ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 69
ตอนที่ 69
นักฆ่าเอียงศีรษะ เพื่อหลบหมัด
ไป๋หู่ก็ชกหมัดออกไปอีกครั้ง
นักฆ่าไม่สามารถหลบได้ทัน หมัดนั้นฟาดลงไปบนหน้าของเขา พ่นเลือดออกมาจากปาก พร้อมกับฟันสองซี่
ไป๋ยี่เฟยขู่เสียงฟู่ออกไป เขารู้สึกเจ็บแทนนักฆ่า
นี่เป็นครั้งแรกที่นักฆ่าถูกต่อยจนเป็นแบบนี้ จึงโกรธขึ้นในทันที
ทันใดนั้นก็ระเบิดอารมณ์ขึ้น ทำให้เขาเขย่าตัวให้ไป๋หู่ออกไป จากนั้นก็ถีบไปยังไป๋หู่อย่างรวดเร็ว
ดวงตาของไป๋หู่ลดลงเล็กน้อย มืออีกข้างหนึ่งก็จับเท้านั้นได้อย่างง่ายดาย ในเวลาเดียวกัน จากนั้นก็ยกขาถีบไปยังนักฆ่า
เมื่อนักฆ่าเห็นดังนั้น จึงผลักร่างของไป๋หู่ออก และหันกลับไปด้านหลัง
และวิ่งหนีไป
“ทำไมใจเสาะขนาดนี้” ไป๋ยี่เฟยเห็นนักฆ่าจากไปแล้ว ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็ปิดแผลที่หน้าท้องของตนเอง อดไม่ได้ที่จะต้องล้มลงไปนั่งกับพื้น เหงื่อไหลออกเต็มหน้าผาก
หลี่เสว่เห็นดังนั้นก็เข้าไปกอดไป๋ยี่เฟยด้วยความเป็นห่วง “คุณเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า ฉันจะโทรเรียก 120……”
พูดจบ หลี่เสว่หยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยมือที่สั่นเทา
ไป๋ยี่เฟยรีบคว้ามือของหลี่เสว่ และพูดว่า “ไม่เป็นไร แค่คุณกอดเอาไว้ก็พอแล้ว”
ในความเป็นจริงอาการบาดเจ็บไม่ได้รุนแรงมาก แต่ตอนนี้หลี่เสว่กอดเขาเอาไว้ครึ่งหนึ่ง อุณหภูมิจากร่างกายของเธอทำให้ไม่รู้สึกหนาว แม้แต่ความเจ็บปวดก็บรรเทาลงไปไม่น้อย นอกจากนี้ นี่ก็เป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับการได้ใกล้ชิดกัน
ไป๋หู่ที่ยืนยังยืนอยู่ที่เดิมมองดูไป๋ยี่เฟยด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย และพูดไปเบา ๆ “แผลเล็กน้อยแค่นี้เอง ไก่อ่อน!”
ไป๋ยี่เฟยเหลือบไปมองหลี่เสว่อย่างรู้สึกผิด
“เป็นแผลเล็กน้อยจริงไหม” หลี่เสว่ถามด้วยความกังวล
ไป๋หู่ส่งเสียงฮึมขึ้นมา กลับหลังหันเดินออกไปแล้ว
จากนั้น หลี่เสว่ก็ช่วยประคองไป๋ยี่เฟยให้ลุกขึ้น จากนั้นก็ลงไปชั้นล่างเพื่อเรียกรถ ไปโรงพยาบาล
พันแผลเสร็จแล้ว ก็ไปยังห้องผู้ป่วย หลี่เสว่นั่งลงอยู่ข้างๆ สายตามองไปยังไป๋ยี่เฟย
“คุณ มองผมอยู่อย่างนั้นทำไม มีอะไรที่หน้าผมหรือ” ในความเป็นจริงไป๋ยี่เฟยยังคงเพลิดเพลินอยู่กับสายตาของหลี่เสว่ แต่การจ้องมองจองหลี่เสว่เหมือนกำลังสำรวจอะไร ทำให้เขารู้สึกร้อนตัว
หลี่เสว่พูดอย่างจริงจัง “พูดตามตรง ช่วงนี้คุณดูลึกลับขึ้นเรื่อย ๆ ฉันยิ่งไม่เข้าใจคุณขึ้นเรื่อย ๆ”
หัวใจของไป๋ยี่เฟยก็รู้สึก ”กระตุก” แล้วเขาก็พูดไปพร้อมกับยิ้มแห้ง “มีอะไรที่ไหนกัน ทุกวันนอกจากไปทำงาน ก็อยู่กับคุณตลอดไม่ใช่หรือ”
หลี่เสว่พูดอย่างจริงจัง “อย่างนั้นทำไมถึงมีนักฆ่ามาฆ่าคุณล่ะ”
“เอ่อ……” ไป๋ยี่เฟยทำแกล้งโง่ “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ!”
