ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 509
บทที่ 509
ไป๋ยี่เฟยออกแรงที่มืออีก “ฝีมือระดับอย่างเธอ ก็กล้าออกมาปลอมเป็นคนอื่น ไม่ช้าต้องตายคามือคนอื่นแน่! ฉันไม่เวลาไร้สาระกับเธอ บอกฉันมา โจวฉวี่เอ๋ออยู่ไหน?”
โจวฉวี่เอ๋อได้ยินก็ยิ้ม “หึ” “ฉันไม่บอก นายจะทำอะไรฉันได้?”
ไป๋ยี่เฟยไม่นุ่มนวลต่อศัตรูอยู่แล้ว กระชากเส้นผมของ’ โจวฉวี่เอ๋อ’ แล้วก็โขกศีรษะลงกำแพงอย่างแรง “บอกไม่บอก?”
“อ๊าก!”
หน้าผากของ’ โจวฉวี่เอ๋อ’ ปูดเป็นซาลาเปา เผยให้เห็นอย่างรวดเร็ว
“บอกไม่บอก?”
ในสายตาของโจวฉวี่เอ๋อเต็มไปด้วยความเคียดแค้น พูดอย่างชั่วร้ายว่า: “มีแต่ฉันที่รู้ว่าเธออยู่ไหน? ถ้านายฆ่าฉัน ก็อย่าคิดว่าจะได้รู้ตลอดไป!”
ไป๋ยี่เฟยส่งเสียง “หึ” อย่างเย็นชา “จะให้ใครสักคนเอ่ยปากบอก วิธีมีออกจะเยอะ!”
พูดเสร็จ ไป๋ยี่เฟยจับศีรษะของ’ โจวฉวี่เอ๋อ’ ไว้ เสียงดัง “ปัง” โขกเข้ากับกำแพงอีกครั้ง ครั้งนี้พอโขกเสร็จก็โขกต่อไม่หยุด กลับโขกสองต่อสามทีติดต่อกันอยู่หลายครั้ง
“เหอะๆ ……”
เสียงร้องอนาถของ’ โจวฉวี่เอ๋อ’ ดังไม่ขาดสาย หัวถูกโขกจนเลือดไหลแล้ว เนื้อก้อนนั้นดูช้ำเลือด ดูซึมออกมาเป็นพิเศษ
“จะให้โอกาสเธออีกครั้ง!บอกไม่บอก?” ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเยือกเย็น
‘โจวฉวี่เอ๋อ’ ไม่เคยรับโทษเช่นนี้มาก่อน ถูกโขกจนทนไม่ไหว ร้องไห้จนตาแดงพูดว่า: “ฉันบอก ฉันบอก……อย่าโขกกันอีกเลย……”
ไป๋ยี่เฟย “หึ” ในลำคอ “น่าจะบอกตั้งแต่แรก? จะต้องหาเรื่องให้ตัวเองทรมาน”
พูดเสร็จ ไป๋ยี่เฟยก็ปล่อยตัวโจวฉวี่เอ๋อ โจวฉวี่เอ๋อฉวยเวลาเหมาะ หลุดพ้นพันธนาการจากไป๋ยี่เฟยไปได้ จากนั้นก็ควักผงแป้งออกมาจากอก สาดไปที่ไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยตกใจ รีบถอยหลังหลบ ขณะเดียวกันก็ใช้มือปิดปากกับจมูก
‘โจวฉวี่เอ๋อ’ ฉวยโอกาสรอดพ้นจากไป๋ยี่เฟย กระโดดจากด้านข้าง หนีไป
ไป๋ยี่เฟยเห็นสภาพก็รีบเอายาแก้พิษที่เตรียมไว้ในมือ กินเสร็จก็รีบไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว
‘โจวฉวี่เอ๋อ’ ไม่ได้เข้าไปที่หอประชุม และก็ไม่ได้วิ่งไปที่ห้องพัก แต่อยู่รอบนอก วิ่งรอบดาดฟ้า
ไม่นาน’ โจวฉวี่เอ๋อ’ ก็อ้อมไปอีกด้านหนึ่งของดาดฟ้า วิ่งไปที่ข้างกายชายคนหนึ่ง ชายผู้นี้ยังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ด้านข้างมีโต๊ะเล็กตัวหนึ่งวางอยู่ด้วย บนโต๊ะเล็กมีถ้วยชาร้อนวางอยู่หนึ่งด้วย
“อาจารย์……” ‘โจวฉวี่เอ๋อ’ ก้มหน้าเรียกชื่อขึ้นมา
ชายหนุ่มวางหนังสือพิมพ์ลง มอง’ โจวฉวี่เอ๋อ’ แวบหนึ่ง พูดด้วยเสียงเรียบๆ ว่า: “ถูกพบเข้าแล้วเหรอ?”
