ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 670
บทที่ 670 รถเสียกลางทาง
ไป๋ยี่เฟยกลับไม่มีความคิดที่จะหยุดรถ แต่คือเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงต่อ ขับอย่างรวดเร็วไปข้างหน้า
หลงหลิงหลิงตื่นตะลึงเหลือเกิน “ทำไมล่ะ?”
เธอล้วนไม่เข้าใจว่าไป๋ยี่เฟยจะทำอะไรกันแน่? ถึงแม้ว่าไม่ยินยอมที่จะช่วยพวกเขาก็ไม่สมควรที่จะใช้รถไปชนคนล่ะ!
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตอบคำถามของเธอเลย แต่คือขมวดคิ้วมองไปยังกระจกมองหลัง
อยู่ข้างหลังของพวกเขา รถบัสคันเมื่อกี้กำลังไล่ตามพวกเขามาอย่างรวดเร็ว
เห็นสภาพ หลงหลิงหลิงก็มองตามไปที่กระจกมองหลังเช่นกัน ทันทีนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปเลย
รถบัสคันนั้นไม่ใช่เสียกลางทางแล้วหรือ?
ในเวลานี้หลงหลิงหลิงจึงมีปฏิกิริยาขึ้นมา จากนั้นทั้งแปลกใจทั้งเลื่อมใสศรัทธาจ้องมองไป๋ยี่เฟย
หลังจากขับแซงรถหลายคันอย่างรวดเร็วแล้ว ไป๋ยี่เฟยเห็นข้างหน้ามีจุดพักรถแห่งหนึ่ง ไม่ลังเลแม้แต่น้อยขับรถเข้าไปเลย จากนั้นหลบอยู่ข้างหลังรถบรรทุกคันหนึ่ง มีกิริยาท่าทางอย่างรวดเร็วปิดไฟทันที
ต่อจากนี้ รถบัสที่ไล่ตามพวกเขาคันนั้นขับผ่านจุดพักรถอย่างรวดเร็ว
เห็นแบบนี้ ไป๋ยี่เฟยจึงโล่งอกหนึ่งที
ในเวลานี้หลงหลิงหลิงยังมีความนึกกลัวในภายหลังเล็กน้อย “นี่คือทำอะไรกันแน่?”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัวเล็กน้อย พูดอีกว่า “อาจจะพุ่งเป้ามายังผมล่ะ”
หลงหลิงหลิงเห็นตอนนี้ปลอดภัยแล้ว จึงมีอารมณ์ที่จะไปถาม “เมื่อกี้คุณพบเห็นได้ยังไงล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยตอบกลับอย่างเบาๆว่า “รถบัสเสียกลางทางแล้ว หญิงมีครรภ์จะนอนก็ควรที่จะนอนอยู่ในรถ แต่หญิงมีครรภ์กลับนอนอยู่บนถนนที่เย็นยะเยือก จุดนี้ทำให้ผมเกิดใจสงสัย”
“จากนั้นผมก็ไปมองหญิงมีครรภ์คนนั้นอย่างละเอียด พบเห็นหญิงมีครรภ์สวมใส่รองเท้าผู้ชาย ยังเป็นรูปแบบเพิ่มความสูงอีก”
“ยังมีจุดหนึ่ง แม้ว่ารถบัสเสียกลางทางแล้ว ไฟที่อยู่บนรถยังสว่างอยู่ ผมมองเห็นคนที่อยู่บนรถล้วนเป็นผู้ชายเยาว์วัย ตามหลักการมากล่าวแล้ว รถบัสทางไกลแบบนี้ย่อมเป็นชายหญิงหนุ่มแก่ล้วนมีอย่างแน่นอน”
“อีกทั้งคนที่ขอความช่วยเหลือกับเขาคนนั้น เสื้อที่สวมใส่ยังถือว่าค่อนข้างดี เหมือนคนอย่างนี้จะไปเบียดนั่งรถบัสได้ยังไงหรือ?”