หลี่เสว่รู้สึกฉุน และถามขึ้นอีก “แล้วคนที่รีบเข้ามาช่วยเราคนนั้นเขาเป็นใคร”
“ผมก็ไม่แน่ใจนะ……” ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้าและแกล้งทำไม่รู้เรื่องต่อไป
หลี่เสว่ทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจ “โอเค! คุณคงจะไม่มีศัตรูอื่นที่ไหนเลยใช่ไหม”
“ไม่มี” ไป๋ยี่เฟยยิ้มและส่ายหน้า
“ในกรณีนี้ ฉันพอจะรู้แล้วว่าเป็นใคร” หลี่เสว่พูดด้วยใบหน้าที่ดูจริงจัง
ไป๋ยี่เฟยงุนงง “เอ๊ะ”
“คุณพักผ่อนให้ดีเถอะ! เดี๋ยวฉันไปซื้อของกินมาให้คุณ” หลี่เสว่พูดเบาๆ
ไป๋ยี่เฟยเห็นดังนั้นแม้ว่าจะสงสัย แต่ก็พูดไปได้แค่เอ๊ะคำเดียว
หลี่เสว่ออกจากห้องไป ก็ตรงไปยังข้างถนน เรียกรถแท็กซี่ออกไป
ไป๋ยี่เฟยที่ยืนดูอยู่ริมหน้าต่างได้เห็นดังนั้นก็ตกใจไม่น้อย ใกล้ ๆโรงพยาบาลมีของกินให้ซื้อตั้งมากมาย ไม่จำเป็นจะต้องเรียกรถไปซื้อเลย!
ไป๋ยี่เฟยรีบออกไปจากโรงพยาบาล ไม่แม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินลงไปชั้นล่าง พร้อมกับโทรหาไป๋หู่
“ผมอยู่โรงพยาบาล มารับผมหน่อย”
……
หลิ่วจาวเฟิงในฐานะทายาทของหลิ่วซื่อกรุ๊ป มีสองบริษัทอยู่ภายใต้ชื่อ หนึ่งในนั้นคืออุตสาหกรรมเหล็กหลิ่วซื่อ เป็นเพราะหลิ่วซื่อกรุ๊ปดังนั้นบริษัทแห่งนี้จึงได้รับการบริหารจัดการอย่างดีโดยหลิ่วจาวเฟิง
ตอนนี้หลิ่วจาวเฟิงกำลังอยู่ในบริษัท หลี่เสว่โทรศัพท์หาหลิ่วจาวเฟิง เมื่อรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนจึงได้เดินทางไป
เมื่อมาถึงสำนักงานของหลิ่วจาวเฟิง ก็ได้เห็นคนส่วนหนึ่งกำลังพูดคุยกันอยู่ หนึ่งในนั้นก็ร่วมถึงเหอหยวนหยวนซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของไป๋ยี่เฟย
บริษัทของเหอหยวนหยวนถูกซื้อโดยไป๋ยี่เฟย หลังจากนั้นก็ได้รับการจดทะเบียนภายใต้ชื่อของหวังโหลว ตอนนี้เธอบริหารจัดการได้ดีมาก และกำลังทำการติดต่อธุรกิจกับหลิ่วซื่อกรุ๊ป
หลังจากที่หลี่เสว่ผลักประตูเข้าไป เหอหยวนหยวนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
นี่เป็นภรรยาของไป๋ยี่เฟยที่ปรากฏตัวขึ้นในงานเลี้ยงรุ่นเมื่อครั้งก่อนไม่ใช่หรือ
เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
เพียงแต่เหอหยวนหยวนรู้จักหลี่เสว่ แต่หลี่เสว่กลับไม่รู้จักเหอหยวนหยวน
หลิ่วจาวเฟิงเมื่อมองเห็นว่าหลี่เสว่มาถึงแล้ว ก็ลุกขึ้นยืน แล้วพูดกับทุกคน “เอาล่ะ วันนี้ก็พอเท่านี้ก่อนแล้วกัน! ผมมีธุระส่วนตัวนิดหน่อย เรื่องความร่วมมือก็จัดการไปตามกฎระเบียบให้รอบคอบแล้วกัน”
พูดจบ คนพวกนั้นก็หันไปมองหลี่เสว่ และเข้าใจได้ในทันที
ทั้งหมดลุกขึ้น ไม่ได้มองไปยังหลี่เสว่และหลิ่วจาวเฟิง แล้วก็เดินออกไปจากสำนักงาน
เหอหยวนหยวนเดินผ่านด้านข้างของหลี่เสว่และเหลือบมองไปสองสามครั้ง ในใจก็ได้แต่คิดสงสัยว่าเพราะเหตุใดหลี่เสว่จึงมาอยู่ที่นี่
ในเวลานี้ หลิ่วจาวเฟิงเดินเข้ามา ยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มดุจสายลมในฤดูใบไม้ผลิ “เสว่เอ๋อ คุณมาแล้ว”
ในขณะนี้ เหอหยวนหยวนก็เข้าใจได้ในทันที
พูดพึมพำอยู่ในใจ ไป๋ยี่เฟยเจ้าผู้ชายแบบนี้ แม้ว่าจะมีภรรยาที่สวยขนาดนี้ ก็ยังคุมไว้ไม่อยู่ ยังจะปล่อยให้ถูกสวมเขาอีกหรือนี่”
ในขณะเดียวกัน ในใจก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจไป๋ยี่เฟย ตนเองได้แต่งงานกับภรรยาที่แสนสวย สุดท้ายก็กลับได้แต่เพียงพื้นผิว โธ่!”
