ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 449
บทที่ 449
ฉางเชี่ยวยืนยันว่าจะตามไป๋ยี่เฟยไป ไป๋ยี่เฟยก็เลยตกลง แต่ว่าก็ได้รู้จักฉางเชี่ยวใหม่อีกครั้ง
ตอนนี้ก็ได้ผ่านเที่ยงคืนไปแล้ว ที่ถนนแทบไม่มีคนอะไรอยู่
ตอนที่ไป๋ยี่เฟยกับฉางเชี่ยวออกมา ก็ได้เดินเข้าไปที่ตรอกมืดๆ
ในซอยตรอกไม่มีไฟ ก็แค่ทางเข้าถนนถึงมีไฟ ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ ไฟก็ยิ่งมืด สุดท้าย ก็ถึงขนาดที่ว่าถนนสายนั้นมีแต่ความมืดมิด
ไป๋ยี่เฟยกับฉางเชี่ยวค่อยๆ เดินเข้าไปในตรอกมืดนั้น
พึ่งเดินเข้าไป ไป๋ยี่เฟยกับฉางเชี่ยวก็ได้หยุดฝีเท้าลง
เวลาเดี๋ยวกัน ข้างหลังก็ได้เสียงตะโกนมาว่า “หยุด!”
ไป๋ยี่เฟยกับฉางเชี่ยวค่อยๆ หันหลังกลับ คนพวกนั้นยังยืนอยู่ที่ในที่ที่มีแสงไฟเล็กน้อย ทั้งสองถือว่ายังมองเห็นพวกเขาอยู่ เป็นไปอย่างที่คิดเป็นคนในบาร์กลุ่มนั้น
ในตรอกที่มืด เดิมพวกนั้นที่ปิดบังความอยากฆ่าของพวกเขาไม่มิดตอนนี้ได้แสดงออกมาหนักกว่าเดิม
“นายคือไป๋ยี่เฟย?” คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าก็ได้ถามออกไป
ไป๋ยี่เฟยก็มองเขาราวกับเป็นปัญญาอ่อน “ฉันไม่ใช่”
คนคนนั้นนิ่งไป “นายโกหก!”
ไป๋ยี่เฟยก็ได้ตอบไปเรียบๆ “แม่งมึงก็มั่นใจแล้ว ยังถามทำห่าอะไร?”
คนคนนั้นพูดไม่ออก รู้สึกว่าตัวเองนั้นถูกกวนประสาท เพราะงั้นก็ได้โบกมือ “ไปฆ่ามัน!”
ทั้งหกคน ก็ได้พุ่งเข้ามาเลยทันที
ในความมืด ไป๋ยี่เฟยได้จับมือคนคนหนึ่ง ยกขาแล้วก็ถีบออกไป คนนั้นก็ได้ชนไปกับกำแพงในตรอกแล้วมีเสียง “ตึ้ง”
ต่อด้วย ก็มีอีกคนหนึ่งชนไปที่กำแพง ฉางเชี่ยวเป็นคนทำ เวลาเดียวกัน ฉางเชี่ยวยังพูดว่า “บนตัวพวกเขามีมีด”
พูดจบ ทั้งสองก็ได้ลงมือหนักขึ้นกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้นก็ได้แย่งมีดจากกลุ่มคนในนั้น แล้วก็แทงเข้าไปกลางอกของคนที่อยู่ใกล้
คนคนนั้นคิดไม่ถึง สุดท้ายก็ทำได้แค่ทำตาโต ตายไปด้วยความไม่พอใจ
แป๊บเดียวตายไปสองคน สำหรับนักฆ่าอย่างพวกเขาก็สับสนเล็กน้อย แล้วก็เริ่มกลัว ในเวลาเดียวกัน ในใจก็ได้มีความสงสัย ข้อมูลที่คนจ้างพวกเขาให้เขานั้นบอกว่าการต่อสู้ของไป๋ยี่เฟยอย่างมากก็แมวสามขา ไม่เก่งอะไร
ทำไมตอนนี้ถึงได้เก่งขนาดนี้ ฆ่าคนไปคนหนึ่งได้อย่างง่ายดายขนาดนี้?
