ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 533
บทที่ 533
สวีลั่งนึกว่าพวกมันจะกล้ามากพอ แต่ความจริงแล้ว ไม่มีใครกล้าไปหยิบปืนเลยสักคน
ในเวลาไม่กี่วินาทีนี้ คนร้ายก็ตระหนักได้ว่าพวกมันสู้สวีลั่งไม่ได้ ดังนั้นปืนที่ตกลงบนพื้นกระบอกนั้น จึงกลายเป็นอาวุธที่ดีที่สุดของพวกมัน
หนึ่งในคนร้ายก้มลงเก็บปืนกระบอกนั้น แต่เพิ่งจะได้แตะกระบอกปืน จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็ปรากฏตัวขึ้นมาก่อน จัดการหักคอของคนคนนั้นทันที
ไป๋ยี่เฟยรีบเก็บปืนที่อยู่บนพื้นขึ้นมา ลั่นไก ยิงออกไป
“ปังๆ!”
สองคนที่พุ่งเข้ามากะจะโจมตีไป๋ยี่เฟยถูกยิงล้มลงที่พื้น
พอเห็นแบบนี้แล้ว คนร้ายที่เหลือต่างก็ไม่กล้าเข้ามา นี่มันเป็นความต่างกันระหว่างคนมีปืนกับคนไม่มีปืน
ชายที่เป็นหัวหน้าของพวกมันเห็นสถานการณ์แบบนี้ ก็รีบหยิบปืนของตัวเองมาเล็งไปที่ไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยก็เล็งไปที่เขา
ทั้งสองเผชิญหน้าซึ่งกันและกัน ไม่มีใครเริ่มยิงก่อน
ในขณะนี้เอง สวีลั่งก็พลิกกลับขึ้นมาบนเรือ ยืนอยู่ข้างหลังไป๋ยี่เฟย
หลังจากที่ชายคนนั้นเห็นไป๋ยี่เฟยสีหน้าก็ตื่นตกใจ“แก……แกขึ้นมาบนเรือได้ยังไง?”
เมื่อตะกี้ทุกคนต่างก็เห็นไป๋ยี่เฟยกระโดดลงทะเลกันหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาไม่มีทางส่งคนลงไปหาแน่นอน
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตอบ แต่ฉวยโอกาสตอนที่เขากำลังตกใจอยู่นั้น ยิงปืนใส่คนร้ายสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆเขา หลังจากยิงไปสองคนแล้ว บนเรือก็เหลืออยู่แค่ชายคนนั้นเดียวที่กำลังถือปืนอยู่
ชายคนนั้นได้ยินเสียงก็กำปืนในมือของตัวเองไว้แน่น เหมือนกับกำลังจะยิงปืน
ไป๋ยี่เฟยก็เล็งไปที่เขาอย่างรวดเร็ว พูดขึ้นอย่างไม่รีบไม่ร้อน“จะยิงพร้อมกันไหม? วัดกันหน่อยว่าใครยิงเร็วกว่า?”
ชายคนนั้นได้ยิน ก็จ้องเขม็งไป๋ยี่เฟยด้วยสายตาเหี้ยมโหด“ไป๋ยี่เฟย แกอย่าเพิ่งได้ใจเร็วเกินไป!”
“แล้วไง?”ไป๋ยี่เฟยยกไหล่อย่างไม่สนใจ“จะยิงไหม?”
ชายคนนั้นจ้องเขม็งด้วยความโกรธ สายตาเต็มไปด้วยความมืดมน
ไป๋ยี่เฟยพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ“เมื่อตะกี้ฉันยิงไปแล้วสี่นัด น่าจะเหลือกระสุนอยู่อีกหนึ่งนัด ส่วนปืนของแกยังเหลืออีกสามนัด โอกาสชนะของแกสูงกว่าฉันอีกนะ”
ชายคนนั้นได้ฟังแล้วก็กัดฟันกรอดๆพร้อมกับพูดขึ้น“ถ้าอย่างนั้นก็มาสิ!”