อย่างนั้นเรื่องนี้ควรจะบอกกับไป๋ยี่เฟยหรือเปล่า
เหอหยวนหยวนจึงเดินออกจากห้องทำงาน ด้วยความสงสัย
สุดท้ายเมื่อกำลังจะถึงประตูใหญ่ ก็ได้เจอกับไป๋ยี่เฟย และคนตัวโตคนนั้นข้างกายไป๋ยี่เฟย
……….
ในสำนักงาน หลี่เสว่ไม่ได้นั่งลง และได้ยืนถาม “คุณเป็นคนใช้คนให้ไปตามฆ่าไป๋ยี่เฟยใช่ไหม”
“อะไรนะ” หลิ่วจาวเฟิงไม่รู้อะไร
หลี่เสว่หายใจเข้าลึก ๆ พูดไปอย่างเย็นชา “หลิ่วจาวเฟิง ฉันจะบอกคุณให้นะ ฉันไม่สามารถจะชอบคุณได้ คุณทำใจซะเถอะ! ถ้าหากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับไป๋ยี่เฟยละก็ ฉันไม่มีทางจบง่ายแน่!”
หลิ่วจาวเฟิงสีหน้าเคร่งขรึม ในเวลาเดียวกันก็เข้าใจได้ แต่เขาก็รู้สึกเสียใจอยู่เล็กน้อย ว่าทำไมถึงไม่ฆ่าให้ตายซะโดยตรงไปเลย
“เสว่เอ๋อ ผมไม่ได้ทำนะ!” หลิ่วจาวเฟิงจ้องไปยังหลี่เสว่ พูดอย่างเคร่งขรึม “อีกอย่าง ถ้าผมเป็นคนแบบนั้น ตอนนั้นที่คุณดื่มจนเมาผมคงจัดการคุณไปแล้ว!”
คำพูดนั้นตรงไปตรงมา ทำให้หลี่เสว่ตัวแข็งทื่อ
เมื่อกลับมาคิด ดูเหมือนจะเป็นแบบนี้ วันนั้นตนเองดื่มไปจนเมามากเป็นโอกาสที่ดีที่สุด แต่หลิ่วจาวเฟิงไม่ได้เป็นคนอันตรายที่คอยเอาเปรียบ จึงพอจะจะเห็นได้ว่า หลิ่วจ่าวเฟิงไม่ใช่คนร้ายที่เลวทราม
เพราะก่อนหน้านี้ที่ KTV ไป๋ยี่เฟยก็เคยทะเลาะกับหลิ่วจาวเฟิงมาก่อน บวกกับไป๋ยี่เฟยก็เคยบอกว่าหลิ่วจาวเฟิงอันตรายไม่น่าไว้ใจ เธอจึงสงสัยในตัวของหลิ่วจาวเฟิงอย่างหุนหันพลันแล่น
เมื่อเห็นดังนี้หลิ่วจาวเฟิงจึงได้ยื่นถ้วยน้ำอุ่นให้กับหลี่เสว่ “เสว่เอ๋อ ดูเหมือนว่าคุณจะเข้าใจผมผิดแล้วล่ะ”
หลี่เสว่ครุ่นคิดอย่างไม่เข้าใจว่าใครกันจะจ้างคนมาฆ่าไป๋ยี่เฟย และไม่ได้สนใจถ้วยน้ำอุ่นนั้น รับมันมาอย่างลวกๆ จิบไปสองสามครั้ง “อย่างนั้นคุณรู้ไหมว่าไป๋ยี่เฟยไปทำร้ายใครไว้บ้าง”
เมื่อคิดถึงมีดสั้นที่เหลืออีกเพียงนิดเดียวก็จะปลิดชีวิตของไป๋ยี่เฟย หลี่เสว่ก็รู้สึกหนาวไปทั้งร่าง หายใจไม่สะดวก จนหวาดกลัวไปชั่วขณะ
“คุณพูดอะไรแบบนั้น ผมรู้สึกว่ามันแปลกมากนะ คนไร้ประโยชน์อย่างไป๋ยี่เฟย จะไปทำอะไรใครได้ อ้อ นึกขึ้นได้แล้ว อาจจะเป็นผู้หญิงที่ไปล่อลวงมาโดยไม่ตั้งใจ แล้วถูกพบเข้ากระมัง”