ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 746
“ไม่!”
ไป๋ยี่เฟยมองดูเหลียงยู่และโจวฉวี่เอ๋อถูกคนอื่นรังแก เส้นเลือดสีเขียวก็ผุดขึ้นมาอย่างรุนแรง และเขาก็อดไม่ได้ที่จะคำรามออกมา
เขาไม่สนใจชีวิตและความเป็นตายของตัวเองเลย และแม้กระทั่งอยากจะลากตัวหลี่เสว่ให้ตายไปด้วยกัน แต่เขาทนดูไม่ได้ที่เห็นเพื่อนของตัวเองถูกรังแกเช่นนี้
สิ่งที่เหลียงเหว่ยชาวพูดนั้นถูกมาก
ทุกคนต่างก็มีจุดอ่อเช่นกัน
ตราบใดที่ยังมีจุดอ่อน ก็ไม่ต้องกลัวว่าเรื่องมันจะทำไม่สำเร็จ
และจุดอ่อนของไป๋ยี่เฟย ก็ถูกเหลียงเหว่ยชาวกำไว้ได้อย่างพอดี
ไป๋ยี่เฟยทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
“หยุดนะ!”
“หยุดมือเร็วเข้า!”
ไป๋ยี่เฟยอดไม่ได้ที่จะตะโกนเสียงดัง
เมื่อเห็นเช่นนี้เหลียงเหว่ยชาวก็ยกมือขึ้นอย่างแผ่วเบา
ฉินซานและบอดี้การ์ดก็หยุดมือในทันที
ฉินซานยังคงดูน่าเสียดายเล็กน้อย และมองที่ไป๋ยี่เฟยอย่างไม่พึงพอใจ ถ้าหากว่าไป๋ยี่เฟยไม่ตะโกนให้หยุดมันคงจะดีมาก
โจวฉวี่เอ๋อและเหลียงยู่ถูกโยนลงไปที่พื้นอีกครั้ง
เหลียงเหว่ยชาวยิ้มและมองไปที่ไป๋ยี่เฟย และพูดอย่างแผ่วเบาว่า “รู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรก แล้วจะทำไปเพื่ออะไร?”
“คุณดูสิ ทำแบบนี้เข้า ยังทำให้ผู้หญิงสวยงามทั้งสองคนต้องมาที่นี่ด้วยความลำบากแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยจ้องไปที่เหลียงเหว่ยชาวอย่างดุร้าย ด้วยความโกรธสุดขีดในดวงตาของเขา
เหลียงเหว่ยชาวพูดอย่างเฉยเมยว่า “ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ค้นพบคลังเก็บทองที่สาม ฉันสัญญาว่าจะช่วยคุณในหารช่วยชีวิตภรรยาของคุณ กลับมา และฉันจะให้คุณใช้ชีวิตตามที่คุณต้องการ”
“ใช่แล้ว เท่าที่ฉันรู้ มีผู้หญิงหลายคนติดใจคุณ และดูจากรูปร่างหน้าตาของคุณมันลำบากใจมาก แต่ถ้าฉันได้คลังสมบัติที่สามแล้ว ฉันจะก็มีสิทธิ์ที่จะพูดอยู่ในโลกนี้ เมื่อถึงเวลานั้น ตราบใดที่ฉันพูดสักคำ คุณอยากมีผู้หญิงกี่คนก็จะมีกี่คนแล้วไม่ใช่หรือ?”
สำหรับคำพูดของเหลียงเหว่ยชาว ไป๋ยี่เฟยเพียงแค่ยิ้มเยาะเย้ย
เขาจะเชื่อคำพูดที่ไร้สาระแบบนี้ได้อย่างไร มันก็เป็นเพียงการเอาใจเขาไว้แค่นั้น
ว่ากันว่าเขาจะให้ผลประโยชน์บางส่วนแก่เขา แต่อันที่จริง ไป๋ยี่เฟยรู้ดีอยู่ในใจว่า ความลับที่เขารู้เยอะเกินไป มีคำกล่าวที่ว่า ยิ่งรู้มาก ยิ่งตายเร็ว
เหลียงเหว่ยชาวยิ้มเล็กน้อย “ตอนนี้ก็พูดได้แล้ว”
ไป๋ยี่เฟยพูดเบาๆ ว่า “หลันเต่า”
เหลียงเหว่ยชาวยิ้ม และหยุดชั่วขณะ เสียงของเธอดังขึ้นเล็กน้อย “ฉันต้องการตำแหน่งที่ชัดเจน”
ไป๋ยี่เฟยตอบว่า “ผมอธิบายไม่ถูก มันซับซ้อนเกินไป ถ้าคุณอยากจะค้นหาสถานที่แห่งนั้น มีเพียงผมที่จะพาพวกคุณไปเอง”
“ดี” เหลียงเหว่ยชาวเห็นด้วยในทันที
ดังนั้นเหลียงเหว่ยชาวจึงสั่งว่า “ไปที่หลันเต่า”
……….
