ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 640
บทที่640
ไป๋ยี่เฟยเดินเข้าลิฟต์ไปอย่างใจเย็น พอพวกพี่หวงเห็นเข้าก็ทำหน้าลำบากใจขึ้นมาทันที
เมื่อกี้ตอนเห็นว่าข้างล่างมีคนรออยู่เยอะขนาดนั้น แต่สับสามารถใจเย็นอยู่ได้ ก็ทำให้พวกเขาแปลกใจมากแล้ว แต่มาตอนนี้ มีศพมากมายอยู่ตรงหน้าแบบนี้ยังสามารถใจเย็นอยู่อีก แถมยังเดินเข้าไป นี่มันไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถทำได้เลยนะ
พวกพี่หวงกำลังลังเลว่าจะเข้าไปดีไหม สาวน้อยดึงตัวพี่หวง แล้วพูดด้วยความหวาดหวั่นว่า “พี่หวง……พวกเรา……พวกเราอย่สเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ดีกว่า”
พอพวกลูกน้องของพี่หวงได้ยินอย่างนั้น ต่างก็พากันพยักหน้า
หลังจากที่พี่หวงเห็นสีหน้าที่ร้อนรนของพวกนั้น แล้วเขาก็หันไปมองหน้าสาวน้อย จู่ๆ เขาก็ยิ้มออกมา จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ใครๆ ก็บอกว่า ความมั่งคงต้องแลกมากับความอันตราย คนพวกนั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ ถ้าเราเอาเขาไปส่งให้พวกนั้น พวกเขาจะต้องตกรางวัลให้เราแน่”
พูดจบ เขาก็จะตามเข้าไปในลิฟต์
แต่ก็ถูกสาวน้อยดึงกลับไปก่อน แล้วเธอก็พูดด้วยความโมโหว่า “พี่ไม่รักชีวิตแล้วเหรอ? ในสายตาพี่มันมีแต่เงินรึไง? ฉันรู้ว่าพี่อยากหาเงินให้ฉัน แต่ฉันไม่ต้องการแบบนี้ ฉันอยากให้ทุกคนยังมีชีวิตอยู่”
พี่หวงอึ้งไป เขากันไปมองสาวน้อยและเหล่าลูกน้อง จากนั้นก็พูดออกมาเบาๆ ว่า “พวกแกดูแลเธอให้ดีด้วย ฉันจะลงไปคนเดียว”
ทุกคนต่างก็อึ้งไปตามๆ กัน
พี่หวงตัดสินใจเดินเข้าไปในลิฟต์แล้ว
ประตูลิฟต์ปิดตามหลังไป สาวน้อยที่ตั้งสติได้จึงรีบพุ่งตามเข้าไป ลูกน้องคนอื่นก็รีบตามเข้าไปเหมือนกัน
พี่หวงถึงกับอึ้ง “นี่พวกแก…;”
พวกลูกน้องของพี่หวงได้แสดงสีหน้าที่พร้อมตายไปกับเขา “พี่หวง อาซ้อก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของเราเหมือนกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเราก็จะผ่านมันไปด้วยกัน”
“ถูกต้อง ฉันยิ่งไม่มีเหตุผลที่จะถอยมากกว่าอีก” สาวน้อยพยักหน้า
พอพี่หวงเห็นอย่างนั้น ดวงตาก็แดงก่ำขึ้นมา
ไป๋ยี่เฟยที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ ก็เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดูเหมือนพวกนี้จะเป็นกลุ่มที่มีที่มาที่ไปที่น่าสนใจอยู่
จากนั้นไป๋ยี่เฟยก็พูดพร้อมรอยยิ้มว่า “เห็นพวกคุณแสดงออกมาแบบนี้ คนที่ไม่รู้คงคิดว่าพวกคุณกำลังจะเสียสละเพื่อชาติเลยนะครับ แต่ความจริงก็แค่ต้องการไปหลอกเอาเงินของคนอื่นเท่านั้น”
“ผมเองก็รู้สึกสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมพวกคุณถึงเอาเรื่องต้มตุ๋นทำให้ตัวเองฮึกเหิมขึ้นมาได้?”
