ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 880
ฉีฉีถามอีกว่า “คลอดได้อะไรล่ะ?”
“เอะ…….” ไป๋ยี่เฟยเกือบจะไม่ทันมีปฏิกิริยา “คลอด…….คลอดได้แฝดชายหญิง”
“ว้าว โอ้ว!” ฉีฉีอุทานด้วยความตื่นตะลึงเสียงหนึ่ง ในเสียงแฝงไว้ด้วยความอิจฉานิดๆ “งั้นคุณจะไม่คบทั้งหญิงทั้งชายหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดนี้หัวเราะอยู่ อืม เสียงหนึ่ง แต่ในเวลานี้เขาจะพันบาดแผล แต่เพราะว่าอยู่ข้างหลัง ถ้าจะพันไว้ละก็ต้องอ้อมไปข้างหน้า
ไป๋ยี่เฟยหยุดชะงักไปเลย “ถ้าไม่คุณ…….”
สิ่งที่ไป๋ยี่เฟยอยากจะพูดคือ เขายื่นผ้าไปยังข้างหน้า ฉีฉีจับผ้าอ้อมมาด้วยตนเอง จากนั้นค่อยส่งมาให้เขา อย่างนี้ก็จะพันไว้ได้แล้ว
แต่ว่าอยู่ดีๆฉีฉีหมุนตัวมา ไป๋ยี่เฟยตื่นตกใจหนึ่งที นิ่งอึ้งไปเลยโดยตรง
ฉีฉีกลับหัวเราะว่า “ยังไงหรือ? คุณยังอายหรือ? ก่อนหน้านั้นก็ไม่ใช่ไม่เคยพันบาดแผลให้กับฉันล่ะ!”
ไป๋ยี่เฟยหยุดชะงัก อดไม่ได้ที่จะนึกถึง: ฉีฉีไม่ใช่เกลียดสิ่งนี้ที่สุดเลยหรือ?
จากนั้นไป๋ยี่เฟยถอยไปข้างหลังหนึ่งก้าวโดยตรง
ฉีฉีเห็นสภาพเดินไปยังข้างหน้าก้าวหนึ่ง
อยู่ดีๆไป๋ยี่เฟยยื่นมือออกไป ทุบฉีฉีจนสลบไปเลย จากนั้นเขารับฉีฉีไว้ทันที ในเวลาเดียวกัน เขาร้องตะโกนกับฉินหัวที่อยู่กล่องฝั่งโน้น “พี่ ระวัง ที่นี่มียาพิษ!”
แต่ว่า ยังคงสายเกินไป
ไป๋ยี่เฟยยื่นมือใช้เสื้อผ้าห่อฉีฉีไว้ อุ้มเธอไว้เดินออกไป กลับพบเห็นว่าฉินหัวกำลังยืนอยู่ที่ห่างจากพวกเขาไม่ไกล แต่ว่าสีหน้าเขาขึงลับ นัยน์ตาแฝงไว้ด้วยแสงเย็น ลักษณะท่าทีเหมือนดั่งอยากจะฆ่าอย่างรุนแรง
ในใจไป๋ยี่เฟยดังกุ๊กๆเสียงหนึ่ง หมุนตัววิ่งไปทิศทางตรงกันข้าม
ทิศทางข้างหลังเป็นเขตที่มีกล่องมากมายกองไว้ เพราะว่ากล่องมากเกินไป มีจุดปิดคลุมมากมาย กลายเป็นเขาวงกตแห่งหนึ่งโดยปริยาย
แต่ว่าวินาทีถัดมา ก็มีเสียงดังส่งออกมาเสียงหนึ่ง
“ตูม!”