“ค่ะ” ‘โจวฉวี่เอ๋อ’ ตอบกลับ
ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ “ดูถูกเขาไม่ได้เลยจริงๆ ……”
จบประโยค ‘โจวฉวี่เอ๋อ’ ยังไม่ทันพูดอะไรไป๋ยี่เฟยก็ตามมาถึงแล้ว
พอไป๋ยี่เฟยเดินมาด้านหน้า ก็ใช้สายตามองดูชายหนุ่มคนนั้น ดวงตาหลี่ลงเล็กน้อย ชายผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ! คิดว่าคงเป็นคนผู้นี้ที่สั่งการให้ผู้หญิงตรงหน้าปลอมแปลงเป็น ‘โจวฉวี่เอ๋อ’ แน่!
“โจวฉวี่เอ๋ออยู่ไหน?” ไป๋ยี่เฟยถามอย่างเปิดอก
โจวฉวี่เอ๋อตัวปลอมยืนอยู่ด้านหลังชายผู้นี้ จ้องไป๋ยี่เฟยด้วยความโกรธ อยากจะกดเขาลงที่พื้นแล้วต่อยเขาอย่างสุดแรง!
สีหน้าชายหนุ่มราบเรียบ ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ วางลงแล้วจึงพูดว่า: “เธอปลอดภัยดี นายไม่ต้องห่วง”
“แม่งเอ๊ยกูถามมึงว่า คนอยู่ไหน?” ไป๋ยี่เฟยหมดความอดทน อยู่ๆ ก็ตวาดขึ้นมา จน ‘โจวฉวี่เอ๋อ’ ตกใจตัวสั่นงันงก
ชายวัยกลางคนหัวเราะเบาๆ ว่า “พ่อหนุ่ม อย่าระเบิดอารมณ์ให้มาก”
ไป๋ยี่เฟยกำหมัดแน่น ถ้าไม่เพราะโจวฉวี่เอ๋ออยู่ในกำมือพวกมัน ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยก็ลงมือแล้ว “นายคิดจะทำอะไร?”
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่บอกว่าคนอยู่ที่ไหน อย่างนั้นต้องมีเป้าหมายแน่
ชายวัยกลางคนมองไป๋ยี่เฟยด้วยความชื่นชม “ไม่เสียแรงที่เป็นไป๋ยี่เฟยนี่!”
“ง่ายมาก เลิกล้มการลงเลือกตั้งประธานสหพันธ์ธุรกิจในครั้งนี้”
จบประโยค ไป๋ยี่เฟยก็หัวเราะขึ้นมา “เพื่อเรื่องนี้เหรอ?”
“ถูกต้อง” ชายหนุ่มพยักหน้า
ไป๋หัวเฟยหุบหัวเราะ “หรือพวกนายยังไม่รู้สภาพตอนนี้ของฉัน? ว่าฉันไม่มีคุณสมบัติไปลงเลือกตั้งได้”
ชายหนุ่มมองเขาอย่างเชิงลึก “สรรพสิ่งยากจะคาดเดา ใครจะไปรู้ได้?”
ไป๋ยี่เฟยนิ่งไปชั่วครู่ “หมายความว่าอะไร?”
ชายหนุ่มไม่ได้อธิบาย “สรุปคือ นายเลิกล้มเองซะ ฉันจะส่งหล่อนกลับมาอย่างปลอดภัยไม่ระคาย”
ไป๋ยี่เฟยส่งเสียง “หึ” อย่างเย็นชา “ไม่จำเป็นต้องให้ฉันเลิกล้ม การเลือกตั้งไม่มีฉันอยู่แล้ว ฉันต้องการเจอเธอตอนนี้!”
ชายหนุ่มยังไม่ทันพูด หญิงสาวที่ปลอมแปลงเป็นโจวฉวี่เอ๋อก็ชิงพูดขึ้นมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเกลียดชังไป๋ยี่เฟย “ไป๋ยี่เฟย นายไม่มีสิทธิ์มาต่อรอง!”
จบประโยค ชายหนุ่มค่อยๆ ชูมือขึ้น เป็นสัญญาณให้หญิงสาวไม่ต้องพูดมาก จากนั้นก็พูดกับไป๋ยี่เฟยด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ: “เอาอย่างนี้ดีไหม? เรามาเดิมพันกัน นายชนะ ฉันก็จะบอกนาย ถ้านายแพ้ ก็ทำตามที่ฉันบอก”
“เรื่องอะไร?” ไป๋ยี่เฟยหัวเราะอย่างเย้ยหยัน พูดจบ ก็ไม่รอให้พวกเขาพูดพล่อยต่อ ไป๋ยี่เฟยก็พุ่งไปข้างหน้า ลงมือ
หญิงสาวเห็นเช่นนี้ก็รีบมุ่งมาข้างหน้า ชนหมัดกับไป๋ยี่เฟย จำใจที่เธอเป็นผู้หญิง เรี่ยวแรงสู้ชายหนุ่มไม่ได้ ถูกต่อยจนถอยหลังไม่หยุด
ไป๋ยี่เฟยอยากจะจู่โจมชายหนุ่ม เขาต่างหากที่เป็นหัวหน้า ขอแค่จับเขาได้ ก็จะรู้ร่องรอยของโจวฉวี่เอ๋อ
ทว่า ไป๋ยี่เฟยเพิ่งจะเริ่มออกหมัด ก็รู้สึกเหมือนโลกหมุน มือไม้อ่อนแรง แย่แล้ว โดนพิษแล้ว!
