ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 793
ทำไมคนรอบตัวเขาถึงมีคนเยอะขนาดนี้ ?
ทำไมเขาถึงร้ายกาจขนาดนี้?
คนที่เขาพามาด้วยเป็นใครกันแน่?ทำไมพวกเขาถึงร้ายกาจขนาดนี้?
แน่นอน สิ่งที่ทำให้หงฟ่านยิ่งตกใจคือ “คุณ……คุณไม่ได้อยู่เหมืองทองคำที่สี่เหรอ……”
“ต่อสู้กับเต้าจ่างและคนของตระกูลหงใช่ไหม?”ไป๋ยี่เฟยพูดขัดจังหวะของหงฟ่าน
คำพูดของหงฟ่านติดอยู่ในลำคอ และเขาก็พยักหน้าอย่างงุนงง
ไป๋ยี่เฟยยิ้มอย่างเย็นชา:“คุณคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเต้าจ่างอยู่ที่ไหนเหรอ?”
หงฟ่านตกตะลึงและอึ้งไปเลย
“ฉันกับเต้าจ่างพวกเราเป็นคู่ปรับกันมานาน เขารู้จักฉันเป็นอย่างดี แต่ฉันก็รู้จักเขาเหมือนกัน” ไป๋ยี่เฟยพูดด้วยรอยยิ้ม“ฉันโจมตีหลอกล่อ ทำให้พวกเขาเดาว่าเป้าหมายของฉันคือเหมืองทองคำ”
“เป็นเพราะเขารู้จักฉันเป็นอย่างดี ดังนั้น เขาก็เดาได้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของฉันไม่ใช่ตระกูลหง แต่เป็นการล้มล้างทั้งหลันเต่า”
หงฟ่านพยักหน้าและพูดด้วยความงุนงงว่า:“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้คุณควรอยู่เหมืองทองคำไม่ใช่เหรอ!”
ไป๋ยี่เฟยเหลือบมองเขา ราวกับว่าเขากำลังจ้องมองคนโง่อยู่
หงฟ่านอึ้งไปชั่วครู่ ตระหนักได้ว่าตัวเองถามคำถามที่โง่มากๆ และเขาก็ทนไม่ไหวจึงหลับตา
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะออกมา“ฉันรู้ว่าเต้าจ่างเดาออกเรื่องที่ฉันต้องการเหมืองทองคำ ถ้าฉันยังไปเหมืองทองคำนั้นอีก นั้นไม่ใช่การฆ่าตัวตายเหรอ?”
เมื่อหงฟ่านได้ยินก็ไม่กล้าตอบ
ไป๋ยี่เฟยมองเขาด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย:“เป้าหมายของฉันคือการล้มล้างหลันเต่า อยากทำให้สังคมที่มืดมิดเหล่านี้ได้เจอแสงสว่าง แต่ว่า……”
“แต่ก่อนจะทำเรื่องนั้น ฉันต้องการล้างแค้นตระกูลหงก่อน”
เมื่อพูดจบ เขาก็เรียกคนที่อยู่ด้านนอก“เข้ามาได้แล้ว”
ดังนั้นสายตาของทุกคนก็มองไปที่หน้าประตู
จากนั้น พวกเขามองเห็นลู่เชี่ยนกับลู่เหมียวเหมียวเดินเข้ามาพร้อมกัน
เมื่อลู่เชี่ยนเห็นหงฟ่านและคนรับใช้ที่เหลืออยู่ไม่กี่คน ทั้งหมดคุกเข่าต่อหน้าไป๋ยี่เฟย ทำให้เธอตกตะลึง
ก่อนหน้านี้ เธอคิดว่าไป๋ยี่เฟยเป็นเพียงคนบ้าที่ไม่รู้จักประมาณตน และเขาไม่รู้ว่าตระกูลหงแข็งแกร่งแค่ไหน
แต่ว่า ตอนนี้เธอตระหนักได้ว่าคำพูดที่ไป๋ยี่เฟยเคยพูดไว้ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องจริงแล้ว และเธอเองที่เป็นตัวตลก ไม่รู้ว่าไป๋ยี่เฟยมีความสามารถแค่ไหน
อันที่จริงไม่เพียงแค่ลู่เชี่ยนเท่านั้น ยังมีคนทั้งหมดของตระกูลหง และหงจุนที่ไปช่วยเหลือเหมืองทองคำ ต่างก็ตระหนักได้ว่า คราวนี้ตระกูลหงล่วงเกินผิดใจกับคนที่พวกเขาไม่ควรไปยุ่งด้วย
ไป๋ยี่เฟยพูดเบาๆ:“ฉันมีความคิดที่จะล้มล้างหลันเต่า เป็นเพราะตระกูลหงฆ่าล้างตระกูลลู่ แต่ทั้งสองเรื่องนี้ไม่ควรเอามาพูดร่วมกันเดี๋ยวจะสับสน”
