ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 451
บทที่ 451
“เวลาของคุณไม่มากแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยจ้องหลี่เฉียงตงอยู่สักพัก อยากดูอะไรบางอย่างออก แต่หลี่เฉียงตงซ่อนได้ลึกมาก เขาดูอะไรไม่ออกเลย สุดท้ายจึงถาม “บอกผมได้ไหมว่าเธออยู่ไหน?”
“ไม่เห็นเธอผมไม่วางใจ เธอคือชีวิตของผม ไม่มีชีวิตแล้ว ยังเป็นห่วงตัวเองทำไม?”
หลี่เฉียงตงรู้สึกอึ้ง จากนั้นถาม “ผมรับประกันกับคุณ เสว่เอ๋อปลอดภัยจริง ถ้าคุณรู้ว่าเธออยู่ไหน จะยิ่งไม่ดีต่อคุณ”
“คุณควรที่จะตั้งแต่ในเรื่องของตัวเอง”
“ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอปลอดภัยจริงไหม ผมจะตั้งใจทำเรื่องของตัวเองได้ยังไง?” ไป๋ยี่เฟยใจร้อน ก็เหมือนอย่างที่เขาพูด หลี่เสว่คือชีวิตของเขา
หลี่เฉียงตงพูดอย่างซาบซึ้ง “ผมดีใจมาก ที่คุณใส่ใจเสว่เอ๋อ”
“เพราะฉะนั้น?” ไป๋ยี่เฟยกำหมัดแน่น
หลี่เฉียงตงตอบเสียงเรียบ “เพราะฉะนั้น คุณก็ต้องทำธุระของตัวเองให้ดีก่อน อย่างทำให้เสว่เอ๋อเป็นภาระของคุณ ถ้าเป็นแบบนั้น เธอจะเสียใจ แล้วอาจจะจากคุณไป”
“โคร่ง” เสียงดังขึ้นในสมองเขา ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่างเปล่าในสมอง
เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งหลี่เสว่จะจากเขาไป
เขาไม่กล้าคิด
ตอนนี้ถูกหลี่เฉียงตงพูดออกมา ไป๋ยี่เฟยรู้สึกเหมือนถูกมีดแทง ไม่! มันเหมือนคนทั้งคนถูกทุบจนละเอียด
ความรู้สึกแบบนั้นมันเหมือนไม่มีแสงสว่างแม้แต่น้อยในความมืด มีแต่เพียงความสิ้นหวัง
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกได้ถึง ไม่มีหลี่เสว่ เขาไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะมีชีวิตต่อไป
หลี่เฉียงตงน้ำเสียงเรียบ แล้วพูด “ไปเถอะ แต่คุณต้องเปลี่ยนเส้นทางใหม่”
“นี่เป็นบททดสอบของคุณ คุณต้องเอาไปคิดเอง ไปค้นหาเอง”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว “หมายความว่ายังไง?”
“สรุปก็คือ คุณต้องพึ่งตัวเอง” หลี่เฉียงตงพูดจบแล้วก็ลงจากรถ ยืนอยู่ข้างรถ “เสว่เอ๋อจะรอคุณ”
…..
