ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 541
บทที่541
เฝิงเซียนเซียนรีบซักถามทันที “แล้วคนอื่นๆ ล่ะ? นอกจากเสียงนี้แล้วก็ไม่มีใครโหวตให้เขาเลยเหรอ?”
สวี่ชางพยักหน้า “มีแค่เย่เจี่ยคนเดียวเท่านั้นที่โหวตให้เย่ฮวนจริงๆ”
“เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง?” เฝิงเซียนเซียนไม่อยากจะเชื่อ
สวี่ชางไม่ได้ตอบคำถามของเฝิงเซียนเซียน แต่เขากลับหันไปถามไป๋หยุนเผิงกับหลินยู่ชังว่า “เสียงของตระกูลไป๋กับตระกูลหลินโหวตให้หลี่เสว่ไปแล้วใช่ไหมครับ?”
“ถูกต้อง” ทั้งสองพยักหน้ายอมรับพร้อมกัน
สวี่ชางพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “สหพันธ์ธุรกิจของเราก็โหวตให้หลี่เสว่เหมือนกัน ดังนั้นหลี่เสว่จึงมีคะแนนเสียงทั้งหมด350เสียง คะแนนเสียงพอนี้มีปัญหาตรงไหนไหมครับ?”
“ว่าไงนะ?”
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็กักเก็บความรู้สึกตกใจเอาไว้ไม่อยู่แล้ว เสียงพูดคุยระเบิดออกมาทันที
พอมันคำนวณแบบนี้ คะแนนเสียงก็ลงตัวพอดี
แต่ปัญหาใหญ่คือทำไมต้องโหวตให้หลี่เสว่ด้วย?
เฝิงเซียนเซียนทนต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงได้ถามคำถามนี้ออกไป “ทำไมต้องโหวตให้หลี่เสว่ด้วย?”
“กูจะโหวตให้ใครมันก็สิทธิ์ของฉัน เธอมายุ่งอะไรด้วย?” สวี่ชางทำเสียงฮึดฮัดด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย “ส่วนสองท่านนี้ผมจะไปรู้ได้ยังไง?”
สีหน้าของเฝิงเซียนเซียนเปลี่ยนไปอีกครั้ง เย่ฮวนรีบดึงเธอเอาไว้ สีหน้าของเขาก็ดูแย่ไม่ต่างกัน “เซียนเซียน!”
ณ ตอนนี้ ความรู้สึกที่มองเฝิงเซียนเซียนก็ไม่ต่างกับมองหมูหน้าโง่เลย”
แล้วไป๋หยุนเผิงก็พูดขึ้นว่า “หลี่เสว่เป็นลูกสะใภ้ของผม การที่ผมจะโหวตให้เธอคงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมครับ?”
ส่วนหลินยู่ชังก็พูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉยว่า “ผมคิดว่า ผมจะโหวตให้ใครมันก็คงไม่ใช่เรื่องของคุณมั้งครับ? หรือผมจะเลือกใครต้องเลือกตามที่คุณบอกเหรอครับ?”
สิ้นเสียง ทุกคนก็พากันเงียบกันหมด ไม่มีซุ่มเสียงเลยแม้แต่น้อย
สามคนนี้เป็นใครกัน?
คนหนึ่งเป็นคนที่มีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งอย่างสหพันธ์ธุรกิจ คนหนึ่งเป็นผู้นำตระกูลไป๋ ส่วนอีกคนก็เป็น ท่านรองของตระกูลหลิน ใครบ้างที่ไม่มีหน้ามีตา จะโหวตให้ใครยังต้องไปถามคนอื่นอีกเหรอ?
มันก็ต้องไม่อยู่แล้ว!
คำถามแบบนี้มันแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังไม่พอใจคนทั้งสามอยู่ ยิ่งเป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่ากำลังท้าทายคนทั้งสามอยู่
คนอื่นๆ ต่างพากันมองไปที่เฝิงเซียนเซียนกับเย่ฮวนโดยอัตโนมัติด้วยความรู้สึกที่เห็นอกเห็นใจเย่ฮวน ทำไมเขาถึงได้ผู้หญิงที่โง่ขนาดนี้มาเป็นคู่ครองได้นะ?
ถามคำถามแบบนี้ออกมาได้ยังไง? แถมยังถามออกมาได้อย่างมั่นใจ ราวกับเป็นเรื่องปกติ
เย่ฮวนเริ่มเหงื่อตกแล้ว เขาจึงรีบลุกขึ้นมาขอโทษคนทั้งสามที่อยู่บนเวที “ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ คู่ครองของผมไม่รู้กาลเทศะ จนไปล่วงเกินทั้งสามท่านเข้า ผมต้องขอโทษทั้งสามท่านด้วยครับ”
เฝิงเซียนเซียนหดตัวเล็กลง ก้มหน้าและไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย
เนื่องจากเมื่อกี้สวี่ชางทำตัวกร่างไปหน่อย แถมคำพูดก็ค่อนข้างแรงด้วย เขาจึงรู้สึกเกรงใจ พอตอนนี้เย่ฮวนออกมาขอโทษด้วยตัวเอง เขาค่อยมีที่ลงหน่อย
“เฮ้อ พวกคุณก็ควรเชื่อมั่นในความยุติธรรมของทางสหพันธ์หน่อยสิ อีกอย่างนะ เราจะโหวตคะแนนให้ใครพวกคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาว่าอะไรจริงมั้ย?”
