ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 575
บทที่ 575
ในไม่ช้า ฟ้าก็มืดลง และไป๋ยี่เฟยก็ตัดสินใจออกไปจากที่นี่
คุณชายจ้าวของตระกูลจ้าวหายตัวไป ข่ายเหวินแห่งประเทศต้าซานก็ถูกฆ่า และยังมีกลุ่มคนจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าใครเป็นใครเสียชีวิตไป ตอนนี้สถานการณ์ทั้งหมดอยู่ในความโกลาหล
ไป๋ยี่เฟยมองลงไปจากหน้าต่าง ลำแสงส่องผ่านยามค่ำคืนส่องสว่างไปยังสถานที่ต่างๆ และมีผู้คนมากมายวิ่งไปมาอยู่ด้านล่าง
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครเข้ามาจัดการอาคารสูงที่พังทลาย แต่ก็ไม่แน่ว่าจะมาได้ตลอดเวลา
เพราะยังไงแล้วอาคารตั้งอยู่ที่นี่มันก็เป็นปัญหาอยู่บ้าง
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยจึงต้องออกไปจากที่นี่ในคืนนี้
แต่ไป๋ยี่เฟยเหลือบมองฉีฉี และลังเลว่าจะพาเธอไปด้วยหรือไม่
ถ้าพาไป งั้นก็ไม่ต้องพูดถึง เป็นตัวถ่วงอย่างแน่นอน
ถ้าไม่พาไป เธออยู่ที่นี่คนเดียว และก็ไม่ได้รู้ว่าจะตื่นขึ้นมาได้ตอนไหน บางทีอาจจะถูกคนพบเข้า และก็จะถูกกำจัดโดยตรง
ในที่สุดไป๋ยี่เฟยก็กัดฟัน “แม่งเอ๊ย ช่วยก็ต้องช่วยถึงที่สุด เป็นคนดีให้ถึงที่สุด! ”
ไป๋ยี่เฟยไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อหาชุดที่สะอาดให้ตัวเองเปลี่ยน และให้ฉีฉีใส่ชุดที่สะอาด ในช่วงนั้น ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจหุ่นของฉีฉีตลอดทาง และแค่คิดอยากจะออกไปโดยเร็วที่สุด
เมื่อทำเสร็จแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ฉีกเสื้อผ้าอีกชิ้นเป็นแถบๆ แล้วมัดเข้าด้วยกัน จากนั้นก็มัดฉีฉีไว้ที่หลังของตัวเอง เกรงว่าตัวเองจะหลุดมือไปเพราะไม่มีแรง
สุดท้าย ไป๋ยี่เฟยก็แบกตัวฉีฉีอยู่ด้านหลัง และเดินออกจากอาคารอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไปยังป่าบนภูเขาที่เขามา
ในช่วงเวลานี้ เขาหลีกเลี่ยงกลุ่มคนไปหลายกลุ่ม จากนั้นเขาถึงพาฉีฉีไปยังสถานที่ที่จ้าวเทียนถูกมัดตัวไว้
สิ่งที่ทำให้ไป๋ยี่เฟยประหลาดใจคือ จ้าวเทียนยังคงถูกมัดตัวอยู่ที่นี่
ในตอนนี้จ้าวเทียนรู้สึกตัวแล้ว หลังจากเห็นไป๋ยี่เฟย เขาก็ส่ายหัวด้วยความหวาดกลัว เพราะกลัวว่าไป๋ยี่เฟยจะฆ่าเขา
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจเขา แต่วางฉีฉีลงบนพื้น และตัวเองก็นั่งลงบนพื้น พร้อมกับหอบหายใจ
อาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาเองก็ยังไม่หายดี และหลังจากเดินไกลโดยมีฉีฉีที่หลังของเขา บาดแผลก็เปิดออกอีกครั้ง
ไป๋ยี่เฟยคิดอยู่ว่า นี่ไม่ใช่วิธีที่ดีอีกต่อไป ถ้าเขาแบกฉีฉีไว้บนหลัง พวกเขาจะมีแต่ทางตายเท่านั้น ดังนั้น เขากำลังคิดอยู่ หรือจะปล่อยฉีฉีไว้ที่นี่?
เมื่อจ้าวเทียนเห็นเช่นนี้เขาก็มองไปที่ไป๋ยี่เฟยอย่างระมัดระวัง แต่เขาก็เผลอเคลื่อนไหวเล็กน้อย และทำให้ไป๋ยี่เฟยมองมาที่เขา
เมื่อไป๋ยี่เฟยเห็นจ้าวเทียน สมองของเขาก็กะพริบไอเดียขึ้นมา และเขาก็นึกถึงความคิดที่ยอดเยี่ยม
ดังนั้นเขาจึงเดินไปหาจ้าวเทียน จากนั้นก็ชักมีดออกมาด้ามหนึ่ง และชี้ไปที่คอของจ้าวเทียน ขู่ว่า “อยากมีชีวิตอยู่หรือไม่? ”
จ้าวเทียนกลัวมากจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “อยาก! อยาก! ”
“ดี ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ก็ต้องฟังคำสั่งของข้า ไม่เช่นนั้นแล้วก็ กูจะฆ่ามึง!” มีดของไป๋ยี่เฟยทำท่าทางสองครั้งอยู่ที่คอของจ้าวเทียน
ไป๋ยี่เฟยเก็บมีด และคลายจ้าวเทียน “ยืนขึ้นมา แบกเธอขึ้นบนหลัง แล้วตามผมไป”
เมื่อคำพูดจบลง จ้าวเทียนกำลังจะโค้งตัวไปแบกฉีฉี แต่กลับมีเสียงดังขึ้นมา
“เร็ว! พวกเขาอยู่ที่นั่น!”