หลังจากหลงหลิงหลิงฟังจบแล้วตื่นตะลึงอย่างมาก เธอถูกไป๋ยี่เฟยเอาชนะได้โดยสิ้นเชิงแล้ว
ในเวลานี้ เธอรู้สึกได้อย่างลึกซึ้งว่า ไม่ใช่คนรวยรุ่นที่2ทุกคนล้วนสามารถผ่านชีวิตอย่างเอ้อระเหยอิสระได้ เหมือนไป๋ยี่เฟยแบบนี้ ผ่านวันเวลาที่อกสั่นขวัญหาย ช่างยากเหลือเกินจริงๆ
หลงหลิงหลิงถามอีกว่า “งั้นตอนนี้พวกเราจะทำยังไงดีล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยเห็นสีหน้าหลงหลิงหลิงซีดลง อ่อนแอมากแล้ว รู้ว่าเธอทนการทำให้เจ็บปวดอีกไม่ได้ คิดแล้วคิดอีกพูดว่า “พวกเราพักที่นี่คืนหนึ่ง พรุ่งนี้เช้าค่อยออกเดินทาง”
หลงหลิงหลิงพยักหน้า “ได้”
จากนี้ ไป๋ยี่เฟยให้หลงหลิงหลิงไปนอนที่บนเตียงข้างหลัง ส่วนตนเองก็เหมือนดั่งซาเฟยหยาง นั่งลงพื้นตามสบายหลับตาพักผ่อน
หลังจากหลงหลิงหลิงหลับแล้วไป๋ยี่เฟยลืมตาขึ้นอีก จากนั้นหยิบมือถือขึ้นมาซื้อของบางอย่างอยู่บนอินเทอร์เน็ตแล้ว ก็เลยวางมือถือลง หยิบบุหรี่ม้วนหนึ่งขึ้นมาเพียงแค่คาบอยู่ในปาก เหมือนคิดอะไรอยู่จ้องมองหลงหลิงหลิง
ลมหายใจของหลงหลิงหลิงสม่ำเสมอ คิดว่าน่าจะนอนหลับแล้ว
เห็นแบบนี้ ไป๋ยี่เฟยหยิบมีดเล่มหนึ่งจากข้างที่นั่ง จากนั้นเปิดไฟรถออก
ตอนที่ไฟรถสว่างขึ้น ที่ที่แสงส่องถึง โผล่เงาคนออกมาสิบกว่าคน
คนเหล่านี้ยืนอยู่บ้างนั่งยองๆอยู่บ้าง แต่เห็นไฟรถสว่างขึ้น ก็เดินมายังรถพร้อมกัน
ในมือพวกเขาทุกคนล้วนถืออาวุธอยู่
ไป๋ยี่เฟยลงจากรถ ปิดประตูไว้เบาๆ จากนั้นใช้ผ้าผืนหนึ่งมัดมีดไว้กับมือขวาของตนเอง
เขาดูเหมือนไม่ร้อนรนเลย ยังมีจิตใจที่สบายมากจุดบุหรี่ที่อยู่ในปาก ดูดไปหนึ่งที ค่อยพ่นออกมา พูดกับคนที่เดินมายังเขาเหล่านั้นว่า “ฆ่าคนชกต่อยกันผมล้วนเคยทำมาก่อน แต่ว่าถือมีดชกต่อยกันฆ่าคนจะเป็นครั้งแรก”
อยู่ตอนที่รถบัสขับผ่านไม่นาน ก็มีคนค่อยๆเดินเข้ามาจุดพักรถจากทางด่วน พวกเขาคือแบ่งชุดเข้ามา ดูแล้วธรรมชาติมาก
แต่ว่า ที่นี่เป็นทางด่วน เดินมาจุดพักรถ คือกำลังประเมินค่าไอคิวของเขาต่ำหรือ?
ตอนนี้แน่ใจได้ว่า คนเหล่านี้พุ่งเป้ามายังไป๋ยี่เฟยจริงๆ
แต่คนเหล่านี้ น่าจะเฝ้าอยู่จุดพักรถมานานแล้ว หลังจากได้รับข่าวจากรถบัสแล้ว ตอนนี้มาทำการตรวจหาอยู่ในจุดพักรถ
ทางนี้พวกเขาออกมา คนที่รู้ไม่เยอะ ไป๋ยี่เฟยไม่ได้บอกกับเย่ฮวนกับสวี่ชาง ก็พูดได้ว่า ระหว่างพวกเขามีหนอนบ่อนไส้จริงๆ
อย่างงั้นระหว่างทางนี้ย่อมล้วนจะมาดักฆ่าทุกที่อยู่แน่นอน ดังนั้น หลบหนีไม่มีประโยชน์ล่ะ
คนที่เดินอยู่ข้างหน้าสุดถือมีดแมเชเทฟันไปยังไป๋ยี่เฟยแล้ว
ไป๋ยี่เฟยก็ยกมือขึ้นเช่นกัน ใช้มีดชนกับคนหนึ่งที แต่แรงของไป๋ยี่เฟยเยอะกว่าคนคนนั้นบวกกับยังมีผ้าหมัดไว้อยู่ มีดของเขาถือไว้อย่างมั่นคงมาก คนคนนั้นกลับถือไม่มั่นคงมีดตกไปเลย
“พู!”
