ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 799
เมิ่งฉิงส่ายหัวและพูด:“ใครโดนใครเตะตาย มันก็ไม่แน่เหมือนกัน”
เมื่อพูดจบ ชายสามคนก็มองเมิ่งฉิงที่กำลังขยับข้อเท้า เมื่อเขากระทืบเท้าลงพื้น พื้นตรงนั้นก็ยุบลงไปเลย
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สีหน้าของชายทั้งสามคนเปลี่ยนไปเลย
เมื่อชายที่มีรอยแผลเป็นเห็นสิ่งนั้น ก็รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติไป เขารีบก้าวไปข้างหน้าแล้วต่อยออกไปทันที เขาต้องการลงมือก่อนเพื่อควบคุมอีกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม เขาช้าไปหนึ่งก้าว
เพราะเมิ่งฉิงขยับร่างกายเสร็จแล้ว
ในขณะที่ชายมีรอยแผลเป็นต่อยหมัดนั้น เมิ่งฉิงไม่ได้หลบ แต่กลับใช้หมัดต่อยออกไป
“ตูม!”
หมัดทั้งสองปะทะกัน มีเสียงดังขึ้น
จากนั้นได้ยินเสียงกระดูกหักดังขึ้น และเสียงร้องคร่ำครวญเจ็บปวดของชายที่มีรอยแผลเป็น
“กร๊อบแกร๊บ!”
“อ้า!”
ที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจคือ ร่างกายของชายที่มีรอยแผลเป็นไม่ได้ปลิวออกมา ดูเหมือนมือของเขาติดอยู่ที่หมัดของเมิ่งฉิง ตอนนี้แขนของเขาผิดรูป
เมื่อเห็นสิ่งนั้น ชายร่างสูงและชายร่างผอมตกใจมากๆ
ผ่านไปชั่วครู่ เมิ่งฉิงก็ต่อยหมัดออกมาอีกหนึ่งครั้ง ต่อยไปตรงที่ขมับของชายที่มีรอยแผลเป็น
“กร๊อบแกร๊บ!”
มีเสียงกระดูกหักดังขึ้นอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเป็นเสียงของกระดูกศีรษะ
หลังจากนั้น เหมือนโลกทั้งใบเงียบสงัดทันที ไม่มีเสียงอะไรเลย
ชายที่มีรอยแผลเป็นเหมือนก้อนหินที่ยืนอยู่กับที่ไม่ขยับตัวเลย แม้แต่ดวงตาก็ไม่ขยับ
เมื่อเมิ่งฉิงดึงมือตัวเองกลับมา ชายที่มีรอยแผลเป็นเหมือนคนที่ไม่มีเรี่ยวแรงและล้มลงกับพื้น
เห็นได้ชัดเจนว่าเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว
ชายร่างสูงกับชายร่างผอมตกตะลึงไปเลย
“แม่งเอ๊ย ใครเป็นคนบอกว่าชายคนนี้เป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไป?”
“พี่ใหญ่ ข้อมูลผิดพลาด พวกเรารีบถอยเร็ว!”
