ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 700
“แกนี่มันอวดดีใช่ไหม?”
“ยังมาอวดดีอีก”
“ปังปังปัง”
แล้วตามมาด้วยหมัดไม่ยั้ง เต้าจ่างใช้แขนดันไว้ แต่ก็สู้แรงไม่ไหวต้องถอยไปเรื่อยๆ ดูซมซาน
“โคร่ง”
ย่อเขารัวหมัดอีก แต่หมัดนี้ชกเข้าที่หน้าอกของเต้าจ่าง
“พรู๊ด”
เต้าจ่างกระอักเลือดออกมา ร่างลอยขึ้น
แต่ครั้งนี้ฉินซานไม่ได้ให้เต้าจ่างลอยไปไกล แต่ขณะที่เขาลอยขึ้น เขาก็เดินเข้าไป หาตัวเต้าจ่าง กำหมัดตัวเอง แล้วทุบเข้าที่เต้าจ่างอีก
หมัดนี้ชกลงบนตัวเขา ถึงแม้เต้าจ่างจะมีแรงลึกลับป้องกันตัว แต่ก็เจ็บหนักได้
คนอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์เห็นแล้วต่างก็กลั้นหายใจ
ขอแค่หมัดนี้ลงไป ผลลัพธ์คืนนี้ก็ออกมาแล้ว
และแล้ว การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น
ขณะที่หมัดของฉินซานกำลังจะถึงตัวเต้าจ่าง ก็มีพลังอย่างแรงกำลังพุ่งมาที่เขา
ฉินซานสีหน้าเปลี่ยน หมัดที่ยังไม่ถึงตัวก็รีบดึงกลับมา จากนั้นก็ใช้ไขว้แขนข้างหน้า ปกป้องตัวเอง
“โคร่ง”
ฉินซานกระเด็นกลับไป ถอยหลังไปหลายก้าว เท้าเหยียบพื้น จนพื้นมีรอยแตก
เวลาเดียวกัน ร่างเต้าจ่างก็มีคนดึงขึ้น
“พรู๊ด”
เต้าจ่างกระอักเลือดออกมาอีก หันไปดู ตะลึงทันทีและคุกเข่าต่อหน้าชายคนนั้น
“อาจารย์”
เห็นภาพนี้แล้ว ทุกคนต่างรู้สึกอึ้ง
เท่าที่พวกเขารู้ เต้าจ่างเป็นคนที่เก่งที่สุดแล้ว ตอนนี้กลับมีนักเลงคนหนึ่งอย่างฉินซาน ซ้อมจนเต้าจ่างบาดเจ็บ แค่นี้ก็ตะลึงพอแล้ว
แต่ตอนนี้ก็ปรากฏอีกคน หนึ่งฝ่ามือเบาๆก็ทำฉินซานลอยขึ้น ส่วนพวกเต้าจ่างก็คุกเข่าเรียกอาจารย์
ทุกคนในเหตุการณ์มีความคิดเดียว เขาคือใคร?
เขาคนนี้คือซินชิว
ซินชิวดูแล้วอายุสี่สิบกว่า ไม่แก่ ไม่เด็ก แต่เขาดูสดชื่น เขาใส่เสื้อยึดสีขาว กางเกงธรรมดา และรองเท้ากีฬาคู่หนึ่ง
ท่าทางดูแล้วสดชื่นมีชีวิตชีวา ถ้าไม่รู้อายุเขา อาจจะคิดว่าเขาแค่ยี่สิบกว่า
ซินชิวพูดเสียงเรียบ “ลุกขึ้น”
เต้าจ่างสามคนลุกขึ้นพร้อมกัน จากนั้นซินชิวมองไปรอบด้าน สายตาหยุดที่ตัวฉินซาน ยิ้มเล็กน้อยพูดว่า “คุณยอดฝีมือระดับหนึ่งสู้กับระดับสอง รังแกคนไปหน่อยไหม?”
คำพูดนี้ทุกคนฟังแล้วตะลึงอ้าปากค้าง
“ยอดฝีมือระดับหนึ่ง?”
“เป็นไปได้ยังไง?”
“ยอดฝีมือระดับหนึ่งมีแค่ในตำนานไม่ใช่เหรอ?”