ด้วยคำพูดของไป๋ยี่เฟยคำนี้ ทำให้ พี่หวง ที่เริ่มตื้นตันต้องโมโหขึ้นมา หันมาถลึงตาใส่ไป๋ยี่เฟย “หุบปากไปเลยแก!”
“อยากเจ็บตัวนักใช่มั้ย!” พูดจบพี่หวงก็ตั้งใจจะเข้ามาทำร้ายไป๋ยี่เฟย
แต่ระหว่างพวกเขายังมีศพนอนอยู่ศพหนึ่ง ด้วยความที่โกรธจัด จึงสังเกตไม่เห็น ว่าแล้วขาของเขาก็ไปสะดุดกับศพนั้นเข้า พี่หวงตะโกนออกมาทันที
“อ้า!”
“อ้า!”
พอพี่หวงส่งเสียงร้อง สาวน้อยก็ร้องตาม ลูกน้องคนอื่นก็เหมือนจะตกใจ แล้วร้องตามออกมาเหมือนกัน
“อ้า อ้า อ้า!”
ไป๋ยี่เฟย “……”
……
ที่หน้าโรงแรมได้มีรถขับมาอีกคัน
เย่ฮวนก้าวลงจากรถ พอทุกคนเห็นว่าเป็นเขา ต่างก็พากันรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ยอมหลีกทางให้เขา
เขาเดินเข้ามาหาหม่าอาน เมื่อเห็นสถานการณ์ที่อยู่เบื้องหน้า เย่ฮวนก็ต้องรู้สึกเหนื่อยใจ ถอนหายใจแล้วพูดออกมาว่า “หม่าอาน คุณไม่คิดจะฟังสิ่งที่ผมเตือนเลยรึไงครับ?”
หลังจากที่ หม่าอานเห็นหน้าเย่ฮวน สีหน้าของเขาก็ดูไม่ดีเลย “เย่ฮวน ไม่ว่าคุณกับหมอนั่นจะเป็นอะไรกัน ถ้าคุณยังเป็นห่วงความสัมพันธ์ระหว่างเราอยู่ละก็ อย่าสอดมือเข้ามายุ่ง๑
เย่ฮวนส่ายหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า “เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเรามันดีมากนี่แหละ ผมถึงไม่อยากเห็นคุณไปรนหาที่ตาย
พอหม่าอานได้ยินอย่างนั้น เขาก็อึ้งไป จากนั้นก็ขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “คุณไม่ต้องเอาคำพูดพวกนี้มาหลอกให้ผมกลัวเลย ในเมืองเป่ยไห่ ผมยังไม่รู้เลยว่ามีใครกล้ามาหาเรื่องผมบ้าง”
ทันทีที่เขาพูดจบ ก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากโรงแรม
มีคนตะโกนออกมาจากกลุ่ม “ออกมาแล้ว!”