เรือออกเดินทางไปยังหลันเต่า
หลังจากนั้น เชือกของไป๋ยี่เฟยก็ถูกปลดออก แต่เขาก็ยังคงถูกขังอยู่ในห้องนี้
ไม่เพียงแค่นั้น โจวฉวี่เอ๋อและเหลียงยู่ก็ถูกขังอยู่ในห้องเดียวกับเขาด้วย
ใช้เวลาสามวันในการแล่นเรือจากเมืองหลวงไปยังหลันเต่า
ในวันแรก โจวฉวี่เอ๋อและเหลียงยู่นั่งอยู่ข้างกันแบบนี้ ไม่มีใครพูด และรู้สึกหดหู่ใจมาก
ไป๋ยี่เฟยมีรอยแผลเป็นทั่วร่างกาย และเคลื่อนไหวลำบากมาก
อย่างไรก็ตาม มีคนนำยาเข้ามาให้ในช่วงเวลานั้น แต่เหลียงยู่ยังคงช่วยทายาให้กับไป๋ยี่เฟยอยู่
ไป๋ยี่เฟยมอดูงเหลียงยู่ที่กำลังทายาให้กับตัวเอง รู้สึกผิดอยู่ในใจมาก “ผมขอโทษ”
เหลียงยู่หยุดชั่วขณะ แล้วส่ายหัวและพูดว่า “คนที่ควรจะพูดว่าขอโทษควรจะเป็นฉันเอง คือฉันเองที่เข้าใจคุณผิดไป”
ก่อนหน้านี้ที่เหลียงหมิงเยว่ถูกฆ่า ทุกคนต่างก็คิดว่าเป็นไป๋หยุนเผิงเป็นคนฆ่า และในเวลานั้นเธอก็คิดอย่างนั้น
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่ใบหน้าไร้อารมณ์ของเหลียงยู่เมื่อกำลังพูด และรู้สึกผิดอยู่ในใจเขามากขึ้น
เพราะคนแบบนี้ ยิ่งมีสีหน้าไม่แสดงอารมณ์เท่าไร จิตใจก็จะยิ่งอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น
“ผมรู้ว่า คุณช่วยผมไว้ ในวันที่นักพรตเต๋าปิดล้อมฆ่าผม และผมไม่เคยโทษคุณเลย สำหรับในเรื่องก่อนหน้านี้” ไป๋ยี่เฟยพูดเบาๆ “แต่ในวันนี้ที่พวกคุณถูกจับตัว ก็เพราะผมเอง”
เหลียงยู่ยังคงไร้อารมณ์ที่ใบหน้า ด้วยน้ำเสียงที่สงบ “มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และก็ไม่สามารถโทษคุณได้”
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้นหลังจากได้ยินเช่นนี้
ในตอนช่วงกลางคืน ไป๋ยี่เฟยอยากจะให้ผู้หญิงสองคนนอนบนเตียง แต่ตอนนี้บนร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล และขยับตัวไม่ได้เลย เขาจึงต้องยกเลิกความคิดไป
โจวฉวี่เอ๋อและเหลียงยู่นั่งอยู่บนโซฟา ต่างพิงคนละด้าน และมองออกไปนอกหน้าต่าง
จากมุมนี้มองเห็นพระจันทร์นอกหน้าต่างพอดี วันนี้เป็นวันเพ็ญเดือน เพ็ญดวงกลมๆ สว่างไสว
ไม่รู้ว่าดูอยู่นานเท่าไหร่ เหลียงยู่ก็พูดขึ้นมาว่า “ตอนเด็กๆ เพราะพ่อยุ่งมาก มีเพียงคุณป้าเท่านั้นที่พาฉันไปที่สนามเด็กเล่น และพาฉันไปกินของอร่อยๆ ในตอนนั้น ฉันรู้สึกว่าคุณป้าเป็นคนที่ดีที่สุดในโลก”
“รอให้ฉันโตขึ้นและทำงาน ฉันก็คิดว่า ฉันจะต้องกตัญญูต่อพ่อและคุณป้าของฉัน”
“แต่ว่า……..”
