ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 915
ยิ่งไปกว่านั้น ไป๋ยี่เฟยก็โดนกระแทกด้วยเข่าของจีเอร์อย่างแรง แต่ตอนนี้เขากลับไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
ไป๋ยี่เฟยปัดฝุ่นบนร่างกายของตัวเอง มองไปที่จีเอร์แล้วพูดอย่างจางๆ ว่า “ถึงตากูแล้ว”
จีเอร์ขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนี้
วินาทีถัดมา ไป๋ยี่เฟยก็กระทืบเท้ากับพื้นอย่างแรง เหมือนกับจีเอร์ในตอนเมื่อกี้นี้ กระทืบจนกลายเป็นหลุมลึกและพุ่งเข้าหาจีเอร์
จีเอร์ตะคอกอย่างเย็นชาเมื่อเห็นเช่นนี้ และก็รีบพุ่งเข้าไปเหมือนกัน
ในคราวนี้เขายังคงใช้เข่าของเขายิงบินออกไปเหมือนเดิม กระแทกเข้ากับหน้าอกของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยกลับหยุดลงกลางทาง รัศมีของเขาก็เปลี่ยนไปในทันใด ดวงตาของเขาก็สว่างมากขึ้น และเขาก็หันหลังไปข้าง และกระแทกเข่าของจีเอร์ด้วยหลังของตัวเอง
“บูม!”
การปะทะกันของไป๋ยี่เฟยไม่ได้ใช้พลังอ้านจิ้งเลย แต่เขากลับกระแทกจนบังคับให้จีเอร์บินออกไปโดยตรง
สีหน้าของจีเอร์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และเขามองไปที่ไป๋ยี่เฟยด้วยความตกใจ
ในขณะนี้เขายังคงอยู่กลางอากาศ แต่ในชั่วพริบตา ไป๋ยี่เฟยก็หายไปจากสายตาของเขา
จากนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างเข้ามาใกล้เขาอย่างกะทันหัน ราวกับว่ามันปรากฏขึ้นข้างๆ เขาในทันที เขาหันศีรษะ และเห็นว่าเป็นไป๋ยี่เฟยที่ตามทันเขา
ในเวลาที่จีเอร์เห็นไป๋ยี่เฟย ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว
ไป๋ยี่เฟยเยาะเย้ยเขา แล้วออกตัวอย่างรวดเร็ว
“บูม!”
ไป๋ยี่เฟยตบเข้าที่หน้าอกของจีเอร์ด้วยฝ่ามือ
“อ๊ะ!”
“บูม!”
“พุฟ!”
หลังจากที่จีเอร์กรีดร้องไป๋ยี่เฟยก็พุ่งตรงไปที่พื้นจากบนลงล่าง จากนั้นก็อาเจียนเป็นเลือดคำโต
ผู้คนของหนานเหมินรู้สึกกระวนกระวายเมื่อได้เห็นฉากนี้ และไม่ได้สนใจว่าจะเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัวอะไรนั่นแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็รีบพุ่งเข้ามาภายใต้การนำของผู้ยอดฝีมือระดับที่หนึ่งคนนั้น
“หยุดนะ!”
เดิมทีไป๋ยี่เฟยอยากจะโจมตีอีกครั้งและจบชีวิตของจีเอร์โดยตรง แต่เมื่อเห็นคนที่เหลืออีกหลายสิบคนพุ่งเข้ามา เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนมือออก และแสดงท่าทีเยาะเย้ย
ยิ่งระดับความแข็งแกร่งสูงเท่าใดช่องว่างของระดับก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และช่องว่างแบบนี้ไม่สามารถประกอบขึ้นได้ด้วยจำนวนคน
ไป๋ยี่เฟยและคนเหล่านี้ต่างกันเพียงหนึ่งอาณาจักรเท่านั้น
ไป๋ยี่เฟยกวาดล้างพวกเขาด้วยสายตาที่เย็นชา และก็มีคนพุ่งเข้าถึงตรงหน้าของไป๋ยี่เฟยพอดี ไป๋ยี่เฟยทุบศีรษะของชายคนนั้นด้วยหมัดโดยตรง และศีรษะของคนนั้นก็ถูกทุบแตกกระจายไปเลย
“ผมไม่เคยชอบการฆ่าคนเลย!”
“แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะไม่แสดงความเมตตาต่อพวกนายที่สมควรตาย!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็พุ่งเข้าไปมาท่ามกลางกลุ่มผู้ยอดฝีมือของสำนักหนานเหมิน ต่อยทีละคน และเตะทีละคน คนอื่นๆ ไม่สามารถมองเห็นเงาร่างของไป๋ยี่เฟยได้อย่างชัดเจนเลย ได้ยินเพียงแต่เสียงที่ดังก้อง
“ผู้บุกรุก สมควรตายทั้งหมด!”