ไม่เพียงแค่นั้น คนที่อยู่ข้างๆ เขาเป็นใครอีก? พวกเขานั้นเทียบไม่ได้เลยแม้แค่นิด
คนที่นำอยู่ข้างหน้าคนนั้นก็ได้ถอยไปเล็กน้อย เขาไม่อยากตาย
ไป๋ยี่เฟยได้สังเกตเห็นเขาตั้งนานแล้ว จะให้เขาหนีไปได้ยังไง?
เพราะงั้นตอนที่คนคนนั้นกำลังจะทำอะไร ไป๋ยี่เฟยสู้ไปสักพักก็ได้ฆ่าคนข้างรวมตัวกันไปอีกคน หันตัวไปจับเขา ใช้มีดจ่อไปที่คอของเขา
เวลานั้น ฉางเชี่ยวก็ได้ฆ่าไปสามคน ตอนนี้เหลือแค่คนนำที่ยังมีชีวิตอยู่
“ไว้ชีวิตด้วยเถอะครับ ลูกพี่ไว้ชีวิตผมด้วย ผมก็แค่รับเงินทำงาน อยากเอาคืนท่านก็ไปหาคนที่จ้างพวกผม เขาเป็นคนที่จะฆ่าท่าน ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกผม!”
“ไร้ประโยชน์จริงๆ!” ฉางเชี่ยวขำออกมา “คนแบบนี้เก็บไว้ทำไม?”
“ไว้ชีวิตผมเถอะ ลูกพี่ ไม่เกี่ยวกับผมจริงๆ ……” คนคนนั้นจะร้องไห้ออกมาแล้ว เดิมเขาคิดว่าฆ่าคนคนหนึ่งก็ไม่ได้เสียแรงอะไรมาก ใครจะไปรู้ว่าคนเขาต่อยทีสองทีก็ได้ฆ่าคนของเขาไปหมด
“เจ้านายของนายเป็นใคร?”
ถามคำนี้จบ ไป๋ยี่เฟยก็เริ่มหงุดหงิด วันนี้ได้พูดประโยคนี้ไป เขาก็ไม่รู้แล้วว่าได้พูดไปกี่ครั้งแล้ว
คนคนนั้นไม่มีจรรยาบรรณในการงานแม้แต่น้อย ก็ได้รีบพูดออกมาว่า “คือหวังโหลว คนที่เป็นประธานบริษัทคริสตัลกรุ๊ป”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินแบบนั้นสีหน้าก็ได้เครียดลง จากนั้นก็ได้กรีดมีดลง คนคนนั้นเบิกตากว้าง ตายไปด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ
ฉางเชี่ยวมองไป๋ยี่เฟยด้วยความสงสัย “นายทำไมไม่ถามออกไปเยอะหน่อย?”
“ฉันรู้แล้ว” น้ำเสียงคำพูดของไป๋ยี่เฟยก็ได้เยือกเย็นไปมาก
ฉางเชี่ยวมองไปสักพัก เพราะว่าแสงไฟมันมืด เขามองอะไรไม่ออก ก็แค่พูดว่า “ไม่มีอะไรแล้วฉันไปล่ะ จำเรื่องการดวลของพวกเราไว้ด้วย”
ฉางเชี่ยวรู้สึกได้ว่าไป๋ยี่เฟยตอนนี้หงุดหงิดมากๆ อีกอย่างไม่เหมาะที่จะมีคนอยู่ข้าง ก็ได้จากไปเอง
รอให้ฉางเชี่ยวจากไปแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ได้ใช้หลังพิงไปที่กำแพง กำหมัดของตัวเองแน่น
เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า หวังโหลวไม่เพียงแค่บอกฉุงลี่หย่าถึงการเคลื่อนไหวของตน แล้วยังออกแรงที่จะฆ่าตนอีก อดีตที่เป็นเพื่อนกัน ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว
ไป๋ยี่เฟยคิดว่าหวังโหลวเป็นเพื่อนจริง ไม่อย่างนั้นก็ไม่ไปหาหวังโหลวหลังจากที่ได้สานต่อโหวจวี๋กรุ๊ปหรอก ยิ่งไม่มีทางที่จะเอาหลายๆ อย่างให้หวังโหลว ให้เขาไปพัฒนา
สุดท้ายล่ะ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่หวังโหลวจะกลืนกินสิ่งที่โหวจวี๋กรุ๊ปควรได้ในเงามืด ทำอะไรเล็กน้อยลับหลัง ตอนนี้ถึงขั้นได้จ้างคนมาฆ่าเขา!
