ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 468
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่468
ไป๋ยี่เฟยขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ โดยไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่จ้องไปที่เย่ฮวนเท่านั้น
เย่ฮวนทำหน้าเคร่งเครียดลงเล็กน้อย จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ไป๋ยี่เฟย เซียนเซียนเป็นแค่ผู้หญิง ไม่ต้องจริงจังก็ได้ ทำไมแกต้องไปใส่ใจกับผู้หญิงอย่างเธอด้วยล่ะ?”
“ผู้หญิงไม่ใช่คนรึไง? คำพูดที่ออกมาจากปากคนมันแยกชายหญิงด้วยเหรอครับ?” ไป๋ยี่เฟยพูดเสียดสีแบบไม่ไว้หน้า
เย่ฮวนทำหน้าเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม แต่เฝิงเซียนเซียนยังไม่ยอมหยุดด่า “แกหาว่าฉันไม่ใช่คนอย่างนั้นเหรอ? พวกแกต่างหากล่ะที่ไม่ใช่คน! คนหนึ่งก็โจร ส่วนอีกคนก็หมดตัวจนน่าเวทนา มีสิทธิ์อะไรมาชี้มือชี้ไม้ใส่คุณนายของตระกูลเย่อย่างฉัน แถมยังมาด่าฉันอีก!”
“ฉันไม่ขอโทษ แล้วแกจะทำไม?”
“เซียนเซียน!” เย่ฮวนตำหนิด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “หุบปาก!”
ผู้หญิงคนนี้นี่ช่างโง่เง่าสิ้นดี โง่จนหมดทางเยียวยา แค่พูดอะไรออกมาก็ทำให้โดนด่าแล้ว ไม่มีราศีที่คุณนายของตระกูลเย่ควรมีเลยสักนิด
นี่เธอกำลังทำให้ตระกลูเย่กำลังขายหน้าชัดๆ!
เย่ฮวนบอกกับไป๋ยี่เฟยว่า “ฉันต้องขอโทษพวกแกแทนภรรยาของฉันด้วย พวกเราผิดเป็นฝ่ายผิดเอง”
ไป๋ยี่เฟยทำหน้าเรียบเฉย “คุณยังต้องตอบคำถามผมอีกข้อ ตอนนี้หลงหลิงหลิงอยู่ที่ไหน?”
ถ้าได้คำตอบมาจากเย่ฮวน พวกเขาก็สามารถไปหาหลงหลิงหลิงได้ทันที โดยที่ไม่ต้องมาเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกแล้ว
แต่แล้วเย่ฮวนก็ต้องอึ้งไป “หลงหลิงหลิงเหรอ? ไม่ใช่ว่าเธอหนีไปแล้วเหรอ?”
“ตระกูลเย่ของคุณจับตัวเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” ไป๋ยี่เฟยตกใจขึ้นมาทันที
เย่ฮวนส่ายหน้า “ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย!”
ไป๋ยี่เฟยชะงักไปเล็กน้อย แล้วมองเย่ฮวนด้วยความสงสัย “คุณไม่รู้จริงๆ เหรอ?”
“ฉันจำเป็นต้องหลอกแกด้วยเหรอ?” เย่ฮวนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “วันนี้เป็นวันแต่งงานของฉัน ฉันไม่อยากให้ใครมาขัดขวางหรอกนะ”
ไป๋ยี่เฟยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “ขอตัว”
ในเมื่อเย่ฮวนบอกว่าไม่รู้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีก
เฉินห้าวกับไป๋ยี่เฟยกำลังจะหันหลังเดินจากไป
“หยุดก่อน!”
เฝิงเซียนเซียนห้ามพวกเขาไว้ก่อน “สามีของฉันขอโทษพวกแกไปแล้ว พวกแกเองก็ควรขอโทษพวกเรากลับบ้างไม่ใช่รึไง?”
พอเย่ฮวนได้ยินอย่างนั้น เขาก็แค่ขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้แย้งอะไร
ไป๋ยี่เฟยหันมาจ้องหน้าเฝิงเซียนเซียน แล้วขำออกมา “แค่เพราะเรามาโดยไม่ได้รับเชิญก็ต้องขอโทษแล้วเหรอครับ?”
“พวกแกมาขัดจังหวะงานแต่งของเรา นี่ต่างหากล่ะเป็นจุดที่พวกแกต้องขอโทษ!”
ไป๋ยี่เฟยพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจ “ถ้าไม่ใช่พวกคุณที่เป็นฝ่ายใส่ร้ายน้องชายผมว่าเป็นโจร พิธีการของพวกคุณก็คงไม่ถูกขัดจังหวะหรอกจริงมั้ย? สรุปสุดท้าย สาเหตุจริงๆ มันก็มาจากพวกคุณไม่ใช่เหรอครับ!”
