ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 82
บทที่ 82
ในหมู่พวกเขา มีใบหน้าดุร้ายและชั่วร้าย และมีรอยแผลมีดที่น่ากลัวบนใบหน้า
หลังจากที่ไอ้หน้าแผลมีดเข้ามาก็เอาไม้เคาะโต๊ะในห้องประชุม “ใครกล้ามีเรื่องในหลิ่วซื่อกรุ๊ป
เสนอหน้าออกมาตอนนี้เลย!”
หลิ่วจาวเฟิงเห็ไอ้หน้าแผลมีดมาแล้ว ก็หัวเราะขึ้นมา “ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า…..”
“ไป๋ยี่เฟย! วันนี้กูไม่ปล่อยให้มึงออกจากหลิ่วซื่อกรุ๊ปได้แน่!”
เพราะไป๋ยี่เฟยหันไปคุยกับหลิ่วหลง เลยหันหลังให้กับไอ้หน้าแผลมีด หลังจากได้ยินเสียงของหลิ่วจาวเฟิง เขาก็เหลือบมองหลิ่วจาวเฟิงอย่างบูดบึ้ง ก่อนจะหันไปพร้อมขมวดคิ้ว
“ไอ้อกตัญญู ไอ้คนพวกนี้ ไอ้พวกนี้แกเป็นคนหามาเหรอ? แกหามาทำไม?”หลิ่วหลงชี้ไปที่กลุ่มคนพวกนั้น แม้แต่นิ้วมือก็สั่น
หลิ่วจาวเฟิงแสยะยิ้มแล้วลุกขึ้นยืมจากเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ และเปรอะเปื้อนด้วยเลือด “พ่อ เรื่องนี้พ่ออย่ายุ่งดีกว่า ให้เป็นหน้าที่ของผม!”
รอบก่อนไป๋หู่บุกรุกอุตสาหกรรมเหล็กหลิ่วซื่อ หลิ่วจาวเฟิงก็ได้ติดต่อไอ้หน้าแผลมีด เพื่อจะจัดการฆ่าไป๋ยี่เฟย ในสายตาเขา ต่อให้ไป๋หู่จะเก่งแค่ไหน ก็คงสู้ไอ้หน้าแผลมีดไม่ได้หรอก?
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยเจอกับไอ้หน้ารอยมีด ก็ไม่เจรจาต่อรองกันได้ หลังจากที่ ไป๋ยี่เฟยมาได้สักครู่ เขาก็ส่งข้อความหาไอ้หน้าแผลมีดให้พวกเขารีบมา
หลิ่วหลงยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนี้ “ไอ้ลูกอกตัญญู! แกคิดจะทำอะไรของแกกันแน่?”
“พ่อ พ่อลองคิดดูดีๆ ยังไงพวกเราก็มีปัญหากับโหวจวี๋กรุ๊ปอยู่แล้ว ยังไงอนาคตเขาก็ไม่ปล่อยพวกเราหรอก ถ้าอย่างงั้นก็ให้เรื่องมันจบวันนี้ไปเลย วันนี้เราก็เปลี่ยนประธานคนใหม่ของโหวจวี๋กรุ๊ป และยิ่งไปกว่านั้น อีกหน่อยโหวจวี๋ก็เป็นของพวกเราหลิ่วซื่อ!”
เมื่อพูดจบ หลิ่วหลงก็อึ้ง และหลบตาเล็กน้อย
ที่หลิ่วจาวเฟิงพูดมาก็เหตุผล โหวจวี๋กรุ๊ปก็เกิดความขุ่นเคือง อีกหน่อยเป็นการยากที่จะความสัมพันธ์นั้นจะพัฒนาดีขึ้น งั้นสู้เปลี่ยนประธานที่สามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับเขาไม่ดีกว่าเหรอ
เมื่อเห็นหลิ่วหลงไม่พูดแล้ว หลิ่วจาวเฟิงก็ยืนขึ้นเหมือนกับไก่ที่ได้รับชัยชนะและพูดอย่างภาคภูมิใจ แล้วพูดขึ้น: “ไป๋ยี่เฟย! มึงรนหาที่ตายเองนะ จะโทษใครไม่ได้!”