กล่องระเบิดตามมา ทองคำแท่งแวววาวลอยกระจายทั่วอากาศ
ทองคำแท่งลอยพุ่งเข้ามา ไป๋ยี่เฟยโดนแล้ว ประคองความสมดุลของร่างกายไม่ได้ พุ่งไปยังกล่องอีกอันหนึ่งอย่างรุนแรง
เพิ่งทุ่มตัวลงไป เขายังไม่ทันที่จะลุกขึ้น พอเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นฉินหัว ถึงขนาดมาอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว หัวเข่ากำลังจะทุ่มลงไปอย่างกะทันหัน
โดยสัญชาตญาณไป๋ยี่เฟยโอบกอดฉีฉีไว้กลิ้งไปยังข้างๆ
“ปั้ง!”
หัวเข่าของฉินหัวทุ่มลงอยู่บนพื้น ยังทุ่มเป็นหลุมออกมาอันหนึ่ง
ไป๋ยี่เฟยหลบพ้นจากการโจมตีนี้อย่างอันตราย ไม่งั้นละก็ เกรงว่าหัวเข่านั้นที่ทุ่มลงไป ถูกทุ่มออกมาเป็นหลุมก็จะเป็นเขาแล้ว
ยาพิษที่อยู่ในห้องกระจายอยู่กลางอากาศ สามารถทำให้คนเกิดจิตหลอน ทำให้ความคิดเชื่องช้า
ยาพิษนี้มีส่วนประกอบคล้ายกันกับประเภทที่เป็นยาชามากมายมาก
ก่อนหน้านั้นไป๋ยี่เฟยสังเกตถึงความผิดปกติของฉีฉี ทำให้เขามีการระวังตัวเล็กน้อย
และตอนที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่ เดิมทีไป๋ยี่เฟยน่าจะว่องไวปราดเปรียวมาก มีหลายครั้งล้วนมีปฏิกิริยาช้าไปหนึ่งจังหวะอย่างแท้จริง
จากนั้นไป๋ยี่เฟยสังเกตถึงสภาพการณ์เห็นท่าไม่ดี เข้าสู่สภาวะแปรสภาพทันที จากนั้นก็ได้สติตามมาเลย จากนั้นก็คาดเดาออกได้ว่าในห้องนี้มีควันพิษที่จะมีผลกระทบต่อคนได้
……
ฉินหัวโจมตีหนึ่งครั้งไม่โดนก็โจมตีอีกครั้งเข้ามา เขาชกไป๋ยี่เฟยและฉีฉีออกมาหนึ่งหมัดโดยตรง
ครั้งนี้ไป๋ยี่เฟยหลบไม่ทันเลยสักนิด เพราะว่าหลังจากเขาหลบออก หมัดนี้ก็จะอยู่บนกายฉีฉี แต่เธอรับหมัดนี้ไม่ไหวเลยสักนิด
ดังนั้น ไป๋ยี่เฟยแข็งใจขึ้นมา ตนเองก็เลยชนกับฉินหัวไปเลย
ไป๋ยี่เฟยที่เข้าสู่สภาวะแปรสภาพ พลังความสามารถแข็งแกร่งกว่าฉินหัวเล็กน้อย ดังนั้นหลังจากตอนที่เขาชนเข้าไป เกิดเสียงดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง จากนั้นทั้งสองคนล้วนถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
แต่ว่าไป๋ยี่เฟยไม่ได้ลงมืออีก แต่ใช้หลังรับหมัดนี้ ดังนั้นหลังจากเขาประคองรูปร่างแล้ว “พู่” กระอักเลือดออกมา
จากนั้นเขาไม่ลังเลแม้แต่น้อยแบกฉีฉีไว้บนกายตนเอง จากนั้นหมุนตัววิ่งหนี
ฉินหัวดูเหมือนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน มุมปากเลือดไหลเล็กน้อย แต่ว่าเขาดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจ สภาพร่างกายของตนเองเลย หลังจากประคองตนเองแล้ว ก็พุ่งไปยังไป๋ยี่เฟยอีกครั้ง
ระหว่างการวิ่งไล่ ไป๋ยี่เฟยพบว่าเขาสะบัดฉินหัวทิ้งไม่ได้เลยสักนิด ได้เพียงสามารถวางฉีฉีไว้ให้ข้างๆที่สุด จากนั้นหมุนตัวก็พุ่งไปยังฉินหัว
“ตูม!”
