ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 658
บทที่ 658
ไป๋ยี่เฟยฟังแล้วก็หมุนตัวเดินไปทางบันได “งั้นไปกันเถอะ ต้องอาบน้ำนอนแล้ว”
“คุณ” ฉีฉีโมโหขึ้นมาทันที “หน้าไม่อาย”
ไป๋ยี่เฟยเห็นฉีฉีร้อนตัวขนาดนั้น ก็รู้สึกว่าตัวเองล้อเล่นแรงไปหน่อย จึงพูดขอโทษ “ขอโทษ ต่อไปไม่ล้อเล่นแบบนี้อีกแล้ว”
พูดจบแล้ว ก็เดินลงไปชั้นล่าง
ฉีฉีมองร่างไป๋ยี่เฟยที่เดินจากไป รู้สึกอึ้งเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าไป๋ยี่เฟยจะขอโทษเธอ
เพราะคำขอโทษคำเดียว ทำให้ฉีฉีรู้สึกมึนงง คิดถึงตอนที่รู้จักไป๋ยี่เฟยครั้งแรก และคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นช่วงนี้ รู้สึกว่าไป๋ยี่เฟยคนนี้ ก็ไม่ได้น่ารังเกียจขนาดนั้น
และเธอเหมือนเข้าใจแล้ว ทำไมเขาไม่ยอมบอกความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่ชาย?
ไม่ว่าเธอ หรือว่าพี่ชายเธอ ไม่ว่าใครรู้ความจริงเรื่องนี้ ก็ต้องเผชิญกับการเลือกที่ยากเย็น
ตอนแรกที่ไป๋ยี่เฟยตัดสินใจไม่ฆ่าเธอ ปิดความลับเรื่องนี้ต่อ ตั้งแต่ตอนนั้นมา ไป๋ยี่เฟยก็ต้องเผชิญกับการเลือกที่ยากเย็น
……
ไป๋ยี่เฟยกลับไปห้องนอนตัวเอง นอนลงบนเตียง แต่ก็นอนไม่หลับ
ตอนนี้เหตุการณ์มีคนเกี่ยวข้องมากมาย และมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันมากเกินไป เรื่องราวดำเนินไปในทางที่เกินความคาดหมายของเขา เขาไม่ว่าทางเลือกของเขาผิดหรือถูก
ในใจเขา เขาหวังว่าเมื่อทุกอย่างจบลงแล้ว เขาจะพาหลี่เสว่กับน้องสาวของตัวเองไปจากที่นี่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายอีก
นอนไม่หลับทั้งคืน
เก้าโมงเช้า ไป๋ยี่เฟยไปพบคนตามนัดที่อาคารซางเม่า
เมื่อพวกเขาถึงด้านในก็เต็มไปด้วยผู้คน ยังมีรถหรูอีกมากมาย เพราะว่าคนที่มาเยอะมาก ลานจอดรถก็เข้าไปได้ทีละคัน เพราะฉะนั้นทางเข้ารถติดขยับไม่ได้
ไป๋ยี่เฟยลงจากรถแล้วเดินเข้าไป
เมื่อคืนไม่รู้ฉีฉีไปนอนที่ไหนทั้งคืน ตอนนี้ก็ปรากฏตัวอยู่ข้างกายไป๋ยี่เฟย
เดินเข้าไปในลิฟต์ ประตูลิฟต์กำลังจะปิดแล้ว ก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น “รอฉันด้วย”
พูดจบแล้ว ก็มีร่างผู้หญิงหุ่นดีคนหนึ่งเดินเข้ามา
เมื่อผู้หญิงเดินเข้าลิฟต์แล้ว มองคนในลิฟต์ ก็รู้สึกตะลึง “ไป๋ยี่เฟย”
ไป๋ยี่เฟยมองผู้หญิงสายตาเรียบเฉย จากนั้นก็ทำเป็นไม่รู้จัก ไม่สนใจ
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนอื่น เป็นภรรยาของเย่ฮวน เฝิงเซียนเซียน
เฝิงเซียนเซียนมองไป๋ยี่เฟยอย่างตะลึง “คุณกล้ามาได้ยังไง?”