ไป๋ยี่เฟยทุบหัวของคนอื่นแตกกระจายโดยตรงด้วยหมัดเดียวเช่นนี้ หรือเตะเข้าที่หน้าท้อง และบินออกไปโดยตรง หรือต่อยเข้าที่หน้าอก แล้วทะลุผ่านร่างกายไปโดยตรง
“ความโหดร้ายของพวกคุณ กำหนดให้พวกคุณต้องชดใช้เพื่อสิ่งนี้!”
“บูมบูม…….”
ในช่วงเวลาเพียงหนึ่งนาทีสั้นๆ ผู้คนมากกว่าสามสิบคนของสำนักหนานเหมินเสียชีวิตอย่างกะทันหัน
คนที่เหลือตกใจไปกับไป๋ยี่เฟย แต่ละคนเริ่มถอยหลังออก และไม่กล้าเดินหน้าต่อเลย
แม้แต่ผู้ยอดฝีมือระดับที่หนึ่งก็ยังกลัว
พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่า ความแข็งแกร่งของไป๋ยี่เฟยจะสูงได้มากขนาดนี้
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังคงขู่ไป๋ยี่เฟยอยู่ “คุณจะฆ่าคุณชายของเราไม่ได้ ไม่เช่นนั้น คนของหนานเหมินของเราทั้งหมดจะมาไล่ตามฆ่าคุณ!”
ไป๋ยี่เฟยอดไม่ได้ที่จะเย้ยหยันเมื่อได้ยินคำพูดนี้ “หรือว่าถ้าผมปล่อยคุณชายของพวกคุณไป พวกคุณก็จะปล่อยผมไปงั้นเหรอ?”
ผู้ยอดฝีมือระดับที่หนึ่งคนนั้นก็เงียบไปทันที
ไป๋ยี่เฟยถามขึ้นมาอีกครั้งว่า “แล้วพวกคุณจะยอมแพ้ที่จะบุกรุกแผ่นดินใหญ่ภาคเหนือของผมหรือไม่?”
“หรือถ้าผมไม่ฆ่าคุณชายของพวกคุณ คนที่ตายไปทั้งหมดจะรอดชีวิตเพราะเรื่องนี้หรือไม่?”
ในขณะที่พูดไป๋ยี่เฟยก็หิ้วตัวจีเอร์ขึ้นมาด้วยมือ “ไม่ต้องการให้คุณมาตอบแล้ว”
“ผมรู้ มันเป็นไปไม่ได้”
“ดังนั้น ทำไมผมถึงต้องปล่อยเขาไปล่ะ?”
ไป๋ยี่เฟยค่อยๆ วางมืออีกข้างหนึ่งไว้ที่บนคอของจีเอร์
“พี่น้องของผมถูกคนของพวกคุณจับตัว และทำเป็นเหรินกุ้น ยังทรมานเขาก่อนตายอีกด้วย พวกคุณคิดว่าผมจะปล่อยให้มันผ่านไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ?”
“ถ้าวันนี้ผมไม่สั่งสอนพวกคุณสักหน่อย พวกคุณก็จะไม่มีทางรู้ว่า กูแม่งเป็นคนที่พวกคุณไม่สามารถรุกรานได้!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของคนที่มาจากหนานเหมินก็ซีดเผือด
พวกเขาอยากจะเข้าไปช่วยคุณชายจีเอร์ แต่ไป๋ยี่เฟยแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ พวกเขาไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า และแม้กระทั่งไม่กล้าที่จะขยับตัวเลย
“หยุดนะ!”
ในเวลานี้ ข้างหลังของไป๋ยี่เฟย มีเสียงที่ทำให้เขาคุ้นเคยดังขึ้นมาทันที
ไป๋ยี่เฟยตัวสั่นไปทั้งตัว หันศีรษะทันที และเจตนาการฆ่าในดวงตาของเขาก็ค่อยๆ หายไป
ในที่ไม่ไกล หลี่เฉียงตงวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ โดยสวมชุดวอร์มที่เปื้อนฝุ่นอยู่ทั้งตัว
หากสังเกตดีๆ จะพบว่ายังมีเหงื่อที่ไหลท่วมหน้าผากของเขาด้วย
“ท่านพ่อ? ท่านมาที่นี่ทำไม?” ไป๋ยี่เฟยประหลาดใจกับเรื่องนี้มาก
ในขณะที่หลี่เฉียงตงเดินเข้ามาทางนี้ และก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “อย่าหุนหันพลันแล่น คนผู้นี้ฆ่าไม่ได้”
“ทำไม? ”
หลี่เฉียงตงอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “การบุกรุกของสำนักหนานเหมินในครั้งนี้เกินความคาดหมายของเราไปแล้ว เขาเป็นคุณชายของสำนักหนานเหมิน และถ้ามีตัวประกันที่ยังมีชีวิตอยู่ เราก็เป็นฝ่ายที่มีความริเริ่มมากขึ้น หากตายไปแล้ว เรื่องมันก็อาจกลายเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากขึ้นไปได้”
“ความริเริ่มเหรอ?” ไป๋ยี่เฟยมองหลี่เฉียงตงด้วยความสับสน
หลี่เฉียงตงกล่าวว่า “เรายังสามารถคุยกันได้”
“คุยเรื่องอะไรเหรอ?” ไป๋ยี่เฟยยิ้มอย่างขมขื่น “หรือว่ายังจะสามารถให้พวกเขาถอนตัวกลับไปแผ่นดินใหญ่ภาคใต้ได้ด้วยความริเริ่มหรือ?”