ไป๋หยุนเผิงกับ หลินยู่ชังไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น
เย่ฮวนได้แต่ก้มหน้า แล้วตอบรับด้วยเสียงที่แผ่วเบา
เย่เจี่ยที่อยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วแล้วมองมาที่เฝิงเซียนเซียนด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจนัก แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
หลังจากนั้น ภายในห้องก็ยังคงตกอยู่ในความเงียบ
ไป๋ยี่เฟยในตอนนี้ได้รับรู้แล้วว่า ภรรยาของตัวเองหลี่เสว่ชนะการเลือกตั้งแล้วจริงๆ กลายเป็นประธานสหพันธ์ธุรกิจของเมืองเป่ยไห่ไปแล้ว
ชั่วขณะหนึ่งเขายังนึกว่าเป็นความฝันด้วยซ้ำ
พอมาคิดๆ ดูแล้ว ตอนแรกหลี่เสว่มาที่นี่ก็เพราะไป๋ยี่เฟย มาพร้อมกับใจที่อยากจะช่วยเหลือไป๋ยี่เฟยเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าเธอจะกลายเป็นประธานสหพันธ์ธุรกิจไปแล้วจริงๆ
ในตอนนั้น สวี่ชางก็เคลียร์ลำคออีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้น ลำดับต่อไป ขอเชิญประธานสหพันธ์ธุรกิจคนใหม่หลี่เสว่ ขึ้นมากล่าวอะไรสักหน่อยดีกว่าครับ”
พูดจบ สายตาทุกคู่ก็มองมาที่หลี่เสว่
หลี่เสว่หันมายิ้มให้ไป๋ยี่เฟย แล้วลุกขึ้นยืนด้วยความมั่นใจ จากนั้นก็ค่อยๆ เดินขึ้นเวทีไป
ในหัวของเธอตอนนี้หวนนึกถึงคำพูดที่เธอพูดกับไป๋หยุนเผิงเมื่อคืน
“พ่อคะ หนูมีเรื่องจะขอร้องพ่อเรื่องหนึ่งค่ะ”
“พูดมาเลย เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องขอหรอก”
“พ่อคะ พ่อสามารถทำให้หนูกลายเป็นประธานของสหพันธ์ธุรกิจได้มั้ยคะ?” หลี่เสว่ลังเลอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป
พอคำพูดนั้นถูกเอ่ยออกมา ไป๋หยุนเผิงก็อึ้งอยู่กับที่เลย
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหลี่เสว่จะขออะไรแบบนี้กับเขา แต่เขาก็ตอบไปอย่างยิ้มๆ ว่า “ทำไมถึงไม่เป็นลูกฉันล่ะ?”
หลี่เสว่กัดริมฝีปาก แต่แววตากลับเป็นประกายมาก “หนูอยากช่วยเขาค่ะ”
“ทำไมถึงไม่ขอให้ช่วยให้เขาได้ขึ้นเป็นประธานล่ะ? ทำไมถึงเป็นตัวหนูเอง?” ไป๋หยุนเผิงถามไปด้วยความไม่เข้าใจ
หลี่เสว่นิ่งไปวิหนึ่ง จากนั้นก็ตอบไปว่า “เขายังมีเรื่องอีกมากมายให้ต้องไปทำ หนูจะเป็นแรงสนับสนุนให้เขาเองค่ะ”
ความจริงนี่เป็นแค่เหตุผลเดียวเท่านั้น เหตุผลหลักจริงๆ ก็เพื่อตัวเธอเองนั่นแหละ เธอมีลูกไม่ได้แล้ว
ถึงตอนนี้เธอจะตัดสินใจอยู่กับไป๋ยี่เฟย แต่มันก็การันตีไม่ได้ว่าต่อไปถ้าเรื่องนี้เกิดแดงขึ้นมา เธอจะยังมีสิทธิ์อยู่ข้างเขาอีกมั้ย ดังนั้นตอนนี้เธอต้องแข็งแกร่งขึ้น อย่างน้อยต่อไปก็ยังสามารถเป็นกำลังให้เขาได้
ไป๋หยุนเผิงกำลังใช้ความคิด เพราะเขารู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่เหตุผลเดียว คิดอยู่พักหนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา เขาตอบไปแค่ว่า “การที่ยี่เฟยได้มีหนู มันช่างเป็นวาสนาของเขาจริงๆ”
“ขอบคุณมากค่ะพ่อ” หลี่เสว่รู้ดีว่านี่คือการแสดงออกว่าเขาจะช่วยเธอ
………
กลับมาที่ปัจจุบัน หลี่เสว่กำลังก้าวขึ้นเวทีอย่างช้าๆ
หลี่เสว่หันไปยิ้มให้สวี่ชาง จากนั้นก็หันมาทางทุกคน “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ขึ้นเป็นประธานของสหพันธ์ธุรกิจ ฉันเชื่อว่าทุกท่านคงไม่ค่อยพอใจแต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะยังไงตอนนี้ฉันก็ได้เป็นประธานของสหพันธ์ธุรกิจแล้ว”
“อำนาจที่ทางสหพันธ์มีไม่ว่าใครก็ห้ามท้ายทา ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ถ้ามีปัญหาฉันก็ไม่ละเว้นทั้งนั้น!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดไป ทุกคนต่างก็ช็อกกับบารมีที่หลี่เสว่แสดงออกมา
ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะพูดอะไรที่มันดูมีบารมีแบบนี้ออกมาได้?