พวกลูกน้องของหม่าเซียจื่อพากันเข้าไปล้อมคนกลุ่มนั้นเอาไว้
พอพี่หวงเห็นแบบนั้น สีหน้าก็ซีดไปทันทีพร้อมกับชูมือขึ้นเหนือหัว “ใจเย็นก่อนครับ ใจเย็นก่อน นี่ผมเองครับผมเอง”
คนพวกนี้ไม่เคยเห็นหน้าไป๋ยี่เฟย เลยนึกว่าพี่หวงเป็นเขา ว่าแล้วก็กด พี่หวงลงกับพื้น
พอพี่หวงรู้ตัวว่าถูกเข้าใจผิด เขาจึงรีบตะโกนออกมาว่า “ผิดคนแล้ว ผิดคนแล้ว ไม่ใช่ผม ไม่ใช่ผม”
หม่าเซียจื่อก้าวออกมาจากกลุ่มคน มองไปยังพี่หวงที่นอนอยู่บนพื้น พอเห็นว่าแตกต่างจากที่ หม่าจิ่นหลงบอกไว้มาก เขาก็เข้าใจทันทีว่าจับผิดคนแล้ว จากนั้นเขาก็โบกมือ “จับผิดคนแล้ว”
พวกลูกน้องจึงปล่อย พี่หวงออก
พอ พี่หวงเห็นหน้าหม่าเซียจื่อเขาก็ตกใจจนตัวสั่น เขาพูดออกมาด้วยความหวาดหวั่นว่า “ลูกพี่ครับ ผะผะผะ……ผมรู้ รู้ว่า……คนที่พวกพี่ตามหาอยู่ที่ไหน
“มันอยู่ไหน?” หม่าเซียจื่อหันมามองหน้า พี่หวง
พี่หวงไม่ได้ตอบไปทันที แต่เขากลับทำหน้าลังเล
หม่าเซียจื่ออยู่ในวงการนักเลงมานาน เขาจึงดูออกทันทีว่า พี่หวงต้องการอะไร จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาอย่างดูถูก “บอกมาเดี๋ยวฉันจ่ายให้แสนหนึ่ง”
พอพี่หวงได้ยินอย่างนั้น ก็ดูมีพลังขึ้นมาทันที ดูไม่ได้กลัวเหมือนเมื่อกี้แล้ว เขารีบพูดเพื่อเอาผลงานว่า “หมอนั่นถูกเราจับไว้แล้วครับ ผมจะให้ลูกน้องพามันมาให้ลูกพี่เดี๋ยวนี้เลยครับ”
พูดจบ เขาก็หันไปกวักมือเรียกคนในห้องโถง แล้วลูกน้องของเขาก็พาตัวไป๋ยี่เฟยออกมา
ไป๋ยี่เฟยเดินออกจากห้องโถงของโรงแรม พอมาถึงหน้าประตูก็มองเห็นหม่าเซียจื่อทันที
ในเวลานี้ ไป๋ยี่เฟยได้ประจักษ์ต่อหน้าคนทั้งหมดแล้ว ดังนั้น เมื่อเศรษฐีที่มาให้การสนับสนุนเห็นหน้าไป๋ยี่เฟยเข้าสีหน้าของหลายคนก็เปลี่ยนไปทันที
เศรษฐีหลายคนในนี้ได้ไปเข้าร่วมการเลือกตั้งตำแหน่งประธานของสหพันธ์ธุรกิจเหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องรู้จักไป๋ยี่เฟยคนนี้อยู่แล้ว และเข้าใจแล้วว่าทำไมเย่ฮวนตัวเข้ามาห้ามหม่าอานด้วย
เศรษฐีคนหนึ่งก้าวออกมา แล้วขอโทษ หม่าอานว่า “เศรษฐีหม่า ต้องขออภัยจริงๆ พอดีผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าภรรยาของผมบอกให้ผมรีบกลับบ้าน ผมขอตัวก่อนนะครับ”
หม่าอานยังไม่ทันได้ตอบ เศรษฐีคนนั้นก็จากไปแล้ว ราวกับกลัวว่าตัวเองจะออกจากที่นี่ช้าไป
จากนั้น ก็ได้มีเศรษฐีอีกคนพูดขึ้นว่า เศรษฐีหม่าครับ ไอ้ลูกไม่รักดีของผมก่อเรื่องอีกแล้ว ผมจึงต้องรีบกลับไปสั่งสอนมันซะหน่อย ผมขอตัวก่อนนะครับ”
พอ หม่าอานเห็นแบบนั้นจึงรู้สึกงงขึ้นมาทันที เขาหันไปมองไป๋ยี่เฟยอีกครั้ง พร้อมกับสงสัยอย่างหนัก หมอนี้มีชื่อเสียงขนาดนั้นเลยเหรอ?