ในเวลานี้เอง ท่ามกลางกลุ่มคนก็มีชายชราคนหนึ่งยืนขึ้นมา แค่หันไปก็เห็นเขาแล้ว
ชายชราอายุน่าจะประมาณหกสิบกว่าๆ รอยย่นเต็มหน้า ผมขาว แต่พอยืนขึ้นมาแล้วกลับไม่ได้หลังแอ่นหลังโก่งเหมือนกับคนแก่ทั่วๆไป เขายืนตรงมาก
“ไม่แปลกที่ส่งคนมาเยอะขนาดนั้นยังฆ่าแกไม่ได้ มีฝีมือจริงๆ”ชายชราเดินมายังไป๋ยี่เฟยทีละก้าวๆ
ตอนที่ทุกคนกำลังตัวสั่นอยู่นั้น จู่ๆชายชราคนนี้ก็โผล่ขึ้นมา ช่างน่าแปลกจริงๆ
ไป๋ยี่เฟยกับสวีลั่งรีบตอบสนองทันที แต่ชายชราเร็วจนน่าแปลกใจ ไม่ทันได้ตั้งตัวก็มายืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาทั้งสองแล้ว
สวีลั่งชักมีดออกมา เสียดายที่เพิ่งจะพุ่งเข้าไป ก็ถูกเตะกระเด็นออกไปก่อนแล้ว
“ปึ้ง!”
สวีลั่งชนเข้ากับระเบียง ตอนที่จะตกลง กระอักเลือดออกมา
ขณะที่ไป๋ยี่เฟยรู้สึกตกใจอยู่นั้นก็หันปืนไปอย่างรวดเร็ว เล็งไปที่ชายชราคนนั้น
ชายชราลงมืออย่างรวดเร็ว จับกระบอกปืนเอาไว้ ดันกระบอกปืนเล็งขึ้นฟ้า
“ปัง!”
ไป๋ยี่เฟยยิงปืนออกไปหนึ่งนัด แต่กลับยิงขึ้นไปบนฟ้า
ไม่รอให้ไป๋ยี่เฟยได้เคลื่อนไหว ก็รู้สึกถึงแรงโจมตีที่รุนแรง ต่อมา ก็กระเด็นลอยออกไปเหมือนกับสวีลั่ง
ชนเข้ากับระเบียง
ดีอยู่แค่อย่างเดียวก็คือ ไป๋ยี่เฟยไม่ได้กระอักเลือดออกมา
คนที่อยู่บนดาดฟ้าพอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ก็ไม่ได้ตอบสนองอะไรกลับมาแม้แต่น้อย
พอได้สติกลับมาแล้ว ชายชราก็ควบคุมทุกคนไว้หมดแล้ว กลายเป็นคนควบคุมบงการไปแล้ว
ไป๋ยี่เฟยกัดฟัน คิดที่จะลุกขึ้นมา จู่ๆหน้าผากกลับถูกปากกระบอกปืนมาจ่อเอาไว้ เขาไม่กล้าขยับทันที
ชายคนนั้นเห็นแบบนี้ก็สบถหึออกมา ก่อนจะเตะไปหนึ่งที“แม่ง!กล้ามาเล่นกับฉัน!”
ไป๋ยี่เฟยนั่งลงไปที่พื้นอีกครั้ง อ้าปากยิงฟันด้วยความเจ็บปวด
“ถ้าเก่งจริงก็อย่าให้คนมาช่วยสิ!”ไป๋ยี่เฟยกุมท้องเอาไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะจู่ๆชายชราคนนี้โผล่มาล่ะก็ สถานการณ์ก็คงจะไม่เปลี่ยนมาเป็นแบบนี้แน่นอน
ชายคนนั้นถูกยุจนโกรธสุดๆ“ถุ้ย!”
