ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 456
บทที่ 456
“หา?” ไป๋ยี่เฟยตื่นทันที รู้สึกตกใจอีกครั้ง วินาทีนี้เขายังไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดอะไร
หลิวาเสี่ยวอิงตั้งใจพูดอีกครั้ง “ฉันไม่มีโอกาสแล้วจริงเหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยชะงัด ทันใดนั้นเข้าใจความหมายของหลิวเสี่ยวอิง จากนั้นก็ถอนหายใจ “เสี่ยวอิง คุณเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมมีเมียแล้ว คุณคู่ควรกับคนที่ดีกว่า”
หลิวเสี่ยวอิงได้ยินคำพูดนี้แล้ว ตะลึงไปครู่หนึ่ง ตาแดงน้ำตาคลอทันที หันหัวไปอีกฝั่ง น้ำเสียงสั่นเครือ “ก็ได้ ฉันแค่อยากให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย คนที่ชอบฉันยังเข้าแถวรอตั้งเยอะ”
“อย่างนั้นก็ดี คุณสามารถเลือกคนที่เหมาะสมคนหนึ่ง” ไป๋ยี่เฟยรู้ว่าตอนนี้หลิวเสี่ยวอิงเสียใจ ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ก็แค่พูดคล้อยตามเธอ
หลิวเสี่ยวอิงทำเสียงเชอะ ลุกขึ้นยืน แล้วเดินจากไป
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัวอย่างเอือมระอา ไม่พักผ่อนต่อแล้ว แต่กลับไปคฤหาสน์ที่หลันโปกั่ง
ในคฤหาสน์ ไม่มีหลี่เสว่ รู้สึกอ้างว้างเดียวดาย
ไป๋ยี่เฟยนั่งในห้องรับแขก มองไปรอบด้าน วินาทีนี้รู้สึกว่าคฤหาสน์ใหญ่เกินไป ควรจะเปลี่ยนไปอยู่บ้านหลังเล็ก
“กริ๊งกริ๊งกริ้ง……”
ไป๋ยี่เฟยหยิบมือถือขึ้นมา จางหรงโทรมา
“ท่านประธาน เกิดเรื่องแล้ว……”
ไป๋ยี่เฟยวางสาย แล้วออกจากบ้านทันที ขับรถไปที่ที่เคยเป็นของเฝิงหย่งก้าง แต่ตอนนี้เป็นโรงงานเครื่องประดับของเขา
เมื่อครู่จางหรงบอกว่า เฝิงหย่งก้างรู้ว่าไป๋ยี่เฟยใช่ประธานของโหวจวี๋กรุ๊ปแล้ว ก็เลยพาคนของตัวเองไปที่โรงงานเครื่องประดับ จะเอาโรงงานเครื่องประดับคืน
จางหรงรู้เรื่องของไป๋ยี่เฟยแล้ว แต่เป็นเพราะว่าเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา จางหรงคิดว่าไป๋ยี่เฟยไม่ล้มง่ายๆอยู่แล้ว จึงไม่ยอมเฝิงหย่งก้าง
แต่เฝิงหย่งก้างเอาเย่ฮวนมาอ้าง เขาก็เลยไม่มีวิธี จึงต้องหาไป๋ยี่เฟยมาจัดการด้วยตัวเอง
…….
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ไป๋ยี่เฟยก็มาถึงโรงงานเครื่องประดับ เวลานี้ที่โรงงานมีคนสองกลุ่ม
กลุ่มหนึ่งเป็นคนของเฝิงหย่งก้าง อีกกลุ่มหนึ่งเป็นคนของจางหรง
“พวกแกเจียมตัวหน่อย หลบเดี๋ยวนี้ โรงงานนี้คืนให้ฉัน ฉันยังจะให้โอกาสพวกแกมีหนทางการทำมาหากิน” เฝิงหย่งก้างพูดอย่างอวดดี “ประธานของพวกแกเปลี่ยนคนแล้ว อย่างมาหน้าโง่ช่วยมันทำงานอีก”
จางหรงพูดอย่างโมโห “เรื่องการเปลี่ยนประธานยังไม่แน่ชัด อย่ามาพูดไปเรื่อย อีกอย่างโรงงานเครื่องประดับนี้ถูกซื้อแล้ว และได้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคุณแล้ว”
“แล้วฉัน ก็เป็นผู้ครอบครองโหวจวี๋กรุ๊ป และเป็นพ่อตาของเย่ฮวนประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป โรงงานเครื่องประดับนี้ ขอแค่ฉันพูดคำเดียว มันก็เป็นของฉัน” เฝิงหย่งก้างพูดอย่างมั่นใจ
จางหรงได้ยินก็พูดไม่ออก เขารู้ว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นจึงไม่รู้จะตอบกลับยังไง ได้แต่จ้องหน้าเฝิงหย่งก้าง ให้เขาด่าไป
เวลาเดียวกัน เซียวหรงเทาที่ยืนอยู่ข้างเฝิงหย่งก้างก็เดินออกมา “ผมว่าประธานจาง คุณน่าจะรู้สถานการณ์ตอนนี้ ไป๋ยี่เฟยไม่มีอะไรแล้ว คุณจะเอาอนาคตตัวเองไปแลกกับคนแบบนี้ทำไม?”