“เมื่อกี้มึงกล้าสั่งให้พ่อกูตีกู! แม่งเอ๊ยกล้าสั่งพ่อกู! มึงนี่มันไอ้หมา!”
“วันนี้กูจะฆ่ามึง แล้วประกาศออกไปว่ามึงหายตัวไปอย่างลึกลับ แล้วหาคนที่คล้ายๆกับมึงมาขับของมึงไป จากนั้นก็เอาร่างของมึงโบกปูนฝั่งดิน ก็ไม่มีใครรู้แล้วว่ามึงหายไปไหน!”
“ทุกวันนี้มีคนหายตัวไปมากมาย ใครจะมาสนใจว่ามึงตายหรือไม่ตาย?”
“ฮ่า ฮ่า ……”
หลิ่วจาวเฟิงยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น เมื่อเขานึกถึงเรื่องที่พูด ราวกับว่าเกิดขึ้นจริง เขาเริ่มมองเห็นอนาคตที่สดใส เช่นการที่ไป๋ยี่เฟยตาย หลี่เสว่ก็ตกเป็นของเขา
เมื่อหลิ่วหลงได้ยินแบบนี้ก็จับที่หน้าอกแล้วพูด: “แก แกมัน……”
ตอนนี้เขาพูดไม่ออกสักคำ ได้แต่ก้มหน้าก้มหัวยอมรับกับสิ่งที่หลิ่วจาวเฟิงทำ ตอนนี้ก็แกล้งทำราวกับว่า เขาโกรธมากจนพูดไม่ออก
ในที่สุดหลิ่วจาวเฟิงก็พอใจ และพูดกับไอ้หน้าแผลมีดว่า: “ พี่เตา จัดการฆ่าไป๋ยี่เฟยสัก ตามสิ่งที่คุยกันก่อนหน้าเลย ราคาก็แล้วแต่พี่จะเรียก”
พูดจบ เขาก็มองไปที่ไป๋ยี่เฟยอย่างมีชัย และมองไปที่ไอ้หน้าแผลมีดแล้วยิ้มแปลกๆ
ใบหน้าของไอ้หน้าแผลมีดดูหมองคล้ำ
เมื่อกี้ตอนที่ไป๋ยี่เฟยหันหน้ากลับไปไอ้หน้าแผลมีดเพิ่งเห็นหน้าคนที่เขาจะต้องจัดการอย่างชัดเจนคือไป๋ยี่เฟย ดังนั้นเขาจึงอึ้ง
ยิ่งฟังในสิ่งที่หลิ่วจาวเฟิงพูด เขาก็รู้ว่าตัวเองจบแหแน่ๆ
“เจ้า…..เจ้า…..สวัสดีครับเจ้านาย……”ไอ้หน้าแผลมีดกลืนน้ำลาย และฝืนยิ้ม
เรียกจบ ไอ้หน้าแผลมีดก็มองไปที่ไป๋หู่อย่างเกร็งๆ เขาไม่อยากจะรื้อฟื้นว่าไป๋หู่นั้นแกร่งแค่ไหน ไม่รู้ว่ารอบนี้จะทำให้เจ้านายโกรธหรือเปล่า?
จะว่าไปทำไมรอบนี้เจอเจ้านายอีกแล้วเนี่ย? เจ้านายเราก็หาเรื่องเก่งเหมือนกันนะเนี่ย!
ไป๋ยี่เฟยเหลือบไปมองไอ้หน้าแผลมีดอย่างเฉื่อยชา ไม่พูดอะไร
ส่วนหลิ่วจาวเฟิงที่นึกว่าไอ้หน้าแผลมีดเรียกเขา เพราะเขาก็คือคนที่ออกเงินค่าจ้างมาฆ่าไป๋ยี่เฟย เรียกเจ้านายสักคำก็เป็นเรื่องปกติ
“หลิ่วจาวเฟิงก็ใช้น้ำเสียงอย่างคนเป็นเจ้านาย “เห้ย พี่ไม่ต้องกังวล เรื่องเงินให้พี่ไม่น้อยแน่ พี่จัดการให้สะอาดก็พอแล้ว”
ไอ้หน้าแผลมีดหน้าเปลี่ยนสี “ไอ้เวร! มึงหุบปากซะ!”