“ใครจะไปรู้? แต่ว่าเขาแม้แต่ระดับสองอย่างเต้าจ่างยังสู้ได้ น่าจะเป็นระดับหนึ่งจริง”
คนของฝั่งไป๋ยี่เฟยพากันตกใจ ตกใจยังอธิบายไม่ได้ มันคือตะลึง พวกเขารู้แค่ว่าฉินซานเก่ง แต่ไม่รู้ระดับของเขา
ตอนนี้ดีแล้ว ยอดฝีมือระดับหนึ่ง สู้จนเต้าจ่างถอยได้ก็เรื่องธรรมดา
กับคำถามของซินชิว ฉินซานยังคงท่าทางเสเพล ตอบอย่างไม่ใส่ใจ “เรื่องอะไร? ไม่รู้? รู้แค่ว่าใครมันอวดดี ก็ซ้อมมันให้ตาย”
ซินชิวยิ้ม แจ้งชื่อตัวเอง “ผมชื่อซินชิว”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตกใจขนาดนั้น เพราะเขารู้จักอาจารย์ของฉีฉี พูดไปแล้วก็ถือว่าเป็นอาจารย์ลุงของเขา
แต่สีหน้าซาเฟยหยางเปลี่ยนไปมาก
คนอื่นต่างทำหน้าอึ้ง
ไป๋หยุนเผิงเห็นแล้วก็อธิบาย “ยอดฝีมือระดับหนึ่งนั้นมีในตำนานจริง คนแบบนี้แทบไม่มีในปัจจุบันแล้ว ทั่วไปแล้วไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลกแล้ว อาจจะเกี่ยวกับเรื่องทางเหนือใต้เมื่อสามสิบปีก่อน”
“สามสิบปีก่อน การแย่งชิงระหว่างเหนือใต้ ยอดฝีมือระดับหนึ่งออกมาสู้ เกิดการสูญเสียอย่างรุนแรง สุดท้ายของเก่งระดับนี้ก็ค่อยๆหมดไป ทั้งดินแดนทางเหนือทางใต้ถูกยอดฝีมือระดับหนึ่งทำจนวุ่นวาย สุดท้ายจึงตกลงกันระหว่างยอดฝีมือระดับหนึ่ง”
“ยอดฝีมือระดับหนึ่ง ทำได้แค่วางแผน ลงมือไม่ได้”
“ดังนั้นทางเหนือ สี่ตระกูลแห่งเมืองหลวงจึงมีอำนาจใหญ่สุด สหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงก็อยู่เหนือสี่ตระกูลใหญ่ ความจริงแทบไม่มีคนรู้เลย ผู้คุมอำนาจของทางเหนือ คือยอดฝีมือระดับหนึ่ง”
“ซินชิวก็คือหนึ่งในนั้น”
คำพูดของไป๋หยุนเผิงทำให้ไป๋ยี่เฟยเข้าใจอะไรเยอะขึ้น มิน่าไม่เคยเห็นคนเก่งขนาดนี้ ทุกคนไม่เคยได้ยิน ที่แท้มีข้อตกลงกัน
เขารู้สึกอึดอัดใจ เขาเป็นเพียงคนธรรมดาเล็กๆคนหนึ่ง แต่กลับให้ยอดฝีมือระดับหนึ่งเข้ามายุ่งเกี่ยว เป็นเกียรติ? หรือเอือมระอา?
และสถานการณ์ตอนนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เขาควบคุมได้แล้ว
แต่ว่า ไป๋ยี่เฟยก็จับใจความในคำพูดของไป๋หยุนเผิงได้ “ซินชิวเป็นหนึ่งในนั้น ก็แสดงว่ายังมียอดฝีมือระดับหนึ่งอีก?”
