ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 570
บทที่ 570
จ้าวคั่วพยักหน้าอีกครั้ง มองอาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะ จู่ๆก็ถูกอาหารจานหนึ่งดึงดูดสายตาเข้า คิ้วขมวดทันที“ทำไมถึงมีอาหารมังสวิรัติอยู่หนึ่งจาน?”
จ้าวเทียนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบหันไปมองบนโต๊ะอาหาร เห็นอาหารมังสวิรัติตั้งอยู่หนึ่งจานอย่างที่คิดไว้
จ้าวเทียนสีหน้าดำมืด เงยหน้าขึ้นถามพวกเชฟตรงนั้น“ใครเป็นคนทำอาหารมังสวิรัติจานนี้?”
พวกเชฟไม่อยากให้ตัวเองเดือดร้อน จึงพากันชี้ไปที่ไป๋ยี่เฟย
จ้าวเทียนมองตามไป หลังจากที่พบว่าใครเป็นคนทำแล้วก็ชะงักไป
ในวันนั้นเขาเคยกินอาหารที่ไป๋ยี่เฟยทำแล้ว รสชาติแบบนั้นหาได้น้อยมาก เทียบกับเชฟพวกนี้แล้วดีกว่ามาก ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่มีทางให้ไป๋ยี่เฟยมาทำอาหารที่งานเลี้ยงตระกูลจ้าวแน่นอน
จ้าวเทียนหันสายตากลับมา ก้มหน้าลงพร้อมกับพูดกับจ้าวคั่ว“พ่อ ท่านลองชิมดูก่อนสักหน่อยไหม? ถ้าไม่อร่อย ผมจะรีบพาเชฟคนนั้นออกไปจัดการให้เอง”
จ้าวคั่วได้ยินแบบนั้นก็สบถออกมา จากนั้นก็หยิบตะเกียบ คีบใบผักชิ้นเล็กๆใส่เข้าไปในปาก
พวกเชฟเห็นแบบนี้แล้วก็พากันถอยหลังไปหนึ่งก้าว กลัวว่าอีกเดี๋ยวเถ้าแก่ใหญ่จะต้องระเบิดโมโหออกมาแน่ๆ เดี๋ยวพวกเขาจะพลอยโดนไปด้วย
แต่ในตอนนี้เอง จ้าวคั่วถลึงสองตาโต แววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
กลืนอาหารในปากลงไป จากนั้นจ้าวคั่วก็ยื่นมือออกไปคีบอาหารมาต่อ พร้อมกับพูดกับคนรอบข้าง“ทุกคนชิมอาหารจานนี้ดูสิ อาหารจานนี้รสชาติมันไม่เลวเลย……นี่มันรสชาติอร่อยจริงๆ!”
จ้าวคั่วพูดขนาดนี้ ทุกคนก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็น พากันคีบมาชิมกัน
หลังจากกินเสร็จแล้ว ต่างก็พูดชมออกมา
“ว้าว!อร่อยจริงๆ!”
“อาหารมังสวิรัติอร่อยขนาดนี้!ฝีมือการทำอาหารจีนสุดยอดจริงๆ!”
“อร่อย!นี่มันรสชาติอร่อยจริงๆ!”
พวกเชฟเห็นภาพตรงหน้านี้ ก็พากันอึ้งตะลึง แล้วหันไปมองไป๋ยี่เฟย ด้วยสายตาที่เหมือนกำลังมองของแปลกประหลาดอยู่ พวกเขายากที่จะเชื่อ ว่าอาหารมังสวิรัติจานเดียว จะสามารถทำให้คนใหญ่คนโตเหล่านี้พูดชมออกมาได้ขนาดนี้!
เชฟผังคนนั้นพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น“เป็นอาหารมังสวิรัติเป่ยเจียงจริงๆด้วย!”
จ้าวเทียนเดินมาอยู่ข้างๆไป๋ยี่เฟย ก่อนจะตบๆลงที่ไหล่ของเขา“ไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ!งานเลี้ยงจบแล้ว ฉันจะตบรางวัลให้แกอย่างงามเลย ว่ามาสิ อยากได้รางวัลอะไร?”
รางวัล? ไป๋ยี่เฟยใจเต้นขึ้นมาทันที กำลังจะบอกออกไปว่าทอง แต่ฉีฉีกลับพูดขึ้นมาก่อน
“ตอนนี้แหละ ลงมือเลย!”
“ลงมือ?”ไป๋ยี่เฟยมึนงง ลงมืออะไร? ไม่ใช่ว่าเจรจาต่อรองหรอกเหรอ?
ฉีฉีรีบพูดขึ้นทันที“ตบจ้าวเทียนซะ!”