พูดเช่นนี้ในเวลาแบบนี้ ไอ้หน้าแผลมีดก็จ้องมองไปที่หลิ่วจาวเฟิง อย่างกับจะฆ่าเขาทั้งเป็น
หลิ่วจาวเฟิงในเวลานี้ก็อึ้ง
คนอื่นๆก็อึ้งเช่นกัน
ไอ้หน้าแผลมีดก็ไม่สนใจหลิ่วจาวเฟิง แต่กลับเดินไปตรงหน้าไป๋ยี่เฟย ยิ้มให้เขาแล้วพูดว่า “สวัสดีครับเจ้านาย”
อยู่วงการนี้มานาน ก็พอรู้ว่าเลือกฝ่ายไหนดีกว่า หลิ่วซื่อกรุ๊ปก็ดี แต่โหวจวี๋กรุ๊ปคือผู้นำของเมืองเทียนเป๋ย และยังเป็นเจ้านายที่ใจกว้างมาก คนเหล่านี้เทียบไม่ติดเลย
หลิ่วจาวเฟิงมองอย่างอึ้งๆ ทั้งๆที่เขาเป็นคนเรียกพี่เตามาเอง และเขายังเป็นคนที่ทำข้อตกลงกับไอ้หน้าแผลมีด ทำไมถึงเรียกไป๋ยี่เฟยว่าเจ้านาย?
อย่าบอกนะว่าไป๋ยี่เฟยจะรู้กับไอ้หน้าแผลมีดงั้นเหรอ?
ในขณะนั้น สมองของหลิ่วจาวก็ไม่เพียงพอต่อความคิดแล้ว
ไป๋ยี่เฟย เหลือบไปมองสมาชิกทั้งหลายของหลิ่วซื่อกรุ๊ป หัวเราะเบาๆ แล้วพูดช้าๆ: “ความจริงแล้ว ฉันก็ว่าจะปล่อยพวกแกไปนะ แต่ใครบอกให้พวกแกหันหน้าเข้าหากระบอกลูกกระสุนเองล่ะ?”
ไอ้หน้าแผลมีดก็ถามทันที: “เจ้านาย จะให้จัดการพวกเขาตามวางแผนที่เขาวางไว้หรือเปล่าครับ?”
คนอย่างพวกเขาคือตาต่อตาฟันต่อฟัน หรือโหดกว่านั้น
หลิ่วจาวเฟิงได้ยินคำพูดเช่นนี้ก็ตกใจกลัว แล้วถามขึ้นอย่างเสียงสั่น: “ไป๋ยี่เฟย! นี่ผิดกฎหมายนะ!แกกล้าเหรอ!”
ไป๋ยี่เฟิงมองดูเขาอย่างว่างเปล่า “แกทำไม่ผิดกฎหมาย แต่ฉันทำผิดกฎหมาย? อีกอย่าง ทำไมฉันจะไม่กล้า?”
หลิ่วจาวเฟิงก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินคำพูดนั่นหัวใจก็เต้นรัว
หลิ่วเซียวเหยาเมื่อเห็นเช่นนี้ก็กะพริบดวงตา และไม่ได้ห้ามปรามเขา
หลิ่วหลงจะไม่พูดก็ไม่ได้: “ท่านประธานไป๋ครับ อย่าทำอะไรที่มันรุนแรงเกินไปนะ!”
