ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 77
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 77
ตอนหลิ่วเซียวเหยาเห็นเหอหยวนหยวนครั้งแรก ก็ถูกดึงดูดโดยรูปลักษณ์ของเธอ ต่อมาได้รู้ว่าเหอหยวนหยวนเก่งมาก บวกกับความชอบดังนั้นเขาจึงเริ่มจีบเหอหยวนหยวน
เหอหยวนหยวนเลิกกับเซียวหรงเทา แล้วไปสนใจการจีบของหลิ่วเซียวเหยา ตอนแรกปฏิเสธเล็กน้อย ต่อมาลองคิดดู พบว่าหลิ่วเซียวเหยากุมอำนาจหลิ่วซื่อกรุ๊ปอยู่ หน้าตาก็ไม่เลว เธอไม่เสียเปรียบอะไร ดังนั้นจึงยอมรับการจีบของหลิ่วเซียวเหยา
หลิ่วเซียวเหยาพาเหอหยวนหยวนมากินข้าวร้านหรู
นั่งลงและสั่งอาหารเสร็จ เหอหยวนหยวนเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง:“หลิ่วซื่อกรุ๊ปไปมีเรื่องกับใครใช่ไหม?ช่วงนี้……”
หลิ่วเซียวเหยาได้ยินแล้วขมวดคิ้ว“คุณรู้อะไรมา?”
“สองวันก่อนนักลงทุนของเราให้เราหยุดการจัดหาให้หลิ่วซื่อ ไม่งั้นจะถอนทุน”เหอหยวนหยวนพูด
หลิ่วเซียวเหยาชะงัก“นักลงทุน?นักลงทุนของพวกคุณคือโหวจวี๋ไม่ใช่เหรอ?”
เหอหยวนหยวนพยักหน้า“ใช่……”
ขณะจะพูดต่อ จู่ๆเหอหยวนหยวนก็มองไปข้างหลังหลิ่วเซียวเหยา“เธอคนนั้น?”
“ใคร?”หลิ่วเซียวเหยาได้ยินเช่นนั้น ก็หันไปมองอย่างสงสัย
เหอหยวนหยวนยังคงจ้องคนๆนั้นอยู่ พลางตอบ:“ภรรยาของไป๋ยี่เฟย”
หลิ่วเซียวเหยาตกใจ
ภรรยาของไป๋ยี่เฟย?
นี่ทำให้หลิ่วเซียวเหยานึกถึงคำพูดตอนที่เขาขวางทางไป๋ยี่เฟยในตอนนั้น ตอนนั้นไป๋ยี่เฟยพูดว่าจะทำลายหลิ่วซื่อกรุ๊ป หรือเรื่องนี้เป็นฝีมือเขา?
ไม่!เป็นไปไม่ได้!
ไป๋ยี่เฟยก็แค่คนที่มาจากชนบท ถึงจะทำงานที่โหวจวี๋ก็ไม่ได้แปลว่าเขาสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้
คิดเช่นนั้นหลิ่วเซียวเหยาก็นึกถึงจางหรง
หลิ่วเซียวเหยากับจางหรงรู้จักกันนานแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างดี ดังนั้นเมื่อรู้ว่าจางหรงกลับประเทศแล้ว จึงบอกให้จางหรงไล่พนักงานที่ชื่อไป๋ยี่เฟยในบริษัทเขาออก
ไม่รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง
น่าจะไม่มีปัญหา ยังไงจางหรงก็เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งในโหวจวี๋กรุ๊ป แค่ไล่คนออก
หลิ่วเซียวเหยามองหลี่เสว่ตาเป็นประกาย
สมกับเป็นคนที่น้องสามชอบ รูปร่างหน้าตาและท่าทางไม่มีที่ติเลย คนละระดับกับผู้หญิงทั่วๆไป ไม่แปลกใจที่น้องสามทำเรื่องแบบนั้น
“นี่!มองอยู่นั่นแหละ?เธอสวยกว่าฉันรึไงถึงละสายตาไม่ได้เลย ?”เหอหยวนหยวนพูดอย่างไม่พอใจ และชี้ไปที่ตาของหลิ่วเซียวเหยา
หลิ่วเซียวเหยายิ้มอย่างทำตัวไม่ถูก ส่ายหน้าพลางพูด:“ไม่ละสายตาที่ไหนกัน?ผมก็มองคุณอยู่นี่ไง?”