“ถ้าจะให้ขอโทษ พวกคุณก็ควรขอโทษตัวเองสิ!”
“ถ้าจะให้พูด ผมสามารถขอให้คุณขอโทษผมอีกรอบได้มั้ยครับ? เพราะเรายังมีธุระต้องไปทำอีก จู่ๆ พวกคุณก็มากล่าวหาน้องชายของผมว่าเป็นโจร ทำให้เราเสียเวลา เสียเวลาที่ต้องไปทำธุระสำคัญ”
“นี่แก!” เฝิงเซียนเซียนพูดอะไรไม่ออกแล้ว แล้วไม่รู้จะตอบโต้ยังไงอีก
ในตอนนั้นเอง เย่ฮวนก็พูดขึ้นว่า “พอได้แล้ว!”
พูดจบเขาก็หันไปพูดกับไป๋ยี่เฟยว่า “พวกแกไปได้แล้ว ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกแก”
ไป๋ยี่เฟยทำเสียงฮึดฮัด แต่ก็ไม่พูดอะไร จากนั้นก็จากไปพร้อมกับเฉินห้าวพอไป๋ยี่เฟยไปแล้ว เย่ฮวนก็ขอโทษแขกด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ดำเนินการตามพิธีการต่อ
ณ ลานจอดรถ ไป๋ยี่เฟยที่เพิ่งขึ้นรถ ก็เห็นหลิวเสี่ยวอิงตามออกมาแล้วเหมือนกัน จากนั้นเฉินห้าวก็เอามือถือที่ขโมยได้ออกมา
หลิวเสี่ยวอิงรู้สึกประหลาดใจมาก “ไหนบอกว่าไม่ได้เอามาไง?”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มออกมา “ได้มาหลังจากที่ค้นตัวแล้วต่างหากล่ะครับ”
ในตอนนี้ หลิวเสี่ยวอิงจำเป็นต้องนับถือฝีมือของเฉินห้าวแล้วจริงๆ บอกตามตรง ในบรรดาคนพวกนี้เฉินห้าวถือว่าเป็นคนที่ดูไม่โดดเด่นที่สุดแล้ว
ต่อสู้ไม่เป็น รักษาใครก็ไม่ได้ และยังไม่มีเส้นสายอีก
สิ่งเดียวที่เขามีก็คือมือไว
ปกติดูจะไม่มีประโยชน์อะไร แต่ในเวลาสำคัญกลับทำประโยชน์ได้เป็นอย่างดีเลย
“ฮึฮึ……” เฉินห้าวขำออกมาอย่างภาคภูมิใจ แล้วยื่นมือถือให้ไป๋ยี่เฟย “พี่รีบเปิดดูเถอะครับว่ามีรึเปล่า”
ไป๋ยี่เฟยรับมือถือไป แล้วรีบเปิดดูอย่างละเอียด จากนั้นก็เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดเข้า มันเป็นภาพของหลงหลิงหลิงนั่นเอง
และตรงหน้าของหลงหลิงหลิงตอนนี้มีชายไว้เคราคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ เขากำลังใช้แส้เฆี่ยนตีหลงหลิงหลิงอยู่ ส่วนหลงหลิงหลิงก็กำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดอาบเต็มตัว ไม่มีผิวหนังส่วนไหนที่ยังอยู่ในสภาพที่ดีแล้ว
“หลิงหลิง!” พอหลิวเสี่ยวอิงได้เห็นก็ตาแดงขึ้นมาทันที “ไอ้พวกเดรัจฉาน!”
เฉินห้าวเองก็สีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างกัน
ส่วนไป๋ยี่เฟยก็กำมือถือไว้แน่น แววตาเต็มไปด้วยความอาฆาต เหมือนมันกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว
พวกเขาเคยคิดว่าหลงหลิงหลิงจะต้องทรมานอยู่แน่ๆ แต่ไม่คิดว่าจะตกอยู่ในสภาพที่น่าเวทนาแบบนี้ ในตอนนี้ ความโกรธแค้นทั้งสามไม่เคยมีมาก่อนจนอยากจะฉีกกระชากชายไว้เคราในกล้องจนออกเป็นชิ้นๆ!
ไป๋ยี่เฟยปิดมือถือลง จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “คอนโดเจียงยี่เลขที่หก”
ถูกต้อง ในกล้องวงจรปิดแสดงที่อยู่และเวลาเอาไว้ ซึ่งพวกเขาสามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน
“ไป!”