หลังจากตกตะลึงเสร็จ ทั้งสองคนก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที
ระหว่างยอดฝีมือด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างมองออก ก็เหมือนกับฉีฉีสามารถมองออกได้อย่างรวดเร็วว่าพวกเขาทั้งสามคนเป็นยอดฝีมือระดับที่สอง
พวกเขาสามคนก็มองออกว่าฉีฉีก็เป็นยอดฝีมือระดับที่สองเหมือนกัน แต่ตอนนี้พวกเขาสองคนมองเมิ่งฉิงไม่ออก
ถ้าเป็นแบบนี้ มีความเป็นไปได้สองอย่าง หนึ่งคือ เขาฝึกวิทยายุทธแบบพิเศษ สามารถซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาไว้ และอีกอย่างก็คือ เขาเป็นยอดฝีมือระดับที่หนึ่ง แข็งแกร่งมากกว่าพวกเขา ทำให้พวกเขามองไม่ออก
และเมื่อสักครู่เมิ่งฉิงต่อยแขนของชายที่มีรอยแผลเป็นละเอียดด้วยหมัดเดียว และต่อยศีรษะของเขาละเอียดด้วยหมัดเดียว
เหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าเมิ่งฉิงเป็นเป็นยอดฝีมือระดับที่หนึ่ง
ดังนั้นเมื่อชายทั้งสองคนรู้ตัวก็รีบหลันหลังและวิ่งหนีทันที
อย่างไรก็ตาม……
พวกเขาพึ่งจะวิ่งได้ไม่กี่ก้าว ก็พบว่าเมิ่งฉิงได้ยืนอยู่ข้างหน้าของพวกเขาแล้ว
เขารวดเร็วมากๆ เขาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาในชั่วพริบตา
เมื่อมองเห็นเมิ่งฉิง สีหน้าของทั้งสองคนก็เปลี่ยนไป ในขณะเดียวกัน ร่างกายของพวกเขาก็โจมตีทันที หยิบมีดที่อยู่ในมือฟันไปที่เมิ่งฉิง
เมิ่งฉิงสีหน้าปกติและแว๊บผ่านพวกเขาสองคนไป ดูเหมือนเขาไม่ได้ทำอะไร จากนั้นเดินไปหาฉีฉีด้วยท่าทางที่สงบ
แต่ชายสองคนนั้นยืนอยู่กับที่ไม่ขยับตัวเลย
เมิ่งฉิงอุ้มฉีฉีขึ้นมา เดินไปทางคฤหาสน์ของพวกเขาทีละก้าวๆ
เมื่อเมิ่งฉิงกับฉีฉีหายไปในความมืด ชายทั้งสองคนก็ล้มลงกับพื้น จนพวกเขาเสียชีวิตก็ไม่รู้ว่าตัวเองล่วงเกินผิดใจกับใคร และไม่รู้ว่าตัวเองเสียชีวิตยังไงด้วย
……
เมื่อฉีฉีได้สติก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอน
แต่เธอก็สังเกตได้ทันทีว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติไป เพราะเธอนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง มีนิ้วมือสองนิ้วลูบสัมผัสหลังของเธออยู่
ฉีฉีตกใจมาก อยากจะเคลื่อนไหว แต่ในวินาทีต่อมา เธอได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
“ตื่นแล้วเหรอ?”
ฉีฉีนิ่งไปชั่วครู่
เขาคือเมิ่งฉิง
“คุณกำลังทำอะไร?”ฉีฉีโกรธขึ้นมาทันที
เมิ่งฉิงพูดด้วยรอยยิ้ม:“ฉันเคยเรียนแพทย์มาก่อน เมื่อสักครู่เห็นคุณหมดสติไป ก็เลยรักษาให้คุณ เป็นเพราะเลือดลมติดขัด ฉันก็เลยช่วยนวดให้คุณ”
ฉีฉีชะงัก สงสัยอยู่ในใจ คุณเคยเรียนแพทย์ด้วยเหรอ?
ทันใดนั้น เธอก็รีบดึงผ้าห่มที่อยู่ข้างๆมาปิดร่างกาย มองเขาด้วยความโกรธ:“ทำไมคุณต้องถอดเสื้อผ้าของฉันด้วย?”
“การนวดถ้าไม่ถอดเสื้อประสิทธิผลจะไม่ดี!”เมิ่งฉิงพูดอย่างจำใจ“คุณไม่ต้องกังวล ตอนที่ฉันถอดเสื้อของคุณฉันหลับตาอยู่ คุณยังไม่ได้ให้คำตอบกับฉัน ฉันจะไม่รังแกหรือเอาเปลี่ยนคุณแน่นอน”
“ห้ามพูดอีก!”ฉีฉียิ่งโกรธมากขึ้น
เมิ่งฉิงไม่กล้าพูดอะไรต่อ รีบปิดปากทันที
จากนั้นฉีฉีนึกถึงชายสามคนนั้น เธอขมวดคิ้วและถาม:“พวกเขาอยู่ไหน?”
เมื่อเมิ่งฉิงได้ยินก็ยิ้มออกมา แล้วพูดอย่างตื่นเต้น:“คุณไม่รู้หรอก ตอนนั้นคุณหมดสติและไม่ได้เห็นมัน มันช่างน่าทึ่งมากๆ”
“ตอนนั้นพวกเขาจะฆ่าพวกเราให้ตาย จู่ๆก็มีคนอายุสี่ห้าสิบปรากฏตัว เขาใช้หมัดต่อยพวกเขาจนล้มลงทีละคน เหมือนกับการสร้างหนังกำลังภายในเลย”
เมื่อฉีฉีได้ยินก็ขมวดคิ้วและครุ่นคิด“อายุสี่ห้าสิบ?”
