ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 51
บทที่ 51
“ไป๋ยี่เฟย?”เซียวหรงเทามองไปยังไป๋ยี่เฟยด้วยความประหลาดใจ ก่อนหน้านี้เพิ่งจะโดนไป๋ยี่เฟยหมิ่น ต้องขอโทษต่อหน้าผู้คนมากมาย ตอนนี้เห็นไป๋ยี่เฟย ก็ต้องกัดฟันข่มไว้
ไป๋ยี่เฟยมองไม่เห็นเซียวหรงเทา เพียงแต่มองไปที่โจวฉวี่เอ๋อ “คุณไม่ได้บอกว่าจะไปบริษัทหรอกหรือ? ทำไมถึงอยู่ที่นี่? พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่?”
ยิงคำถามต่อเนื่องแบบนี้ ทำให้สี่คนตรงหน้านี้ไปไม่ถูก
โจวฉวี่เอ๋อไปไม่ถูกตรงที่ไป๋ยี่เฟยไม่ทำตามที่ตกลงไว้ก่อนหน้า แค่แกล้งทำเป็นแฟนของเธอแล้วรีบพาเธอออกไปจากที่นี่ก็พอแล้ว แต่การที่มายิงคำถามรัวๆแบบนี้หมายความว่ายังไง?
“ฉวี่เอ๋อ ทำไมคุณไม่ตอบคำถามผม”
โจวฉวี่เอ๋อชะงักไปพักหนึ่ง ก่อนจะเรียกสติกลับมาได้ แกล้งทำเป็นตื่นตระหนกปนหวาดกลัวขึ้นมา “ฉัน…… ฉันไม่ได้ตั้งใจ……”
คุณแม่โจวเริ่มจับต้นชนปลายได้ “เธอเป็นใคร? ทำไมมาพูดจากับฉวี่เอ๋อแบบนี้?”
“ไป๋ยี่เฟย คุณทั้งสองรู้จักกันเหรอ?” เซียวหรงเทาตกใจเล็กน้อย
ไป๋ยี่เฟยพูดออกมาแบบไม่สบอารมณ์ “ฉวี่เอ๋อ คุณกำลังนัดดูตัวอยู่เหรอ? คุณเห็นผมเป็นตัวอะไร? ผมเป็นแฟนของคุณแท้ๆ คุณยังมานัดดูตัว?”
“ฉวี่เอ๋อ ลูกมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่?” คุณแม่โจวถามออกมาอย่างตกใจ
สีหน้าของเซียวหรงเทาเริ่มไม่ดีขึ้นมา “ไป๋ยี่เฟย ผู้ชายสารเลว! ฉวี่เอ๋อ คุณอยู่กับคนแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน? ทั้งที่เขามีภรรยาแล้ว! ยังจะมาคบกับคุณอีก!”
“อะไรนะ?” คุณแม่โจวและคุณแม่เซียวล้วนตกใจ
ไป๋ยี่เฟยตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ “ผมมีภรรยาก็จริง แล้วนายล่ะ นายไม่ใช่ว่ามีแฟนเหมือนกันเหรอ ยังมานัดดูตัว?”
“ผมเลิกกับเขาไปแล้ว!” เซียวหรงเทาลุกยืนขึ้นมา
ไป๋ยี่เฟยอ้อเบาๆออกมาหนึ่งคำ “ถ้าอย่างนั้นผมก็จะไปหย่ากับภรรยาเหมือนกัน!”
เซียวหรงเทานิ่งเงียบอย่างหมดคำพูด
คุณแม่เซียวดูสถานการณ์แล้วรีบนั่งตัวตรง ก่อนจะพูดอย่างเสียงเย็น “พูดอย่างนี้แสดงว่าเธอจะมาแข่งกับหรงเทาของเราอย่างนั้นเหรอ?”
“ครับ” ไป๋ยี่เฟยตอบรับอย่างเบาๆ
คุณแม่เซียวพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เจ้าหนุ่มน้อย ตอนนี้เป็นสังคมยุคของเงินทอง ถ้าจะแข่งกับหรงเทาของเรา ก็ต้องมีต้นทุนของการแข่งขัน? บ้านของเราเปิดบริษัทเอง หรงเทาเป็นผู้บริหารหลัก เธอมีอะไรที่จะมาแข่งกับหรงเทาของเราได้เหรอ?”
