ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 586
บทที่586
แผ่นไม้ที่ฉีฉีใช้นั้นยาวเท่าแขน มันกระเด็นออกมาจากตอนที่ไป๋ยี่เฟยงัดลังไม้ออก
ตอนที่พวกเขาเดินออกมา ไป๋ยี่เฟยก็ไม่เห็น ฉีฉีเก็บไม้ขึ้นมาเลย งั้นก็แสดงว่า ในตอนที่พวกเขาคลานออกมาข้างนอก แผ่นไม้นั้นก็ถูกซ่อนอยู่ในตัวเธอไว้ก่อนแล้ว
ไป๋ยี่เฟยจับตาดูฉีฉีอยู่ตลอดเวลา มีเพียงแค่ตอนที่เขาหลับเท่านั้นที่ไม่ได้ทำ
ตอนนั้นก็ทำไปเพื่อหลอกฉีฉีเท่านั้น แต่เขากลับหลับไปจริง ตอนที่ตื่นขึ้นมา ฉีฉีก็ขยับไปนั่งอยู่ในที่ไกลๆ แล้ว และไม่ได้ขยับตัวอีก
ดังนั้น ฉีฉีรู้ตัวตั้งแต่แรกแล้วว่าเขากำลังหลอกเธออยู่
แล้วฉีฉีก็ใช้แผนซ้อนแผน ทำเป็นไม่รู้ แถมยังตอบคำถามมาข้อหนึ่งเพื่อเป็นการซื้อใจไป๋ยี่เฟย
แสดงว่า สิ่งที่ฉีฉีบอกกับเขา มันก็ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด
จู่ๆ ไป๋ยี่เฟยก็รู้สึกใจหาย เขาสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง ว่าแท้จริงแล้วเธอมีอายุแค่สิบเก้าปีรึเหล่า?
……
อีกด้านหนึ่ง หลี่เสว่กับชายชุดดำอีกสี่คนที่กำลังรอพวกไป๋หู่อยู่ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น
ด้วยความที่รอจนเบื่อ หลี่เสว่จึงเก็บปืนที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาดู
หลี่เสว่ไม่เคยได้แตะต้องของพวกนี้มาก่อน ในตอนที่เธอกำลังจะศึกษามันอยู่นั้น จู่ๆ ไอ้หัวทองที่ถูกยิ่งไปหลายนัดก็ได้ลุกขึ้นมา จากนั้นก็บีบคอหลี่เสว่ แล้วเอาปืนจ่อไปที่หัวของหลี่เสว่
“อย่าขยับนะ!”
พอบอดี้การ์ดทั้งสี่เห็นแบบนั้น ก็ไม่กล้าขยับอะไรทั้งนั้น
ไอ้หัวทองตะโกนออกมา “วางปืนลงเดี๋ยวนี้!” บอดี้การ์ดที่สี่สบตากัน แล้วต้องวางปืนลง
หลี่เสว่ไม่ได้ดูหวาดกลัวเหมือนแต่ก่อนแล้ว ตอนนี้เธอกลับกำลังใจเย็นมาก
หนึ่งในบอดี้การ์ดสี่คนนั้นได้พูดขึ้นว่า “แกต้องการอะไร?”
ไอ้หัวทองตอบไปว่า “ปล่อยฉันไป แล้วฉันจะไม่ฆ่ายัยนี่”
พูดจบ บอดี้การ์ดทั้งสี่ก็หันมาสบตากัน ช่วยไม่ได้ คงต้องทำตามเท่านั้น
ทว่า ตอนที่พวกเขาจะพยักหน้านั่นเอง หลี่เสว่ก็พูดขึ้นว่า “ไม่เด็ดขาด!”
“เธอพูดอะไรนะ?”
ไอ้หัวทองชะงักไป บอดี้การ์ดทั้งสี่ก็ชะงักไปเหมือนกัน
หลี่เสว่พูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “สามีของฉันถูกพวกแกทำร้ายจนปางตาย คิดจะหนีเหรอ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”
“ฉันเคยพูดไปแล้ว คนที่ทำร้ายสามีของฉัน มันต้องตาย!”
พูดจบ หลี่เสว่ก็ยกปืนขึ้นมา เล็งไปที่หัวไหล่ของตัวเอง
“ปั้ง!”
กระสุนทะลุผ่านหัวไหล่ของหลี่เสว่ขึ้นไปทันที พุ่งเข้าใส่ลำคอของไอ้หัวทอง จากนั้นก็ทะลุผ่านท้ายทอยออกไป
ไอ้หัวทองที่ยังตกใจกับคำพูดของหลี่เสว่อยู่ ก็ถูกยิงจนคอทะลุไปแล้ว
ไอ้หัวทองล้มลงกับพื้นทั้งที่ยังตายตาไม่หลับ
บอดี้การ์ดทั้งสี่รีบเข้ามาประคองหลี่เสว่เอาไว้
“คุณเป็นยังไงบ้างครับ? คุณหนู?” พวกเขาถามมาด้วยความเป็นห่วง
ก่อนที่จะไป ไป๋หยุนเผิงได้สั่งเอาไว้ว่า ต่อให้พวกเขาต้องตาย ก็ต้องปกป้องหวี่เสว่เอาไว้ให้ได้ ถ้าเกิดหลี่เสว่เป็นอะไรไป พวกเขาก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น
หน้าผากของหลี่เสว่มีเหงื่อไหลออกมา การถูกยิงทะลุจะไม่ให้เป็นอะไรได้ยังไง?