ไป๋ยี่เฟยแทงเข้าไปในท้องของคนคนนั้นโดยตรง
“อ่า!”
เสียงร้องทรมานดังขึ้น อยู่จุดพักรถในคืนมืด เสียงดังมากอย่างชัดเจน
ไป๋ยี่เฟยเตะเขาออกไปหนึ่งที จากนั้นรับมือกับคนที่สองที่พุ่งเข้ามา หนึ่งมีดลงไป ฟันแขนของคนขาดโดยตรงเลย
“อ่า!”
น้อยมากที่ไป๋ยี่เฟยจะใช้มีด ดังนั้นใช้ขึ้นมาแล้วแทบจะไม่มีท่าอะไร ล้วนอาศัยปฏิกิริยาของตนเองมาฟัน
ไม่เหมือนสวีลั่ง มีดของสวีลั่งมีวิธีการใช้หลากหลายมาก ไป๋ยี่เฟยเทียบไม่ได้เลย
ดังนั้นในตอนนี้ไป๋ยี่เฟยใช้มีดฟันคน กิริยาท่าทางเห็นได้ชัดว่าไม่เชี่ยวชาญอย่างมาก แต่ไป๋ยี่เฟยกลับรู้สึกว่ามีดเป็นอาวุธที่ดีมากอย่างหนึ่งจริงๆ ฟันคนแล้วก็สามารถทำให้คนสูญเสียพลังการต่อสู้อย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าหนึ่งมีดลงไปจะได้ฟันถึงจุดแก่ชีวิตหรือไม่ โดยพื้นฐานคนคนนั้นล้วนสูญสิ้นพลังการต่อสู้แล้ว แม้แต่ลุกก็ลุกไม่ขึ้น
แต่ว่าพุ่งมาอยู่ข้างหน้าสุดล้วนไม่ใช่ยอดฝีมือ ไป๋ยี่เฟยย่อมไม่มีความกดดันฟันพวกเขาล้มอยู่กับพื้นอย่างสบาย
แต่ก็อยู่ในเวลานี้ อยู่ดีๆไป๋ยี่เฟยถูกแสงสว่างจ้าแยงตา
ตอนที่ไป๋ยี่เฟยฟันคนล้มอีกครั้ง มีดเล่มหนึ่งที่แฝงไว้ด้วยความรุนแรงมายังเขา
ไป๋ยี่เฟยตื่นตะลึงทันที ถอยหลังอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกัน ใช้มีดฟันไปยังฝั่งตรงข้าม
แต่ว่าความเร็วของเขาช้าไปหน่อย แขนข้างขวาโดนมีดกรีดหนึ่งที แต่มีดนั้นที่เขาฟัน ฝั่งตรงข้ามหลบพ้นอย่างง่ายดาย
ต่อจากนี้ หลายคนจับฉวยโอกาสทันที ถือมีดฟันเข้ามาพร้อมกัน
ภายใต้ความวิตกกังวล ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ถอยหลัง แต่คือพุ่งเข้าไปในฝูงชนอย่างรุนแรง กอดเอวคนคนหนึ่งไว้ จากนั้นโค้งตัวหงายหลังลงหัวของคนคนนั้นชนอยู่กับพื้น สลบโดยตรงไปเลย
ไป๋ยี่เฟยกลิ้งไปหนึ่งที หลบมีดแมเชเทของคนอื่นๆพ้น ตอนที่ลุกขึ้นมาถือมีดของตนเองฟันเข้าไปอีกหนึ่งที
ในเวลานี้ ยอดฝีมือนั้นถือมีดฟันเข้ามาอีกครั้ง
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยถูกหลายคนล้อมโจมตี จะหมุนตัวก็ไม่ทันแล้ว จากนั้นกัดฟันพุ่งไปยังข้างหน้าอย่างรุนแรง ทำให้คนข้างหน้าคนหนึ่งล้มลง ในเวลาเดียว ข้างหลังของเขาถูกฟันหนึ่งที