การที่ถูกเพื่อนหักหลังแบบนี้ทำให้ไป๋ยี่เฟยรู้สึกอึดอัด เป็นเพื่อนกันแท้ๆ ฉินหัวสามารถไปตายเพื่อเขาได้ แต่หวังโหลว กลับจะฆ่าเขา!
เหอะ……
ไป๋ยี่เฟยได้อยู่ในตรอกมืดอยู่นาน ถึงได้ค่อยๆ เดินออกมา แต่ว่าความโหดในตัวนั้นก็ได้หนักกว่าเดิม
โทรศัพท์บนร่างกายเขาไป๋ยี่เฟยตอนที่กระโดดหน้าต่างกับฉางเชี่ยวออกมานั้นก็ได้ตกลงมา ตอนนั้นเขาจะไปมีเวลาไปหาโทรศัพท์ที่ไหน เหมือนว่าตอนที่กระโดดออกมานั้น ก็ได้รีบวิ่งออกไป
พวกเขานั้นอยู่ข้างๆ พวกไป๋หู่สามคน ไม่ได้ให้พวกเขาเห็นตัว แล้วก็วิ่งไปที่รถที่ไป๋หู่จอดพอดี เดิมคิดว่าจะไปหาพวกไป๋หู่
แต่ว่าตอนที่กำลังไปนั้น ก็ได้เห็นชายที่สวมหมวกแก๊ป แล้วก็เห็นว่าเขาขับรถออกไป
เวลากลางดึกแบบนี้ แล้วก็เป็นโรงงานกระดาษร้างที่ชานเมืองแบบนี้ ผู้ชายคนคนนั้นอยู่ตรงนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ปกติแน่ๆ อีกอย่างก่อนที่เขาไปทางที่เขามองนั้นเป็นทางโรงงานกระดาษ
เพราะงั้นไป๋ยี่เฟยกับฉางเชี่ยวถึงได้ขับรถของไป๋หู่ตามไป
ไป๋ยี่เฟยเดินไปทางตลาดที่คึกคัก แล้วก็ยังมีรถรับจ้างรอบดึกขับผ่านบ้าง ก็ได้โบกคันหนึ่ง กลับไปที่คฤหาสน์หลันโปกั่ง
กลับถึงคฤหาสน์ ไป๋ยี่เฟยก็ได้ใช้โทรศัพท์บ้านโทรไปหาไป๋หู่ บอกว่าตัวเองได้กลับบ้านแล้ว ถึงได้กลับไปพักผ่อนที่ห้อง
……
ตอนเช้า ตอนที่ไป๋ยี่เฟยตื่นนั้นก็พบว่าหลี่เสว่ได้ไปทำงานแล้ว แล้วยังทำอาหารเช้าให้เขา
ไป๋ยี่เฟยทานอาหารเช้าเสร็จไป๋หู่ก็มาพอดี เอาโทรศัพท์ใหม่มา
พึ่งจะเอาซิมที่ทำเสร็จใส่เข้าไป โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้น
ไป๋ยี่เฟยมองสักพัก หลินขวางเป็นคนโทรมา
หลินขวางโทรมาทำไม?
