ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 770
“ทองคำสองนิ้ว!”
เสียงเสนอราคาที่ขึ้นๆลงๆนี้ ทำให้ทั้งงานคึกคักขึ้นมาในช่วงเวลาสั้นๆ
ลู่หยางหมุนตัวถามไป๋ยี่เฟยว่า “เถ้าแก่ไป๋ทำไมไม่เสนอราคาล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที และค่อยๆคายออกมาอีก
เขามาที่นี่คือจะมาหาหลิวเสี่ยวอิง แม้ว่าเขาจะทนดูไม่ได้ แต่ว่าเขาไม่ใช่พระแม่มารี ถึงแม้ว่าช่วยผู้หญิงคนนี้ได้ งั้นผู้หญิงคนอื่นๆล่ะ?
เขาล้วนไม่มีความสามารถที่จะช่วยคนทั้งหมด
นอกจาก เขากลายเป็นผู้ปกครองของหลันเต่า
แต่ความคิดนี้ก็เพียงแค่กวาดผ่านเท่านั้น สุดท้าย ยังคงไร้เรี่ยวแรงส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก
กำลังอยู่ในเวลานี้ คนคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายพวกเขาไป๋ยี่เฟยเสนอราคาแล้ว
“ทองคำหนึ่งท่อน!”
ไป๋ยี่เฟยกับลู่หยางหันหน้าไปมองพร้อมกัน
ผู้ชายที่อยู่ข้างกายพวกเขาคนนี้ คือตาเฒ่าที่มีเส้นผมสีขาวแล้ว อีกทั้งเขายังนั่งอยู่บนรถเข็นด้วย
ทองคำหนึ่งท่อน ก็คือเป็นทองคำที่ขนาดใหญ่เท่าหนึ่งนิ้วขนาดนั้น
ดังนั้นการเสนอราคานี้ออกมาทันทีคนอื่นๆล้วนมองเข้ามาหมดเลย
ตอนที่ได้เห็นคนที่เสนอราคาเป็นใคร มีคนตื่นตกใจอย่างมากหนึ่งที “คือท่านฉวี่!”
“คิดไม่ถึงว่าเป็นท่านฉวี่”
“ท่านฉวี่ล้วนเสนอราคาแล้ว ยังมีใครกล้าที่จะเสนอราคาต่อล่ะ?”
“ใช่สิ ใช่สิ”
“ช่างน่าเสียดายจริงๆ”
มีคนไม่เข้าใจก็เลยถามคำหนึ่งว่า “น่าเสียดายอะไรหรือ?”
“คุณไม่รู้หรือ? ท่านฉวี่มีความชอบที่เป็นพิเศษ หลายปีที่ผ่านมานี้ ผู้หญิงที่ถูกเขาเล่นจนตายไม่น้อยนะ”
“แม่มึงเอ่ยคุณเสียงเบาหน่อย อย่าให้ได้ยินล่ะ!”
คนบริวเณนั้นเงียบไปหมด ไม่กล้าพูด
แต่ส่วนไป๋ยี่เฟยคือตื่นตะลึงเต็มใบหน้าจ้องมองตาเฒ่าที่เข้าสู่โลงครึ่งตัวแล้วคนนี้ ในใจมีความโมโหล้นฟ้า
ตาเฒ่าคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนรถเข็นทั้งยังน่าเกลียดจนดูไม่ได้คนหนึ่ง คิดไม่ถึงโรคจิตขนาดนี้ เคยเล่นผู้หญิงมาแล้วมากมาย อีกทั้งเล่นผู้หญิงจนตาย!
โดยจิตใต้สำนึกไป๋ยี่เฟยหันหน้าจ้องมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ในกรงเหล็ก
ความสิ้นหวังเต็มตาผู้หญิง ดูเหมือนถูกดูดพลังชีวิตจนหมด
ในใจไป๋ยี่เฟยสั่นไหวอย่างกะทันหัน เพราะว่าเขานึกถึงหลี่เสว่ที่ผ่านมา
ในตอนต้นหลี่เสว่รู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ไม่ได้ ก็มีสายตาที่สิ้นหวังแบบนี้เช่นกัน
ดังนั้น ไป๋ยี่เฟยใจอ่อนแล้ว
ไป๋ยี่เฟยตะโกนร้องพูดว่า “ทองคำสองท่อน!”
เสียงร้องของเขานี้ ดึงดูดสายตาของคนทั้งหลายมายังบนกายเขา
สีหน้าที่ทุกคนมองเขาล้วนตื่นตะลึงมาก ทั้งเหมือนดั่งมองคนโง่อยู่
มีเพียงลู่หยางประหลาดใจมากจ้องมองไป๋ยี่เฟย
ในเวลานี้ ผู้ชายที่รับผิดชอบเข็นรถเข็นให้กับท่านฉวี่ที่อยู่ข้างๆเขา อยู่ดีๆฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง “เลวทรามชั่วช้า คิดไม่ถึงว่ากล้ามาแย่งกับท่านฉวี่หรือ?”