เหอหยวนหยวนทำแก้มป่องแล้วพูด:“งั้นเหรอ?เมื่อกี้ยังดูคนอื่นอย่างหื่นกามอยู่เลย?”
“หยวนหยวน ผมไม่ใช่เพลย์บอยซะหน่อย คุณไม่ต้องห่วง ในใจผมมีแค่คุณ”
“พูดจริง?”เหอหยวนหยวนทำตาโตพลางถาม
หลิ่วเซียวเหยาพยักหน้า“จริงสิ”
จากนั้นเขาก็ง้ออยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะทำให้เหอหยวนหยวนมีความสุขได้
กินข้าวไม่ทันเสร็จ จู่ๆหลิ่วเซียวเหยายืนขึ้นแล้วพูดกับเหอหยวนหยวน:“ผมไปห้องน้ำนะ”
หลิ่วเซียวเหยาเดินไปห้องน้ำทันที และตั้งใจมองเลขโต๊ะของหลี่เสว่กับโจวฉวี่เอ๋อ จากนั้นเข้าห้องน้ำไป
“ร้านอาหารซันไชน์โต๊ะ23 ฉันไม่สนว่าแกจะใช้วิธีไหน ต้องพาพวกเขามาหันที่ห้องทำงานให้ได้!”
หลิ่วเซียวเหยาวางสาย ล้างมืออย่างช้าๆ แล้วออกจากห้องน้ำ
ด้านโจวฉวี่เอ๋อกับหลี่เสว่เพิ่งสั่งอาหารเสร็จ
สองวันมานี้หลี่เสว่คิดมาก ในใจสับสนวุ่นวายไปหมด อารมณ์ก็เข้าใจยาก แต่คิดมาตั้งนานก็คิดไม่ออก สุดท้ายก็ต้องเผชิญหน้า
ดังนั้นหลี่เสว่ตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องกลับไป
“กลับไปแล้วคุณก็อย่าคิดมาก ถามให้เข้าใจ ยังไงเขาก็เป็นพ่อคุณ”โจวฉวี่เอ๋อพูดโน้มน้าว
หลี่เสว่พยักหน้า ที่จริงเธอยังรู้สึกกังวล ไม่รู้จะเผชิญหน้าหลี่เฉียงตงยังไง
“ช่างเถอะ ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว กินข้าวก่อน!”โจวฉวี่เอ๋อเห็นหลี่เสว่เป็นแบบนี้เลยเบี่ยงเบนความสนใจ
หลี่เสว่ได้ยินก็ยิ้มพลางพยักหน้า
ทั้งคู่กินข้าวเสร็จ เพิ่งมาถึงลานจอดรถใต้ดิน ก็มีคนสองคนปรากฏตรงหน้า ขวางพวกเขาไว้
“คุณทั้งสอง เชิญไปกับพวกเรา”
……
ณ ร้านอาหารซันไชน์
หลิ่วเซียวเหยารับสาย สีหน้าปกติ หลังจากวางสายก็พูดกับเหอหยวนหยวน:“หยวนหยวน ขอโทษจริงๆ ที่บริษัทมีเรื่องนิดหน่อย ผมกลับก่อนนะ คุณค่อยๆกิน!ผมไปเช็คบิลให้”
เหอหยวนหยวนพยักหน้า“อืม เรื่องบริษัทสำคัญ”
หลิ่วเซียวเหยาพอใจกับท่าทีของเหอหยวนหยวนมาก เขายิ้มพลางไปเช็คบิล แล้วออกไป
1ชั่วโมงต่อมา หลิ่วเซียวเหยาขับรถไปยังวิลล่าหลิ่วซื่อ
“ไอ้สารเลว!”
หลิ่วหลงรู้เรื่องที่หลิ่วซื่อกรุ๊ปโดนโจมตีแล้ว โกรธจนทำถ้วยชาแตก เศษแก้วและน้ำชาด้านในกระเด็นตกเต็มพื้น และกระเด็นไปโดนขากางเกงหลิ่วเซียวเหยา หลิ่วเซียวเหยากลับไม่หลบ
หลิ่วหลงด่าเสียงดัง“ไม่ได้เรื่อง!อีกฝ่ายเป็นใครยังไม่รู้?โง่จริงๆ!”