สิ้นเสียง เฉินห้าวก็ขยับรถ ในเวลาเดียวกัน คนอื่นๆ ที่มาด้วยก็พากันขึ้นรถ แล้วตามออกไป
……
“พี่ครับ มีคนตามเรามา” เฉินห้าวมองไปที่กระจกหลัง
ไป๋ยี่เฟยตอบไปอย่างเรียบเฉย “ไม่ต้องสนใจ”
ตอนนี้เป้าหมายของพวกเขามีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือหลงหลิงหลิง
หลงหลิงหลิงกำลังถูกคนเฆี่ยนตีอยู่ ยิ่งพวกเขาไปถึงช้า หลงหลิงหลิงก็ยิ่งต้องทรมานมากขึ้น จนสุดท้าย อาจจะทำให้เกิดบาดแผลที่ไม่อาจรักษาได้
หลิวเสี่ยวอิงสีหน้าเป็นกังวลมาก พอเห็นหลงหลิงหลิงที่มีเลือดเต็มตัว มันก็ทำให้เธอรู้สึกร้อนใจไปหมดแล้ว ดวงตาก็ค่อยๆ แดงก่ำขึ้นมา
บรรยากาศภายในรถเคร่งเครียดจนน่ากลัว
ในที่สุด ครึ่งชั่วโมงให้หลัง คนทั้งกลุ่มก็มาถึงที่วิลล่าแล้ว พวกเขาเข้าไปยังวิลล่าได้อย่างราบรื่น จนมาถึงวิลล่าหลังที่หก
พอรถทุกคันถูกจอดเรียงลายอยู่หน้าวิลล่าแล้ว รถที่ขับตามมาก็จอดลงเหมือนกัน
ไป๋ยี่เฟยลงจากรถ คนที่อยู่ข้างหลังก็ลงจากรถเหมือนกัน
เพียงเวลาสองนาที วิลล่าหลังที่หกแห่งนี้ก็มีรถหลายสิบคันจอดล้อมไว้ คนเกือบร้อยยืนล้อมรอบ มืดฟ้ามัวดินไปหมด
ไป๋ยี่เฟยไม่มีกะจิตกะใจไปสนใจคนพวกนั้น เขาแค่เดินตรงไปข้างหน้า
“หยุดเดี๋ยวนี้!” ไป๋ยี่เฟยเงยหน้าขึ้นมามองเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ว่า “ไสหัวไป!”
“ฮึ แกนี่ช่างเอาแต่ใจจริงๆ เลยนะ?” ชายแว่นดำมองไป๋ยี่เฟยด้วยความตื่นเต้น “วันนี้แกอย่าหวังเลยว่าจะได้เดินผ่านหน้าฉันไปได้!”
ไป๋ยี่เฟยทำสายเคร่งขรึม สิ่งที่เกิดขึ้นมันเกินกว่าที่ชายแว่นดำจะคาดคิด ไป๋ยี่เฟยยกขาขึ้นมาถีบชายแว่นดำจนกระเด็นออกไป จากนั้นก็ก้าวเท้าเดินไปยังวิลล่า “ช่วยผมหยุดพวกเขาเอาไว้ให้ที!”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็ได้เดินเข้าวิลล่าไปในแล้ว
ส่วนคนที่เหลืออยู่ด้านนอกต่างพากันแตกตื่น
พวกเขายังไม่ทันได้ลงมือเลย แต่ชายแว่นดำคนนั้นแค่เข้าไปหยั่งเชิงเท่านั้น แต่ก็ถูกถีบกระเด็นไปแล้ว นี่มัน……ไม่เหมือนกับที่ได้รับรายงานมาเลยสักนิด!
ชายแว่นดำลุกขึ้นจากพื้นแล้ว “แม่งเอ๊ย!”
เขาตกใจกับการกระทำที่ไม่คาดคิดของไป๋ยี่เฟย แต่ไม่ใช่ความสามารถของไป๋ยี่เฟย สงสัยเมื่อคนถูกทำร้ายแล้วอาจจะทำให้สูญเสียสติสัมปชัญญะไปบ้างก็ได้
“ฉันจะฆ่าแก!” ชายแว่นดำเดินตามเข้าไป
ในตอนนั้นเอง ชายชุดดำกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่กับพวกเขาก็ปรากฏตัวออกมา
จู่ๆ พวกเขาออกมายืนขวางประตูของวิลล่าเอาไว้ ขวางทางที่พวกเขาต้องการเข้าไป
พอเห็นอย่างนั้น ชายที่มีรอยมีดบนหน้าก็ถามออกมาอย่างไม่เข้าใจว่า “พวกแกคิดจะทำอะไร? คิดจะแย่งค่าหัวกันใช่มั้ย?