ไป๋ยี่เฟยมองก็ไม่ได้มองคนคนนั้นสักที แต่คือลุกขึ้นมาโดยตรงถามพิธีกรว่า “ขอถามหน่อยผู้หญิงคนนี้ถูกหมายไว้แล้วหรือไม่?”
พิธีกรจ้องมองท่านฉวี่หนึ่งที จากนั้นอมยิ้มหนึ่งที พูดว่า “ไม่มีแน่นอน”
ไป๋ยี่เฟยพูดเบาๆว่า “อย่างนั้นการประมูลนี้คือยุติธรรม ใครออกเงินเยอะก็เป็นของคนนั้นใช่หรือไม่?”
“นี่ย่อมเป็นเช่นนี้” พิธีกรพยักหน้าตอบกลับ
ได้รับการยอมรับของพิธีกร ไป๋ยี่เฟยนี่จึงหันหน้ามา สายตาเย็นชาจ้องมองไปยังท่านฉวี่กับผู้ชายคนนั้นที่อยู่ข้างหลังเขา ท่าทีโอหังถึงขีดสุดพูดว่า “ได้ยินแล้วหรือยัง? ใครออกเงินมากกว่าก็เป็นของคนนั้น แม่มึงเอ่ย ไม่มีเงินก็ไสหัวออกไป!”
พูดจบ คนทั้งหลายประหลาดใจจนอ้าปากค้าง
ท่านฉวี่ใช้มือที่แห้งเหี่ยวหมดนั้น หยิบแว่นสายตายาวที่อยู่หน้าอกของตนเองขึ้นมาสวมไว้ จากนั้นจ้องมองไปยังไป๋ยี่เฟย
ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังเขาอยากจะร้องตะโกนกลับไป กลับถูกมืออีกข้างหนึ่งที่สั่นระลึกของท่านฉวี่ห้ามไว้แล้ว
ท่านฉวี่ถามเบาๆว่า “น้องชาย คุณจะแย่งของกับผมจริงๆหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยถามกลับว่า “การประมูลคือยุติธรรม ผมเสนอราคาไม่ได้หรือ?”
ท่านฉวี่ได้ยินคำพูดนี้ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง “ย่อมได้แน่นอน”
“งั้นก็ไม่ต้องมีคำพูดไร้สาระมากมายขนาดนั้น!” ไป๋ยี่เฟย ฮึ เย็นชา
ท่านฉวี่พยักหน้าต่อๆกันพูดว่า “ได้ ได้!”
ท่านฉวี่ไม่ได้เสนอราคาอีก อย่างงั้นผู้หญิงคนนี้ก็ถูกไป๋ยี่เฟยประมูลได้มาแล้ว
หลังจากไป๋ยี่เฟยนั่งลง ลู่หยางตื่นตะลึงมากจ้องมองไป๋ยี่เฟย ทั้งเสียงเบาทั้งหวาดกลัวถามว่า “เถ้าแก่ไป๋ ท่านไม่รู้หรือว่าท่านฉวี่เป็นคนยังไงล่ะ?”
“ไม่รู้” ไป๋ยี่เฟยส่ายหัว
ลู่หยางเห็นสภาพ ใจไม่สงบมากพูดว่า “ท่านฉวี่เป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตเจ้าบ้านตระกูลหง เพราะว่าตระกูลหงคลุมเขาไว้อยู่ อยู่ในเขตที่สี่เป็นคนที่แส่หาเรื่องไม่ได้เหมือนดั่งตระกูลหง”
ไป๋ยี่เฟยยังไงก็ได้ยักไหล่ต่อๆกัน
แต่ว่าลู่หยางหวาดกลัวมาก อีกทั้งท่านฉวี่ก็นั่งอยู่ข้างกายพวกเขา ดังนั้นโดยจิตใต้สำนึกเขาขยับไปยังข้างๆขยับแล้วขยับอีก อยากจะตัดความสัมพันธ์กับไป๋ยี่เฟย
หลังจากผู้หญิงคนนี้ถูกประมูลได้ พิธีกรแนะนำสินค้าประมูลชิ้นต่อมา ไม่มีข้อสงสัยเลยสักนิด ยังเป็นผู้หญิง
ผู้หญิงที่นี่ลักษณะแบบไหนล้วนมี มีอายุสิบกว่าปี อายุยี่สิบกว่าปี อายุสามสิบกว่าปี
อาจจะเนื่องเพราะการออกมาของผู้หญิงคนแรก นำผลกระทบไม่น้อยมาให้กับพวกเธอ ดังนั้นพวกเธอซื่อตรงมาก ใครๆก็ไม่กล้าร้องตะโกนเช่นกัน
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ประมูลคนเหล่านี้ต่ออีกเลย เพราะว่าเขาไม่มีความสามารถอย่างนั้น ก็ไม่ใช่จุดประสงค์ที่เขามาที่นี่เช่นกัน
สุดท้าย หลังจากผู้หญิงสิบกว่าคนถูกประมูลออกไป พิธีกรกระแอมในคอของตนเอง รักษารอยยิ้มพูดว่า “งานประมูลกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย อันดับแรกขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอุดหนุน”
“อย่างนั้น ต่อมาก็คือสินค้าประมูลชิ้นสุดท้าย เป็นสินค้าประมูลชิ้นสุดท้ายของพวกเรา คิดว่าพวกคุณได้เห็นแล้วล้วนจะบ้าคลั่งเหลือเกิน”
“ผมกล้ารับรอง นี่เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่พวกคุณเคยเห็นมาก่อน!”
