ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 715
หลี่เฉียงตงถอนหายใจอีกหนึ่งที “ไม่ใช่กลัว แต่รู้สึกว่าตอนนี้ยังไม่จำเป็น”
ไป๋ยี่เฟยยิ่งไม่เข้าใจแล้ว “ทำไมหรือ?”
หลี่เฉียงตงพูดเสียงเบาๆว่า “ก่อนหน้านั้น หลังจากที่รู้ว่าแกเป็นคนที่ถูกเลือก ผมตื่นเต้นมาก เพราะว่าจากที่ผมดูแล้ว ช่วยแกทำเรื่องนี้สำเร็จเป็นเกียรติของผม ด้วยเหตุนี้ ผมทั้งสามารถที่จะใจร้ายไม่สนใจไยดีการเกิดตายของลูกสาวตนเองได้”
“แต่ว่าหลังจากผ่านเรื่องเหล่านี้ได้ อยู่ดีๆผมเข้าใจแล้ว”
“ความยั่วยวนอย่างนั้นใหญ่มากจริงๆ แต่ว่าผมคิดได้แล้ว เรื่องที่ไม่อยากทำเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องไปทำเลยสักนิด พวกเราทั้งครอบครัวยังมีน้องสาวของแก พวกเราหลีกห่างจากการโต้แย้งเหล่านี้ด้วยกัน”
ดูเหมือนหลี่เฉียงตงนึกไปถึงอนาคตที่งดงาม อมยิ้มหนึ่งที “พวกเราไปผ่านชีวิตน้อยๆของพวกเราเอง ไม่ไปสนใจเรื่องเหล่านี้ ยังไงก็มีผมอยู่ จะไม่มีคนมารบกวนพวกเรา”
พอดีว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไป๋ยี่เฟยหวังอยู่ เขาก็คิดอย่างนี้เช่นกัน
แต่ว่าเรื่องบางเรื่องพูดครึ่งหนึ่งปิดบังครึ่งหนึ่ง นี่มิสู้ไม่พูดจะดีกว่า
“พ่อ อยู่ดีๆทำไมท่านเปลี่ยนความคิดล่ะ?” ไป๋ยี่เฟยถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
หลี่เฉียงตงหันหน้าเล็กน้อยจ้องมองไป๋ยี่เฟยหนึ่งที จากนั้นหันไปมองที่ไกลๆอีกพูดว่า “เพราะว่า……ผมเห็นความตายอยู่นัยน์ตายี่หลิง”
“ความตาย!” ทันใดนั้นไป๋ยี่เฟยตื่นตกใจอย่างมาก
นัยน์ตาคนหนึ่งมีความตาย งั้นเขาก็คือไม่มีความกระหายที่จะอยู่ต่อ
แต่ว่าไป๋ยี่เฟยรู้ว่า ถ้าหากว่าเป็นเขา เขาจะไม่สามารถเห็นความตายอยู่ในสายตาคนหนึ่งอย่างเด็ดขาด นึกได้เลยว่า ยอดฝีมือระดับที่หนึ่งเก่งกว่าคนทั่วไปอย่างมากจริงๆ
แต่ไป๋ยี่เฟยไม่เข้าใจ “เป็นได้ยังไงหรือ?”
น้องสาวของเขายังสาว นัยน์ตาจะมีความตายได้ยังไงหรือ?
หลี่เฉียงตงส่ายหัวเล็กน้อยพูดเสียงเบาๆว่า “ถ้าหากว่าดำเนินการต่อไปตามร่องรอยอีก ผมคิดว่า ผลลัพธ์แบบนั้นถึงแม้ว่าสุดท้ายสำเร็จแล้ว แกก็จะรู้สึกผิดทั้งชีวิตเช่นกัน”
“ดังนั้นมิสู้พวกเราทั้งครอบครัวห่างไกลจากการโต้แย้งจะดีกว่า ใช้ชีวิตอย่างสุขสงบด้วยกัน”
“เดินอยู่ข้างเคียงเธอในช่วงเวลาสุดท้ายนี้”
ไป๋ยี่เฟยอึ้งชะงักหนึ่งที จากนั้นตื่นตะลึงพูดว่า “พ่อท่านกำลังพูดอะไรอยู่หรือ? หมายความว่าอะไร? ป้าสองของหลิวเสี่ยวอิงไม่ใช่บอกว่าไม่เป็นไรชั่วคราวแล้วหรือ?”
