ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 669
เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 669 ดูแลสวีลั่งให้ดีๆ
หนิววั่งเห็นได้ชัดว่าอึ้งชะงักหนึ่งที
ไป๋ยี่เฟยเห็นสภาพยิ้มแล้วยิ้มอีก ตอบกลับว่า “ครั้งนี้มีเรื่องมากมายผมล้วนคิดได้แล้ว ถึงแม้ว่าไม่ใช่เรื่องของหลิงหลิงผมก็คิดว่าจะไปเมืองหลวงด้วยตนเองสักหน่อย”
“ผมจะพาภรรยาของผมกลับบ้าน” รอยยิ้มของไป๋ยี่เฟยสดใสอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
หนิววั่งประหลาดใจอย่างมาก “ทำไมหรือ? น้องสะใภ้อยู่เมืองหลวงไม่ใช่พัฒนาอย่างมากหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตอบคำถามของเขานี้เลย แต่คือกำชับเขาพูดว่า “ช่วยผมดูแลสวีลั่งให้ดีๆ”
……
ตอนนี้หลงหลิงหลิงอ่อนแอมาก ดังนั้นไป๋ยี่เฟยหารถบ้านคันหนึ่งโดยตรง สามารถให้เธอนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง
สำหรับหนิววั่งบอกว่าจะวางแผนรถให้พวกเขาไป ไป๋ยี่เฟยมีความไม่วางใจเล็กน้อย เพราะว่าเขาล้วนรู้ตลอดว่า คนของพวกเขาในนั้น มีหนอนบ่อนไส้ของสวี่เต้าจ่าง
ดังนั้นตอนนี้เขาจัดการเรื่องล้วนระมัดระวังรอบคอบมาก เพื่อความปลอดภัยของหลงหลิงหลิง เขาจะต้องไปด้วยตนเอง
และครั้งนี้เขาไม่ได้พาคนอื่นๆไปด้วย เพียงแค่พาซาเฟยหยาง
สาเหตุที่พาซาเฟยหยางไปก็คือเพราะว่าเขาไม่แน่ใจ ซาเฟยหยางมีจุดประสงค์อื่นหรือไม่?
ถ้าหากเขาอยู่ที่เมืองเทียนเป่ย สวีลั่งคนเหล่านี้ล้วนสู้ไม่ได้ จะไม่ใช่อันตรายมากหรือ?
ดังนั้นพาไปอยู่ข้างกายจึงจะปลอดภัยที่สุด อีกทั้ง ถ้าหากว่าเขาไม่มีปัญหาจริงๆ ก็สามารถคุ้มครองพวกเขาได้
ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว ไป๋ยี่เฟยขับรถอยู่ พาหลงหลิงหลิงกับซาเฟยหยางเดินทางไปยังเมืองหลวงด้วยกัน
หลงหลิงหลิงนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงแล้ว ซาเฟยหยางก็นั่งอยู่ข้างๆหลับตาพักผ่อนเช่นกัน
ไป๋ยี่เฟยคิดว่ามีเพียงแค่เขาคนเดียวที่ตื่นอยู่ ผ่านไปไม่นาน หลงหลิงหลิงที่อยู่บนเตียงลุกขึ้นมานั่ง เดินมาถึงข้างหลังไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยมองเห็นจากกระจกมองหลัง ตื่นตกใจหนึ่งที “อีเหี้ยยยยย!คุณตื่นแล้วหรือ? ไม่ดีนะ คุณรีบไปพักผ่อนล่ะ!”
หลงหลิงหลิงส่ายหัว “ฉันนอนไม่หลับ”
“งั้น…..คุณนั่งสักพัก” ข้างๆไป๋ยี่เฟยมีที่นั่งข้างคนขับ หลงหลิงหลิงนั่งอยู่ที่นั่น
ไป๋ยี่เฟยเห็นหลงหลิงหลิงสีหน้าแดงมาก เห็นได้ชัดยังไข้ขึ้นอยู่ “ถ้าไม่คุณกลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่าเถอะ?”