ไป๋ยี่เฟยยังคงไม่สนใจ ไม่รู้ว่าวันนี้เฝิงเซียนเซียนเป็นอะไร ทำไมไม่มาพร้อมเย่ฮวน ข้างกายก็ไม่มีคน น่าแปลกใจจริงๆ
เพราะว่าไป๋ยี่เฟยไม่สนใจ เฝิงเซียนเซียนเริ่มโมโห “ไป๋ยี่เฟย ฉันจะบอกให้ คุณชนะสามีฉันไม่ได้หรอก”
“อีกอย่าง คุณทำอะไรกับเย่อ้าย กล้าแตะต้องเธอแม้แต่ปลายนิ้ว สามีฉันไม่มีวันปล่อยคุณแน่ เจียมตัวหน่อย ทางที่ดีเอาตัวเย่อ้ายคืนมา คุณ……”
เฝิงเซียนเซียนพูดอยู่ข้างหูไป๋ยี่เฟย บลาบลาบลา บวกกับไป๋ยี่เฟยไม่ได้นอนทั้งคืน รู้สึกหนวกหูจนปวดหัว
ดังนั้นเห็นลิฟต์ถึงชั้น10 ก็รีบกดชั้น11
เฝิงเซียนเซียนไม่ได้สังเกตท่าทางของไป๋ยี่เฟย ยังคงบลาบลาบลา “คุณอย่านึกว่าคนอื่นจะกลัวคุณทุกคน ฉันจะบอกคุณ ตระกูลของเราไม่กลัว คุณ……”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินก็หัวเราะพูดว่า “ตอนอยู่บนเรือ ถ้าไม่มีผม ตอนนี้คุณยังยืนอยู่ที่นี่ได้เหรอ?”
ตอนที่อยู่บนเรือ ถ้าไป๋ยี่เฟยไม่ช่วยเฝิงเซียนเซียน เฝิงเซียนเซียนโดนชายสองคนนั้นย่ำยีไปนานแล้ว ยังจะมายื่นด่าเขาอยู่นี่เหรอ?
เฝิงเซียนเซียนได้ยินคำนี้แล้วก็หุบปาก หน้าแดงทันที
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเย็นชา “พูดไม่หยุดสักที หนวกหู โยนออกไป”
เฝิงเซียนเซียนยังไม่ทันตั้งตัว ยังอยากพูดกับไป๋ยี่เฟยต่อ พูดเรื่องบนเรือ แต่ถูกไป๋ยี่เฟยให้คนโยนเธอออกจากลิฟต์ ก็พูดอย่างโมโห “ไป๋ยี่เฟย กล้าเหรอ?”
เพิ่งพูดจบ ประตูลิฟต์ก็เปิดออก
“ปัง”
ฉีฉีก็ถีบก้นของเฝิงเซียนเซียน ถีบออกจากลิฟต์
ไม่เพียงแค่ไป๋ยี่เฟยรู้สึกหนวกหู ฉีฉีเิองก็รู้สึกรำคาญ เพราะฉะนั้นคำพูดของไป๋ยี่เฟย เธอเห็นด้วยอย่างยิ่ง และยินดีทำอย่างยิ่ง
ประตูลิฟต์ปิด ได้ยินเสียงด่าของเฝิงเซียนเซียน “ไป๋ยี่เฟย แกจำไว้ เดี๋ยวสามีฉันมา ฉันจะให้เขาฆ่าแก”
ไม่เขาเธอตะโกนยังไง พวกไป๋ยี่เฟยรู้สึกโล่งหูสักที ขึ้นไปถึงชั้น23
พวกเขาออกจากลิฟต์ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งในชุดทำงาน ท่าทางดูสง่า ด้านหลังผู้หญิงยังมีชายชุดสูทกลุ่มหนึ่ง พวกเขายืนอยู่หน้าลิฟต์ เหมือนกำลังรอใคร
พอเห็นไป๋ยี่เฟย ผู้หญิงก็ยิ้มแล้วเดินเข้ามา ยื่นมือออกไปทันที “น้องชาย พี่สาวคนนี้ได้เจอสักทีนะ”
ตอนแรกผู้หญิงดูท่าทางเย็นชา เดินเข้ามาทักทายอย่างกระตือรือร้น ไป๋ยี่เฟยรู้สึกไม่ค่อยชอบ เหมือนจงใจเกินไป
ดังนั้นเขาไม่ได้ยื่นมือไป และเอามือใส่ในกระเป๋ากางเกง ยืนอยู่ตรงนั้นสังเกตดูก่อน แล้วพูดเรียบเฉย “ไป๋เจียว ผมไม่สนิทกับคุณ”
ไป๋เจียวเห็นไป๋ยี่เฟยเอามือใส่กระเป๋า ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่นานก็คลายออก ค่อยๆดึงมือตัวเองกลับ ยังคงรักษารอยยิ้ม “เราต่างเป็นคนตระกูลไป๋ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ไม่สนิทยังไงก็ยังคงมีความสัมพันธ์ทางสายเหลือไม่ใช่เหรอ? ทำแบบนี้พี่สาวคนนี้เสียใจนะ”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินก็ยิ้มเย็นชา “พูดได้ดีมาก ถ้าผมไม่แสดงความเคารพกลับ คงเสียมารยาทมาก”