พอเห็นแบบนั้น เฝิงเซียนเซียนก็เครียดจนไม่รู้จะเครียดยังไง เมื่อกี้เธอยังหัวเราะเยาะคนอื่นว่ามีแค่50คะแนนอยู่เลย แล้วสุดท้ายล่ะ? แค่แป๊บเดียวเขาก็ขึ้นเป็นประธานของสหพันธ์ไปแล้ว มันช่างน่าขายหน้าจริงๆ
แต่แล้วเธอก็ลืมบทเรียนที่เพิ่งได้รับมา จึงได้ถามออกไปว่า “แล้วถ้าเธอเกิดใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตนล่ะ? แบบนี้สหพันธ์ธุรกิจยังจะเหลือความน่าเชื่อถืออีกมั้ย?”
พอได้ยินอย่างนั้น หลี่เสว่ก็เหร่มองเธอ แล้วตอบไปว่า “ฉันจะพยายามทำให้มันยุติธรรมที่สุดค่ะ”
ว่าไงนะ?
พยายามทำให้ยุติธรรมที่สุดเหรอ?
ทุกคนต่างพากันตกใจ
นี่เธอพูดตรงเกินไปรึเปล่าเนี่ย?
จะอ้อมค้อมสักหน่อยไม่ได้เลยรึไง
เย่ฮวนกับเฝิงเซียนเซียนสีหน้าดูแย่ลงอีกครั้ง
คงมีแต่ไป๋ยี่เฟยกับหวังโหลวเท่านั้นแหละที่สีหน้ายังพอดูได้บ้าง
หลี่เสว่เป็นภรรยาของไป๋ยี่เฟย ไม่ว่ายังไงก็เป็นคนในครอบครัว การที่หลี่เสว่ได้ขึ้นเป็นประธานของสหพันธ์ธุรกิจ มันก็ไม่ต่างกัน
แต่เย่ฮวนนั้นไม่เหมือนกัน นึกถึงตอนที่เย่ฮวนพูดจาใหญ่โตใส่ไป๋ยี่เฟยก่อนหน้านี้ ว่าจะไม่มีทางยกตำแหน่งนี้ให้ไป๋ยี่เฟยเด็ดขาด
แต่ผลที่ออกมากลับไม่เป็นไปตามที่คิด เขาไม่ได้ชนะ เย่ฮวนเองก็ไม่ได้ชนะ แต่คนที่ชนะกลับเป็นภรรยาของเขา หลี่เสว่
ในตอนนั้น หวังโหลวที่นั่งอยู่ข้างๆ ไป๋ยี่เฟยก็แอบกระซิบเบาๆ ว่า “เป็นการหักมุมที่สุดยอดจริงๆ”
สิ้นเสียง ไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้ตอบกลับหวังโหลวแต่อย่างใด เขาแค่กำลังรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเท่านั้น
เขาไม่ได้เป็นประธานของสหพันธ์ธุรกิจ แต่หลี่เสว่กลับได้เป็น มันช่างเกินความคาดหมายที่คิดไว้เหลือเกิน แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกดีใจ
แต่หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยรู้สึกตื่นเต้น เขาเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา ตำแหน่งประธานสหพันธ์ธุรกิจนั่นไม่ได้เป็นกันง่ายๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลี่เสว่ที่ไม่มีประสบการณ์เลย แถมยังเป็นผู้หญิง มันจึงทำให้เรื่องที่เธอต้องเจอมันมากมายเหลือเกิน
……
พอการเลือกตั้งจบลง ไป๋หยุนเผิง เย่เจี่ยและหลินยู่ชังก็จากไป
พอคนอื่นๆ เห็นแบบนั้นก็ค่อยๆ พากันแยกย้าย
พอหลี่เสว่จะลงจากเวที กลับถูก สวี่ชางเรียกเอาไว้ก่อน
“ขอแสดงความยินดีกับคุณหลี่ด้วยนะครับ”
หลี่เสว่หยุดเดินแล้วหันไปยิ้ม “ขอบคุณค่ะคุณสวี่”
“ไม่เลยครับไม่เลย” สวี่ชางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ต่อไปเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ก็ได้ครับ ฮ่าฮ่า…