เพราะว่าคำพูดของพิธีกร คนที่อยู่ในงานล้วนตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว
ถึงแม้เป็นคนที่ประมูลผู้หญิงได้แล้วเหล่านั้นก็ไม่ได้รีบออกไปเช่นกัน เพราะว่าพวกเขาล้วนอยากจะรู้ว่าชิ้นสุดท้ายตกลงว่าเป็นคุณลักษณะแบบไหน
ถึงยังไงก็เป็นชิ้นสุดท้ายของสินค้าประมูล คุณภาพย่อมต้องดีที่สุดอยู่แล้ว ดังนั้นจะไม่มีคนออกไปในเวลานี้
แต่ไป๋ยี่เฟยกลับกำกำปั้นของตนเองอย่างแน่น ตาจ้องมองบนเวทีอย่างแน่น
ผ่านไปไม่นาน ก็มีผู้ชายยกกรงเหล็กอันหนึ่งขึ้นมา ปิดคลุมด้วยผ้าสีดำเหมือนเดิม ไม่สามารถทำให้คนมองเห็นคนข้างในได้ชัดเจนเป็นเวลาชั่วคราว
หลังจากรอคนลงไปแล้ว พิธีกรยื่นมือออกไปเปิดผ้าสีดำทันที
“เชิญดู!”
ทันทีที่ผ้าสีดำเปิดออก ทั้งงานล้วนพลุ่งพล่านแล้ว
“ว้าว!”
“อีเหี้ยยยยย! แม่มึงเอ่ยนี่สวยเกินไปแล้วมั้ง!”
“ยังเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่กูเคยเห็นมาจริงๆ!”
“พระ!”
ในเวลาเดียวกัน ไป๋ยี่เฟยควบคุมไม่อยู่ลุกขึ้นมาแล้ว
เขาหวังมากขนาดไหน อย่าเจอหลิวเสี่ยวอิงอยู่ที่นี่ แต่ว่า ยิ่งหวังก็จะยิ่งไม่เกิดขึ้น
เพราะว่าคนที่อยู่ในกรงก็เป็นหลิวเสี่ยวอิงนั่นเอง
ตอนที่กินข้าวอยู่ เขาได้ยินคนเหล่านั้นพูดว่าหลิวเสี่ยวอิงตกอยู่ในมือของคุณชายน้อยตระกูลหง ทั้งได้ยินว่าคุณชายน้อยตระกูลหงก็เป็นคนบ้ากามคนหนึ่งตกอยู่ในมือเขา หลิวเสี่ยวอิงไม่มีสภาพที่ดี
แต่ว่าในที่สุดก็ยังตกอยู่ในมือตระกูลหง
ในกรงเหล็ก ตาทั้งคู่ของหลิวเสี่ยวอิงไร้วิญญาณนั่งอยู่ บนตัวเธอไม่มีโซ่ใดๆ ยังคงใส่เสื้อชุดเดิมของเธออยู่ เพียงแค่ทั้งตัวดูแล้วก็เหมือนดั่งซากศพที่เดินได้
นี่ช่างหมดหนทางจนปัญญาไม่รู้จะทำอย่างไรดีจริงๆ ไม่มีความกระหายที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อใดๆ
ไป๋ยี่เฟยเพียงจ้องมองหนึ่งที ใจก็เศร้าขึ้นมาแล้ว ทรมานมาก
พิธีกรพอใจสีหน้าที่ตื่นตะลึงขนาดนี้ของทุกคนอย่างมาก ดังนั้นยิ้มพูดว่า “สินค้าประมูลชิ้นสุดท้ายนี้ ราคาเริ่มต้นด้วยทองคำหนึ่งฝ่ามือ!”
ทองคำหนึ่งฝ่ามือ!