “เขาทำไมยังไม่มา?”
ฉางเชี่ยวก็ขมวดคิ้วเหมือนกัน วันนั้นเขาพูดไปอย่างชัดเจนแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด ถ้าอยากให้ภรรยาของเขาปลอดภัย จำเป็นต้องมาตามนัด
ตอนที่ฉางเชี่ยวกำลังจะส่งข้อความให้ไป๋ยี่เฟยอีกครั้งนั้น ไป๋ยี่เฟยก็มาถึง
ตรงประตู มีรถBMWมาจอดคันหนึ่ง
“รีบไปหลบ” ฉางเชี่ยวพูดกับฉุงลี่หย่า
ฉุงลี่หย่าก็ได้รีบวิ่งไปที่ถังไม้ใหญ่อีกด้านแล้วก็หลบ เพราะว่ากลางถังไม้นั้นมีรู ใหญ่ประมาณถ้วยถ้วยหนึ่ง ใหญ่เท่ากับหมัดหมัดหนึ่ง เหมาะที่จะมองเหตุการณ์ข้างนอกจากตรงนี้ได้พอดี
ไป๋ยี่เฟยลงจากรถ เขาก็ได้เปลี่ยนชุดสูทที่เคยใส่ ไปเป็นเสื้อสบายๆ อีกอย่างยังเป็นเสื้อที่ซื้อตามตลาดนัดไม่กี่สิบบาทต่อตัว สวมแล้วสบาย ไม่เกะกะ แล้วก็ไม่เสียดาย
ฉางเชี่ยวไม่เห็นคนคนอื่น ก็ได้วางใจ พูดไปเรียบๆ “นายมาสาย”
ไป๋ยี่เฟยเลิกคิ้วอย่างไม่ใส่ใจ “โทษที มีธุระนิดหน่อย”
เวลานี้ ฉุงลี่หย่าที่อยู่ในถังไม้ก็ได้ปิดปากตัวเองด้วยความตกใจ กลัวว่าจะส่งเสียงออกไป คิดไม่ถึงว่าคนคนนั้นเป็นไป๋ยี่เฟย!
เธอคิดว่าเป็นบอดี้การ์ดของเธอ คิดไม่ถึงว่าเขาเป็นไป๋ยี่เฟย!
ไป๋ยี่เฟยไอ้หมอนั่น เจ้าเล่ห์จริงๆ!
ทางนั้น ฉางเชี่ยวยืนนิ่ง “ไหนๆ ก็มาแล้ว งั้นพวกเราเริ่มกันเลย!”
“เดี๋ยวก่อน” ไป๋ยี่เฟยยกมือ “พวกเรามาดวลกันแบบนี้ เหมือนขาดอะไรไปหรือเปล่า?”
“หมายความว่าอะไร?” ฉางเชี่ยวนิ่ง ไม่รู้ว่าไป๋ยี่เฟยอยากจะทำอะไร แต่ก็ได้ขมวดคิ้วตามสัญชาตญาณ “หรือว่านายเรียกคนมา?”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้า “ไม่ ฉันอยากจะพูดว่า ตอนที่ดวลกันนั้นไม่รู้ว่าลงมือหนักหรือเบา ถ้าเกิดเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะทำยังไง? ฉันไม่อยากที่จะเข้าคุกเพราะว่าฆ่าคนอีกรอบหรอก”
ฉางเชี่ยวก็ได้เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดเลยทันที “ว่ามา นายอยากจะทำยังไง?”
“พวกเรามาเซ็นสัญญาการตายกันเถอะ!” ไป๋ยี่เฟยพูดจบก็ได้เอาสัญญาการตายออกมาจะกระเป๋ากางเกงสองใบที่ได้เตรียมออกมาตั้งแต่แรกแล้ว ส่งให้ฉางเชี่ยวใบหนึ่ง แล้วก็ยื่นปากกาให้ด้วย
“เซ็นเถอะ!” ไป๋ยี่เฟยพูดเรียบๆ “ทั้งสองฝ่ายก็ต้องมีหลักประกันไม่ใช่เหรอ ถ้าเกิดนายฆ่าฉัน งั้นเรื่องนี้กับนาย ไม่เกี่ยวกันเลยแม้แต่นิด เชื่อว่าสหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงไม่มีทางไปหาเรื่องนายกับตระกูลฉุงแน่”
“ส่วนฉัน……นายก็คงเข้าใจ” ไป๋ยี่เฟยไม่พูดอะไรมาก ก้มหน้าเซ็นในส่วนของเขาเสร็จ
ฉางเชี่ยวได้ยินคำพูดที่ไป๋ยี่เฟยพูดนัยน์ก็ได้บีบเล็กน้อย จากนั้นก็ได้กลับเป็นปกติ มองไป๋ยี่เฟยด้วยสายตาที่สับสน จากนั้นก็ได้เซ็นตาม ส่งให้ไป๋ยี่เฟย
ทั้งสองได้แลกกัน แล้วก็เซ็นต่อ สัญญาการตายนี้ก็มีผล ทั้งสองใบ ไม่ว่าระหว่างการต่อสู้ทั้งสองจะบาดเจ็บสาหัส หรือว่าตาย ก็ไม่เกี่ยวกับอีกฝ่าย ทั้งหมดต้องรับผิดชอบกันเอง
ไป๋ยี่เฟยก็ได้เก็บสัญญาลง จากนั้นก็ได้พูดกับฉางเชี่ยวว่า “รอฉันแป๊บหนึ่ง ฉันเอาของไปเก็บในรถก่อน เลี่ยงที่จะเสียหายในระหว่างที่ต่อสู้กัน”
ฉางเชี่ยวสงสัยมากๆ
ทำไมเขาไม่รู้สึกถึงความกลัวจากไป๋ยี่เฟยเลย? อีกอย่างสัญญาการตายนี่ยังเป็นเขาที่เป็น คนเอ่ยปากออกมาเอง!