“ไม่ว่าส่วนไหนผมก็เหนือกว่าทั้งหมด” ถึงแม้ไป๋ยี่เฟยจะพูดออกมาอย่างนิ่งเรียบ ทว่ากลับแสดงถึงความวางมาด
เซียวหรงเทาโกรธจนถลึงตามองไป๋ยี่เฟย ต้องการจะพูดตอกกลับ แต่กลับไม่มีข้อแม้โต้แย้ง
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยเป็นถึงผู้บริหารของโหวจวี๋กรุ๊ป จะให้เขาไปเปรียบเทียบได้อย่างไร
คุณแม่เซียวกลับพูดอย่างใจเย็น “เจ้าหนุ่มน้อย ถ้าจะพูดคุยโวใครทำไม่เป็นกัน? มีความสามารถจริงก็แสดงออกมาสิ!”
ไป๋ยี่เฟยมองกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ “ความสามารถของการมีลูกเหรอ?”
“เธอพูดว่าอะไรนะ?”
ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นล้วนตกใจกันหมด
โจวฉวี่เอ๋อหน้าแดงขึ้นมา นี่ไป๋ยี่เฟยกำลังทำอะไรอยู่? ไม่ใช่ว่าให้เขามาพาเธอจากไปเหรอ? ทำไมถึงพูดเรื่องลูกขึ้นมา?
ตอนนี้กลับรู้สึกเสียใจภายหลัง เพราะสมองของเธอตันแล้วถึงเรียกไป๋ยี่เฟยให้มาช่วย เขากลับช่วยให้แย่ขึ้นซะอีก!
สายตาของคุณแม่โจวและคนอื่นๆหยุดอยู่บนตัวของโจวฉวี่เอ๋อก่อนจะกวาดตาสำรวจ
ตะลึงค้างไปชั่วครู่ คุณแม่โจวเริ่มกลับมามีสติ “เมื่อกี้เธอพูดอะไรนะ? ที่พูดมาเป็นความจริงเหรอ……”
โจวฉวี่เอ๋อก้มหน้างุด ใบหน้าแดงก่ำนั้นไม่ยอมตอบรับ
เธอจะตอบอะไรได้? จะตอบว่าไป๋ยี่เฟยคือคนที่เธอหามาให้แกล้งเป็นแฟนของตนอย่างนั้นเหรอ?
ถ้าพูดออกไป ที่พยายามมาทั้งหมดคงไร้ความหมาย?
แต่ว่าลักษณะตอนนี้ของโจวฉวี่เอ๋อทำให้คนรอบข้างเริ่มคิดไปไกล ทั้งหมดจ้องมองโจวฉวี่เอ๋ออย่างตกตะลึง
คุณแม่เซียวจางชุ่ยมีสีหน้าเข้มขึ้นมาทันที ก่อนจะลุกขึ้น ยืน “พี่จ้าว วันนี้พอแค่นี้เถอะ พวกเรายังมีธุระต่อ ขอตัวก่อน”
“พี่จาง……” จ้าวฉิงลุกขึ้นยืนเตรียมรั้งไว้
จางชุ่ยดึงเซียวหรงเทาขึ้นเตรียมตัวจะเดินออกจากคาเฟ่ไป
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะออกมา “อย่าเพิ่งรีบไปสิ? กาแฟยังดื่มไม่หมดเลย”
เซียวหรงเทาหันกลับกลับมามอง โกรธจนถลึงตามองไป๋ยี่เฟย “ไป๋ยี่เฟย ฝากไว้ก่อนเถอะ! เรื่องที่เธอทำกับฉันไว้ ฉันจะตอบกลับเป็นเท่าตัว!”
เห็นว่าพวกเขาเดินจากไปแล้ว จ้าวฉิงก้มหน้าถลึงตาไปทางโจวฉวี่เอ๋อและไป๋ยี่เฟยก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินจากไป
โจวฉวี่เอ๋อมองตามหลังจ้าวฉิงไป ยืนหยุดนิ่งอยู่กับที่ อยากจะตะโกนแต่ก็ตะโกนไม่ออก
ในใจของโจวฉวี่เอ๋อมีแต่ความโกรธ ทำได้แค่หยิบกระเป๋าฟาดเข้าไปที่ลำตัวของไป๋ยี่เฟย “ไป๋ยี่เฟย! คุณเป็นอะไรไป? ฉันแค่ขอให้คุณแกล้งทำเป็นแฟนของฉันพาฉันออกไปก็พอแล้ว คุณพูดถึงเด็กอะไร?”