พูดจบ คนอื่นๆก็พูดตาม
“ใช่ เมื่อเทียบกับของพวกนี้ อนาคตของตัวเองสำคัญกว่าทุกอย่าง”
“ถ้าเป็นผม ผมต้องยืนข้างประธานเฝิงแน่นอน”
“ก็ต้องเป็นแบบนั้น ประธานเฝิงเขาเป็นพ่อตาของประธานเย่ ความสัมพันธ์นี้ ธรรมดาที่ไหน?”
“……”
ทุกคนต่างพูดคล้อยตามแล้วใช้โอกาสประจบเฝิงหย่งก้าง นี่ยิ่งทำให้เฝิงหย่งก้างได้ใจยิ่งขึ้น สายตาที่มองจางหรงยิ่งหยิ่งผยองขึ้นมา
จางหรงสีหน้าไม่ดี และหัวหน้าระดับสูงที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา
พวกเขาไม่เข้าใจเรื่องราวต่างๆนานาที่อยู่เบื้องหลัง แต่พวกเขารู้ว่า ไป๋ยี่เฟยออกจากตำแหน่งแล้ว ถ้าอยากพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ก็ต้องติดตามเถ้าแก่ปัจจุบัน
“ประธานจาง ไม่อย่างนั้นคุณ……”
จางหรงหันไปจ้อง “ไม่ว่าท่านประธานจะยังไม่ประธานหรือไม่ ท่านไม่ได้บอกให้พวกเราเอาโรงงานให้กับประธานเฝิง พวกเราจะให้โดยพลการไม่ได้”
“นายพูดอะไร? อะไรคือให้โดยพลการ?” เฝิงหย่งก้างไม่พอใจ “พวกแกต้องรู้ โรงงานนี้เดิมมันก็เป็นของฉันอยู่แล้ว ตอนนี้แค่เอามันคืนให้เจ้าของเดิม”
“ถ้าอย่างนั้นคุณมีเอกสารและขั้นตอนการให้ไหม? ถ้าไม่มี เกรงว่าจะให้ไม่ได้?”
ความจริงจางหรงไม่อยากเป็นศัตรูกับใคร โดยเฉพาะสถานการณ์ของไป๋ยี่เฟยตอนนี้ แต่จากประสบการณ์หลายครั้งที่ผ่านมา ทางที่ดีที่สุดอย่าเลือกข้างเร็วเกินไป ไม่อย่างนั้นคนที่ลำบากจะเป็นตัวเอง
เฝิงหย่งก้างทำเสียงไม่พอใจ “เอาเอกสารกับขั้นตอนอะไร? โรงงานเครื่องประดับนี้จะเป็นของใคร ก็เป็นแค่เรื่องที่ลูกเขยฉันพูดแค่คำเดียว เรื่องขั้นตอนและเอกสารให้ย้อนหลังก็ไม่ใช่ปัญหา”
“โรงงานเครื่องประดับนี้ก็ให้เย่ฮวนมาด้วยตัวเอง ก็ไม่มีสิทธิ์บอกว่าเป็นของเขา”
พูดจบ ทุกคนต่างมองไปที่เสียง เห็นว่าเป็นไป๋ยี่เฟย พวกเฝิงหย่งก้างหลายคนก็สีหน้าตกใจ ตามมาก็เป็นคำพูดเสียดสี
“ไป๋ยี่เฟย แกยังมีหน้ามาที่นี่อีก?” เซียวหรงเทายิ้มเยาะเย้ย
เฝิงหย่งก้างยังมีความรู้สึกกลัวไป๋ยี่เฟย ภาพที่โดนชกต่อยหลายวันก่อนยังติดตา ยังมีรอยฟกช้ำตามตัว “ไป๋ยี่เฟย แกมาทำไม?”
“แกมาก็ไม่มีประโยชน์ โรงงานเครื่องประดับนี้เป็นของฉัน”
จางหรงรู้สึกโล่งใจ ไป๋ยี่เฟยมาแล้ว ถ้ายังไม่มาเขาก็สู้ไม่ไหวแล้ว
ไป๋ยี่เฟยเดินไปข้างหน้าจางหรง เผชิญหน้ากับเฝิงหย่งก้างและเซียวหรงเทา ยิ้มอย่างเย็นชา “ทำไมฉันจะไม่มีหน้ามาที่นี่? แล้วพวกแกละ ยังมีหน้ามาที่นี่?”
