ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 929
ไม่ว่าจะในฐานะผู้สืบทอดตระกูลไป๋ หรือผู้คัดเลือกเป็นผู้ดูแลคลังเก็บทอง เขาก็มีความสามารถนั้น
“แต่ว่าก่อนอื่นเลย นายยังต้องช่วยฉันอีกหนึ่งเรื่อง” หยุนอิงเปลี่ยนหัวข้อเรื่อง
ไป๋ยี่เฟยถาม “เรื่องอะไร?”
“ถึงเวลานั้นนายก็รู้เอง” หยุนอิงไม่ได้บอกอะไรชัดเจน
พูดจบก็ไม่ให้โอกาสไป๋ยี่เฟยได้เอ่ยถามอะไรอีก หมุนตัวเดินลงไปทันที
ไป๋ยี่เฟยมองตามหลังหยุนอิงที่เดินลงไป ภายในใจก็ใจเต้นนิดหน่อย
ตอนนี้หยุนอิงกำลังหันหลังให้เขา
และเขาเองก็รู้จุดลมปราณของหยุนอิง
ช่วงเวลานี้ ช่างเป็นช่วงเวลาที่ทำให้คนใจเต้นมากๆ
โอกาสที่จะลอบสังหาร
ไป๋ยี่เฟยยิ่งคิดภายในใจก็ยิ่งอดกลั้นไม่อยู่
แต่สุดท้ายไป๋ยี่เฟยก็อดใจไว้
เพราะเขารู้สึกว่าถึงแม้ว่าจุดลมปราณของดาร์สจะอยู่ที่ลำคอ แต่จุดลมปราณของหยุนอิงก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ที่ลำคอ หยุนอิงนั้นแข็งแกร่งกว่าดาร์สมากแม้แต่จุดลมปราณของเธอยังติดอาวุธเอาไว้
ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ไป๋ยี่เฟยไม่อยากจะลองความรู้สึกกระแทกกำแพงเหล็กนั่นอีก
……
พอหยุนอิงเดินไป ไป๋ยี่เฟยก็แบกร่างอู๋เฉียงเดินลงมา
พอเดินลงมาพวกของหลิวเสี่ยวอิงก็มาล้อมรอบ
เจิ้งซงมองไป๋ยี่เฟยด้วยความหวาดกลัว
ที่หลันเต่าขนาดยอดฝีมือระดับที่สองยังมีแค่ไม่กี่คน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยอดฝีมือระดับที่หนึ่งเลย ในทางตรงกันข้ามฝั่งหนานเหมินนั้นเต็มไปด้วยยอดฝีมือระดับที่สอง
และครั้งนี้ไป๋ยี่เฟยเพียงคนเดียว พริบตาเดียวก็จัดการคนของหนานเหมินตั้งกี่สิบคน
นี่มันน่ากลัวมากจริงๆ
เจิ้งซงเห็นเขาก็ขาอ่อนทันที รีบเอ่ยกับไป๋ยี่เฟย “คุณไป๋ลำบากแย่เลยนะครับ”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้าเบาๆเอ่ย “ลุงเจิ้งครับ ส่งคนมาจัดการทำความสะอาดที่นี่สักหน่อยนะ”
ขณะที่เจิ้งซงกำลังจะพยักหน้า ไป๋ยี่เฟยที่กำลังแบกอู๋เฉียงอยู่ตรงหน้ากลับล้มลงไปที่พื้น
“ไป๋ยี่เฟย!”
“คุณลุง!”
“คุณไป๋!”