“ปั้ง!”
ทั้งสองคนต๋อยกันขึ้นมา
แม้ว่าพลังความสามารถของไป๋ยี่เฟยในตอนนี้ แข็งแกร่งกว่าฉินหัวเล็กน้อยแค่นั้น แต่พวกเขาใช้วิชามวยของฉินหัวเหมือนกันผลลัพธ์ย่อมไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
วิชามวยของฉินหัวฝึกฝนไปยี่สิบปีแล้ว ความชำนาญไม่รู้ว่าสูงกว่าไป๋ยี่เฟยกี่เท่า ดังนั้นพอชกกันเช่นนี้ ทั้งสองคนก็ไล่เลี่ยกัน
แต่หลังจากชกต๋อยไปอีกสิบกว่านาที ทั้งสองคนยังคงแยกไม่ออกใครว่าชนะใครแพ้ ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าเป็นอย่างนี้ต่อไปคงไม่ได้เลย ช้าเร็วพวกเขาต้องบอบช้ำทั้งสองฝ่าย
ดังนั้น ไป๋ยี่เฟยใช้ท่าที่จัดการเหลียงเหว่ยชาว ยกมือวาดครึ่งวงกลมอยู่กลางอากาศ หมัดของฉินหัวก็เพี้ยนทิศทางไป ชกอยู่บนกำแพงถ้ำโดยตรง
“ตูม!”
กำแพงถ้ำถูกชกทะลุโดยตรง เศษดินที่อยู่ข้างในกับแผ่นเหล็กที่อยู่ข้างนอกล้วนตกลงมาแล้ว
จากนั้นทางออกที่ดำมืดเส้นหนึ่งปรากฏออกมาอยู่ต่อหน้าพวกเขา
หลังจากตอนที่มีกลิ่นดินโชยมาจากทางเดิน ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าตนเองสบายขึ้นเยอะเลยในชั่วพริบตาเดียว สมองใหญ่ก็แจ่มใสขึ้นมาบ้าง
ในเวลาเดียวกัน ฉินหัวหยุดชะงักแล้วหยุดชะงักอีก ขมวดคิ้วขึ้นมา
เห็นสภาพนี้ ไป๋ยี่เฟยจับฉวยโอกาส ใช้หนึ่งหมัดบีบบังคับฉินหัวถอยออกไป จากนั้นแบกฉีฉีที่สลบไปขึ้นมาทันที ก็พุ่งเข้าไปในทางเดินที่ดำมืดเส้นนั้น
ทางเดินที่ดำมืดเส้นนี้ไม่รู้ว่าจะไปถึงที่ไหน แต่เขาไม่มีทางเลือก ได้เพียงแต่เดินต่อไป ดีกว่าอยู่ในห้องโถงใหญ่ที่กลวงว่างชกต่อยกับฉินหัวจนบอบช้ำทั้งสองฝ่าย
ทางเดินมืดมาก ไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้ใช้มือถือมาส่องแสงสว่าง เขาไม่กล้าทำให้แบตของมือถือหมด ดังนั้นเขาเพียงแค่วิ่งไปข้างหน้าโดยตลอด
เขาไม่รู้ว่าทางเดินยาวขนาดไหน แต่ดูเหมือนเป็นเส้นตรงเส้นหนึ่ง ข้างหน้าก็มองไม่เห็นแสง
หลังจากอยู่ตอนที่เขาเดินไปได้ประมาณชั่วโมงกว่า ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ยินเสียงเดินจากข้างหลัง ฉินหัวอาจจะยังอยู่ที่เดิม และอาจจะเพียงแค่วิ่งตามช้ากว่า
และฉีฉีที่อยู่บนไหล่ไม่รู้ว่าตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอหมอบอยู่บนหลังของไป๋ยี่เฟย ดมกลิ่นที่อยู่บนกายเขาอย่างลึกๆ
ไป๋ยี่เฟยรู้ทันทีว่า ฉีฉีในตอนนี้ยังอยู่ในสภาวะโดนยาพิษอยู่
ดังนั้นเขาเลือกที่จะเงียบต่อไป พอไม่ได้พูด ก็จะไม่ได้ทำให้เธอปวดหัว
แต่เขาไม่พูด ฉีฉีกลับเอ่ยปากแล้ว “นี่คือที่ไหนหรือ?”