ไป๋หยุนเผิงพยักหน้าสีหน้าหนักแน่น “เท่าที่รู้ บวกฉินซาน ที่มีอยู่ทางเหนือ อย่างน้อยก็ห้าคน”
“อาจารย์ของลูกก็เป็นหนึ่งในนั้น”
ไป๋ยี่เฟยนึกถึงจื่ออีขึ้นมา ความจริงบอกว่าซินชิวเป็นหนึ่งในนั้นเขาก็นึกถึงจื่ออี ตอนนี้ไป๋หยุนเผิงพูดอย่างแน่ชัดแล้ว เขาก็รู้สึกตื่นเต้น
เวลาเดียวกันก็รู้สึกไม่พอใจ หญิงแก่คนนี้ทำไมซ่อนตัวดีขนาดนี้? อีกอย่าง ดูเต้าจ่าง ถูกซ้อมแล้วยังมีอาจารย์ออกหน้า ส่วนตัวเอง? ถูกคนมากมายล้อมไว้ ไม่มีแม้แต่เงา
แต่เขาก็ได้แค่คิด จากนั้นเขาก็คิดถึงปัญหาหนึ่ง
ฉีฉีก็เป็นลูกศิษย์ของซินชิว ตอนนี้เธอยืนอยู่กับเขา ทำไมเธอไม่รู้สึกอะไรเลย? เพราะซินชิวตอนนี้ เห็นได้ชัดว่ายืนอยู่ฝั่งเต้าจ่าง
ไป๋ยี่เฟยหันไปมองฉีฉี
ฉีฉีเหมือนเข้าใจว่าไป๋ยี่เฟยคิดอะไรอยู่ จึงพูดเสียงเบา “อาจารย์เคยบอก เขารับผิดชอบสอนวิชาให้เราเท่านั้น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของพวกเรา พวกเราเลือกเองเขาไม่เข้ามายุ่งเด็ดขาด”
อีกฝั่ง ฉินซานหมุนคอไปมา แล้วหมุนข้อมือตัวเอง พูดเสียงเฉย “มาเลย พวกเราสู้กันหน่อย”
ซินชิวยิ้ม “คุณสู้ฉันไม่ได้”
ฉินซานหัวเราะ “ไหนๆก็มาแล้ว ไม่สู้กันหน่อยเหรอ?”
“ผลลัพธ์ชัดเจนอยู่แล้ว ยังจะสู้ เสียเวลาเสียแรงเปล่าๆ” ซินชิวส่ายหัว
ฉินซานได้ยินแล้วก็โมโห “แล้วมาทำไม?”
สำหรับพฤติกรรมของฉินซาน ซินชิวไม่ได้ใส่ใจ ยังคงยิ้ม “เรื่องมันไม่มีถูกผิด เพราะว่าทุกอย่างมันไม่แน่นอน แต่เรื่องมันต้องมีผลลัพธ์”
“ฉันมาก็เพื่อจะให้เรื่องมันจบ เพราะว่าคนเจ็บตายไปเยอะแล้ว คิดว่าทุกคนต่างไม่ยอมกัน”
“ไม่อย่างนั้น ยอดฝีมือระดับสองลงไปห้ามเข้าร่วม ต่างฝ่ายต่างเลือดออกมาสามคน สู้สามยกเป็นไง?”
คำพูดนี้ออกไปทุกคนเงียบสงบ
ตบหน้าอกตัวเองพูดอย่างมั่นใจ “ไม่มีปัญหา แต่ไม่มีกฎมากมายขนาดนั้น ฉันคนเดียวก็จัดการได้หลายคนแล้ว”
คนฝั่งเต้าจ่างหน้าซีดทันที บ้าแล้วสู้กับเต้าจ่างยังง่ายดายขนาดนั้น ใครจะไปบ้าสู้กับเขา?
เวลานี้ ซินชิวพูดเตือนขึ้น “คุณเป็นยอดฝีมือระดับหนึ่ง เข้าร่วมไม่ได้”
ฉินซานตะโกนโมโห “เหี้ยเอ้ย”
ไป๋ยี่เฟยเห็นแล้วก็พูดกับฉินซาน “ขอบคุณมาก ต่อจากนี้พวกเราจัดการเอง”
ฉินซานถามอย่างไม่แน่ใจ “จริงเหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า
ฉินซานเงียบไปสักครู่ เหมือนคิดอะไรอยู่ จากนั้นก็ถามไป๋ยี่เฟย “ถึงเวลาคุณต้องพูดกับโจวฉวี่เอ๋อแบบนี้ บอกว่าผมช่วยพวกคุณ ถึงทำให้พวกคุณพ้นจากอันตรายได้ บอกว่าผมเก่งมาก”
ไป๋ยี่เฟย “…….”