ไป๋ยี่เฟยนั่งอยู่บนรถครึ่งชั่วโมง ถึงเรียกไป๋หู่กับสวีลั่งกลับมา จากนั้นก็ขับรถกลับโหวจวี๋กรุ๊ป
ในเวลาเดียวกัน หลงหลิงหลิงที่เพิ่งทำงานได้ไม่นานก็มีแขกมาหา
ตอนหลงหลิงหลิงเห็นเขารู้สึกแปลกใจมาก ขณะเดียวกันก็รู้สึกกลัว
คนนั้นพูดกับหลงหลิงหลิงว่า “เวลาพอสมควรแล้ว คุณรู้ว่าต้องทำยังไง”
พูดจบ คนนั้นก็จากไป
หลงหลิงหลิงนั่งในออฟฟิศรู้สึกลังเลและกังวล
……
ตอนกลับ ไป๋ยี่เฟยนั่งข้างหลังคิดถึงเรื่องราวบางอย่าง ทันใดนั้น ไป๋หู่เหยียบเบรกกะทันหัน ไป๋ยี่เฟยโค้งตัวไปข้างหน้า เกือบพุ่งออกไป
“เกิดอะไรขึ้น?” ไป๋ยี่เฟยเงยหน้าขึ้นมอง หน้ารถพวกเขา มีรถเก๋งสีดำจอดอยู่สี่ห้าคัน รถเก๋งเหล่านั้นจอดขวางถนนไว้
ไป๋หู่กำลังจะถอยรถ ด้านหลังรถก็มีรถสองหัน ใช้วิธีเดียวกัน
ถนนเส้นนี้ไม่ค่อยคึกคัก กลับกัน ค่อนข้างเปลี่ยว เพราะเหตุการณ์นี้ คนอื่นๆก็รีบหนีออกห่างทันที แค่ดูก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะฉะนั้นไม่มีคนกล้ารอแถวนั้น
ไม่นาน ก็มีคนชุดดำลงมาจากรถ
คนชุดดำล้อมรถทั้งหน้าและหลังของพวกไป๋ยี่เฟยสามคน
เวลานี้ มีคนเดินออกมา ไป๋หู่กับสวีลั่งรู้จักเขา
“จางเถ่หลิน”
จางเถ่หลินมองไป๋หู่แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย “คิดไม่ถึงไม่ว่าผ่านไปไม่นาน เราก็ได้พบกันอีก ตอนนี้ ผมกันคุณก็มีเวลาได้เจอกันแล้ว”
ไป๋หู่ไม่ได้ตอบ สายตาครุ่นคิด
ไป๋ยี่เฟยมองจางเถ่หลิน วันนั้นเขาไม่ได้เห็นคนคนนี้ แต่ก็ไม่เคยวางใจ
จางเถ่หลินพูดกับไป๋ยี่เฟยอย่างอวดเก่ง “ไป๋ยี่เฟย วันนี้ ก็คือวันตายของนาย”
หนึ่งเดือนที่แล้ว จางเถ่หลินให้คนมาปกป้องฉุงโยวเวย แต่เพราะไป๋ยี่เฟยจงใจขัดขวาง ทำให้เขาต้องอยู่ข้างเย่ฮวนตลอด จึงทำให้ฉุงโยวเวยถูกฆ่า
จากนั้นกลับไปถึงตระกูลฉุง เขาได้รับการลงโทษ แต่ท่านสามก็ให้เขาทำความดีชดเชย แต่เขาไม่เคยมีโอกาสเลย เพราะว่ามีสหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงอยู่ตรงนั้น จึงไม่กล้าไปแตะต้องไป๋ยี่เฟย
ตอนนี้ ท่านสามแจ้งเขาว่า เหลียงหมิงเยว่ตายแล้ว ลงมือได้ เพราะฉะนั้นเขาจึงรีบรวมตัวคนมาขวางไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยมองจางเถ่หลินสายตาเย็นชา เขากำลังวุ่นวายใจกับเรื่องเมื่อคืนอยู่จนถึงตอนนี้ ตอนนี้มีคนมารนหาที่เอง เขาไม่ปฏิเสธโอกาสที่จะได้ระบายในครั้งนี้แน่นอน
ไป๋หู่มองหน้าหลังแล้วรวมกันประมาณสามสี่สิบคน ล้วนเป็นคนมีฝีมือ รู้สึกกังวลขึ้นมา “คนพวกนี้ไม่ธรรมดา ระวัง”
พวกเขาสามคน ฝีมือรวมกันแล้วก็ไม่ใช้ได้ แต่กับคนที่ฝีมือใกล้เคียงกัน หรือต่างกันเล็กน้อย ก็มีความลำบากอยู่บ้าง
เขาว่ากันว่า สองหมัดสู้สี่มือได้ยาก นี่ก็มีเหตุผล
ไป๋ยี่เฟยไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย พูดอย่างเด็ดเดี่ยว “อย่าพูดไร้สาระ ลุยเลย”
จางเถ่หลินทำเสียง “นึกว่าไปฝึกมาหนึ่งเดือนก็ไม่กลัวใครแล้วเหรอ? ที่นี่มีคนฝีมือดีหลายสิบคน จะจัดการพวกแกสามคนไม่ได้?”
