ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 53
บทที่ 53
“พ่อ ดูสิ เขากำลังพูดโกหกชัดๆ เมื่อกี้ยังคุยโม้อยู่เลย!” โจวฉวี่เอ๋อถือโอกาสเกลี้ยกล่อมพ่อ
คำพูดนี้บอกเป็นนัยย์อย่างชัดเจน หวังว่าพ่อจะรู้ว่าทุกสิ่งที่ไป๋ยี่เฟยพูดไปนั้นล้วนเป็นเรื่องที่คุยโวทั้งสิ้น ไม่มีประโยคไหนที่เป็นความจริงเลย
โจวเฉิงหัวกลับไม่ใส่มาก “ไม่เป็นไร ผู้ชายเป็นแบบนี้ล่ะ เรื่องดื่มเหล้าคงต้องรักษาหน้าไว้ทั้งนั้น อย่างน้อยก็ไม่อยากเสียหน้า เข้าใจได้ เข้าใจได้”
“นั่นสิ ผู้ชายไม่รักษาหน้าถึงจะผิดปกติ” จ้าวฉิงพยักหน้าเห็นด้วย
โจวฉวี่เอ๋อรู้สึกปวดขมับ
ตอนนี้เสียใจยังทันไหม? เธอเพียงแค่อยากให้พ่อกะบไม่ไม่ชอบเขา ก่อนจะอ้างได้ว่าเลิกกับเขาไปแล้ว เรื่องนี้จะได้จบกันไปสักที”
ผลสุดท้ายกลับตาลปัตรไปหมด ยิ่งพูดพวกเขายิ่งชอบใจ!
โจวฉวี่เอ๋อระอาใจ “พอเถอะ เดี๋ยวหนูส่งเขากลับบ้านแล้ว”
“เดี๋ยว รอก่อน!” จ้าวฉิงรีบเข้าไปยับยั้งโจวฉวี่เอ๋อ “ส่งเขากลับไปทำไม? ลูกโง่เหรอ!”
“หือ? ไม่ส่งเขากลับไปแล้วส่งเขาไปที่ไหน?” โจวฉวี่เอ๋อเงยหน้าขึ้น
จ้าวฉิงถลึงตาใส่โจวฉวี่เอ๋อ “ลูกดูเขาเมาจนไม่รู้เรื่องขนาดนี้ จะส่งเขากลับไปได้อย่างไร?”
“ใช่สิ!” โจวเฉิงหัวพูดสนับสนุน “คุณดูลูกคนนี้สิ ลูกส่งเขากลับไปแล้วใครจะดูแลเขาล่ะ?”
“ฉวี่เอ๋อ คนดีขนาดนี้ ลูกต้องคว้าโอกาสไว้ให้ดี อีกทั้งลูกยังตั้งครรภ์แล้ว ยิ่งต้องคว้าไว้ให้แน่น!” จ้าวฉิงส่งสายตาไปยังโจวฉวี่เอ๋อ
โจวฉวี่เอ๋อตัวแข็งทื่อทันที
สุดท้ายพูดไปพูดมา ไป๋ยี่เฟยก็ถูกรั้งให้อยู่ที่นี่ อีกทั้งถูกส่งไปยังห้องของโจวฉวี่เอ๋อ
ด้านนอกห้อง จ้าวฉิงมองไปยังโจวเฉิงหัว “เป็นอย่างไรบ้าง? ลูกเขยคนนี้?”
“ชั่วชีวิตนี้ของผมยังไม่เคยเห็นคนที่มีกิจการเยอะขนาดนี้มาก่อน!” โจวเฉิงหัวอดชื่นชมออกมาไม่ได้
จ้าวฉิงพูดออกมาอย่างตื่นเต้น “นั่นน่ะสิ! ลูกสาวของไอ้จางข้างบ้านแต่งงานกับผู้จัดการของบริษัทแห่งหนึ่ง ก็พูดอวดอยู่อย่างนั้นทั้งวัน เหมือนกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้อย่างนั้นแหละ!”
“หึ อีกไม่นานลูกสาวของเราแต่งออกไป พวกเขาคงตกใจมาก”
อายุยิ่งมาก ความอยากเปรียบเทียบลูกของตนกับคนอื่นยิ่งสูง ใครๆก็หวังว่าลูกของตนจะดีกว่าคนอื่น มีความสามารถมากกว่าคนอื่น พูดออกไปก็รู้สึกมีหน้ามีตา
ภายในห้อง ไป๋ยี่เฟยนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง
โจวฉวี่เอ๋อโมโหจนถีบเข้าไปหนึ่งที “นอนเป็นหมูเลย!”
“รู้แบบนี้ก็คงจะไม่พาคุณมาตั้งแต่แรก!”
“อย่างนี้จบกัน ยิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่แล้ว!”