พูดจบ ชายคนนั้นก็คิดที่จะเตะไป๋ยี่เฟยไปอีกหนึ่งที แต่ถูกชายชรานั่นห้ามเอาไว้ก่อน“พอแล้ว”
ชายคนนั้นได้ยินที่ชายชราพูด ก็วางขาลงอย่างไม่พอใจ พูดตอบรับออกมาด้วยความเคารพ“ครับท่านจุน”
ท่านจุนตอบอืมกลับมาอย่างนิ่งๆ เดินตรงไปที่ไป๋ยี่เฟยสองก้าว จากนั้นก็นั่งยองลง พูดชื่นชม“ไอ้หนุ่ม แกไม่เลวเลยนี่”
“ก็ดูออกนี่?”ไป๋ยี่เฟยเบ้ปากเล็กน้อย ถามขึ้นอย่างเย้ยหยันตัวเอง
ท่านจุนพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ“เจอกับสถานการณ์แบบนี้ ยังเงียบสงบได้ เทียบกับคนทั่วไปแล้ว ดีกว่าเยอะมากๆ”
“ถูก”ไป๋ยี่เฟยพยักหน้ายอมรับคำชม
ท่านจุนยิ้มๆ ตบๆลงที่ไหล่ของไป๋ยี่เฟย“เชื่อว่าในอนาคตอีกไม่นาน จะกลายเป็นคนที่สุดยอดคนหนึ่งเลย”
ไป๋ยี่เฟยถามขึ้นอย่างนิ่งๆ“ดูจากตอนนี้แล้ว ฉันไม่น่าจะมีอนาคตอีกแล้ว”
“จะเป็นไปได้ยังไง?” ท่านจุนสบถออกมา ก่อนจะพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ“โอกาสอยู่ตรงหน้าของแกแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าแกจะคว้ามันไว้หรือไม่”
“โอกาสอะไร? บอกมาสิ”ไป๋ยี่เฟยพูดตอบ
ท่านจุนยิ้มๆพยักหน้า ไม่ได้เปิดปากพูดออกมาทันที ครุ่นคิดอยู่สักพัก จึงพูดขึ้น“พวกเรามาทำการแลกเปลี่ยนกัน”
“แลกเปลี่ยนอะไร?”ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วถาม
ท่านจุนพยักหน้า พูดขึ้นกับไป๋ยี่เฟย“แกช่วยฉันล่อฆ่าไป๋หยุนเผิง หลังจากสำเร็จแล้ว ฉันจะช่วยให้แกได้กลายเป็นหัวหน้าตระกูลของตระกูลไป๋”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็ยิ้มอย่างอดไม่ได้
ท่านจุนเห็นแบบนี้ก็ขมวดคิ้ว“แกยิ้มอะไร?”
“คนเยอะขนาดนี้ได้ยินหมดแล้ว คุณแน่ใจ?”ไป๋ยี่เฟยกวาดสายตามองคนที่อยู่บนดาดฟ้า น้ำเสียงที่พวกเขาพูดก็ไม่ได้จงใจพูดเสียงเบา คนรอบข้างได้ยินแบบนั้นกันหมด ถ้าเกิดมีใครเผลอพูดออกไป แล้วจะเป็นการลอบฆ่ายังไง?
ท่านจุนไม่คิดแบบนี้“ได้ยินแล้วทำไม? พวกมันก็ต้องมีชีวิตออกไปจากเรือสำราญให้ได้ก่อน”
พอพูดแบบนี้ คนรอบๆก็ยิ่งตื่นตกใจขึ้นกว่าเดิม
ไป๋ยี่เฟยก็ขมวดคิ้วเช่นกัน อยากรู้ว่า คนจำนวนเกือบพันคนบนเรือสำราญนี้ ต้องฆ่าตายให้หมดเลยอย่างนั้นเหรอ?