“ทางเดิน” ไป๋ยี่เฟยตอบกลับ
ฉีฉีถาม “เป็นทางออกหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยคิดแล้วคิดอีก “อาจจะใช่มั้ง”
ฉีฉีถามอีกว่า “ถ้าหากว่ามีทางที่ออกไปได้ งั้นพวกเขาปล่อยพวกเราเข้ามาทำไมล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยบ่นพึมพำเสียงหนึ่ง พูดว่า “น่าจะตั้งใจทำ อยู่ข้างหน้าไม่แน่ว่าอาจจะมีคนรอพวกเราอยู่”
อยู่ดีๆในทางเดินเงียบไปสักพัก ฉีฉีถามอีกว่า “ฉันโดนยาพิษแล้วใช่หรือไม่?”
“ใช่” ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า จากนั้นพูดอีกว่า “แต่ว่าตอนนี้คุณดูแล้วปกติมาก”
ฉีฉีก็เงียบไปอีกสักพัก อยู่ดีๆจากนั้นยกเสียงสูง “งั้นคุณยังแบกฉันอยู่ทำไมล่ะ?”
“เอะ……” ไป๋ยี่เฟยก็นิ่งอึ้งไปเลย จากนั้นมีปฏิกิริยาขึ้นมา จริงๆสิ ฉีฉีก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอะไร ไม่จำเป็นต้องแบกเธอไว้อย่างนี้เลยสักนิด
ดังนั้น ไป๋ยี่เฟยวางฉีฉีลง “เดินได้ไหม?”
“อืม” ฉีฉีพยักหน้า จากนั้นทั้งสองคนเดินต่อไปยังข้างหน้าด้วยกัน
ฉีฉีถามอีกว่า “เมื่อกี้ฉันเกิดอะไรขึ้นหรือ? ทำไมอยากจะใกล้ชิดกับคุณมากล่ะ?”
“โดนยาพิษแล้ว” ไป๋ยี่เฟยตอบกลับ
ฉีฉีพอได้ยินคำพูดนี้ก็โมโหแล้ว “นี่เป็นยาพิษอะไรหรือ? อย่าบอกว่าเพียงแค่ผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าฉัน ฉันก็จะกลายเป็นอย่างนี้เชียวหรือ? นี่กับยาปลุกเซ็กซ์มีอะไร…..”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดตื่นตะลึงทันทีทันใด อยู่ดีๆในใจเขามีลางสังหรที่ไม่ดีอย่างหนึ่ง
และอยู่ในเวลานี้ อยู่ดีๆข้างหน้ามีแสงออกมาเล็กน้อย
สีหน้าฉีฉีดีใจทันที ร้องพูดว่า “คือทางออก!”
ไป๋ยี่เฟยคืนสติฉับพลันในทันที ก็ได้เห็นแสงเล็กน้อยนั้นเช่นกัน
จากนั้นทั้งสองคนรีบวิ่งไปยังทางออก สำหรับฉินหัว อาจจะอยู่ที่นั่นจึงจะปลอดภัย เพราะเขาไม่รู้ว่าปากทางออกฝั่งโน้นสิ่งที่รอพวกเขาอยู่ตกลงเป็นอะไรกันแน่