“พ่อกับแม่ก็ด้วย คำพูดแบบนั้นก็เชื่อไปได้ ไม่รู้สมองไปไหนกันหมด?”
โจวฉวี่เอ๋อโมโหจนใกล้จะระเบิดแล้ว
กว่าจะใจเย็นลงมาได้ แต่กลับต้องพบกับอีกหนึ่งปัญหาใหญ่
คืนนี้เธอจะไปนอนที่ไหน?
นาทีนี้ อยู่ๆหลี่เสว่ก็วิดีโอคอลเข้ามา
สายตาของโจวฉวี่เอ๋อเป็นประกายขึ้นมา “เสว่เอ๋อ เธอช่วยฉันด้วย!”
หลี่เสว่เห็นว่าสีหน้าของโจวฉวี่เอ๋อไม่ค่อยดี รีบถามด้วยความเป็นห่วง “มีอะไรเหรอ?”
โจวฉวี่เอ๋อรีบสลับกล้องไปยังทิศทางของไป๋ยี่เฟยที่นอนอยู่บนเตียงนอน “เธอดูสามีของเธอสิ นอนหลับเหมือนกับหมูตายเลย! ทำยังไงก็ปลุกไม่ตื่น เธอว่าควรทำอย่างไรดี?”
หลี่เสว่มองเห็นร่างของไป๋ยี่เฟยแล้วสีหน้าซีดขาวขึ้นมาทันที “พวกเธอ……กำลังทำอะไรกันอยู่?”
“นอนอยู่อ่ะสิ!” โจวฉวี่เอ๋อกำลังนึกถึงปัญหาของที่นอนอยู่ คำว่านอนก็หลุดออกจากปากไปโดยไม่รู้ตัว
หลี่เสว่มือสั่นไปหมด โทรศัพท์หลุดจากมือตกลงไปที่เตียง
โจวฉวี่เอ๋อมองเห็นหน้าจอสีดำแล้วถึงจะเรียกสติกลับมาได้ “เสว่เอ๋อ ไม่ใช่แบบที่เธอคิดนะ……”
หลี่เสว่หยิบมือถือขึ้นมา ใบหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ก่อนจะพูดเสียงเย็น “ถ้าอย่างนั้นเป็นแบบไหน?”
“เสว่เอ๋อ พวกเรา……”
“ไม่ต้องอธิบายแล้ว ฉันเห็นหมดแล้ว มีอะไรที่ต้องอธิบายอีก! โจวฉวี่เอ๋อ ฉันมองเธอผิดไปจริงๆ ฉันมองเธอเป็นเพื่อนสนิทมาโดยตลอด เธอกลับกล้าทำเรื่องแบบนี้!”
“เสว่เอ๋อ ฟังฉันอธิบายก่อน!” โจวฉวี่เอ๋อรีบร้อนขึ้นมา
แต่หลี่เสว่กลับตัดสายทิ้งไปแล้ว เสียงของโจวฉวี่เอ๋อไม่ถูกส่งทอดไป
โจวฉวี่เอ๋อรีบโทรกลับไป แต่ถูกหลี่เสว่กดตัดสายทิ้ง
พยายามโทรไปต่อ แต่กลับได้ยินเสียงรอสายว่าอีกฝั่งปิดเครื่องไปแล้ว
เธอควรจะทำอย่างไรดี?
โจวฉวี่เอ๋อมึนงงไปชั่วขณะ
เธอไม่นึกว่าหลี่เสว่จะใส่ใจไป๋ยี่เฟยขนาดนี้ และยิ่งคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะพัฒนามาเป็นแบบนี้ เธอไม่รู้ว่าควรจะจัดการอย่างไรต่อไปดี
……
เช้าวันรุ่งขึ้น ไป๋ยี่เฟยตื่นขึ้นมาที่บริเวณที่คุ้นเคย ก่อนจะนวดขมับตัวเอง “ระดับการดื่มเหล้ายังคงต้องฝึกอยู่!”
ก่อนจะหมุนตัวกลับไปเห็นโจวฉวี่เอ๋อที่นั่งอยู่บนโซฟา
“ทำไมคุณถึงอยู่ตรงนี้?” ไป๋ยี่เฟยรีบลุกขึ้นมาอย่างตกใจ
ผมของโจวฉวี่เอ๋อยุ่งเหยิงไปหมด รอบตาดำคล้ำ แววตาไร้ซึ่งความรู้สึก สีหน้าขาวซีด
“คุณเป็นอะไรไป? ผมไม่ได้ทำอะไรคุณใช่ไหม?”