ถ้าหากว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นคนธรรมดา อย่างงั้นไป๋ยี่เฟยสู้กับพวกเขาไม่เป็นปัญหาเลยสักนิด อยู่ในคนเหล่านี้มียอดฝีมือคนหนึ่ง ยังเป็นเหมือนยอดฝีมือที่ใช้มีดอย่างสวีลั่งแบบนั้น ไป๋ยี่เฟยก็มีการต้านไม่ไหวเล็กน้อยแล้ว
ไป๋ยี่เฟยฉวยโอกาสมองยอดฝีมือคนนั้นให้ชัดเจน บนใบหน้าของเขามีรอยแผลมีดรอยหนึ่ง เป็นผู้ชายที่อายุสามสิบกว่าปีคนหนึ่งไม่สูงไม่เตี้ย มีดที่ถืออยู่ในมือเป็นมีดโค้งเหมือนดั่งสวีลั่ง
ไป๋ยี่เฟยรู้ทันทีแล้วว่า นี่เป็นนักฆ่ามืออาชีพคนหนึ่ง
คนคนนั้นจ้องมองไป๋ยี่เฟย พูดเสียงเย็นชาว่า “ไป๋ยี่เฟย วันนี้คุณตายแน่ไม่ต้องสงสัย!”
ในเวลานี้ ในจุดพักรถก็มีผู้ชายที่ถือมีดยี่สิบกว่าคนพุ่งออกมาอีก พวกเขาพุ่งเข้ามาล้อมรอบไป๋ยี่เฟยไว้
ไป๋ยี่เฟยไม่ถนัดใช้อาวุธเลย ดังนั้นสู้กับคนที่ถืออาวุธเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยดีเลย
หลังจากฟันล้มคนหนึ่งอีกครั้งแล้ว หลังของเขาพิงรถบรรทุกไว้ แบบนี้จะไม่ต้องทำให้หลังของตนเองได้รับการคุกคาม
ตอนนี้บนกายเขาถูกฟันสองทีแล้ว ล้วนไม่เป็นจุดสำคัญ แต่ว่าตอนนี้สภาพการณ์ไม่ค่อยดีเลย เป็นอย่างนี้อีกต่อไป เกรงว่ายืนหยัดอีกไม่นาน
อยู่ดีๆ ประตูรถบ้านที่อยู่ข้างรถบรรทุกเปิดออกแล้ว
สายตาของคนทั้งหลายล้วนจ้องมองไป
ซาเฟยหยางเดินออกจากในรถอย่างใจเย็น ยังบิดขี้เกียจหนึ่งที ค่อยๆเดินไปยังไป๋ยี่เฟยเลย
ทุกคนล้วนตื่นตัวจ้องมองซาเฟยหยางอยู่
ถ้าหากว่าเป็นคนทั่วไปมองเห็นสภาพแบบนี้ คิดว่าน่าจะไม่ใจเย็นขนาดนี้ แต่ซาเฟยหยางก็คือใจเย็นขนาดนี้ ดังนั้นทุกคนล้วนให้ความสำคัญกับเขาอย่างมาก ไม่ตื่นตัวขึ้นมาไม่ได้
ไป๋ยี่เฟยเห็นแบบนี้ กลับโล่งอกหนึ่งทีอย่างรุนแรง
ถ้าหากว่าเขายังไม่ตื่น ไม่แน่ว่าวันนี้เขาอาจจะต้องตายอยู่ที่นี่จริงๆแล้ว
ซาเฟยหยางเดินไปยังข้างหน้าไป๋ยี่เฟย ข้างเท้าของเขาเป็นคนที่ถูกเขาฟันล้มคนหนึ่ง บนพื้นมีมีดแมเชเทด้านหนึ่ง เขาหยิบขึ้นมา ยิ้มพูดว่า “ใช้มีด ก็ต้องมีวิธีในการใช้มีด”
ไป๋ยี่เฟยเห็นสภาพดีใจอย่างมาก “เชิญอาวุโสกรุณาให้คำสั่งสอน”
ซาเฟยหยางอมยิ้มหนึ่งที “งั้นก็ดูไว้เถอะ”
พูดจบ ซาเฟยหยางก็เลยถือมีดไว้ เดินไปยังผู้ชายที่มีรอยแผลมีดคนนั้น