“ยังอยากโดนต่อยอีกครั้งใช่ไหม?”
เซียวหรงเทาพูดขู่ “ตอนนี้แกไม่ใช่ประธานของโหวจวี๋กรุ๊ปแล้ว ยังจะมาอวดดีอีก?”
เซียวหรงเทาเกลียดไป๋ยี่เฟย ครั้งนั้นไป๋ยี่เฟยบอกให้ตระกูลเขาล้มละลายก็ล้มละลาย ครอบครัวเขาไม่มีกำลังต่อสู้เลย ช่วงเวลานั้น ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาชาตินี้ไม่มีวันลืม
ทั้งหมดนี้เพราะไป๋ยี่เฟยคนเดียว เขาจะให้ไป๋ยี่เฟยได้ลิ้มรสชาติแบบนั้นบ้าง
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยไม่ล้มละลาย แต่เขาก็ไม่เหลืออะไรแล้ว เขาก็เป็นแค่เด็กบ้านนอกคนเดิมเท่านั้น
เพราะฉะนั้น เขามีอะไรมาน่าอวดดีอีก?
ไป๋ยี่เฟยได้ยินก็มองอย่างเย็นชา “ก็เพราะว่าโรงงานเครื่องประดับนี้เป็นของฉัน”
“ฮาฮา……” เซียวหรงเทาหัวเราะเหมือนได้ยินเรื่องตลก “โรงงานเครื่องประดับนี้เป็นของนาย? นายพูดตลกอยู่ใช่ไหม? นายมันไม่ใช่ประธานของโหวจวี๋กรุ๊ปแล้ว ยังอยากเอาทรัพยากรของโหวจวี๋กรุ๊ปไปอีก?”
“อีกอย่าง โรงงานเครื่องประดับนี้เป็นของประธานเฝิง แล้วประธานเฝิงก็เป็นพ่อตาของประธานเย่ ถึงจะเป็นของนาย นายก็ต้องเอามาแต่โดยดี”
เฝิงหย่งก้างก็รู้สึกไม่พอใจ “ไป๋ยี่เฟย โรงงานเครื่องประดับนี้เป็นของลูกเขยฉัน ฉันแค่ไปพูดกับเขา มันก็เป็นของฉันแล้ว นายไม่อยากให้ก็ต้องให้”
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะ “ใครบอกพวกแก ว่าโรงงานเครื่องประดับเป็นของโหวจวี๋กรุ๊ป?”
“อะไร?”
เฝิงหย่งก้างกับเซียวหรงเทาตาค้าง
หรือว่าเขาไม่ได้ซื้อในนามของโหวจวี๋กรุ๊ป?
เซียวหรงเทาดึงสติกลับมาแล้วถาม “ไป๋ยี่เฟย นายหมายความว่ายังไง?”
“โรงงานเครื่องประดับนี้ฉันซื้อในนามของฉัน ไม่เกี่ยวข้องกับโหวจวี๋กรุ๊ปแต่อย่างใด” ไป๋ยี่เฟยพูดเสียงเรียบ
โรงงานเครื่องประดับซื้อในนามของไป๋ยี่เฟย ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เกี่ยวข้องกับโหวจวี๋กรุ๊ป
และที่เฝิงหย่งก้างพูดเมื่อครู่ ขอแค่เป็นของโหวจวี๋กรุ๊ป เขาแค่พูดกับเย่ฮวนแค่คำเดียว เย่ฮวนต้องให้เขาแน่ แต่ไม่ใช่ของโหวจวี๋กรุ๊ป เย่ฮวนก็ทำอะไรไม่ได้
จางหรงที่ยืนอยู่ฝั่งหนึ่งรู้สึกดีใจ โชคดีที่หนักแน่นไว้ พอไป๋ยี่เฟยมา ทุกอย่างก็พลิกผัน
ส่วนผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆก็ตกใจ โชคดีที่เมื่อกี้จางหรงห้ามพวกเขา ไม่อย่างนั้นรอไป๋ยี่เฟยจัดการเรื่องนี้เสร็จ ก็ต้องจัดการพวกเขา
ความจริงแล้วพวกเขาก็คิดมากไป ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยไม่มีอารมณ์ไปจัดการพวกเขา สถานะของพวกเขาไม่สำคัญ มีจางหรงอยู่
เฝิงหย่งก้างอึ้งไปสักพักแล้วพูดว่า “แกซื้อในนามแกจริงเหรอ? เป็นไปได้ยังไง? แกเอาเงินมากมายมาจากไหน?”
ไป๋ยี่เฟยมองเฝิงหย่งก้างเหมือนกำลังมองปัญญาอ่อน “ไม่เกี่ยวกับแก ตอนนี้ แกไม่มีสิทธิ์มาพูดตรงนี้ ให้เวลาพวกแกสามนาที ออกไปจากที่นี่ซะ”