“ท่านประธานกรรมการ ฉันไม่เป็นอะไร” หลงหลิงหลิงส่ายหัว
ไป๋ยี่เฟยเห็นสภาพส่ายหัวอย่างจนใจ ลักษณะของเธอ ดูแล้วจะเหมือนไม่มีอะไรได้ยังไง แต่ว่าก็ไม่ได้สนใจเช่นกัน เพียงพูดว่า “ตอนที่ไม่ได้อยู่ในบริษัท ก็ไม่ต้องเรียกผมว่าท่านประธานกรรมการแล้ว ฟังแล้วรู้สึกไม่คุ้นเคยอย่างมาก”
หลงหลิงหลิงดูเหมือนตื่นเต้นไปสักพัก “งั้นฉัน……”
ไป๋ยี่เฟยถามว่า “พวกเราเกิดปีเดียวกันมั้ง?”
หลงหลิงหลิงพยักหน้า “ใช่ งั้นฉันเรียกคุณว่าพี่ไป๋ได้ไหม?”
“งั้นถ้าคุณโตกว่าผมล่ะ?” ไป๋ยี่เฟยยิ้มตอบกลับ
หลงหลิงหลิงได้ยินคำพูด ก้มหัวลงโดยไม่รู้ตัว ในใจมีความหดหู่เล็กน้อย
ไป๋ยี่เฟยดูเหมือนสังเกตถึงอารมณ์ไม่ดีของหลงหลิงหลิงแล้ว ไม่แน่ใจถามว่า “เป็นยังไงแล้วหรือ? เมื่อกี้ผมพูดผิดแล้วหรือ?”
หลงหลิงหลิงเงยหน้าขึ้นใหม่อีกครั้ง อมยิ้มหนึ่งที “ไม่มี”
แต่ว่าหลังจากพูดคำนี้จบ ก็ก้มหัวลงอีกครั้ง เงียบไปเลย
ไป๋ยี่เฟยเห็นแบบนี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกถึงว่าหลงหลิงหลิงดูเหมือนมีเรื่องในใจ ทั้งรู้สึกว่าหลงหลิงหลิงน่าจะเพราะสาเหตุเป็นไข้สูงทรมานมาก เขากำลังจะบอกให้เธอไปนอน หลงหลิงหลิงกลับเอ่ยปากแล้ว
“พรุ่งนี้ เป็นวันเกิดของฉัน”
ไป๋ยี่เฟยหุบปากแล้ว คำพูดติดอยู่ในลำคอ
หลงหลิงหลิงยิ้มจนดูน่าเกลียดมาก กลัดกลุ้มใจพูดว่า “บนโลกนี้ ดูเหมือนไม่มีคนห่วงใยฉันเลย”
เพราะว่าไม่มีสักคนจำวันเกิดของเธอได้
ไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดนี้ เห็นเธอยิ้มอย่างฝืนใจอีก ในใจทรมานเหลือเกิน
นี่ทำให้เขานึกถึงเรื่องในบ้านของหลงหลิงหลิง คนในบ้านของเธอให้ความสำคัญกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ไม่ห่วงใยเธอเลยสักนิด
อยู่ดีๆหลงหลิงหลิงเสียงเบาๆระลึกถึงว่า ดูเหมือนกำลังกล่าวถึงความจนใจของตนเองอยู่ “ยังจำได้ตอนที่ก่อนหน้านั้นเรียนมหาวิทยาลัย ทุกครั้งที่เป็นวันเกิด พวกเพื่อนร่วมชั้นล้วนจะฉลองให้กับฉัน”
“แต่ว่าหลังจากเรียนจบแล้ว เพื่อนร่วมชั้นเรียนเหล่านั้นก็ไม่เคยโผล่ออกมาอีกเลย ก็ใช่สิ ทุกคนล้วนยุ่งมาก ล้วนยุ่งกับกิจการของตนเองอยู่”
“แต่โชคของฉันดีมาก จบยังไม่นาน ก็เข้าในโหวจวี๋กรุ๊ปอย่างราบรื่นแล้ว เป็นผู้ช่วยประธานกรรมการ”
“ในเวลานั้นฉันยังดีใจมาก ควบคุมไม่อยู่ที่อยากจะแบ่งปันความสุขกับพวกเขา ก็เอาเรื่องนี้บอกกับญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของฉัน”
“แต่เริ่มจากเวลานั้นเป็นต้นไป พวกเขาล้วนไม่ยินยอมที่จะสนใจฉัน แต่ตอนที่ฉันบอกข่าวนี้กับพวกเขา พวกเขาดูเหมือนไม่รู้สึกถึงความดีใจเลย อีกทั้งหดหู่มาก”
“สิ่งที่พวกเขาพูดว่ายินดีนะ อะไรต่างๆล้วนถูไถมาก”
“ถึงสุดท้าย ฉันก็รู้สึกว่าฉันดูเหมือนไม่มีเพื่อนแล้ว ก็ไม่ถูก เสี่ยวอิงยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน”
“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ล่ะ?”