หลี่เฉียงตงเงียบไปสักพัก จึงตอบกลับเสียงเข้มว่า “ใช่ พวกเธอเป็นหมอ แต่หมอเพียงรักษาโรคให้คน รักษาร่างกายคน แต่ไม่ใช่ใจ”
ไป๋ยี่เฟยโมโหแล้ว “ผมช่างเขาจะร่างกายอะไรใจอะไรล่ะ?”
กำลังอยู่ในเวลานี้ อยู่ดีๆข้างล่างวุ่นวายขึ้นมา
เสียงย่างก้าวที่รีบเร่ง เสียงร้องที่สับสนวุ่นวาย
“รีบช่วยคน รีบช่วยคน!”
หลังจากไป๋ยี่เฟยได้ยินเสียงอึ้งชะงักอยู่กับที่
……
ในระเบียงทางเดินล้วนเป็นเสียงตะโกนร้องกับเสียงวิ่งของพวกคุณหมอ
ตอนที่ไป๋ยี่เฟยรีบเร่งเข้าไป ไป๋ยี่หลิงรีบเข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกครั้ง
ไป๋ยี่เฟยยืนอยู่นอกห้องฉุกเฉิน เหมือนดั่งไม่มีวิญญาณ
ส่วนหลี่เสว่พิงกำแพงอยู่ร้องไห้ฟูมฟาย
หลี่เฉียงตงตามเข้ามามองเห็นสภาพแบบนี้ ก็อึ้งชะงักหนึ่งทีเช่นกัน
ทั้งสามคนรออยู่นอกห้องฉุกเฉินอย่างเงียบๆ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหน ในที่สุดไฟของห้องฉุกเฉินก็ดับแล้ว
ตาทั้งคู่ของไป๋ยี่เฟยดูเหมือนคืนสติกลับมา มีจุดโฟกัสแล้ว จ้องมองห้องฉุกเฉินไม่กะพริบตาสักนิด
เขากำลังรอป้าสองของหลิวเสี่ยวอิงเดินออกมาจากข้างใน มาบอกเขาว่าไม่เป็นไรแล้ว พ้นขีดอันตรายแล้ว
แต่ว่ายังมีผลลัพธ์อีกอย่างหนึ่ง เขาไม่กล้าไปคิด
ในเวลาเดียวกันที่เฝ้ารอคอยอยู่เขาทั้งหวาดกลัว
ประตูบานสุดท้ายนั้น เปิดออกแล้ว
สีหน้าหลิวเสี่ยวอิงหนักอึ้งเดินออกมา สายตาที่เศร้าสลดตกอยู่บนกายของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยเห็นสีหน้าของเธอ โดยจิตใต้สำนึกส่ายหัว
“ไม่!”
“ไม่!”
เขาพูดต่อๆกันสองที
ส่วนหลี่เสว่สีหน้าซีดขาวล้มนั่งอยู่กับพื้น
หลี่เฉียงตงขมวดคิ้วขึ้นมา สีหน้าหนักอึ้งมาก
หลิวเสี่ยวอิงเห็นแบบนี้อดไม่ไหวอีกที่จะร้องไห้ออกมา
พวกเขาล้วนจ้องมองไปยังไป๋ยี่เฟย คิดว่าไป๋ยี่เฟยจะระเบิด
แต่ว่าไม่มีเลย
เพียงแค่ตาของไป๋ยี่เฟยทั้งคู่ไร้วิญญาณลากเท้าทั้งคู่ของตนเองทีละก้าวๆเดินเข้าไปห้องฉุกเฉิน
หลิวเสี่ยวอิงหยุดชะงักไปเลย จ้องมองไป๋ยี่เฟยอย่างเป็นห่วงร้องเรียกเสียงหนึ่ง “ไป๋ยี่เฟย……”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจหลิวเสี่ยวอิงเลย แต่ยื่นมือผลักประตูห้องฉุกเฉินออก
ทันทีที่ประตูเปิดออก ก็ได้เห็นเงากายตัวเล็กๆที่อยู่บนเตียงผ่าตัดคนนั้น กำลังนอนอยู่ข้างบนอย่างเงียบๆ
พวกหมอพยาบาลคนอื่นๆหลังจากมองเห็นไป๋ยี่เฟยเข้ามา ต่างคนต่างถอยหลังหลายก้าวเหลือช่องว่างออกมาให้กับไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยก็ได้เห็นน้องสาวของตนเองนอนอยู่บนนั้นอย่างนี้ไม่ขยับสักนิด บนใบหน้าไม่มีสีหน้าใดๆ
“น้องสาว……”
ในเวลาเดียวกัน มือถือของไป๋ยี่เฟยดังขึ้น แต่เขาดูเหมือนไม่ได้ยินไม่ได้ไปสนใจเลยสักนิด
และหลี่เสว่ที่อยู่นอกห้องฉุกเฉิน ใจฉีกปอดขาดร้องไห้หนักอยู่ “ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของฉัน ฉันไม่ควรที่จะออกไป ล้วนเป็นความผิดของฉัน ฉันสมควรตาย!”