แต่การแต่งตัวของมันดูธรรมดามากเลยนะ แถมยังถูกลูกกระจ๊อกกลุ่มหนึ่งจับตัวได้อีกนะ ดูท่าจะไม่มีอะไรดีหรอก
หม่าเซียจื่อจ้องเขม็งมาที่ไป๋ยี่เฟยด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ว่า “แกใช่มั้ยที่เป็นคนทำร้ายหลานชายของฉัน?”
ไป๋ยี่เฟยยักไหล่ แล้วพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “มันชัดเจนออกจะตายไม่ใช่เหรอครับ?”
พอหม่าเซียจื่อได้ยินอย่างนั้น ก็โบกมือ “พามันกลับไป!”
“ครับ!”
ลูกน้องหลายคนวิ่งเข้ามา เตรียมที่จะพาตัวไป๋ยี่เฟยไป
พวกเศรษฐีที่เพิ่งกลับไป พอขึ้นไปบนรถแต่ยังไม่ทันได้สตาร์ทรถเลย
ก็ต้องถูกรถตู้ธุรกิจหลายคันที่เพิ่งขับเข้ามาขวางทางเอาไว้
รถตู้ธุรกิจหลายคันขับมาถึงแล้ว ต่างก็จอดอยู่ที่หน้าประตูของโรงแรม จนขวางทางทั้งหมดของที่นี่เอาไว้
หม่าอานแค่หันไปมอง คนของหม่าเซียจื่อมาเพิ่มอีกแล้ว เขาจึงไม่ได้สนใจอีก
หม่าเซียจื่อเองก็ไม่ได้สนใจ เพราะเขาคิดว่าพวกนั้นเป็นคนของพี่เขา
คนเดียวในพวกนั้นที่รู้สึกว่าผิดปกติก็คือเย่ฮวน
หางตาของเย่ฮวนกระตุก จากนั้นเขาก็ก้าวถอยหลังไปยืนอยู่ข้างหลัง แล้วยิ้มอย่างขมขื่น “ผมเตือนคุณไปแล้วนะ ว่าอย่าไปยุ่งกับเขา เพราะเขามันหมาบ้า”
“คุณหมายความว่ายังไง?” หม่าอานได้ยินอย่างนั้นก็ทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที และรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติไป
จากนั้นเย่ฮวนก็ไม่ได้สนใจเขา แต่หันไปพูดกับไป๋ยี่เฟยแทน “เรื่องนี้ผมไม่เกี่ยวนะ ผมแค่มาห้ามเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ยอมฟังผม ผมเองก็จนปัญญา”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มออกมา “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ยืนดูอยู่ตรงนั้นพอครับ”
พอ หม่าเซียจื่อได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกงงขึ้นมาทันที “เย่ฮวน นี่คุณหมายความว่ายังไง? ยังไงคุณกับพี่ผมก็รู้จักกัน แถมยังเป็นพวกเดียวกันด้วย แล้วทำไมต้องไปเกรงใจไอ้หมอนี่ด้วย?”
จากนั้นก็หันมาพูดกับไป๋ยี่เฟยว่า “แกนี่แม่งใจกล้าไม่เบาเลยนะ กล้าทำร้ายแม้กระทั่งหลายชั้น ฉันจะสั่งสอนให้แกสำนึกเอง ยืนบื้ออยู่ทำไม? ยังไม่ลากตัวมันกลับไปอีก!”
พอลูกน้องของหม่าเซียจื่อได้ยินอย่างนั้นก็รีบผลักลูกน้องของ พี่หวงออก แล้วเขามาจับตัวไป๋ยี่เฟยไว้
ทันใดนั้นเอง ก็ได้มีเสียง “ฉึกฉึกดังขึ้น”
จากนั้นร่างกายของลูกน้องก็แน่นิ่งไป แล้วล้มลงกับพื้น
ในเวลาเดียวกันด้านหลังของไป๋ยี่เฟยก็ได้มีคนชุดดำปรากฏตัวออกมาสองคน ในมือของทั้งคู่ถือมีดที่ส่องแสงอันเย็นเยือกออกมา บนมีดยังมีดเลือดสดๆ ติดอยู่ มันค่อยๆ หยดลงพื้นทีละหยด