หลังจากไป๋ยี่เฟยฟังจบ ในใจทอดถอนใจด้วยความหดหู่ ทั้งมีความเห็นใจเธอเล็กน้อย
แท้ที่จริงสิ่งเหล่านี้เข้าใจง่ายมาก เพราะว่าทุกคนล้วนเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน เป็นเพื่อน เป็นญาติ คุณมีชีวิตดีกว่าฉัน ตามหลักจิตวิทยาการเทียบกับผู้มีฐานะสูงกว่า ย่อมไม่รู้สึกดีใจกับคุณจริงๆอยู่แล้ว
แต่หลงหลิงหลิง ทั้งๆที่เป็นคนคนหนึ่งที่พยายามมาก กลับสูญเสียเพื่อนไปและสูญเสียความผูกพันทางสายเลือดเช่นกัน
อาจจะ เธอล้วนโดดเดี่ยวกว่าพวกเขาคนใดๆที่อยู่ข้างกายไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกไม่ควรให้เธอเป็นอย่างนี้ต่อไป ดังนั้นพูดเบาๆว่า “หลิงหลิง หาแฟนสักคนเถอะ”
ในตอนนี้ในใจไป๋ยี่เฟยเริ่มพรรณนาการแผนการคร่าว ๆอย่างหนึ่งแล้ว
หลงหลิงหลิงได้ยินคำพูดจ้องมองไปยังไป๋ยี่เฟย สายตาของเธอใจจดใจจ่อมาก อ่อนโยนมาก ก็มีความรักลึกซึ้งเช่นกัน
ไป๋ยี่เฟยย่อมรู้สึกได้อยู่ดี แต่เขาเพียงแค่จ้องมองหนึ่งที ก็หลบหนีทันที
ภายนอกเขาสงบมาก แต่ในใจไม่สงบสักนิดเลย
พวกเขารู้จักกันนานขนาดนี้ ไป๋ยี่เฟยไม่เคยเห็นสายตาของหลงหลิงหลิงทั้งตรงเปะชัดเจนทั้งเร่าร้อนขนาดนี้มาก่อนเลย
อยู่ในไม่รู้เนื้อรู้ตัว นัยน์ตาทั้งคู่ของไป๋ยี่เฟย กวาดผ่านแสงสีแดงเล็กน้อยหนึ่งที
“ปี๊ก…….”