“ผมทำไมกัน? ไม่ใช่ว่าผมกำลังแสดงตามแผนของคุณหรอกเหรอ? ผมยังแสดงไม่ถึงตอนที่ต้องพาคุณออกไปก็เป็นแบบนี้แล้ว จะมาโทษผมไม่ได้” ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าตนเองบริสุทธิ์ไร้ซึ่งความผิดใดๆ
“ถึงอย่างงั้นคุณจะพูดถึงเด็กได้อย่างไร? คุณ…… คุณ……” โจวฉวี่เอ๋อนึกถึงเรื่องลูกแล้วก็โกรธจนไปต่อไม่ถูก “คุณจ่ายเงินด้วย!”
สะพายกระเป๋าขึ้น ก่อนจะเหยียบส้นสูงเดินจากไป
ที่จริงแล้วนี่เป็นความตั้งใจของไป๋ยี่เฟย
โจวฉวี่เอ๋อดูถูกไป๋ยี่เฟยตั้งแต่แรก แล้วยังรู้สึกว่าไป๋ยี่เฟยไม่เหมาะสมกับหลี่เสว่อีก ก็เริ่มมองเขาไม่ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ปกติไม่มีเรื่องอะไรก็ชอบพูดประชดเขาตลอด ไม่บอกคงคิดว่าตนติดหนี้เธอซะอีก
ครั้งนี้เรียกเขาให้มาช่วย คิดว่าตนเป็นคุณหญิง ให้เขาเชื่อฟังคำสั่งอย่างนั้นเหรอ
หึ! เมื่อครู่นี้เขาตั้งใจจริงๆ คอยดูว่าหลังจากนี้ยังกล้าจะเรียกให้เขาไปช่วยอีกหรือเปล่า
จินตนาการไว้อย่างสวยงาม แต่ความจริงกลับทรหด
ไป๋ยี่เฟยเพิ่งจะถึงโหวจวี๋กรุ๊ปก็ได้รับสายโทรศัพท์จากโจวฉวี่เอ๋อ
“ฮัลโหล คืนนี้คุณมีเวลาว่างไหม?” โจวฉวี่เอ๋อถามออกมาด้วยเสียงเย็น
ไป๋ยี่เฟยถามกลับ “มีอะไร?”
“……แม่ฉันอยากให้คุณมากินข้าวด้วยกันที่บ้าน”
“อะไรนะ?” ไป๋ยี่เฟยไม่ต่อไม่ถูก “เดี๋ยวนะ พวกเราแกล้งแสดงกันอยู่ไม่ใช่เหรอ คุณปล่อยผมไปเถอะ! ผมมีภรรยาแล้ว!”
โจวฉวี่เอ๋อถุยน้ำลายออกมา “คุณคิดไปถึงไหนแล้ว? จะโทษก็โทษคุณนั่นแหละ พูดจาแบบนั้นออกไป ตอนนี้แม่ฉันเชื่อสนิทใจแล้ว คุณจะทำอย่างไรต่อ?”
คุณแม่โจวเชื่อคำพูดของไป๋ยี่เฟยสนิท ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้แล้ว ก็เรียกให้มากินข้าวที่บ้านซะเลย จะได้ถามถึงรายละเอียดต่างๆได้ด้วย
ไป๋ยี่เฟยถอนหายใจ “คุณบอกความจริงกับแม่คุณไปตรงๆไม่ได้เหรอ?”
“ฉันกลัวว่าจะทำให้แม่โกรธสุดขีดน่ะสิ”
“ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอย่างไรต่อไป? พวกเราไม่สามารถเป็นแบบนี้ทุกครั้งได้นะ ผมจะไปพูดกับเสว่เอ๋อยังไง ถ้าหากว่าเธอเข้าใจผิดเข้าจริงๆล่ะก็ ผมคงต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”
“ฉันจะช่วยอธิบายให้กับเสว่เอ๋อเอง คืนนี้มาหาพ่อแม่ฉันคุณก็ทำตัวให้แย่ๆหน่อย ทำให้พ่อแม่ฉันรู้สึกไม่พอใจ ทำให้เกลียดคุณได้ยิ่งดี ตอนบอกว่าเลิกกันแล้วจะได้ดูเป็นธรรมชาติหน่อย” โจวฉวี่เอ๋อสั่งการชัดเจน
วางสายไป ไป๋ยี่เฟยได้แต่ถอนหายใจออกมา ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
ตอนนั้นเอง หลงหลิงหลิงเคาะประตูขึ้นมา
“ขณะนี้นิวซีกรุ๊ปยังไม่ตอบรับมา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่รีบร้อนเหมือนกัน”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า “รู้แล้ว ถ้าอย่างนั้นคุณรีบไปสืบสถานการณ์ล่าสุดของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”