แต่หลี่เสว่ก็กัดฟันตอบไปว่า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
บอดี้การ์ดทั้งสี่หันมาสบตากัน แล้วหนึ่งในนั้นก็พูดขึ้นว่า “คุณหนูครับ เดี๋ยวเราจะรออยู่ตรงนี้เอง คุณกลับไปให้คุณหมอหลิวทำแผลให้ก่อนเถอะครับ”
“ไม่ค่ะ” หลี่เสว่ตอบมาอย่างแน่วแน่ “แค้นของสามีฉัน ฉันจะจัดการด้วยมือของฉันเอง!”
ฝีมือของไอ้หัวล้านนั้นไม่ธรรมดา การที่จะหนีไปนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไร แต่ต้องไม่ใช่ในสถานการณ์ที่เอาภาระอย่างจ้าวเทียนมาด้วยแบบนี้
แต่ว่า ฐานะของจ้าวเทียนบนหลันเต่านั้นไม่ธรรมดา ไอ้หัวล้านจึงจำเป็นต้องพาเขาไปด้วย
พอได้หัวล้านเห็นว่ากลุ่มคนด้านหลังได้ตามมาถึงแล้ว เขาก็กัดฟันแล้วปล่อยจ้าวเทียนลงมา “รีบไสหัวไปซะ!”
จ้าวเทียนที่ขวัญกระเจิงมาตั้งนานแล้ว พอถูกวางลงพื้น เขาก็รีบหนีไปทันที
ส่วนไอ้หัวล้านนั้นกลับหันหลังแล้วพุ่งกลับไป
ตอนที่ไป๋ยี่เฟยได้ประมือกับไอ้หัวล้านนั้น เขาก็รู้ตัวแล้วว่าฝีมือของไอ้หัวล้านนั้นอยู่สูงกว่าเขา
ตอนนี้ฝีมือของไป๋หู่กับสวีลั่งกับไป๋ยี่เฟยก็พอๆ กัน ดังนั้น ทันทีที่ไอ้หัวล้านพุ่งเข้ามา เขาก็ถีบไปที่สวีลั่งทันที สวีลั่งรีบเอาแขนไขว้กันเพื่อรับเท้าของไอ้หัวล้านเอาไว้
แต่ทว่า พละกำลังของไอ้หัวล้านนั้นมีเยอะกว่าพวกเขามาก สวีลั่งถึงกับถอยหลังไปหลายก้าวกว่าจะตั้งหลังได้
ไอ้หัวล้านอาศัยแรงส่งจากการถีบสวีลั่ง หมุนตัวเตะไปที่ไป๋หู่
ไป๋หู่ใช้แขนขวารับการโจมตีเอาไว้ จากนั้นก็ยกขาขึ้นมาถีบไปที่ไอ้หัวล้าน
แต่ไอ้หัวล้านก็ล็อกขาของไป๋หู่เอาไว้ แล้วเหวี่ยงขาของไป๋หู่ออกไปด้านนอก
ไป๋หู่ลงพื้นเบาๆ หันมาสบตากับวสวีลั่ง จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่ไอ้หัวล้านพร้อมๆ กัน สวีลั่งได้หยิบมีดสั้นของตัวเองออกมาด้วย
ทั้งสามคนปะทะเข้าด้วยกัน
เห็นได้ชัดว่าฝีมือของไอ้หัวล้านนั้นอยู่เหนือพวกเขา สองรุมหนึ่งก็ยังเอาไม่ลง
หันมาทางไป๋หู่กับสวีลั่ง
คนหนึ่งถูกเหวี่ยงออกไปสองรอบ ส่วนอีกคนมีดสั้นในมือก็ถูกเตะกระเด็นไป แถมยังถูกถีบไปอีกทีด้วย
ในตอนที่ทั้งคู่ยืนขึ้นแล้วกำลังจะพุ่งเข้าไปอีกรอบ เฉินอ้าวเจียวก็ตามมาถึง แล้วบอกกับพวกเขาว่า “พวกนายตามอีกคนไปเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการคนนี้เอง”
ไป๋หู่กับสวีลั่งหันมาสบตากัน บอกตามตรง ทั้งที่รู้จักกันมาตั้งนาน พวกเขาก็ยังไม่ค่อยรู้จักฝีมือของเฉินอ้าวเจียวนัก แต่สิ่งที่เฉินอ้าวเจียวพูดมาก็ถูก หลี่เสว่สั่งมาแล้วว่าให้จับกลับไปทั้งคู่ ดังนั้นจะปล่อยอีกคนให้หนีไปไม่ได้!