ในเวลานี้ ได้มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องนอน
เมิ่งฉิงรู้ว่าเป็นสายโทรศัพท์ของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงหยิบออกมาดู เห็นว่าไป๋ยี่เฟยเป็นคนโทรมาหาเขา ม่านตาของเขาก็หดตัวทันที
ฉีฉีจ้องมองเมิ่งฉิงด้วยความอยากรู้ ใครโทรหาคุณกันแน่
เมิ่งฉิงวางสายด้วยสีหน้าปกติ พูดด้วยรอยยิ้ม:“เป็นพวกขายประกัน ตอนเช้าก็เคยโทรมาแล้ว เคยบอกแล้วว่าไม่ซื้อแต่ก็ยังโทรมาอีก น่ารำคาญจริงๆ
……
ในเวลาเดียวกัน ไป๋ยี่เฟยที่โดนตัดสาย สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม
ไป๋ยี่เฟยสงสัย เมิ่งฉิงเป็นผู้ประสานงานระหว่างพวกเขา ดังนั้นฉีฉีควรจะถูกเขาควบคุมตัวไว้ เมื่อตัวเองโทรศัพท์ไป เขาควรถือโอกาสนี้เรียกร้องข้อเสนอต่างๆ?
และผู้คนจำนวนมากมุ่งเป้ามาที่เขา ไม่ใช่เพราะต้องการคลังเก็บทองที่สามเหรอ?
ทำไมเขาถึงตัดสาย?
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยอยู่ในห้องของคฤหาสน์ตระกูลหง ในห้องนี้นอกจากเขาแล้วยังมีอีกคนคือซาเฟยหยาง
ไป๋ยี่เฟยไม่วางใจ และกำลังจะโทรศัพท์หาหลี่เฉียงตงอีกครั้ง
ซาเฟยหยางส่ายหัวแล้วหยุดเขาไว้“ไม่ต้องโทรแล้ว”
“เพราะอะไร?”ไป๋ยี่เฟยมองซาเฟยหยางอย่างงุนงง
ซาเฟยหยางถามเขากลับ:“คุณเชื่อใจฉันไหม?”
พวกเขารู้จักกันมานาน ไป๋ยี่เฟยเชื่อใจเขาอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและพูด:“เชื่อใจ”
ซาเฟยหยางพยักหน้าและยิ้ม จากนั้นพูดเบาๆ:“ตอนนี้คุณควรจัดการเรื่องของที่นี่ก่อน เรื่องของเมืองเทียนเป่ย คุณไม่ต้องไปสนใจ”
เมื่อไป๋ยี่เฟยได้ยินก็ขมวดคิ้วทันที
ถึงแม้ว่าไป๋ยี่เฟยจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยมากนัก แต่ซาเฟยหยางตั้งแต่ยี่สิบปีที่แล้วก็โด่งดังเรื่องนี้ คิดว่าเขาคงจะมีความสามารถด้านนี้จริงๆ
ไป๋ยี่เฟยควรเชื่อเขา
แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับฉีฉีที่เป็นน้องสาวของสวีลั่ง ทำให้เขาไม่ค่อยสบายใจ ถ้าฉีฉีเกิดอะไรไม่ดีขึ้น เขาไม่รู้จะพูดกับสวีลั่งยังไง
ซาเฟยหยางรู้ว่าเขากังวลเรื่องอะไร ดังนั้นจึงพูดกับเขาอย่างจริงจังว่า:“ไม่ต้องกังวล ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถรับประกันได้ว่าเธอจะไม่บาดเจ็บ แต่ฉันกล้ารับประกันได้ว่า เธอไม่ตายแน่นอน”
“ฉันเคยมองโหงวเฮ้งบนใบหน้าของเธอ และคำนวณแล้วว่าเธอไม่ใช่คนที่อายุสั้น อย่างน้อยเธอยังสามารถอยู่ได้อีกสี่สิบปี”
เมื่อไป๋ยี่เฟยได้ยินก็รู้สึกตกใจ“เรื่องอย่างนี้ก็สามารถดูออกเหรอ?