ทุกคนต่างพากันเรียกอย่างตกใจ
ไป๋ยี่เฟยต่อสู้กำลังดาร์สนั้นใช้พลังไปเยอะมาก และก็ได้รับบาดเจ็บรวมถึงในที่สุดเขาก็แก้แค้นให้อู๋เฉียงได้ ทำให้เกิดความตึงเครียดของจิตใจจากนั้นก็ผ่อนคลาย ทำให้เขาทรุดลงอย่างกระทันหัน
……
ไป๋ยี่เฟยฝัน
เขาฝันเห็นว่าเขา หลี่เสว่และหลิวเสี่ยวอิงและยังมีลูกของเขาใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ
หลี่เสว่และหลิวเสี่ยวอิงอุ้มลูกคนละคน ส่วนไป๋ยี่เฟยก็ทำไร่ทำสวน ถึงแม้ว่าจะลำบาก แต่ครอบครัวของพวกเขาก็ใช้ชีวิตอย่างมั่นคงและสงบสุข
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกชอบความรู้สึกแบบนี้
แต่ว่ายังไม่ทันให้เขาได้รับรู้ความรู้สึกนั้นเท่าไหร่เขาก็ตื่นขึ้น
ตอนที่เขาฟื้นขึ้นมา พบว่าตัวเองมาอยู่ในห้องแล้ว พอหันหน้าไปดูก็พบว่าที่นอกหน้าต่างมืดแล้ว
พอมองไปที่หัวนอนของตัวเองก็เห็นหลิวเสี่ยวอิงฟุบหลับอยู่
ไป๋ยี่เฟยรู้ว่าเขาไม่มีทางไว้ใจตัวเองเขาจึงระแวงรอบตัวตลอด ดังนั้นเขาจึงคอยมองรอบตัวจากนั้นก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว
ไป๋ยี่เฟยเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของหลิวเสี่ยวอิงอย่างเงียบๆ มองไปที่ใบหน้าเล็กๆที่บอบบางของเธอและนึกถึงความฝันของเธอมักจะรู้สึกแตกต่างกันเล็กน้อย
จากนั้นสายตาของเขาก็มาหยุดที่ริมฝีปากของหลิวเสี่ยวอิง
ไป๋ยี่เฟยลอบกลืนน้ำลาย ทันใดนั้นก็รู้สึกคอแห้ง
ในที่สุดเขาก็แค้นให้อู๋เฉียงสำเร็จ จิตใจของเขาก็ผ่อนคลายลงไปมากพลันทำให้เขาคิดนั่นคิดนู่นเยอะแยะ
ดังนั้นพอมองไปมองหน้าเขาก็อดไม่ได้ที่จะยื่นหน้าไปใกล้หน้าของหลิวเสี่ยวอิง จากนั้นก็จูบเบาๆที่ริมฝีปากของเธอ
จากนั้นหลิวเสี่ยวอิงก็รู้สึกตัวจู่ๆก็ตื่นขึ้นมา
ไป๋ยี่เฟยตกใจจนรีบกลับไปเอนตัวลงนอน
หลิวเสี่ยวอิงยกศรีษะขึ้นมาดูไป๋ยี่เฟยที่นอนอยู่บนเตียงอย่างโทษตัวเอง “ทำไมฉันหลับไปล่ะเนี่ย?ไม่ควรเลย”
พูดไปก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พอดูโทรศัพท์เสี่ยวอิงก็พูดกับตัวเอง “ทำยังไงดี?จะบอกเขาดีมั้ย?แต่ถ้าบอกเขาไป ฉัน……”
ไป๋ยี่เฟยที่แกล้งหลับพอได้ยินคำพูดของหลิวเสี่ยวอิงก็รู้สึกแปลกใจ ดังนั้นเขาจึงแกล้งทำเป็นหลับเพื่อฟังต่อ
“โทษตัวฉันเองทั้งนั้นนั่นแหละ” หลิวเสี่ยวอิงถอนหายใจก่อนจะกุมมือของไป๋ยี่เฟย เอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวล “ที่รัก ฉันควรจะทำยังไงดี?”
“ถ้าฉันเอาเรื่องของเราบอกกับเขา เขาจะโกรธฉันมั้ยแล้วถ้าเขาไม่ต้องการฉันแล้วล่ะ?”
พอได้ยินประโยคนี้ ภายในใจของไป๋ยี่เฟยก็สั่นทันที
เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป ดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นจับแขนของหลิวเสี่ยวอิงแน่น “ใคร?ใครไม่ต้องการเธอแล้ว?เธอหมายความว่าอะไร?”
หลิวเสี่ยวอิงตกใจที่อยู่ไป๋ยี่เฟยก็ตื่นขึ้นมากะทันหัน เธอจ้องมองไปที่ไป๋ยี่เฟยอย่างมึนงง
ไป๋ยี่เฟยถามอย่างกังวล “สรุปว่าเป็นใคร?เธอพูดมาสิ!”
หลิวเสี่ยวอิงได้สติกลับขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงเบา “คุณปล่อย เจ็บ … ”
ไป๋ยี่เฟยรีบปล่อยมือเขาขอโทษเล็กน้อยเขากังวลเกินไป
จากนั้นหลิวเสี่ยวอิงก็โชว์โทรศัพท์ให้ไป๋ยี่เฟยดู
มีข้อความทางโทรศัพท์ซึ่งส่งมาจากพ่อแม่ของเธอ เนื่องจากหลิวเสี่ยวอิงไม่รับสายหรือวิดีโอคอลของพวกเขา พวกเขาเป็นกังวลจึงตัดสินใจมาหาเธอ
หลิวเสี่ยวอิงพูดเสียงเบา “ก่อนหน้านี้พวกเขามักจะขอให้ฉันหาแฟน เพื่อรับมือกับพวกเขาฉันบอกว่าฉันมีแฟนแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกสับสนเล็กน้อยหลังจากฟัง”เธอให้พวกเขามาหาที่นี่หรอ?”
