ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 818
ไป๋ยี่เฟยเอนกายที่ลำต้น มองดูทะเลมืดที่อยู่ข้างหน้า ก็อยากจะเจอหลี่เสว่มากอย่างกะทันหัน อยากกลับบ้าน และคิดถึงความอบอุ่นของความผูกพันของเขา
ไป๋ยี่เฟยคิดว่า พวกเขาอยู่บนเกาะร้าง แตกต่างอะไรกับการตาย?
ตัวเองจะต้องจบชีวิตลงบนเกาะแห่งนี้ กับคู่พี่น้องที่แทบจะต้องการฆ่าตัวเองจริงๆเหรอ?
ไม่!
เขาไม่ต้องการ!
…..
แสงของดวงอาทิตย์ค่อยๆลอยขึ้นจากขอบฟ้าของท้องทะเล ทำให้ระดับน้ำทะเลสว่างขึ้น และก็ส่องแสงสว่างให้เกาะเล็กแห่งนี้
หลังจากที่ลู่เหมียวเหมียวตื่นขึ้นมาเห็นไป๋ยี่เฟย ไป๋ยี่เฟยก็ตื่นขึ้นมาแล้ว กำลังนั่งอยู่บนเกาะเล็ก
ลู่เหมียวเหมียวเดินเข้าไป ถามไป๋ยี่เฟยเบาๆว่า: “คุณ…..รู้ว่าจะกลับไปได้ยังไงมั้ย?”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้พูด
สีหน้าของลู่เหมียวเหมียวซีด“พวกเรา…..กลับไปไม่ได้แล้วใช่มั้ย?”
ไป๋ยี่เฟยพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “โทรศัพท์ของฉันมีที่ติดตาม หลังจากที่พวกเขาพบว่าฉันหายไปก็จะมาหาฉัน และในไม่ช้าก็จะกลับไป”
เมื่อพูดเสร็จ ลู่เหมียวเหมียวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่ไป๋ยี่เฟยกลับแอบสูดลมหายใจ
เพราะเขาโกหก ตอนที่อยู่บนเรือ เขาถูกตัดสัญญาณ จางหัวปินพวกเขาไม่รู้ตำแหน่งของไป๋ยี่เฟยด้วยซ้ำ
เหตุผลที่ไป๋ยี่เฟยพูดแบบนี้ เพียงแค่ต้องการให้พวกเขาคิดว่าสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ถ้าอย่างนั้นในใจก็มีความหวัง เกิดคนมีความหวัง ก็จะกระตุ้นศักยภาพ
ศักยภาพนี้จะช่วยให้พวกเขายืนหยัดอยู่บนเกาะร้างแห่งนี้ได้อีกหลายวัน
ในใจของไป๋ยี่เฟยเศร้าสลด : ครั้งนี้เกรงว่าคงต้องตายจริงๆแล้ว
ครั้งที่แล้วถูกวางยาพิษไม่ได้ทำให้เขาถึงตาย ครั้งนี้กลับติดอยู่บนเกาะร้าง และติดจนตาย
ไป๋ยี่เฟยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะตัวเอง
แต่ในเวลานี้ น้ำเสียงตื่นเต้นของลู่เหมียวเหมียวก็ดังขึ้นมา“ดูสิ! นั่นคืออะไรนะ?”
ไป๋ยี่เฟยเงยหน้าขึ้น พบว่าลู่เหมียวเหมียวกำลังชี้ไปที่สถานที่แห่งหนึ่ง เขามองไปอย่างรวดเร็ว พบว่ามีจุดสีดำอยู่บนทะเล กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ผ่านไปสิบนาทีพวกเขาก็เห็นชัดเจนว่า นั่นเป็นเรือลำหนึ่ง
ลู่เหมียวเหมียวก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น“เป็นเรือ พวกเรามีทางรอดแล้ว ดีจังเลย คุณไม่ได้หลอกพวกเรา พวกเขามาหาอย่างแน่นอน!”
อย่างไรก็ตามเมื่อไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดนี้กลับตื่นตระหนก และอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เรือในทะเล
ทันใดนั้น เขาก็พบว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
ความเร็วของเรือนั้นรวดเร็วมาก ที่สำคัญยังแกว่งไปแกว่งมา รัศมีในการสั่นสะเทือนก็ใหญ่มาก ต้องรู้ว่าทะเลในตอนนี้สงบมาก และไม่มีคลื่นเลย
เรือค่อยๆใกล้เข้ามา
หลังจากที่เห็นรูปลักษณ์ของเรือ ลู่เหมียวเหมียวก็รู้สึกสงสัย: “เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?”
เคยเห็นเหรอ?