เสียงแตรที่แสบหูดังขึ้น เหมือนดั่งทุบหัวหนึ่งที ไป๋ยี่เฟยหัวสมองปลอดโปร่งทันที
อยู่ข้างหน้าของพวกเขาดูเหมือนมีรถขัดข้องคันหนึ่ง รถเปิดไฟกะพริบขับอย่างช้ามาก
รถของไป๋ยี่เฟยใกล้จะชนแล้ว โชคดีว่าคนขับรถบีบแตร
ไป๋ยี่เฟยตื่นตกใจหนึ่งที เลี้ยวพวงมาลัยอย่างกะทันหัน รถทั้งสองคันเบียดกันไป
รอจนปลอดภัยแล้ว ไป๋ยี่เฟยจึงไปมองหลงหลิงหลิง หลงหลิงหลิงตกใจจนจับหน้าอกของตนเองไว้ เห็นได้ชัดว่าทำให้ตกใจแล้ว
ไป๋ยี่เฟยหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่ผ่านไป “เหม่อลอยไป”
หลงหลิงหลิง อืม เสียงหนึ่ง ดูเหมือนรู้ว่าเป็นเพราะตนเอง ดังนั้นไม่สบายใจก้มหัวลงไม่กล้าไปมองไป๋ยี่เฟยอีก
ไป๋ยี่เฟยหันไปข้างหลังจ้องมองซาเฟยหยางอีก พบเห็นซาเฟยหยางนอนหลับอย่างสนิทมาก เรื่องเมื่อกี้ดูเหมือนไม่ได้ทำให้เขาตื่นเลย
กำลังอยู่ในเวลานี้ อยู่ดีๆหลงหลิงหลิงชี้ไปข้างหน้าพูดว่า “มีเหตุการณ์”
ไป๋ยี่เฟยก็มองเห็นแล้วเช่นกัน รอพวกเขาขับไปใกล้ๆ จึงพบเห็น เป็นรถบัสคันหนึ่งที่เสียกลางทางแล้ว ไฟที่อยู่บนรถยังกะพริบอยู่ มีคนมากมายล้วนลงจากรถแล้ว
ไม่เพียงแค่นี้ อยู่บนพื้นดูเหมือนยังมีหญิงมีครรภ์คนหนึ่งนอนอยู่
หลังจากมองเห็นรถของไป๋ยี่เฟย มีคนยื่นมือโบกรถทันที
ไป๋ยี่เฟยขับรถเข้าไป หลังจากจอดแล้ว ก็เลยมีวัยรุ่นหลายคนเดินเข้ามา ไป๋ยี่เฟยเลื่อนกระจกรถลงถามว่า “เป็นยังไงแล้วหรือ? เกิดเรื่องอะไรกัน?”
วัยรุ่นคนหนึ่งที่หน้าตาสดใสกว่าร้อนใจอย่างมากพูดว่า “พี่ชาย รบกวนช่วยหน่อย รถบัสทางไกลที่จะไปเมืองหลวงเสียข้างทางแล้ว ภรรยาของผมใกล้จะคลอดแล้ว พาพวกเราไปด้วย รบกวนแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยมองเห็นหญิงมีครรภ์ที่นอนอยู่บนพื้นนั้น รีบพูดว่า “รีบยกคนขึ้นมาเถอะ!”
“เอ๊ะ ได้ได้ ขอบคุณนายท่าน!”
วัยรุ่นหลายคนวิ่งกลับไปพร้อมกัน เรียกคนอยู่พูดว่า “นายท่านยินยอมที่จะพาพวกเราไปด้วย รีบยกคนเข้าไป”
หลายคนเริ่มยกหญิงมีครรภ์คนนั้น
ในเวลานี้ อยู่ดีๆไป๋ยี่เฟยพูดอย่างจริงจังกับหลงหลิงหลิงว่า “นั่งดีๆเลย”
หลังจากพูดจบ เลื่อนกระจกรถขึ้น
หลงหลิงหลิงไม่เข้าใจสาเหตุ ในใจตื่นตกใจทันที “เป็นยังไงแล้วหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตอบเธอ แต่เหยียบคันเร่งทันที “พุ่ง” เสียงหนึ่ง รถพุ่งออกไปอย่างกะทันหัน
วัยรุ่นหลายคนนั้นหลังจากได้ยินเสียงหันหน้ากลับไปทันที
“ปั้ง!”
วัยรุ่นสองคนที่ขวางอยู่หน้ารถ ถูกรถของไป๋ยี่เฟยชนลอยออกไปเลย