“การล้มล้างหลันเต่าเป็นเรื่องของฉัน เพราะก่อนหน้านี้ ลู่หย่วนเคยมีบุญคุณต่อฉัน ดังนั้นฉันต้องแก้แค้นแทนตระกูลลู่”
เมื่อได้ยินไป๋ยี่เฟยพูดถึงลู่หย่วน ทำให้ดวงตาของลู่เชี่ยนกับลู่เหมียวเหมียวแดงก่ำ น้ำตาก็ไหลออกมา
และหงฟ่านตระหนักได้ทันทีว่าไป๋ยี่เฟยจะทำอะไร
หงฟ่านหวาดกลัวมากๆ
ตอนนี้ถึงแม้เขาจะมีอายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว แต่คนยิ่งอายุเยอะก็ยิ่งกลัวตาย ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นผู้มีอิทธิพลในที่แห่งนี้มานาน ทำให้เขายิ่งไม่อยากตาย
หงฟ่านตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว จากนั้นเขาก็คุกเข่าคำนับ:“ไม่ เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน เป็นความคิดของท่านฉวี่ เขาเป็นคนบอกว่าต้องการหาเรื่องพวกคุณ”
“ฉันขอร้อง อย่าฆ่าฉัน อย่าฆ่าฉันเลย ฉัน ฉันมีเงินเยอะมาก ฉันเอาเงินทั้งหมดที่มีอยู่ในเขตที่สี่ให้พวกคุณ ทั้งบ้าน ทั้งโรงงานก็ให้พวกคุณทั้งหมด……”
“ตุ๊บตุ๊บตุ๊บ……”
หงฟ่านพูดไปด้วยและโขกศีรษะกับพื้นไปด้วย
ในขณะนี้ ไป๋ยี่เฟยเอามีดยาวโยนไปยังข้างหน้าของลู่เชี่ยนกับลู่เหมียวเหมียว
“เคร้ง!”
มีดยาวกระทบกับพื้น เปล่งเสียงออกมา
จากนั้นไป๋ยี่เฟยก็พูดเบาๆว่า:“ลู่เหมียวเหมียว ฉันเคยรับปากเธอ ให้เธอแก้แค้นเองกับมือ ตอนนี้เธอสามารถแก้แค้นได้แล้ว”
ลู่เหมียวเหมียวมองมีดยาวที่ตกอยู่บนพื้นและตกตะลึง
หงฟ่านแข็งทื่อไปทั้งตัว จากนั้นก็ตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว
ไม่ว่าหงฟ่านจะพูดอะไร ขอร้องยังไงก็คงไม่มีประโยชน์
เพราะไป๋ยี่เฟยไม่ยอมให้อภัยเขาแน่นอน และเขาก็ไม่ได้เป็นคนโง่ ที่พูดอะไรก็จะเชื่อทุกอย่าง
หลังจากลู่เหมียวเหมียวได้สติ เธอก็หน้าซีดทันที
เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงที่อายุพึ่งจะครบสิบแปดปี ถึงแม้ว่าเธอจะอาศัยอยู่ในหลันเต่าที่เต็มไปด้วยสังคมที่มืดมิด แต่เธอก็ยังคงเป็นเด็กที่ไร้เดียงสาอยู่
เด็กผู้หญิงไร้เดียงสาแบบนี้ ตอนนี้ให้เธอไปฆ่าคน มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเธอ?
ถึงแม้เธอจะมีใบหน้าที่ขาวซีด แต่ลู่เหมียวเหมียวก็หยิบมีดยาวขึ้นมา ระงับความกังวลและความกลัวของตัวเอง เดินไปหาหงฟ่านทีละก้าวๆ
หงฟ่านเห็นลู่เหมียวเหมียวเดินเข้ามาก็รีบถอยหลังทันที เขาถอยหลังไปด้วยและโขกศีรษะไปด้วย“คุณผู้หญิง อย่าฆ่าฉันเลย พี่สาวของเธอเป็นลูกสะใภ้ของฉัน เห็นแก่ที่พวกเราเป็นญาติกัน ได้โปรด อย่าฆ่าฉันเลย ปล่อยฉันไปเถอะ”
ลู่เหมียวเหมียวน้ำตานองหน้า ถามด้วยน้ำเสียงที่ดังเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้:“คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดว่าพวกเราเป็นญาติกัน?คุณสั่งให้คนมาฆ่าคนในตระกูลลู่ทั้งหมดสิบห้าคน ในตอนนั้น ทำไมคุณไม่เห็นแก่พี่สาวของฉันที่เป็นลูกสะใภ้ของคุณ ปล่อยพวกเราไป?”
“แล้วทำไมฉันต้องปล่อยคุณไป?”