ไป๋ยี่เฟยตกใจทันที ลุกขึ้นมา ในเวลาเดียวกันก็ตะโกน: “แย่แล้ว รีบซ่อนตัวเร็วเข้า!”
ลู่เหมียวเหมียวนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม“ทำไมต้องซ่อนตัวด้วย?”
เดิมทีเธอคิดว่าอยู่บนเกาะร้างนี้ ไม่ได้อยู่ในเส้นทางของเรือ พวกเขาจะติดอยู่ที่นี่จนตาย แต่ว่าคำพูดเมื่อกี้นี้ของไป๋ยี่เฟยและเรือที่แล่นผ่านมาทางนี้ ทำให้เธอมีความหวัง
ตอนนี้พวกเขาจะมีทางรอดแล้ว หรือว่าไม่ควรโบกมือให้พวกเขามาช่วยชีวิตเหรอ?
ทำไมต้องหลบซ่อนตัวด้วย?
ลู่เหมียวเหมียวยืนนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม รวมทั้งเธอเป็นไข้ด้วย ขาก็ได้รับบาดเจ็บ อ่อนแอมาก ไป๋ยี่เฟยขี้เกียจที่จะอธิบายให้เธอฟัง ยื่นมือไปดึง แบกเธอขึ้นบนหลังของตัวเอง
“โอ๊ย!”
ลู่เหมียวเหมียวอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
ไป๋ยี่เฟยกลับไม่ได้สนใจมากนัก แบกลู่เหมียวเหมียวมุดเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่วิ่งไปได้สักพัก ทั้งสองคนก็ซ่อนตัวอยู่ในที่ย้อนแสง แอบสังเกตดูเรือใหญ่ที่แล่นเข้ามา
เมื่อเรือยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้ ลู่เหมียวเหมียวก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมไป๋ยี่เฟยต้องให้เธอซ่อนตัวด้วย
เพราะเรื่องลำนั้นเป็นเรือของเต้าจ่าง และก็เป็นเรือลำที่พวกเขาโดดลงทะเล
แต่สิ่งหนึ่งที่น่าแปลกก็คือ เรือกำลังจะเทียบท่าแล้ว แต่ความเร็วกลับไม่ได้ลดลงมา ที่สำคัญทั้งลำตัวยังแกว่งไปแกว่งมา ซึ่งดูไปแล้วแปลกมากกว่าเดิม
“ตูมมมม!”
เสียงดังสะท้านฟ้าและดินทรายบนท้องฟ้า
เรือไม่ได้แล่นช้าลง พุ่งมาบนชายหาด ชนเข้ากับบนพื้นดิน
เพราะความไม่เสถียรที่เกิดจากผลกระทบมหาศาล กลายเป็นลักษณะพลิกคว่ำ
หลังจากที่พลิกคว่ำ ไป๋ยี่เฟยและลู่เหมียวเหมียวถึงได้เห็นว่า มีรอยใหญ่แตกหลายรอยอยู่บนตัวเรือ ดูท่าทางเหมือนโดนอะไรกระแทกมา และเปลี่ยนรูปร่างไปแล้ว
ลำตัวของเรือเข้าไปในน้ำ เรือกำลังจะจมแล้ว ดังนั้นหลังจากที่เห็นพื้นดินก็พุ่งเข้ามาอย่างด้วยความเร็วที่ไม่ลด
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยเห็นตัวก็ประหลาดใจมาก นั่นเป็นตัวเรือที่เป็นโครงเหล็ก ของอะไรกันแน่ที่สามารถกระแทกเรือทำให้มีรอยหลุมได้?
แต่เขาก็เพียงแค่คิดไปครู่หนึ่ง เนื่องจากมีอะไรอยู่ในทะเลลึก ใครจะไปรู้? แม้แต่ประเทศก็ยังสำรวจไม่หมดด้วยซ้ำ เขาแค่คนธรรมดาคนหนึ่งก็ยิ่งไม่รู้
ผ่านไปครู่หนึ่ง มีคนลงมาจากบนเรือยี่สิบสามสิบคน รวมทั้งเต้าจ่างและยอดฝีมือระดับที่สองทั้งสองคนที่เหลืออยู่
คนอื่นๆเป็นลูกเรือและคนงาน
หลังจากที่ลงจากเรือบางคนก็ล้มลงกับพื้น ขณะที่บางคนเดินกะโผลกกะเผลก เดินไปถึงที่ที่สะอาด แล้วนั่งลง
ยังมีคนกำลังสนทนาอะไรบางอย่างอยู่ แต่เพราะอยู่ไกลเกินไป พวกเขาจึงไม่ได้ยินสิ่งที่พูดอย่างชัดเจน
ไป๋ยี่เฟยตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และกระซิบบอกกับลู่เหมียวเหมียว: “อย่าส่งเสียง! ต้องการมีชีวิตอยู่ก็ต้องออกจากที่นี่ก่อน”
ลู่เหมียวเหมียวพยักหน้าทันที
พวกเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของเต้าจ่าบนเรือแล้ว แค่พวกเขาทั้งสามคน ตอนนี้เป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเต้าจ่างโดยสิ้นเชิง ดังนั้นทำได้เพียงซ่อนตัว
ดังนั้นทั้งสองคนจึงกลับไปที่สถานที่เดิมของพวกเขาอย่างเงียบๆ ลู่เหมียวเหมียวไปปลุกลู่หยางที่หลับไปอีกครั้ง
ไป๋ยี่เฟยกลับเริ่มใช้มือไปขุดดินบนพื้นดิน
ลู่หยางตื่นขึ้นมา ลู่เหมียวเหมียวอธิบายให้เขาฟัง และในขณะที่ในใจก็ตื่นตระหนกมองไปที่ไป๋ยี่เฟยอย่างไม่เข้าใจแล้วถามว่า: “เขากำลังทำอะไร?”