ไป๋ยี่เฟยถึงเป็นคนที่โดนล้างแค้น เขาก็เป็นฝ่ายที่อ่อนแอกว่า ทำไมถึงได้นิ่งแบบนี้ เหมือนว่านัดวันนี้เป็นแค่การมาทานอาหารธรรมดา
ไป๋ยี่เฟยกำลังจะเล่นตุกติกอะไร?
ไม่ทันที่จะคิดอะไรมาก ฉางเชี่ยวอาศัยตอนที่ไป๋ยี่เฟยไปเก็บของนั้น ก็ได้เอาสัญญาตายในมือนั้นส่งให้ฉุงลี่หย่า แล้วก็สั่งว่า “เดี๋ยวไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามออกมา รู้หรือยัง?”
ฉุงลี่หย่าพยักหน้า
รอทั้งสองไปยืนกันเหมือนเดิม ฉางเชี่ยวก็ได้พูด “คราวนี้เริ่มได้หรือยัง?”
“แน่นอน” ไป๋ยี่เฟยหยักไหล่
ตอนที่พูดจบนั้น สายตาของฉางเชี่ยวก็ได้เย็นลง บรรยากาศรอบตัวได้เปลี่ยน แล้วก็กระโจนเข้าไป
ไป๋ยี่เฟยเห็นแบบนั้นตาก็ได้เริ่มเป็นประกาย สังเกตการณ์เคลื่อนไหวของฉางเชี่ยวอย่างใจเย็น
ฉุงลี่หย่าที่อยู่ในถังก็ได้กำหมัดแน่น ได้มองเหตุการณ์ด้วยความตื่นเต้นและความหวาดหวั่น เธอหวังว่าพี่ฉางเชี่ยวสามารถฆ่าไป๋ยี่เฟยได้ เพราะงั้นตอนที่พี่ฉางเชี่ยวมีความเคลื่อนไหวนั้นเธอตื่นเต้นมากๆ
ไม่นานเธอก็สามารถเห็นภาพไป๋ยี่เฟยถูกพี่ฉางเชี่ยวอัด สุดท้ายก็ถูกพี่ฉางเชี่ยวอัดจนตายไป
จากนั้น ภาพเหตุการณ์ที่เธอรอไม่ได้เกิดขึ้น
ตอนที่ฉางเชี่ยวกำหมัดแล้วพุ่งเข้าโจมตี ไป๋ยี่เฟยก็ได้หลบอย่างรวดเร็ว เวลาเดี๋ยวกันก็ได้ขยับขา ไปถีบที่ท้องของฉางเชี่ยว
“ปึ้ง!”
ฉางเชี่ยวดูถูกศัตรู คิดไม่ถึงว่าไป๋ยี่เฟยก็มีการเคลื่อนไหวที่เร็วขนาดนี้ เพราะงั้นก็ได้โดนถีบเข้าอย่างจัง ยังโดนถีบจนกระเด็น ไปล้มบนพื้น
ฉุงลี่หย่าเบิกตาโตด้วยความตกใจ “ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”
ฉางเชี่ยวก็ตกใจเหมือนกัน ได้ลุกจากพื้น สายตาเริ่มมีความจริงจังขึ้น
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ดีใจเพราะได้ถีบฉางเชี่ยวจนกระเด็น แต่เป็นการเตรียมตัวกว่าเดิม เขารู้ ฉางเชี่ยวเริ่มจริงจังขึ้นแล้ว
เป็นไปตามคาด คราวนี้ฉางเชี่ยวไม่ได้พุ่งเข้ามาอย่างไม่มีหลักการ แต่เป็นการหามุมที่เหมาะ แล้วก็ได้โจมตีไป๋ยี่เฟยจากหลายๆ ด้าน
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยได้ชำนาญในการออกขา แต่ฉางเชี่ยวชำนาญในการออกหมัด คนหนึ่งอยู่บน คนหนึ่งอยู่ล่าง
ไป๋ยี่เฟยก็ทำได้แค่ใช้แขนไปป้องกันการโจมตีของฉางเชี่ยว แต่แรงของฉางเชี่ยวเยอะมาก เขารับการโจมตีแค่ครั้งเดียว ก็โดนต่อยจนถอยไปกี่ก้าว เกือบยืนไม่อยู่
ฉางเชี่ยวอาศัยจังหวะนี้แล้วก็เร่งความเร็วในการออกหมัด ไม่ให้โอกาสไป๋ยี่เฟยได้ตั้งตัว
ไป๋ยี่เฟยไม่หยุดที่จะเอียงตัว เอียงหัว ถอยหลัง แต่หาโอกาสที่จะสวนกลับไม่เจอ
ฉางเชี่ยวเห็นแบบนั้นก็ได้ยิ้มอย่างประชดประชัน “ทำไมไม่ออกหมัด? ออกหมัดสิ?”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินแบบนั้นสายตาได้เข้ม “โทษทีนะ ฉันไม่ชอบออกหมัด”
ตอนที่พูดไปด้วยนั้น ไป๋ยี่เฟยก็ได้หาจังหวะที่จะสวนกลับของฉางเชี่ยวเจอ ตอนที่เขากำลังที่จะออกหมัดอีกครั้งนั้น ไป๋ยี่เฟยก็ได้ย่อลง แล้วก็ออกมือ ออกเท้า โจมตีไปที่เป้าของฉางเชี่ยว