“เสว่เอ๋อ คุณจะไปไหน?”
“เสว่เอ๋อ!”
“รีบขวางเธอไว้ อย่าให้เธอทำเรื่องโง่ๆ!”
“เสว่เอ๋อ!”
เสียงร้อนใจที่อยู่นอกห้องฉุกเฉินทำให้ไป๋ยี่เฟยอึ้งชะงักฉับพลันในทันที อยู่ดีๆคืนสติกลับมา
เขามองรอบๆหนึ่งที จากนั้นหมุนตัวก็วิ่งไปยังข้างนอก
หลี่เสว่วิ่งออกจากโรงพยาบาล ใจของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดตำหนิตนเอง ทั้งวิ่งไปข้างนอกทั้งตะโกนร้องไห้ “ล้วนเป็นความผิดของฉัน คือฉันทำให้น้องสาวตาย คือฉันทำให้เธอตาย ให้ฉันไปตายซะ”
เธอพุ่งออกไปจากโรงพยาบาล ทั้งพุ่งไปยังถนน ก็ยืนอยู่กลางถนนอย่างนี้โดยตรง
กำลังอยู่ในเวลานี้มีรถเก๋งคันหนึ่งกำลังขับไปยังเธออย่างรวดเร็ว
หลี่เฉียงตงและคนอื่นๆล้วนวิ่งออกจากโรงพยาบาล มองเห็นภาพนี้พอดี ต่างคนต่างได้รับความตกใจไม่เบา
คนขับรถที่ระยะห่างใกล้มากกับหลี่เสว่มองเห็นภาพนี้ก็ตื่นตกใจหนึ่งทีเช่นกัน รีบเหยียบเบรก
แต่ว่าระยะห่างของพวกเขาเดิมทีก็ใกล้มาก ทั้งรถเร็วมาก ถึงแม้ว่าเหยียบเบรกก็ยังมีระยะใหลช่วงหนึ่ง ก็ยังจะชนหลี่เสว่อยู่ดี
พอดีอยู่ในเวลานี้หลี่เฉียงตงจะพุ่งออกไปช่วยเธอ แต่มีเงาคนอย่างหนึ่งยังเร็วกว่าเขาหนึ่งก้าว ลอยพุ่งออกไป
ทุกคนล้วนอึ้งชะงักหนึ่งที
เงากายที่ลอยพุ่งออกไปนี้ก็คือไป๋ยี่เฟยนั่นเอง
ไป๋ยี่เฟยมองเห็นหลี่เสว่ใกล้จะถูกรถเก๋งชนไปแล้ว ในสมองของเขาล้วนไม่ได้คิดอะไร เพียงอาศัยปฏิกิริยาด้วยสัญชาตญาณพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ไป๋ยี่เฟยจับแขนของหลี่เสว่ไว้ทันทีดึงเธอกลับมาหนึ่งที
หลี่เสว่ถูกไป๋ยี่เฟยดึงไปยังข้างหลังสองเมตรกว่า จากนั้นล้มนั่งอยู่กับพื้น หลีกห่างจากบริเวณที่จะถูกรถเก๋งชน
แต่ไป๋ยี่เฟยไม่มีเลย
ระยะห่างระหว่างรถเก๋งกับพวกเขาสั้นเกินไปแล้วจริงๆ เขาเพียงพอที่จะดึงหลี่เสว่กลับมาเท่านั้น ตนเองคิดอยากจะถอยหลังอีกก็ไม่ทันแล้ว
“ปั้ง!”
ไป๋ยี่เฟยถูกรถชนลอยออกไปเลย
อยู่ในนาทีนี้คนทั้งหลายล้วนกลั้นหายใจไว้ ดูเหมือนถูกกดปุ่มหยุดชั่วคราวอย่างนั้น
หลี่เสว่ได้สติกลับมา เบิกตาโพลง จ้องมองไป๋ยี่เฟยที่อยู่ไกล
เมื่อกี้เนื่องเพราะตนเองรู้สึกผิดกับตำหนิตนเองมากเกินไปจริงๆ ทำให้เธอสูญเสียสติไป ขุดอยู่กับปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ คิดว่าไป๋ยี่หลิงเป็นเนื่องเพราะเธอจึงตายดังนั้นไม่กล้าเผชิญหน้า ไป๋ยี่เฟยจึงเลือกตนเองไปตายแ