หลังจากนั้น ก็มีลำแสงส่องเข้ามา
“เชี่ย! ถูกพบเจอแล้ว!”
เมื่อจ้าวเทียนเห็นเช่นนี้เขาก็รีบโบกมือและตะโกนอย่างมีความสุข “ช่วยด้วย ผมอยู่ที่นี่ ได้โปรดช่วยผมด้วย………..”
“ตูม! ”
ไป๋ยี่เฟยต่อยจ้าวเทียน และทำให้จ้าวเทียนหมดสติไป
ในเวลาเดียวกัน แสงหลายดวงก็ส่องไปที่ไป๋ยี่เฟย “คุณชายจ้าวเทียน นั่นคือคุณใช่หรือไม่?”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดนั้น ก็ตอบสนองกลับมาทันที และตะโกนบอกคนเหล่านั้นว่า “ช่วยด้วย คุณชายอยู่ที่นี่ คุณชายถูกงูกัดและได้รับบาดเจ็บ เข้ามาที่นี่เร็วเข้า!”
เมื่อคนเหล่านั้นได้ยินเสียง ก็ไม่ได้สงสัยในคำพูดของเขา แต่รีบวิ่งเข้ามา
หลังจากที่คนเหล่านี้วิ่งเข้ามาใกล้ ไป๋ยี่เฟยก็พบว่ามีสี่คน เขาจึงถือมีดไว้ในมืออย่างเงียบๆ
“คุณชายอยู่ไหน?”
“คุณชายเป็นลมไปแล้ว เขาถูกงูกัด” ไป๋ยี่เฟยชี้ไปที่จ้าวเทียนที่อยู่บนพื้นอย่างใจเย็น
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วคนนั้นก็นั่งยองๆ “คุณชาย คุณเป็นยังไงบ้าง? คุณชายรีบตื่นเร็วเข้า! ”
ในขณะนี้ คนข้างๆ เขาดูเหมือนจะเห็นอะไรบางอย่างในแสง ดังนั้นเขาจึงส่องแสงของไฟฉายไป และกำลังจะถูกส่องไปที่ฉีฉี
ไป๋ยี่เฟยปิดปากของเขาจากด้านหลัง
คนดังกล่าวตกใจ และอยากจะต่อสู้กลับ
มีดของไป๋ยี่เฟยตัดคอของเขาทันที และชายคนนั้นก็เสียชีวิตอย่างเงียบๆ
อีกสามคนสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติในทันที และหันหลังกลับมาก็จะเริ่มลงมือ
การเคลื่อนไหวของไป๋ยี่เฟยรวดเร็วมาก หลบหลี่ก และลงมีด เพียงแค่ภายในไม่กี่ลมหายใจ พวกเขาทั้งสามก็ล้มลงกับพื้น
ด้วยทักษะปัจจุบันของไป๋ยี่เฟย มันเกินพอที่จะจัดการกับสามคนนี้
ในตอนนี้ จ้าวเทียนก็ตื่นขึ้นมาแล้ว
เมื่อเขาเห็นศพทั้งสี่นอนอยู่บนพื้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างทันที และก็ยิ่งรู้สึกกลัวไป๋ยี่เฟยมากขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้จัดการกับสี่คนไปอย่างง่ายดาย ดังนั้นถ้าเขาจะฆ่าตัวเอง มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายดาย
ไป๋ยี่เฟยกำมีดไว้ในมือ และเดินไปหาจ้าวเทียนทีละก้าว
“อย่า อย่าฆ่าผม อย่า………” จ้าวเทียนถอยออกไปด้วยความตกใจ จากนั้นกลิ่นปัสสาวะก็กระจายออกมา
ไป๋ยี่เฟยเหลือบมองจ้าวเทียนอย่างขยะแขยง “แม่งโคตรอ่อนเลย! ”
“ตุ๊ดตุ๊ด………”
ทันใดนั้นเสียงเครื่องติดก็ดังขึ้นมา ไป๋ยี่เฟยก็สะดุ้ง หันหลังไปมอง และพบว่ายังมีอีกคนที่ยังไม่ตาย เขาจึงเปิดเครื่องวิทยุสื่อสารดังขึ้น
“เชี่ย!”