ไป๋ยี่เฟยเพิ่งจะมีคิดขึ้นมาได้ แต่ก็เสียการรับรู้อย่างสิ้นเชิง ล้มลงที่พื้น
หญิงสาวเห็นสภาพแล้วก็รีบเดินเข้ามา ทำเสียง “หึ” ใส่อย่างเยือกเย็น แล้วยังใช้เท้าเตะไปที่ขาของเขา แล้วจึงถามด้วยความไม่เข้าใจว่า: “ทำไม่ฆ่าเขาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย?”
“ฆ่าเขาแล้วเรื่องราวก็จะลดลงไปเยอะ แล้วยังล่อไป๋หยุนเผิงออกมาได้ ทำไมถึงฆ่าเขาไม่ได้?”
“ฆ่าเขาเหรอ? เธอคิดว่าเธอฆ่าเขาได้เหรอ?” ชายหนุ่มย้อนถาม
“ตอนนี้เขาไม่มีอะไรให้น่ากลัวแล้ว ขอแค่ฉันลงมือเบาๆ ก็ทำให้เขาตายได้ ทำไมถึงไม่ฆ่าเขา?” ในสายตาหญิงสาวเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เมื่อครู่ไป๋ยี่เฟยกำเส้นผมของเธอ ออกแรงโขกกับผนัง หน้าของเธอช้ำเลือดไปหมดแล้ว เกรงว่าต่อไปคงทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้
ผู้หญิงที่ไหนบ้างไม่รักสวย? ใครอยากมีรอยแผลเป็นบนใบหน้า?
ชายหนุ่มเป็นท่าทางของหญิงสาวส่งเสียง “หึ” เย็นชาใส่ “งี่เง่า!”
“ใครๆ ก็รู้ว่าฆ่าไป๋ยี่เฟยแล้วจะล่อไป๋หยุนเผิงออกมาได้ แต่เธอเคยเห็นใครมาฆ่าเขาบ้างไหม?”
“ทำอะไรอย่าวู่วาม บางอย่างคนเราลงมือได้ เราไม่จำเป็นต้องเป็นคนออกหน้า ไม่อย่างนั้น ใครหน้าไหนก็รับไฟอารมณ์ของไป๋หยุนเผิงได้หมดสิ!”
“ขอแค่ไป๋ยี่เฟยไม่ได้เป็นประธานสหพันธ์ธุรกิจของเป่ยไห่ คนจากเมืองหลวงพวกนั้นก็จะ ระงับไม่ลงมือ ถึงเวลานั้นเราก็นั่งเป็นตาอยู่คอยเก็บผลประโยชน์ ไม่ดีกว่าเหรอ?”
หญิงสาวชะงัก เข้าใจขึ้นมาในพริบตา แต่ก็เป็นห่วงว่า: “แล้วเกิดไม่มีใครลงมือล่ะ?”
“ไม่หรอก” ชายหนุ่มแสยะยิ้มเสียง “หึ” “ต้องมีคนลงมือแน่”
“เพราะอะไร?” หญิงสาวไม่เข้าใจ ทั้งที่เขาพูดถูก ไม่มีใครหน้าไหนจะรับไฟอารมณ์ของไป๋หยุนเผิงได้หมด
ชายหนุ่มยิ้มอย่างชั่วร้าย “เพราะว่า หากไป๋หยุนเผิงมียันต์ป้องกันตัว พวกเขาก็จะลงมือได้ยากมากขึ้น”
……
ไป๋ยี่เฟยฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เขายังคงอยู่ที่เดิม เก้าอี้พนักก็ยังอยู่ โต๊ะกับถ้วยชาก็ยังอยู่ สิ่งเดียวที่ไม่อยู่คือ คนสองคนเมื่อครู่นี้
“แย่แล้ว!”
ไป๋ยี่เฟยโมโหเกลียดกำหมัดทุบลงบนโต๊ะด้วยความโมโหเคียดแค้น ชาในด้วยกระจายออกมาทันที แล้วก็ยืนอยู่มุมโต๊ะบนดาดฟ้า
เขานึกว่าเป็นยาแก้พิษแล้วก็จะไม่โดนพิษ ปรากฏก็ยังโดนอยู่ดี สุดท้ายถามไม่ได้ความว่าคนอยู่ไหน แล้วตัวเองก็ยังมาโดนพิษ
ไป๋ยี่เฟยเกลียดอยู่เงียบๆ สักพัก ก็ยืนขึ้นกลับมาที่หอประชุม
หลี่เสว่เห็นไป๋ยี่เฟยกลับมา แต่ไม่เห็นโจวฉวี่เอ๋อ ตกใจถามขึ้นว่า “ฉวี่เอ๋อล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยขอโทรตอบว่า; “ถูกคนจับตัวไปแล้ว เวลานี้ไม่เป็นไร ผม……”
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? บาดเจ็บตรงไหน?” ที่หลี่เสว่เป็นห่วงยิ่งกว่าคือไป๋ยี่เฟย