“ลูกพี่ไป๋ เกิดเรื่องแล้วครับ!” ทางนั้นเสียงของหลินขวางดูร้อนรน ได้มีความรีบร้อนแล้วกังวลปนอยู่
ไป๋ยี่เฟยได้ขมวดคิ้ว “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“เหลียงหมิงเยว่ตายแล้วครับ!” หลินขวางพูดออกมาอย่างเคร่งเครียด
ไป๋ยี่เฟยตกใจเลยทันที ก็ได้ลุกขึ้นมา “นายพูดว่าอะไรนะ?”
หลินขวางพูดออกไปอีกครั้ง แล้วพูดออกไปอย่างเป็นห่วงว่า “ตอนนี้คนของตระกูลฉุงกับตระกูลเย่เตรียมที่จะไปฆ่าพี่แล้ว พี่รีบไปซ่อนตัวให้ดีๆ ไม่อย่างนั้น ถูกพวกเขาเจอตัวเข้า พี่ได้ตายแบบไม่ต้องสงสัย!”
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเหลียงหมิงเยว่ถึงตายไป?” ไป๋ยี่เฟยได้ยินข่าวนี้ก็สับสนมึนงงไปหมด
เหลียงหมิงเยว่เป็นร่มที่ปกป้องเขา ตระกูลฉุงกับตระกูลเย่ไม่สามารถที่จะทำอะไรเขาได้ แต่ว่าเหลียงหมิงเยว่ตายไปแล้ว งั้นสิ่งที่ปกป้องเขาก็ไม่มีแล้ว สหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงก็ไม่มีอะไรที่พวกเขาต้องกลัวแล้ว
แต่ว่าการผ่าตัดของเหลียงหมิงเยว่เป็นไปได้ด้วยดี หรือว่าไม่ได้ตายเพราะสุขภาพไม่ดี แต่เป็น……
หลินขวางรีบตอบเขาไปว่า “เหลียงหมิงเยว่ถูกคนฆ่าตายครับ คนที่ฆ่าเหลียงหมิงเยว่ตายเป็นไป๋หยุนเผิงพ่อของพี่”
ไป๋หยุนเผิงเป็นคนฆ่า?
ตลกแล้ว!
ไป๋หยุนเผิงไม่มีทางไม่รู้ความร้ายแรงที่อยู่ในนั้น เหลียงหมิงเยว่ตายไป เขาไป๋ยี่เฟยก็จะโดนตระกูลฉุงกับตระกูลเย่ตามไล่ล่า เขาไม่รู้ว่าเขาก็ต้องตายเหรอ?
เขาเป็นพ่อแบบนี้เหรอ?
ไป๋ยี่เฟยใจได้เย็นวาบ จากนั้นก็ถามหลินขวางต่อ “เขาทำไมถึงฆ่าเหลียงหมิงเยว่?”
“เหมือนว่าได้มีปากเสียงกัน แต่มันเป็นอะไรนั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจ ผมก็พึ่งได้ข่าวมาเมื่อกี้” หลินขวางตอบ พูดจบก็ได้พูดอย่างจริงจังว่า “ลูกพี่ไป๋ คราวนี้ผมช่วยอะไรพี่ไม่ได้แล้ว”
“ตระกูลไป๋กับตระกูลหลินได้ร่วมมือกันมาตลอด ก็เหมือนกับตระกูลเย่กับตระกูลฉุง แต่ว่าเรื่องคราวนี้ ตระกูลหลินของพวกเราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้จริงๆ”
ตระกูลฉุงกับตระกูลเย่ร่วมมือกัน ทั้งสองตระกูลที่อำนาจมาก และคราวนี้ไป๋หยุนเผิงได้ฆ่าเหลียงหมิงเยว่ ต้องถูกทั้งสหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงตามไล่ล่าแน่ ตระกูลไป๋ยากที่จะวิ่งหนี
ตระกูลหลินไม่มีทางที่จะเข้ามาเกี่ยวด้วย เพราะงั้นเพื่อที่จะรักษาตัวเอง ตระกูลหลินก็เลยทำได้แค่วาดเส้นตัดขาดกับตระกูลไป๋ เลิกที่จะร่วมมือกับตระกูลไป๋