ด่าไปชุดหนึ่งหลิ่วหลงก็ผ่อนลง มองหลิ่วเซียวเหยาพลางถาม:“แกยังสืบไม่ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังใช่ไหม?”
หลิ่วเซียวเหยาได้ยินเช่นนั้นเลยส่ายหน้าถอนหายใจ พูดอย่างจนปัญญา:“ผมอยากสืบ แต่น้องสามไม่ยอมบอกว่าไปมีเรื่องกับใครมา ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง!”
หลิ่วหลงโมโหจนตบโต๊ะ“เจ้าโง่นี่!ไม่น่าให้มันบริหารบริษัทเลยจริงๆ!”
หลิ่วจาวเฟิงได้ยินเช่นนั้นทำหน้าปกติ แต่ในใจตื่นเต้นมาก
ก่อนหน้านี้เขารับปากกับหลิ่วจาวเฟิงว่าจะพูดเรื่องดีๆของเขาต่อหน้าหลิ่วหลง ที่แท้ล้วนเป็นคำโกหก ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีโชว์ดีๆด้วย!
หลิ่วเซียวเหยาพูดอย่างเป็นห่วง:“พ่อครับ พ่ออย่างโมโหไปเลย รักษาสุขภาพด้วย”
จะว่าไปปีนี้หลิ่วหลงอายุ60แล้ว มีผมขาวเล็กน้อย ไม่ถือว่าแก่มาก อย่างน้อยในตอนนี้ยังกระปรี้กระเปร่า
หลิ่วหลงพูด“ถ้ามันไม่ทำให้ฉันกังวลได้สักครึ่งหนึ่งของแกฉันก็พอใจแล้ว!”
หลิ่วเซียวเหยายิ้มแล้วพูด:“พ่อครับ น้องสามอาจไม่ได้ตั้งใจมีเรื่องกับคนอื่น บางทีอาจจะไม่ร้ายแรงขนาดนั้นก็ได้”
“ไม่ร้ายแรง?ถ้าไม่ร้ายแรงเขาจะทำกับธุรกิจในชื่อมันจนเป็นแบบนี้เหรอ?เอาเถอะ ไปบริษัทก่อน”หลิ่วหลงถอนหายใจ“แต่ละคน ดีแต่ทำให้คนอื่นเป็นกังวล!”
สองพ่อลูกขับรถไปยังสำนักงานใหญ่หลิ่วซื่อกรุ๊ป ระหว่างนั้นหลิ่วเซียวเหยาโทรหาหลิ่วจาวเฟิง แน่นอนว่านี่หลิ่วหลงเป็นคนสั่ง ยังไงเรื่องนี้หลิ่วจาวเฟิงเป็นคนก่อ เขาต้องอยู่ด้วย
ทั้งสามคนมาพบกันที่หลิ่วซื่อกรุ๊ป
หลิ่วหลงจ้องหลิ่วจาวเฟิงด้วยความโมโห“แกเข้ามากับฉัน ฉันมีเรื่องจะถาม!”
หลิ่วจาวเฟิงรู้ว่ากลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว ดังนั้นจึงพยักหน้าแล้วเดินตามหลิ่วหลงเข้าไปในห้องทำงาน
ก่อนเข้าไป หลิ่วเซียวเหยาคว้าแขนเขาไว้ ได้ยินแต่เสียงกระซิบเบาๆของหลิ่วเซียวเหยา:“น้องสาม ตอนนี้พ่อกำลังโกรธ แกอย่าเพิ่งพูดอะไรมาก อย่าเถียง รอพ่อหาโกรธแล้วพี่จะไปพูดกับเขา”
หลิ่วจาวเฟิงรู้ว่าตัวเองไม่อาจแบกรับความโกรธของพ่อได้ เขาพยักหน้า“เข้าใจแล้ว ขอบคุณพี่รองมาก”
“ไปเถอะ!”หลิ่วเซียวเหยายิ้ม“พี่จะกลับไปเตรียมของขวัญให้แก”
พูดจบหลิ่วเซียวเหยาก็ดันหลิ่วจาวเฟิงเข้าไปในห้องทำงาน แล้วปิดประตู
หลิ่วจาวเฟิงตกตะลึง ของขวัญ?ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดใหญ่โต?ทำไมต้องเตรียมของขวัญด้วย?