ว่าแล้ว ไป๋หู่กับสวีลั่งก็วิ่งตรงไปทางที่จ้าวเทียนหนีไป
ในเวลาเดียวกัน คนอื่นๆ ในทีมขวางซาก็ตามมาถึง
เฉินอ้าวเจียวรีบออกคำสั่งไปว่า “กำลังเสริมของฝั่งนั้นมาแล้ว พวกนายไปช่วยไป๋หู่แล้วกัน”
สมาชิกในทีมขวางซาทำตามแต่คำสั่ง โดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ เมื่อเฉินอ้าวเจียวสั่งเสร็จ พวกเขาก็วิ่งจามกันออกไปทันที
ตอนนี้เฉินอ้าวเจียวเผชิญหน้ากับไอ้หัวล้านเพียงลำพังแล้ว
พอไอ้หัวล้านเห็นอย่างนั้น มันก็รู้สึกดีใจมาก
ไอ้หัวล้านนั้นไม่อยากให้ จ้าวเทียนเป็นอะไรไปจริงๆ แต่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ชีวิตของตัวเองก็ต้องสำคัญที่สุดอยู่แล้วดังนั้น เขาจึงไม่รีบร้อนที่จะตามไปขัดขวางพวกไป๋หู่ทันที
ไอ้หัวล้านมองมาที่เฉินอ้าวเจียว จู่ๆ เขาก็หัวเราะออกมา “ไอ้หนู การมั่นใจในตัวเองมากเกินไปมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยนะ”
เฉินอ้าวเจียวก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของขวางซา ดังนั้นเขาจึงแต่ตัวเหมือนกันกับสมาชิกคนอื่นของขวางซา คือปิดหน้าเอาไว้ พอได้ยินไอ้หัวล้านพูดมาแบบนั้น เฉินอ้าวเจียวก็มองไปยังที่ไกลๆ โดยไม่สนใจคำพูดพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ
“เมื่อกี้ฉันเห็นฝีมือของแกแล้ว ฝีมือถือว่าไม่เลว แต่ก็ยังห่างชั้นกับฉันอยู่ การที่แกเผชิญหน้ากับฉันคนเดียวแบบนี้ ก็มีแต่ต้องตายสถานเดียว!” ไอ้หัวล้านขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ
ก่อนหน้านี้ ตอนที่กลุ่มคนชุดดำปรากฏตัวออกมา ไอ้หัวล้านก็ได้สังเกตเห็นแล้ว เพราะในกลุ่มคนเหล่านั้น เฉินอ้าวเจียวถือว่ามีฝีมือที่สุดแล้ว แต่ก็ยังสู้เขาไม่ได้จริงๆ
ไอ้หัวล้านพูดต่ออีกว่า “ความจริงแล้วฉันรู้ดี คนอย่างพวกแกก็แค่อยากจะสร้างผลงานต่อหน้าเจ้านายเท่านั้น จึงเลือกที่จะขวางฉันไว้คนเดียว”
“แต่ว่านะ แกเองก็ต้องมีปัญญาทำให้ได้ด้วย ไม่อย่างนั้น ก็คงมีแต่จะตายเพราะความโง่ของตัวเองเท่านั้น!”
พูดจบ ไอ้หัวล้านก็เดินหัวเราะเขาไปหาเฉินอ้าวเจียว
ในตอนที่ไอ้หัวล้านอยู่ห่างจากเฉินอ้าวเจียวแค่ห้าเมตรนั้น เฉินอ้าวเจียวก็ได้หันกลับมา แล้วมองหน้าไอ้หัวล้านอย่างไม่รีบร้อนอะไร
การมองในครั้งนั้น มันทำให้ไอ้หัวล้านต้องชะงักไป
ไม่รู้ทำไม แววตาของเฉินอ้าวเจียวมันทำให้เขาต้องรู้สึกกลัว
เฉินอ้าวเจียวพูดออกมาอย่างเรียบเฉยว่า “นึกไม่ถึงจริงๆ ที่เต้าจ่างถึงกับส่งลูกศิษย์ที่ตัวถูกใจที่สุดสองคนมาแบบนี้”
พอได้ยินอย่างนั้น ไอ้หัวล้านก็ตกใจทันที “แกเป็นใคร?”
เฉินอ้าวเจียวยังคงเรียบเฉย “โย่วขุยจั่วเถิงร่วมมือกันยังพอมีอะไรให้ดูบ้าง แต่น่าเสียดายที่ จั่วเถิงถูกยิงตายไปแล้วนาย……”
ยังไม่ทันพูดจบ เฉินอ้าวเจียวก็เคลื่อนไหวไปแล้ว
ความเร็วของเฉินอ้าวเจียวนั่นสูงมาก ไอ้หัวล้านรู้แค่ว่าเขาเคลื่อนไหวแล้ว ทันใดนั้น เขาก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของตัวเอง
ด้วยความตกใจไอ้หัวล้านจึงรีบชกหมัดออกไป
เฉินอ้าวเจียวเองก็ออกหมัดอย่างไม่ลังเล
“ตุ๊บ!”
กำปั้นทั้งสองปะทะใส่กัน