ไป๋ยี่เฟยก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว และแทงซ้ำเข้าไปอีกสองครั้ง
ตำแหน่งของพวกเขาถูกเปิดเผยไปแล้ว
ไป๋ยี่เฟยจะต้องออกไปจากที่นี่ทันที เขาจึงพูดกับจ้าวเทียนว่า “เห็นชะตากรรมของพวกเขาแล้วหรือยัง? ให้โอกาสอีกครั้ง ถ้าคุณไม่เชื่อฟัง คุณก็จะเป็นเหมือนพวกเขา”
เมื่อเห็นบอดี้การ์ดของตัวเองถูกฆ่าโดยไป๋ยี่เฟยด้วยตาของเขาเอง จ้าวเทียนก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีกต่อไป และทำได้แต่พยักหน้า
“แบกเธอไว้ที่หลัง และตามผมไปทันที!” ไป๋ยี่เฟยชี้ด้วยมีด
จ้าวเทียนก้าวไปข้างหน้าทันที อุ้มฉีฉีไว้บนหลังของเขา และเดินตามไป๋ยี่เฟยไป
……..
หลังจากที่พวกเขาจากไปได้สิบกว่านาที ก็มีคนจำนวนมากมาที่ตำแหน่งนี้
หลังจากนั้น ไฟก็ลุกไหม้โซเซ ไปทั่วทั้งผืนป่า
ไป๋ยี่เฟยรู้อย่างชัดเจนว่า เป็นคนของตระกูลจ้าวที่เพิ่มความแข็งแกร่งในการค้นหา
เขาไม่กล้าที่จะอยู่ต่อ และสั่งให้จ้าวเทียนเร่งฝีเท้า อย่างน้อยก็ต้องปีนข้ามภูเขานี้ ไปยังภูเขาที่อยู่ข้างหน้า
ภูเขาข้างหน้าใหญ่กว่า ทำให้เขาซ่อนตัวได้ง่ายขึ้น
แต่จ้าวเทียนสมควรที่จะเป็นคุณชายที่ถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีโดยตลอด และเขาก็เหนื่อยเกินไปหลังจากที่เดินมาได้ไม่นาน
ไป่ยี่เฟยต้องขู่ด้วยมีด “หากช้าลงอีกครั้ง ผมจะแทงคุณด้วยมีด และช้าลงก้าวหนึ่งผมก็จะแทงคุณหนึ่งที”
เมื่อจ้าวเทียนได้ยินเช่นนี้ ดังนั้นเขาก็ใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อให้ทันความเร็วของไป๋ยี่เฟย
ในที่สุด พวกเขาก็ปีนผ่านขึ้นไปบนภูเขาแห่งนี้ และมาถึงภูเขาที่อยู่ข้างหน้า
ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อพวกไป๋ยี่เฟยเดินไปถึงที่กลางทางภูเขา และก็พบถ้ำโดยไม่คาดคิด
มองดูจ้าวเทียนในเวลานี้ เดินไม่ไหวแล้วอย่างสมบูรณ์ หอบหายใจอย่างแรง และเหนื่อยเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง
แต่ทันใดนั้นร่างกายของฉีฉีก็เริ่มสั่นสะท้าน
ไป๋ยี่เฟยรู้ว่า เธอเป็นไข้
บาดแผลของเธอไม่ได้รับการรักษาอย่างทันเวลา เธอหลั่งเลือดออกมามาก และการติดเชื้อจากบาดแผล ทำให้มีไข้ได้ง่าย
ไป๋ยี่เฟยต้องตัดสินใจหยุดอยู่ในถ้ำ
จ้าวเทียนนั่งอยู่ข้างหนึ่ง หอบ และพูดว่า “ผู้หญิงคนนี้ ดูเหมือนว่า กำลังจะทนไม่ไหวแล้ว………”
ไป๋ยี่เฟยเหลือบมองฉีฉีที่กำลังสั่นเหมือนตะแกรง และขมวดคิ้วเล็กน้อย “ถ้าหากตายไปแล้วก็ ความช่วยเหลือก่อนหน้านี้มันก็เปล่าประโยชน์แล้วไม่ใช่เหรอ? ”
จ้าวเทียนไม่พูดอะไรหลังจากได้ยินคำพูด
หลังจากนั้นไม่นาน ไป๋ยี่เฟยก็พูดกับจ้าวเทียนว่า “คุณอยู่ในถ้ำ เฝ้าดูเธอไว้ ห้ามหนีไป หากว่าคุณกล้าที่จะวิ่งหนี หรือถ้าคุณกล้าที่จะมีความคิดอัปรีย์แล้วก็ กูจะฆ่ามึง!”
“ไม่กล้า ไม่กล้า………..” จ้าวเทียนส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง เขาจะกล้าวิ่งหนีไปสักที่ไหนกัน?
ไป๋ยี่เฟยตะคอกอย่างเย็นชา และออกจากถ้ำไปในทันที เขาต้องหากิ่งไม้มาก่อไฟ