ไป๋ยี่เฟยชะงักไป หันมองไปรอบๆอีกครั้ง คนใหญ่คนโตก็อยู่ทั้งนั้น แถมยังมีบอดี้การ์ดอยู่ตามมุมต่างๆอีก“เอ่อ……คุณพูดจริงเหรอ?”
จ้าวเทียนเห็นแบบนั้น ก็ขมวดคิ้ว“จริงสิ ฉันจ้าวเทียนพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว!”
“ทำไม? แกไม่เชื่อฉันอย่างนั้นเหรอ?”
“จะบอกอะไรแกให้นะ ในหลันเต่า ยังไม่มีใครกล้าสงสัยฉันแบบแกมาก่อนเลย!”
ที่หูของไป๋ยี่เฟยมีน้ำเสียงที่นิ่งขรึมของฉีฉีดังขึ้นมาอีกครั้ง“ฉันบอกให้นายลงมือ!ได้ยินไหม? นายคิดจะขัดคำสั่งของฉันอย่างนั้นเหรอ!”
พอได้ยินแบบนั้น ไป๋ยี่เฟยก็หมดหนทาง
จากนั้นไป๋ยี่เฟยก็เงยหน้าขึ้นมา พูดกับจ้าวเทียน“ก็ฉันนี่แหละสงสัยแก!”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็ยกมือขึ้นตบ
“เพี๊ยะ!”
เสียงที่ดังฟังชัดดังลั่นไปทั่วห้องโถง
แรงของไป๋ยี่เฟยไม่ใช่น้อยๆ ตบทีเดียวทำเอาจ้าวเทียนล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น
ในเวลานี้ ทุกคนในห้องโถงหันมองมาทันที จากนั้นก็มองไป๋ยี่เฟยค้างไว้ ราวกับกดปุ่มหยุดเอาไว้
พวกเชฟก็ยิ่งอึ้งตะลึงขึ้นไปอีก
มีเสียงของฉีฉีดังขึ้นมาในหู“โอ้!นายแรงเยอะขนาดนี้เชียว?”
“จะตบทั้งที ก็ต้องตบแรงๆหน่อยสิ ไม่อย่างนั้นเสียดายแย่!”ไป๋ยี่เฟยพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ
ในเวลานี้เอง พวกบอดี้การ์ดก็ตอบสนองกลับมา ออกมาจากมุมเข้ามาล้อมไป๋ยี่เฟยเอาไว้ทันที
มีคนพยุงจ้าวเทียนขึ้นมา จ้าวเทียนลูบใบหน้าที่ถูกตบของตัวเอง มันบวมเรียบร้อยแล้ว แค่แตะเบาๆ ก็เจ็บจนปวดสุดๆ“เห้ย!นี่แก่กล้าตบฉัน!”
ในเวลานี้ พวกคนใหญ่คนโตพวกนั้นก็ลุกขึ้นยืน ล้อมไป๋ยี่เฟยเอาไว้
ไป๋ยี่เฟยตกใจทันที คนพวกนี้มีปืนกันหมดทุกคนเลย!
จ้าวเทียนเดินมาตรงหน้าของไป๋ยี่เฟย จ้องเขม็งไป๋ยี่เฟยอย่างโหดเหี้ยม“บอกมา ใครส่งแกมา?”
ทุกคนที่อยู่ที่หลันเต่า ยังไม่มีใครกล้ามาตบเขาแบบนี้!ดังนั้นคนคนนี้จะต้องเป็นคนที่มีสถานภาพอย่างแน่นอน!
ฉีฉีพูดกับไป๋ยี่เฟยผ่านหูฟัง“นายพูดตามฉัน”
ไป๋ยี่เฟยจึงเปิดปากพูดขึ้น แต่พูดกับจ้าวคั่ว“จ้าวคั่วคุณนี่ช่างใจกล้าจริงๆ แอบสหพันธ์ธุรกิจไปทำการค้าที่ผิดกฎหมาย!”
จ้าวคั่วพอได้ฟังแบบนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปไม่น้อย“คุณเป็นใคร?”
“คุณชายรองให้ผมมา”ไป๋ยี่เฟยพูดตอบกลับไปอย่างนิ่งๆ
จ้าวคั่วชะงัก“คุณชายรอง?”
จากนั้นก็จ้าวคั่วโบกมือให้กับบอดี้การ์ด บอดี้การ์ดรีบเก็บปืนลงทันที
ไป๋ยี่เฟยเห็นแบบนี้ก็ถอนหายใจออกมา ในขณะเดียวกัน ในใจก็รู้สึกสงสัย
คุณชายรองคนนี้คือใคร? คนของตระกูลหลินเหรอ?