“จัดการ”
การปะทะก็เกิดขึ้น
คนชุดดำทั้งหน้าและหลังก็บุกเข้ามา
ไป๋ยี่เฟยก็กำหมัดแน่น ลุยออกไปก่อน
ไป๋หู่กับสวีลั่งกับสถานการณ์แบบนี้ก็เห็นจนชินแล้ว รีบบุกไปข้างหน้า วิ่งไปข้างหน้า ชนคนล้มไปเป็นแถว จากนั้นก็แย่งมีดบนมือของพวกเขามา บาดคอ
ไป๋ยี่เฟยถนัดใช้เท้า เพราะฉะนั้นพุ่งออกไป ก็ใช้แรงกระโดดขึ้น ยกเท้าถีบ ถีบโดนหัวของคนหนึ่ง จากนั้นก็หันกลับ ถีบขึ้นอีก โดนหัวของอีกคนหนึ่ง
ใช้โอกาสตอนที่คนกำลังหงายไปข้างหลัง ไป๋ยี่เฟยก็แย่งมีดบนมือเขามา เอียงตัว แทงไปที่ท้องของคนที่อยู่ข้างๆ และมีดของคนคนนั้น ก็อยู่ห่างจากอกของไป๋ยี่เฟยประมาณสิบเซนติเมตร ขยับไปข้างหน้าไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
จากการต่อสู้ไปสักพัก หลายสิบคนต่อสามคน เกือบจะถูกทั้งสามคนควบคุมอยู่แล้ว
แต่พอดูดีๆ นั่นเป็นแค่เรื่องเสี้ยววินาที เพราะไม่ถึงนาที ไป๋หู่กับสวีลั่งก็ถูกล้อมรอบ ต่อสู้อย่างลำบาก
ทางด้านไป๋ยี่เฟยสถานการณ์ก็ไม่ค่อยดี เขามีประสบการณ์มากมาย โดยเฉพาะต่อสู้กับคนเป็นกลุ่มเป็นนี้ เขาก็แค่แย่งโอกาสก่อน สามารถฆ่าได้หลายคน
แต่ข้างหลังคนเยอะขึ้น ล้วนเป็นคนฝีมือดี บางครั้งเขาตอบรับไม่ทัน ทั้งมือและขาไม่รู้ได้แผลมาตั้งแต่เมื่อไหร่
ไม่นาน เสื้อไป๋ยี่เฟยก็เปื้อนเลือดเต็มไปหมด บนตัวก็มีแผลหลายแผล
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้หยุด เพราะถ้าเขาหยุด สิ่งที่เขาต้องเผชิญ ก็คือความตาย
ไป๋หู่กับสวีลั่งเห็นสถานการณ์ของไป๋ยี่เฟยอยากเข้าไปช่วย ก็มีรถมาอีกสองคัน มีคนลงจากรถมาสิบกว่าคน
คนสิบกว่าคนนี้ล้วนใส่ชุดดำ ไม่เหมือนคนชุดดำกลุ่มนี้ ท่าทางของพวกเขาไม่เหมือนกัน มีเพียงแค่สิบกว่าคน แต่ทำให้คนรู้สึกเกรงขาม
สิบกว่าคนยืนเรียงเป็นแถวเดียวกัน ในมือถือมีดยาว สีหน้าเฉยชา เดินเข้ามาอย่างเชื่อมั่น
จางเถ่หลินยืนพิงข้างรถ ไม่ได้เข้าร่วม เพราะฉะนั้นพอเห็นสิบกว่าคนนี้เดินมา ก็นึกว่าเป็นคนที่ตระกูลเย่ส่งมา อยากเข้าไปทัก แต่ว่า เขากำลังจะยื่นมือ คนที่เดินนำก็กระโดดขึ้นถีบคนชุดดำด้านหน้า สีหน้าเฉยชาใช้มีดยาวในมือแทงเข้าไปที่หัวใจของคนชุดดำ ดึงออกอย่างรวดเร็ว ตลอดเหตุการณ์ ไม่ได้กะพริบตาแม้แต่นิดเดียว