ถึงยังไงหลิ่วจาวเฟิงก็เป็นลูกชายของเขา จะให้เขายืนมองดูลูกชายเขาถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาได้ยังไง ถึงแม้ว่าลูกชายคนนี้จะไม่ค่อยได้เรื่องสักเท่าไหร่
ไป๋ยี่เฟยยิ้มๆ
“คนมันจะไร้ยางอายก็ควรมีขีดจำกัดบ้าง ฉันทำเรื่องก็มีขอบเขต แล้วพวกคุณล่ะ?”
เมื่อพูดจบ กลุ่มคนของหลิ่วซื่อก็รู้สึกปวดแสบบนใบหน้า
หลิ่วหลงก็ยิ่งสำลักกับคำพูดตัวเองถึงกลับพูดไม่ออก
ตอนแรกไป๋ยี่เฟยก็ว่าปล่อยคนของหลิ่วซื่อ แต่หลิ่วจาวเฟยกลับเรียกคนมาจัดการฆ่าไป๋ยี่เฟย แถมยังจะเปลี่ยนประธานของโหวจวี๋กรุ๊ปอีก แล้วหวังจะหุบโหวจวี๋กรุ๊ปอีก!
ไป๋ยี่เฟยแค่ต้องการที่จะแสดงอำนาจให้ทุกคนเห็น ยิ่งไปกว่านั้น ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ต้องการที่จะฆ่าหลิ่วจาวเฟิง
ในฐานะพลเมืองที่ดี เขาก็ยังคงมีศีลธรรมอยู่
เหตุผลที่เขาไม่ยับยั้งไอ้หน้าแผลมีด เขาแค่ต้องการทำให้หลิ่วจาวเฟิงกลัว ให้เขาอยู่เฉยๆแค่นั้น
ไป๋ยี่เฟยทำเสียงอย่างกับดูถูกเบาๆ หึ และพูดกับหลิ่วจาวเฟิง :“หลิ่วจาวเฟิง แกรนหาที่ตายเองนะโทษใครไม่ได้ แต่ว่าแกไม่ต้องกังวล ฉันไม่จัดการฆ่าแกแน่ ถ้าจะจัดการ ก็จะจัดการกับอุตสาหกรรมที่เป็นชื่อของแก ”
“ดังนั้น……เตรียมตัวรอความฉิบหายได้เลย!”
พูดจบ ไปยี่เฟยก็มองไปที่ไป๋หู่กับหน้าแผลมีด แล้วเดินออกจากห้องประชุมไป
เมื่อเห็นเช่นนั้นไป๋หู่ก็เดินตาม
ไอ้หน้าแผลมีดก็ทักทายกับพี่น้องตัวเอง และคนทั้งกลุ่มก็เดินตามออกมาจากห้องประชุม
เมื่อกี้ทำให้เขาเองรู้สึกเหมือนกับว่าจะตายในไม่กี่อึดใจหลิ่วจาวเฟิงยังคงอยู่ในความตื่นตระหนกและหวาดกลัว เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋ยี่เฟยยิ่งท้อแท้ ยืนยันไม่อยู่ แล้วล้มลงนั่งกับเก้าอี้ข้างๆ
คนอื่นๆก็มองหน้ากัน
หลิ่วหลงก็สั่นสะท้านไปด้วยความโกรธ หน้าอกก็หายใจขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง
“เพี๊ยะ!” หลิ่วหลงตบหลิ่วจาวเฟิงด้วยความแรงและที่ดังที่สุดในวันนี้
หลิ่วจาวเฟิงก็ตื่นขึ้นจากความเหม่อลอย
“พ่อ……”
“อย่ามาเรียกฉันว่าพ่อ! ฉันไม่มีลูกอกตัญญู!เดรัจฉาน! ไร้ประโยชน์แบบแก ”หลิ่วหลงพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
เมื่อนึกถึงเมื่อกี้ไป๋ยี่เฟยยังล่ะเว้นเรื่องที่จะโจมตีหลิ่วซื่อกรุ๊ป แต่ทุกอย่างกลับพังเพราะหลิ่วจาวเฟิง และยิ่งทำให้พวกเขาทำให้มีปัญหากับโหวจวี๋กรุ๊ปไปใหญ่!