หลี่เฉียงตงในเวลานี้ ยังคงอยู่ห่างจากไป๋ยี่เฟยสิบห้าเมตร
“ไป๋ยี่เฟย คุณใจเย็นๆ หน่อย” หลี่เฉียงตงสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติกับไป๋ยี่เฟยทันที
ไป๋ยี่เฟยกลับส่ายหัวเล็กน้อย
เมื่อหลี่เฉียงตงเห็นเช่นนี้ เขาก็หยุดเดินชั่วคราว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
ก่อนที่หลี่เฉียงตงจะพูดอะไร ไป๋ยี่เฟยก็ตะโกนขึ้นมาทันทีว่า “มีสิทธิ์อะไร?”
“มีสิทธิ์อะไรพวกเขาถึงสามารถมาฆ่าคนตามใจชอบในพื้นที่ของเรา ฆ่าเสร็จแล้วก็จะจากไป มีสิทธิ์อะไรเหรอ?”
เมื่อเห็นไป๋ยี่เฟยที่เป็นเช่นนี้ หลี่เฉียงตงก็มีความรู้สึกไม่ดีอยู่ในใจ และตะโกนอย่างกังวลว่า “ไป๋ยี่เฟย……….”
“พ่อ อย่าเข้ามานะ!” ไป๋ยี่เฟยตะโกนทันที เมื่อเห็นหลี่เฉียงตงที่อยากจะพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“พ่อครับ พ่อน่าจะรู้ว่าผมเป็นคนยังไง พวกเขาฆ่าพี่น้องของผมมากมายขนาดนี้ ผมจะไม่มีวันยอมจบอย่างง่ายดายแน่นอน!”
“นอกจากนี้ คนเหล่านี้ก็เป็นฝ่ายที่เข้ามารุกรานถิ่นของเราเอง ไม่ได้มาเพื่อท่องเที่ยว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วมีสิทธิ์อะไรที่ปล่อยให้พวกเขาอยากจะมาก็มา และอยากจะไปก็ไปตามที่พวกเขาต้องการ?”
“พวกเขากล้าที่จะบุกรุกเข้ามา ก็ต้องให้พวกเขารู้ว่า ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกเขาสามารถบุกเข้ามาได้อย่างตามใจ”
“ไม่ต้องพูดถึงการเจรจากับพวกเขา ปล่อยให้พวกเขาถอนตัวออกจากแผ่นดินใหญ่ภาคเหนือ แม้ว่าพวกเขาอยากจะถอนตัวก็ตาม เคยถามผมหรือยัง?”
“กูแม่งไม่อนุญาตให้พวกเขาจากไป!”
“แตก!”
ทันทีที่เขาพูดจบ มือของไป๋ยี่เฟยที่บีบคือของจีเอร์ไว้ก็ออกแรง และบีบคอของจีเอร์หักโดยตรง และจีเอร์ก็เสียชีวิตทันที
เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนต่างยืนนิ่งไปเหมือนโดนสกัดจุด และในสถานที่ก็เงียบมากจนน่ากลัวขึ้นมา
เมื่อสายลมพัดผ่าน ก็มีกลิ่นเลือดจางๆ วนผ่านปลายจมูก และไม่รู้ว่าเพราะอะไร รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นเล็กน้อย
หลี่เฉียงตงไม่สามารถห้ามไว้ได้ ทำได้เพียงถอนหายใจและกล่าวว่า “ไป๋ยี่เฟย คุณก็ยังหุนหันพลันแล่นเกินไป และชอบใช้อารมณ์ตัดสินเหมือนเดิม”
นี่คือจุดอ่อนของไป๋ยี่เฟยเสมอมา
เมื่อไป๋ยี่เฟยนึกถึงการตายอันน่าเศร้าของอู๋เฉียง และการทรมานที่เขาได้รับ ไป๋ยี่เฟยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเคือง และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดใจ
“พ่อครับ การใช้ชีวิตโดยปราศจากความรู้สึก แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?” ไป๋ยี่เฟยหัวเราะอย่างน่าสังเวช