หลิวเสี่ยวอิงพยักหน้าและกล่าวว่า “พวกเขาไม่พบฉันที่แผ่นดินใหญ่ก็ยิ่งกังวลมาก แต่ … ”
ไป๋ยี่เฟยรู้ว่าหลิวเสี่ยวอิงกังวลเรื่องอะไรเขาจับมือเธอเบา ๆ และพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไรปล่อยให้พวกเขามาดูโลกที่แตกต่าง”
หลิวเสี่ยวอิงรู้สึกสะเทือนใจมากเมื่อเธอได้ยินแบบนี้ยิ่งรู้สึกว่าไป๋ยี่เฟยนั้นพึ่งพาได้
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่ดวงตาที่พึ่งพาเขาของหลิวเสี่ยวหยิงและหัวใจของเขาก็สั่นไหว
ไม่มีผู้ชายคนไหนไม่ชอบให้ผู้หญิงของตัวเองพึ่งพาตัวเอง
ไป๋ยี่เฟยค่อยๆเขยิบเข้าใกล้หลิวเสี่ยวอิง ก่อนจะสบสายตากันทันใดนั้นบรรยากาศรอบๆตัวของทั้งสองคนก็ค่อยๆร้อนระอุขึ้นมา
ทันใดนั้นหลิวเสี่ยวอิงก็รู้สึกเขินอายขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างมองเขาอย่างหวั่นไหว
ในตอนที่ริมฝีปากของพวกเขาสัมผัสกัน หลิวเสี่ยวอิงก็หลับตาลงทันที
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังจูบกันหลิวเสี่ยวอิงก็ถูกไป๋ยี่เฟยพามาที่เตียง จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออก บรรยากาศรอบข้างก็ค่อยๆร้อนขึ้นมาทันที
และในขณะนั้นที่หน้าประตู เจิ้งหยู่ยานที่กำลังถือผ้าห่มผืนหนา มือของเธอยังวางอยู่ที่ประตู หูกลับได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากในห้อง
เธอยืนตัวแข็งอยู่กับที่ จู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาอาบแก้มของเธอโดยไม่รู้ตัว
……
เช้าวันรุ่งขึ้นไป๋ยี่เฟยอำลาเจิ้งซงและออกจากตระกูลเจิ้ง
เขามาที่พื้นที่เขตที่สองในครั้งนี้เพื่อล้างแค้นให้อู๋เฉียงเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็เพื่อให้ผู้คนจากหนานเหมินรู้ว่าคนของภาคเหนือจะต้องไม่ถูกฆ่าตายฟรี
และครั้งนี้เขามาถึงพื้นที่เขตที่สองก็ถือว่าได้ผลประโยชน์มาไม่น้อยเลย ถึงยังไงเขาก็ได้ล้างแค้นและสังหารคุณชายของหนานเหมินไปคนหนึ่ง แถมยังสังหารยอดฝีมือหลายสิบคน
ส่วนตระกูลเจิ้งก็ยังมีหยุนอิงอยู่ คิดดูแล้วก็คงไม่น่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
หลังจากที่ชาวหนานเหมินรู้ว่าไป๋ยี่เฟยได้สังหารยอดฝีมือของพวกเขาไปหลายสิบคน พวกเขาต้องหันมาสนใจไป๋ยี่เฟยอย่างแน่นอน ดังนั้นที่เขาออกจากตระกูลเจิ้งเพราะเขาต้องการที่จะปกป้องตระกูลเจิ้ง
ไป๋ยี่เฟยและหลิวเสี่ยวอิงนั่งอยู่ในรถบรรทุกส่วนอู๋เฉียงซึ่งอยู่ในโลงศพอยู่ในห้องของรถบรรทุก
ตอนที่พวกเขากำลังจะไปทุกคนยกเว้นแต่เจิ้งหยู่ยานต่างก็พากันออกมาส่งพวกเขา
ไป๋ยี่เฟยบอกลาพวกเขาทีละคนแล้วสตาร์ทรถ