ในคำพูดแสดงความเสียดสีอย่างชัดเจน ไป๋ยี่เฟยรู้แล้วว่าไป๋เจียมทำอะไรลับหลัง ส่วนเขาไป๋ยี่เฟยต้องเอาคืนแน่นอน
พูดถึงขนาดนี้แล้ว ไป๋เจียวก็ไม่เสแสร้งต่อแล้ว สีหน้าเปลี่ยนทันที พูดเย็นชา “ไม่ต้องรีบ เรื่องสนุกเพิ่งเริ่มต้น”
พูดจบ ก็เข้าไปใกล้ไป๋ยี่เฟย พูดเสียงกระซิบ “พวกคนแก่ตระกูลไป๋ ความคิดโบราณ เห็นชายดีกว่าหญิง นี่มันสมัยไหนแล้ว? ยังให้ผู้ชายเป็นผู้สืบทอดวงศ์ตระกูล”
“ฉันจะทำให้พวกเขาดู ผู้ชายตระกูลไป๋ ไร้น้ำยาทั้งนั้น เป็นทายาทสืบทอดตระกูลไป๋ไม่ได้”
ไป๋ยี่เฟยไม่สนใจเธอ ไม่รอเธอพูดจบ ก็เดินสวนเธอไป เดินเข้าในข้างใน
ไป๋เจียวเห็นแล้วสีหน้ายิ่งไม่ดี ไป๋ยี่เฟยกล้าไม่สนใจเธอ ไม่เห็นเธอในสายตา
ไป๋เจียวถอนหายใจแรง หันไปพูดกับไป๋ยี่เฟย “ไป๋ยี่เฟย คอยดู ฉันจะทำให้นายรู้ ผู้ชายตระกูลไป๋ไร้ประโยชน์ทุกคน ทำให้พวกเธอทุกคนดูว่าฉันเอาที่ดินที่พวกเธออยากได้มาอยู่ในมือได้ยังไง”
……
เวลาเดียวกัน ห้องผู้ป่วยvipโรงพยาบาลโว่หลง
ซาเฟยหยางเคาะประตูเดินเข้าไป เดินไปข้างเตียงแล้วยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้สวีลั่ง
สวีลั่งไม่เข้าใจ “มันคืออะไร?”
ซาเฟยหยางตอบ “ไป๋ยี่เฟยให้ผมเอาให้คุณ”
สวีลั่งนิ่งไปครู่หนึ่ง เปิดจดหมายออกอย่างสงสัย เปิดไปด้วยพูดไปด้วย “มีคำพูดอะไรพูดกันตรงๆไม่ได้? ยังทำแบบนี้อีก สำออย”
คำพูดเพิ่งพูดจบ สวีลั่งเห็นข้อความในจดหมาย จากนั้นก็อึ้งไปทันที
ในจดหมายมีตัวหนังสือไม่กี่ตัว
ฉีฉีคือน้องสาวนาย
ตัวหนังสือพวกนี้แยกกันแล้วเขาเข้าใจ แต่รวมกันแล้ว เขาไม่เข้าใจ
หมายความว่าอะไร?
ฉีฉีคือน้องสาวของเขา?
สวีลั่งตกใจมาก ไม่กล้าเชื่อ
แต่เขารู้ ไป๋ยี่เฟยไม่เอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นแน่นอน ฉะนั้นสิ่งที่เขาพูดคือความจริง
สวีลั่งมือเริ่มสั่น
หยางเฉียวเห็นแล้วรู้สึกผิดปกติ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จึงจับมือสวีลั่งด้วยความเป็นห่วง “พี่ลั่ง เป็นอะไร?”
สวีลั่งเรียกสติกลับมา แล้วถามซาเฟยหยาง “เขารู้ได้ยังไง?”
ซาเฟยหยางส่ายหัว พูดว่า “เขาให้ผมมาส่งจดหมาย ไม่ได้ให้ผมดูเนื้อหาในจดหมาย”
หมายความว่า ซาเฟยหยางไม่รู้ว่าในจดหมายเขียนอะไร
สวีลั่งสายตานิ่ง จากนั้นก็ดึงผ้าห่มออกแล้วใส่รองเท้าข้างเตียง
“พี่ลั่ง” หยางเฉียงเห็นแล้วก็เป็นห่วง รีบขวางเขาไว้ “นี่พี่จะทำอะไร? แผลยังไม่หายดี ยังลงจากเตียงไม่ได้”
สวีลั่งเห็นแล้วก็หยุดครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตบแขนหยางเฉียวเบาๆ พูดด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย “หยางเฉียว ให้ผมลุกขึ้นตอนนี้ ผมหาน้องสาวเจอแล้ว หาเจอแล้ว……”