ลู่เหมียวเหมียวค่อยๆยกมีดยาวขึ้นมา ดวงตาของเธอมีความแน่วแน่และความมุ่งมั่น
เมื่อหงฟ่านเห็นก็รู้ว่าตัวเองพูดอะไรก็คงไร้ประโยชน์ เขารีบลุกขึ้นมาแล้วใช้ศีรษะของตัวเองไปกระแทกต้นขาของลู่เหมียวเหมียว
ลู่เหมียวเหมียวถูกเขากระแทกจนล้มลมไปกับพื้น
หงฟ่านใช้โอกาสนี้รีบลุกขึ้นมาแล้วหนีออกไป
แต่เขาพึ่งวิ่งได้เพียงสองก้าว มีมีดยาวเล่มหนึ่งแทงเข้าไปในร่างกายของเขาจากด้านหลัง ปลายมีดทะลุออกมาที่หน้าท้องของเขา
หงฟ่านหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เขาหันหน้ากลับไปและไม่เชื่อสายตาตัวเอง
พบว่าคนที่ถือมีดยาวแล้วแทงเข้าไปในร่างกายของเขาคือลู่เชี่ยน
เมื่อก่อนลู่เชี่ยนเวลาเผชิญหน้ากับหงฟ่าน ทุกครั้งเธอจะระมัดระวังและตัวสั่นเนื่องจากกลัวเขา แต่ตอนนี้ ลู่เชี่ยนกล้าใช้มีดยาวแทงเขาจริงๆ
เมื่อลู่เชี่ยนเห็นลู่เหมียวเหมียวโดนกระแทกจนล้มลงไปกับพื้น เธอไม่ลังเลรีบหยิบมีดขึ้นมา แทงเข้าไปในร่างกายของหงฟ่าน เธอจ้องมองหงฟ่านและพูดทั้งน้ำตา:“คุณพ่อ ให้ฉันเป็นคนส่งพ่อขึ้นสวรรค์เถอะ”
ดวงตาทั้งสองข้างของหงฟ่านเบิกกว้าง ยกมืออยากจะไปจับลู่เชี่ยน เหมือนกับว่าเขาต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ความเจ็บปวดในร่างกายทำให้เขายกมือไม่ไหวและพูดไม่ออก
ในขณะนี้ ลู่เชี่ยนผลักมีดยาวไปข้างหน้าอย่างแรงอีกครั้ง ทำให้ดวงตาของหงฟ่านเบิกกว้างมากขึ้น จากนั้นเขาก็ล้มลงและคุกเข่ากับพื้น ศีรษะของเขาก็ห้อยลงมาเพราะไม่มีแรง
“เปาะแปะๆ……”
เลือดสดไหลลงพื้นจากปลายมีด
ลู่เชี่ยนปล่อยมือโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก้มศีรษะมองมือที่สั่นของตัวเอง
เธอเป็นคนฆ่าหงฟ่าน
ฆ่าคนที่เป็นตัวเองเรียกว่าพ่อสามี เพราะเขาคือคนที่สั่งให้ฆ่าพ่อของตัวเอง
แต่ในขณะนี้ จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้น
“คุณพ่อ!”
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร หงจุนบุกเข้ามาแล้วเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นพอดี
หงจุนพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง แต่โดนชายชุดดำขัดขวางไว้
เมื่อไป๋ยี่เฟยเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น คิดอยู่ชั่วครู่ เขาเคยรับปากลู่เชี่ยนไว้ว่าจะไม่ฆ่าหงจุน ในเมื่อหงจุนไม่ได้ลงมือโจมตีเขา เขาจะทำตามที่เคยรับปากไว้
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยจึงโบกมือ ให้ชายชุดดำปล่อยเขาเข้ามา
เมื่อไม่มีชายชุดดำขัดขวาง หงจุนเดินโซเซไปหาหงฟ่าน
ดูเหมือนตอนนี้เขาจะไม่ช็อกเหมือนเมื่อสักครู่ เขาเดินเข้าไปด้วยสีหน้าปกติไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา เหมือนศพเดินได้
ลู่เชี่ยนตกตะลึงมากๆ
เธอไม่คาดคิดเลยว่าหงจุนจะเห็นตัวเองเป็นคนฆ่าหงฟ่าน
ตอนนี้เธอรู้สึกสับสนและไม่รู้จะทำตัวยังไง
หงจุนเดินไปที่ด้านหน้าของหงฟ่าน เขาไม่มองลู่เชี่ยนเลย จากนั้นมีเสียง“ตุ๊บ”ดังขึ้น เขาคุกเข่าต่อหน้าหงฟ่าน
เมื่อลู่เชี่ยนได้ยินเสียงนี้ หัวใจเต้นแรงและรีบมองไปที่หงจุน ดูเหมือนเธอต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเธอก็พูดอะไรไม่ออก
หงจุนโขกศีรษะให้หงฟ่านสามครั้ง จากนั้นอุ้มศพของหงฟ่านขึ้นมา หันหลังแล้วจากไป
ตั้งแต่ต้นจนจบ หงจุนไม่ได้มองลู่เชี่ยนแม้แต่ครั้งเดียว