เหลียงยู่พูดไม่จบ แต่ทุกคนรู้ และเข้าใจอารมณ์ในตอนนี้ของเหลียงยู่
ญาติที่สนิทที่สุดของตัวเองถูกญาติอีกคนวางแผนฆ่า และแม้กระทั่งอยากให้คนอื่นรังแกตัวเองอีกด้วย สิ่งนี้สำหรับเหลียงยู่แล้วเป็นเรื่องที่ทำลายจิตใจอย่างรุนแรง
การถูกทำร้ายจิตใจแบบนี้สามารถทำให้เหลียงยู่ลืมไปได้ยากตลอดทั้งชีวิตเลยทีเดียว
ในห้องเงียบไปอยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้นโจวฉวี่เอ๋อก็พูดขึ้นมาว่า “บางครั้ง ฉันก็แอบอิจฉาเสว่เอ๋อมาก เพราะครั้งหนึ่งฉันเคยฝันไว้ว่าคู่ชีวิตของฉัน จะเป็นเหมือนในละครทีวี เป็นท่านประธานที่เอาแต่ใจคนหนึ่ง”
“แต่จนกระทั่งฉันได้พบกับเขาแล้ว ฉันก็ตกหลุมรักเขาอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพราะเขาเป็นท่านประธานที่เอาแต่ใจ หรือเพราะเขาหล่อ แต่เพราะความจริงใจของเขา ฉันชอบความรู้สึกที่ได้อยู่กับเขา”
“ในตอนนั้นฉันถึงรู้ว่า นี่คือคู่ชีวิตที่ฉันตามหามานาน”
“แต่ในวันวิวาห์ เขาก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย”
“ต่อมา ฉันก็ได้พบกับฉินซานอีกครั้ง ฉันคิดว่าเขากลับมาแล้ว และเขาก็ตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ตอนที่ฉันโทรไปโรงพยาบาล ฉันถึงรู้ว่าเขาไม่ใช่เขาเลย”
“แต่ว่า ทุกครั้งที่ฉันเห็นเขาฉันก็จะคิดว่า เขาตื่นขึ้นมาแล้ว พร้อมกับความหวังที่ริบหรี่ในหัวใจ และถึงกับหวังว่าคนที่อยู่ในโรงพยาบาลจะเป็นตัวปลอม และคนนี้ถึงเป็นตัวจริง”
“แต่ในตอนนี้ ฉันตื่นขึ้นมาแล้ว เขาไม่ใช่เลย”
หลังจากพูดแล้ว โจวฉวี่เอ๋อและเหลียงยู่ก็เงยหน้ามองไปที่ไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยชะงักครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตอบสนอง และพูดทันทีว่า “ใช่ ผมก็เหมือนกัน”
………
เมื่อยังมีการเดินทางไปยังหลันเต่าอีกเป็นเวลาหนึ่งวัน เหลียงเหว่ยชาวก็ปล่อยให้พวกเขาเดินออกจากห้อง และก็ยังเตรียมอาหารอันโอ่อ่าให้พวกเขาหนึ่งมื้อด้วย
หลังจากพักผ่อนได้สองวัน ไป๋ยี่เฟยก็สามารถลุกจากเตียงได้แล้ว และการเดินของเขาก็ไม่ได้รับผลกระทบ
ทั้งสามคนได้รับเชิญไปที่โต๊ะอาหาร
นี่เป็นโต๊ะอาหารแบบยาว แน่นอนว่าเหลัยงเหว่ยชาวเป็นที่นั่งหลัก ทางด้านซ้ายและด้านขวาของเขา มีหลินยู่ชังและฉินซานนั่งตามลำดับ
หลังจากที่พวกโจวฉวี่เอ๋อและคนอื่นๆ มาถึง พวกเขาก็กลืนน้ำลายโดยจิตสำนึก เห็นอาหารอันโอชะที่วางอยู่บนโต๊ะ ในสองวันที่ผ่านมาพวกเขาไม่ได้ทานอาหารดีๆ สักมื้อเลย
ดังนั้นโจวฉวี่เอ๋อจึงถามไป๋ยี่เฟยด้วยเสียงต่ำๆ ว่า “กินได้ไหม?”
ก่อนที่ไป๋ยี่เฟยจะพูด เหลียงเหว่ยชาวก็กล่าวว่า “กินอย่างมั่นใจได้เลย ถ้าอยากจะฆ่าพวกคุณ ไม่จำเป็นต้องวางยาพิษในอาหารหรอก ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนนี้จะต้องปกป้องพวกคุณให้ดีๆ อีกด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ พวกเขาทั้งสามก็มองหน้ากัน และรู้สึกว่าสิ่งที่เหลียงเหว่ยชาวพูดนั้นสมเหตุสมผล
เหลียงเหว่ยชาวอยากจะฆ่าพวกเขามันง่ายมาก โดยไม่จำเป็นต้องใส่ยาพิษลงในอาหารให้มันยุ่งยาก และอีกอย่างไป๋ยี่เฟยก็จะพาพวกเขาไปที่หลันเต่าเพื่อค้นหาคลังเก็บทองด้วย ในตอนนี้ไป๋ยี่เฟยเป็นเหมือนคลังสมบัติ ดังนั้นเหลียงเหว่ยชาวจะต้องปกป้องเขาให้ดีอย่างแน่นอน
แน่นอน พวกเขารู้อยู่ในใจว่า การป้องกันแบบนี้จะไปถึงที่พวกเขาพบคลังสมบัติเท่านั้น
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ทั้งสามคนก็นั่งลง และเริ่มกินอาหารด้วยคำโตๆ โดยไม่พูดอะไรอีกเลย
นานมากแล้วที่ไม่ได้ทานอาหารอันโอ่อ่าเช่นนี้ แม้แต่โจวฉวี่เอ๋อและเหลียงยู่ ท่ากินก็ไม่สวยงามมากนัก และใช้มือหยิบกินโดยตรง
ไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้แสดงจุดอ่อนใดๆ และก็ป้อนเข้าไปในปากของเขาด้วยคำโต
หลังจากที่พวกเขากินอิ่มกันแล้ว เหลียงเหว่ยชาวก็พูดกับไป๋ยี่เฟยว่า “มากับฉันสักหน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยจึงตามเหลียงเหว่ยชาวไปที่ดาดฟ้าเรือ