ตระกูลหลินไม่ใช่คุณชายสามเหรอ? หรือบอกได้ว่า คุณชายรองอาจจะไม่ใช่คนของตระกูลหลินก็ได้
จ้าวคั่วถาม“คุณมาเจรจาใช่ไหม?”
“ใช่”ไป๋ยี่เฟยพูดตอบ
จ้าวเทียนกลับยังรู้สึกโกรธอยู่ ชี้ไปที่ไป๋ยี่เฟย“พ่อ มันตบผม วันนี้ผมต้องเอาคืน!ผมจะทำให้มันทรมานจนตาย!”
“หุบปากเดี๋ยวนี้!”
ในขณะนี้เอง จ้าวคั่วหันไปตบจ้าวเทียนอีกหนึ่งที
จ้าวเทียนอึ้งตะลึง“พ่อ มาตบผมอีกได้ยังไง?”
จ้าวคั่วไม่สนใจจ้าวเทียน หันไปพูดยิ้มๆให้กับไป๋ยี่เฟย“ขอโทษด้วยครับ เมื่อตะกี้ผมมีตาหามีแววไม่ ดันไปก้าวก่ายคนของคุณชายรองซะได้ โปรดให้อภัยด้วยครับ”
เสียงของฉีฉีดังขึ้นมา“ทำตัวหยิ่งยโสหน่อย เริ่มการเจรจาได้เลย”
ไป๋ยี่เฟยรู้ดีว่าอะไรคือทำตัวหยิ่งยโส
เขายื่นมือออกไปผลักจ้าวคั่ว แล้วนั่งลงที่ตำแหน่งแรกเมื่อตะกี้ สองขาวางพาดลงขึ้นบนโต๊ะ น้ำเสียงหยิ่งยโสสุดๆ“พล่ามให้มันน้อยๆหน่อย เริ่มได้แล้ว!”
จ้าวเทียนคิดที่จะพูดออกมาด้วยความไม่ยอม“พ่อ……”
“ไสหัวออกไป!อย่ามาสร้างเรื่องแถวนี้!”จ้าวคั่วสายตาจ้องเขม็ง พร้อมกับพูดเตือนขึ้น
พูดจบ จ้าวคั่วก็พูดกับข่ายเหวิน“คุณข่ายเหวิน เริ่มการเจรจาได้แล้วครับ”
ข่ายเหวินได้ยินแบบนั้นก็ลุกขึ้นมา จากนั้นก็ปรบๆมือ
ต่อมา ก็มีคนยกกล่องใหญ่ๆสองสามกล่องขึ้นมา วางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็เปิดกล่องออก
พอกล่องถูกเปิดออก ผู้คนก็พากันอึ้งตะลึง
โดยเฉพาะบรรดาเชฟเหล่านั้น ต่างตกใจจนตัวสั่นไปหมด
นี่มันเป็นกล่องของอาวุธปืนนี่!
ไป๋ยี่เฟยก็แอบกลืนน้ำลายเหมือนกัน จากนั้น ฉีฉีก็พูดขึ้น“อย่ามั่วแต่เหม่อ รีบตรวจสอบสินค้าเร็วเข้า!”
ไป๋ยี่เฟยได้ฟังแบบนั้นก็ลุกขึ้นยืน ลูบๆAKด้วยความตื่นเต้น
ผู้ชาย มีความหลงใหลในพวกอาวุธปืนแบบนี้อยู่แล้ว ไป๋ยี่เฟยก็เป็นหนึ่งในนั้น ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่เคยเห็นของจริงมาก่อน แต่ครั้งนี้ได้มาลูบกับมือตัวเอง
เพราะว่าชอบเล่นเกมประเภทยิงปืน ดังนั้นจึงถือว่าค่อนข้างคุ้นเคยอยู่พอสมควร
ปลดล็อก ดึงไก ท่าทางดูคุ้นเคยมากๆ
ข่ายเหวินเห็นแบบนี้ก็พูดขึ้น“คุณผู้ชายครับ สินค้านี้เป็นยังไงบ้าง?”
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างนิ่งๆ“พอได้”
“ถ้าอย่างนั้นคุณพามาแล้วยังครับ?”ข่ายเหวินถาม
ไป๋ยี่เฟยหยุดชะงักไป“จะเอาเงิน?”
แน่นอน ว่าเขากำลังถามฉีฉี ไม่คิดว่าจะถูกข่ายเหวินได้ยิน จึงโมโหขึ้นมาทันที คิดว่าไป๋ยี่เฟยจะไม่ให้เงิน“หมายความว่ายังไง? คุณชายรองคิดจะเอาเปรียบกันอย่างนั้นเหรอ?”