คิดภาพดูแล้ว ศพจะต้องกองกันกลายเป็นภูเขาแน่ๆ
น่ากลัวสุดๆ
เกือบพันชีวิต บอกว่าฆ่าก็ต้องฆ่า
ไอ้คนที่ชื่อท่านจุน คงจะไม่ใช่คนบ้าใช่ไหม?
ไป๋ยี่เฟยยังจำตอนที่เย่ฮวนบอกว่าตัวเองเป็นคนบ้าได้ เทียบกับท่านจุนนี้แล้ว เขาเป็นคนปกติไปเลย
ไป๋ยี่เฟยกวาดสายตาไปมองท่านจุนอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“แกมาให้ลูกชายแท้ๆของเขาไปล่อเขามาฆ่าเนี่ยนะ ไม่กลัวจะล้มเหลวกลางคันหรือไง?”
“เป็นลูกแท้ๆก็จริง แต่ ฉันตรวจสอบมาแล้ว ว่าความสัมพันธ์ของพวกแกไม่ค่อยดี” ท่านจุนพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ
ไป๋ยี่เฟยได้ยินแบบนั้นก็มองต่ำลง ยิ้มอย่างอมทุกข์“ก็เป็นแบบนั้นจริงๆนั่นแหละ”
ท่านจุนจ้องไป๋ยี่เฟย“แสดงว่าเห็นด้วยกับการแลกเปลี่ยนนี้?”
“ฉันยังไม่ได้บอก”ไป๋ยี่เฟยยกไหล่
ท่านจุนสีหน้านิ่งขรึมทันที“แกคิดจะเล่นตลกกับฉัน?”
ไป๋ยี่เฟยนิ่งเงียบไปสักพัก จึงเปิดปากพูดขึ้น“ฉันมีข้อแม้หนึ่งอย่าง”
“ว่ามา”
ไป๋ยี่เฟยชี้ไปที่ชายที่อยู่หลังท่านจุนคนนั้น “ฉันเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น เมื่อตะกี้มันใช้ปืนชี้ใส่ฉัน ฉันเกลียดสุดๆ ถ้าแกฆ่ามันซะ ฉันก็จะยอมตกลงกับแก”
ชายคนนั้นได้ฟัง ก็ตื่นตกใจทันที“ท่านจุน……”
ท่านจุนยกมือขึ้น บอกเป็นนัยว่าไม่ให้เขาสอดปากพูดแทรก
แล้วก็พูดกับไป๋ยี่เฟย“ไอ้หนุ่ม ป่านนี้แล้ว ยังมาจะเล่นตลกกับฉันอีกเหรอ?”
“แกไม่ดูเลยเหรอว่าตอนนี้จุดยืนของแกอยู่ตรงไหน? คิดจะมามีข้อแม้กับฉัน? มีสิทธิ์หรือไง?”
ท่านจุนพูดถูก ไป๋ยี่เฟยถูกพวกมันจับไว้แล้ว ไม่ว่าไป๋ยี่เฟยจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย พวกมันก็สามารถใช้ให้ไป๋ยี่เฟยไปล่อไป๋หยุนเผิงมาฆ่าได้อยู่ดี
ไป๋ยี่เฟยสีหน้าไม่เปลี่ยน พูดขึ้นอย่างนิ่งๆ“คนจำนวนเกือบพันคนบนเรือสำราญลำนี้ พวกแกฆ่าได้หมด แค่มันคนคนเดียวทำไมถึงฆ่าไม่ได้?”
“เขาเป็นคนของฉัน เทียบกับคนพวกนี้ไม่ได้เลยสักนิด” ท่านจุนพูดตอบ“อีกอย่าง ถ้าฉันไม่อนุญาต ใครจะกล้าแตะต้องเขา?”
ไป๋ยี่เฟยสบถอย่างเย้ยหยัน มองชายคนนั้นด้วยสายตาเยือกเย็น“วันนี้ฉันจะฆ่ามันให้ได้”