โจวฉวี่เอ๋อก้มหน้าลง น้ำเสียงแหบแห้ง “ฉันก่อเรื่องแล้ว……”
“เกิดอะไรขึ้น?” ไป๋ยี่เฟยถามออกมา
โจวฉวี่เอ๋อเล่าเรื่องที่คุยโทรศัพท์กับเสว่เอ๋อเมื่อคืนให้ไป๋ยี่เฟยฟัง พูดจบก็อดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้
“โฮๆๆ……ควรจะทำอย่างไรดี”
ไป๋ยี่เฟยกลั้นหายใจไปพักหนึ่ง “คุณ จริงๆเลย……”
เขากังวลมาตลอดว่าหลี่เสว่จะเข้าใจผิด เมื่อคืนวางแผนจะกลับไปอธิบายกับเธอให้ชัดเจน ผลสุดท้ายไม่ได้อธิบาย อีกทั้งยังมีเหตุให้เข้าใจผิดอีก!
“ฉัน……ฉันก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้! ฉัน…..” โจวฉวี่เอ๋อเอามือขึ้นปิดหน้าและสะอื้นไม่หยุด
พอเห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เรื่องนี้จะโทษเธอทั้งหมดก็ไม่ได้ ก็เลยปลอบประโลมเธอขึ้นมา “พอแล้ว อย่าร้องไห้ เดี๋ยวผมกลับไปอธิบายกับเสว่เอ๋อเอง คุณก็อธิบายกับเสว่เอ๋อด้วย เสว่เอ๋อจะเข้าใจได้เอง”
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยรีบจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง ล้างหน้าล้างตาก่อนจะเตรียมตัวออกจากห้องไป แต่ปรากฏว่าเจอกับโจวเฉิงหัวที่เพิ่งกลับมาจากการออกกำลังกายตอนเช้า
“เสี่ยวไป๋ตื่นแล้วเหรอ? เช้าตรู่ขนาดนี้จะไปไหนกัน?”
ไป๋ยี่เฟยตอบกลับอย่างมีมารยาท “คุณลุงครับ ที่บ้านผมเกิดเรื่องนิดหน่อย ต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็เดินออกจากหมู่บ้านไป และโบกรถแท็กซี่ข้างทางขึ้นไป “หลันโปกั่ง。”
มาถึงหลันโปกั่งแล้ว แต่ไป๋ยี่เฟยกลับไม่พบเจอกับหลี่เสว่ รู้ว่าเธอคงจะไปบริษัทแล้ว ก็เลยโทรหาเธอ แต่จะโทรอย่างไรก็โทรไม่ติด
สุดท้าย ไป๋ยี่เฟยทำได้เพียงส่งข้อความบอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบให้เธอได้เห็น
ในตอนนั้นเอง หลงหลิงหลิงโทรสายเข้ามาหาเขา “ท่านประธาน นิวซีกรุ๊ปทางด้านนั้นกำลังกดดันหลี่ซื่อกรุ๊ปอยู่ หลี่ซื่อกรุ๊ปหวังว่าทางโหวจวี๋กรุ๊ปจะออกหน้าช่วยได้ เขายินยอมจะแบ่งหุ้นให้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วขึ้น ก่อนตอบ “ผมเข้าใจแล้ว เดี๋ยวผมไปบริษัทเดี๋ยวนี้ล่ะ”
มาถึงโหวจวี๋กรุ๊ป หลงหลิงหลิงเดินเข้ามาหายังห้องทำงาน
“หลี่ซื่อกรุ๊ปจะทนไม่ไหวแล้ว ดังนั้นเลยพยายามจะติดต่อเรามาโดยตลอดเวลา”
ไป๋ยี่เฟยประหลาดใจ “เร็วขนาดนี้?”
หลงหลิงหลิงพยักหน้ารับ “แต่ว่ากิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ใช่เป้าหมายของพวกเรา ความเติบโตในอนาคตก็ไม่ใช่เป็นแบบที่เราปรารถนาไว้ ไม่เหมือนกับนิวซีกรุ๊ป ถ้าหากเราสามารถซื้อรวบบริษัทนิวซีกรุ๊ปได้ จะส่งผลดีต่ออนาคตของบริษัทพวกเราแน่”
“ดังนั้น ผมขอแนะนำให้รวบซื้อบริษัทนิวซีกรุ๊ป และปล่อยกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปไป”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วขึ้น “เรื่องนี้ผมวางแผนไว้แล้ว ส่งคนไปคลุกคลีกับหลี่ต้าไห่ต่อไป
หลี่เสว่ลงทุนกับกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปไปมาก ทุ่มเทให้กับหลี่ซื่อกรุ๊ปอย่างเต็มที่ ถ้าหากว่าไม่มีหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว หลี่เสว่คงจะเสียใจน่าดู เรื่องนี้เขาปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้
ไป๋ยี่เฟยพูดต่อ “จริงสิ คุณมีคนรู้จักอยู่ที่นิวซีกรุ๊ปไหม?”
“มีครับ”
“ช่วยเอาผมไปประจำที่ตำแหน่งพนักงานที่นั่นที”