ลู่เหมียวเหมียวส่ายหน้า เธอก็ไม่รู้เหมือนกัน
ในเวลานี้ควรจะรีบหนีก่อนไม่ใช่เหรอ? ขุดดินทำไม?
แต่หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็เข้าใจ
ไป๋ยี่เฟยขุดหลุมเล็กๆออกมาได้หนึ่งหลุม ต่อจากนั้นฝังกองไฟและขี้เถ้าทั้งหมดลงไปในหลุม
นี่เป็นการทำลายร่องรอยที่พวกเขาเคยมาที่นี่ ไม่อย่างนั้นเต้าจ่างพวกเราคงจะรู้ว่าที่นี่เคยมีคนอยู่มาก่อนอย่างแน่นอน
ด้วยมันสมองของเต้าจ่าง คาดเดาออกมาได้ไม่ยากว่าคนที่เคยมาที่นี่ก็คือไป๋ยี่เฟยพวกเขา
แต่เต้าจ่างตอนนี้ อาจจะคิดว่าพวกเขาตายในทะเลกันหมดแล้ว
หลังจากที่ลู่เหมียวเหมียวเห็นกลับยังคงกังวลเล็กน้อย: “ยังมีรอยเท้าของพวกเราอยู่บนพื้นดิน ที่สำคัญร่องรอยของการกลบดินก็เห็นได้ชัดมาก สามารถปิดบังได้เหรอ?”
“ความหวังนะ” ไป๋ยี่เฟยพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ตอนนี้ลู่หยางก็รู้ว่าไป๋ยี่เฟยไม่มีทางทำร้ายพวกเขา ความกล้าหาญก็เพิ่มขึ้นมา และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะเขา“นายนี่มันกระจอก อยากปกปิดซ่อนเร้นกลับกลายเป็นการเปิดเผยให้โลกรู้ ทั้งที่รู้ว่าเกาะนี้เล็กขนาดนี้ พวกเขาคงจะมาอย่างแน่นอน จะมีประโยชน์อะไร?”
“ยังมีความหวังเหรอ? หวังอะไรเหรอ? หวังว่าพวกเราจะไม่ถูกพวกเขาค้นพบเหรอ? เป็นไปได้อย่างไร?”
ไป๋ยี่เฟยไร้อารมณ์กับคำพูดของลู่หยาง เพียงแค่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “อย่าทำตัวเป็นหญิงปากร้ายโวยวายบนท้องถนน พูดจากลับตาลปัตร ต้องจำไว้ นายเป็นผู้ชาย”
ลู่หยางถูกพูดแบบนี้ ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างชี้ไปที่ไป๋ยี่เฟยอย่างโกรธเคือง“นายนะสิหญิงปากร้าย!”
“ตอนนี้ก็ยิ่งเหมือนหญิงปากร้าย” ไป๋ยี่เฟยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ลู่หยาง: “…..”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจลู่หยาง แต่พูดกับลู่เหมียวเหมียวว่า: “พวกเราต้องเดินเข้าไปข้างในต่อไป เธอทำได้เพียงอดทนต่ออาการบาดเจ็บ”
ลู่เหมียวเหมียวทำได้เพียงพยักหน้า
ลู่หยางจ้องมองไปที่ไป๋ยี่เฟยอย่างโกรธจัด แต่กลับไม่ได้พูดอะไร
ต่อจากนั้นไป๋ยี่เฟยก็คำนึงถึงอาการบาดเจ็บของลู่เหมียวเหมียว ยังแบกเธอไว้บนร่างกาย จากนั้นให้ลู่หยางตามอยู่หลังของเขา พวกเขาก็เดินไปอีกฟากหนึ่งของเกาะ